270 - แท่นบูชาบรรพบุรุษ
1581 - แท่นบูชาบรรพบุรุษ
ที่ทางเข้าแท่นบูชาบรรพบุรุษมีกำแพงแตกที่มีภาพสลักหินโบราณตั้งตระหง่านอยู่ทุกแห่ง รวมทั้งซากจากยุคเซียนโบราณครั้งสุดท้ายถูกฝังอยู่ที่นี่มากมาย
แท่นบูชาบรรพบุรุษตั้งอยู่ที่ใจกลางของเมืองจักรพรรดิ์ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ที่สุด ว่ากันว่าผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิล้วนอยู่ที่นี่กันทั้งสิ้น
คนเหล่านี้ล้วนมีอายุมากกว่าเมิ่งเทียนเจิ้ง เซียนอมตะหวังและ จินไท่จุนเสียอีก
สือฮ่าวและคนอื่นๆเดินลงมาจากเส้นทางสีทอง
หมอกจางๆปกคลุมทุกสิ่งจากระยะไกล สถานที่แห่งนี้อยู่ในซากปรักหักพัง แต่ก็ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายที่ลึกซึ้งราวกับเป็นประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตอยู่
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะรกร้างแต่วันนี้ก็ค่อนข้างคึกคักเพราะมีผู้แข็งแกร่งมากมายนั่งอยู่บนพื้น
พวกเขาไม่ได้เข้าไปในแท่นบูชาบรรพบุรุษแต่นั่งอยู่บริเวณด้านนอกบนโขดหินยักษ์หรือซากปรักหักพังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานที่นี่
พวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากตระกูลต่างๆจำนวนมาก สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้รับข่าวแล้วว่าฮวงนำหีบไม้กลับมา
เรื่องนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนจนพวกเขามารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หากไม่ใช่ว่ามีผู้สูงสุดให้การปกป้องพวกเขาคงจะออกไปค้นหาสือฮ่าวแล้ว
ที่ด้านในของแท่นบูชาบรรพบุรุษมีชายชรานั่งอยู่ในนั้นหลายคนโดยไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่ารัศมีพลังของพวกเขาจะถูกยับยั้งไว้พวกเขาจึงดูคล้ายกับก้อนหินแกะสลัก แต่ก็ยังให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์จนผู้คนอยากจะคุกเข่าลง
ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าพวกเขาคือผู้สูงสุดที่คอยดูแลแท่นบูชาบรรพบุรุษ ตอนนี้พวกเขาตื่นขึ้นมาเพราะความสนใจในหีบไม้ใบนี้
จินไท่จุนเซียนอมตะหวังมาถึงแล้วเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ในเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้
“รอที่นี่สักหน่อยข้าจะนำหีบไม้เข้าไปในพระราชวังโบราณ” หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดกับสือฮ่าวเตรียมที่จะรับหีบไม้ไป
“ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะส่งเส้นทางสีทองออกไปรับข้าเพื่อให้มายืนอยู่ที่นี่” สือฮ่าวกล่าว เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลมุ่งตรงไปยังแท่นบูชาบรรพบุรุษ
“หญิงชราคนนี้คือใคร? เป็นคนของตระกูลจินอีกแล้ว! พวกเขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าต้องการหยุดสือฮ่าวจากการเข้าสู่แท่นบูชาบรรพบุรุษ พวกเขาประสงค์สิ่งใดกันแน่?” เฉาอวี่เซิ่งเย้ยหยันอย่างเย็นชา
บุคคลที่ทรงพลังที่สุดของเก้าสวรรค์รวมตัวกันที่นี่ ทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลต่างๆ การที่สือฮ่าวสามารถมาที่นี่ได้หมายความว่าเขามีผลงานการรบมากมาย ตระกูลทั้งหมดต้องยกย่องความสำเร็จของเขา
มีใครบางคนที่ต้องการจะหยุดเขาในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ปรารถนาให้เขาฉายแสงมากเกินไป
แน่นอนว่าตอนนี้หญิงวัยกลางคนนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพอ่อนน้อมและดูจริงใจ แต่จริงๆแล้วความปรารถนาของนางเป็นที่ทราบได้
ตอนนี้ผู้สูงสุดของตระกูลต่างๆล้วนจ้องมองมาที่สือฮ่าวที่กำลังขี่สิงโตสีทองรูปร่างสูงตระหง่านและมีรัศมีองอาจกล้าหาญ
คนจำนวนมากที่ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองไปที่หีบไม้ในมือของเขา!
“นี่คือฮวง? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเขา อย่างที่คาดไว้เขาเป็นเด็กที่องอาจกล้าหาญจริงๆ!”
“เราเพิ่งได้รับรายงานว่าเขามาถึงขั้นกลางของอาณาจักรแยกตนเองแล้ว นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงจริงๆเขาทำลายสถิติของยุคเซียนโบราณลงไปจนได้!”
ผู้คนมากมายอุทานด้วยความชื่นชม พวกเขาทั้งหมดมีความประทับใจที่ดีต่อสือฮ่าว
ในสายตาของพวกเขาสือฮ่าวมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับกองทัพอันยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย และยังสามารถแย่งชิงหีบไม้นี้กลับมา นับได้ว่าเป็นการแย่งเนื้อออกมาจากปากเสือชัดๆ!
นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เด็กน้อยคนหนึ่งถึงกับสามารถมีชีวิตจากการล้อมสังหารของผู้ยิ่งใหญ่ต่างมิติมากมาย?
เด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นเกินไป เขาต่อสู้ในเขตแดนรกร้างเพียงลำพังมีข่าวลือว่าเขาได้สังหารผู้เชี่ยวชาญชาวต่างมิติไปไม่น้อยทั้งยังไม่มีผู้ฝึกฝนรุ่นหลังคนใดของพวกเขาที่จะกล้าต่อต้าน
ความสำเร็จอันรุ่งโรจน์นี้ช่วยเพิ่มศักดิ์ศรีให้กลับเมืองจักรพรรดิเป็นอย่างมาก เมื่อทุกคนทราบข่าวการต่อสู้ของฮวงพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความสดชื่น
เป็นเพราะโดยปกติแล้วการทำสงครามกับศัตรูต่างมิติมักจะเป็นพวกเขาพ่ายแพ้ เมื่อมีกรณีที่แตกต่างกันนี้ปรากฏขึ้นมันทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขมาก
ศัตรูต่างมิติถูกสังหารคนแล้วคนเล่าจนพวกเขาเต็มไปด้วยความมึนงง นับได้ว่าฮวงได้ระบายความคับแค้นของผู้คนในเมืองจักรพรรดิให้สลายไปบ้าง
สือฮ่าวทักทายทุกคนด้วยความเคารพ จากนั้นจึงมอบหีบไม้ให้กับผู้อาวุโสคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายรูปปั้น
"นั่งลงก่อน!"
ร่างที่เหมือนรูปปั้นพูดเชิญให้สือฮ่าวเข้าไปนั่งในห้องโถงของพระราชวัง
นี่อาจถือได้ว่าเป็นความรุ่งโรจน์ประเภทหนึ่ง ฮวงได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากสิ่งมีชีวิตสูงสุดในขณะที่คนอื่นๆไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้สถานที่นั้น
สือฮ่าวไม่รู้สึกกังวลใดๆเพียงมองหาเก้าอี้ว่างแห่งหนึ่งและหย่อนกายนั่งลง เขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากมายที่นี่แม้ว่าสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดจะยับยั้งรัศมีพลังของพวกเขาไว้แต่สายตาของใครบางคนก็เกือบจะทำให้เลือดในกายของสือฮ่าวถูกแช่แข็ง
ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าคนที่ทำเช่นนี้ย่อมเป็นจินไท่จุนอย่างแน่นอน แม้ว่าสือฮ่าวจะเป็นศัตรูกับตระกูลหวังแต่เซียนอมตะหวังย่อมไม่มีทางลดตัวลงมาทำเรื่องใจแคบแบบนี้
การจ้องมองของคนอื่นนั้นสงบสุขไม่ปล่อยความกดดันใดๆ มีเพียงนางเท่านั้นที่ใช้สายตากดดันเขา แน่นอนว่านางไม่ได้ดำเนินการอย่างโจ่งแจ้งมากนักเพียงทำให้เขาหายใจได้ไม่สะดวกเท่านั้น
เซียนอมตะหวังก็มาด้วย รูปร่างหน้าตาของเขายังเด็กมากดูเหมือนเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปีอ่อนเยาว์อย่างน่าเหลือเชื่อ
เขานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
“อาจารย์ของข้าต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อตรวจสอบ” ไม่ไกลมีคนทำลายความเงียบขึ้นมา
สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดการสนทนาที่เร่าร้อนทันที หลายคนเลิกซ่อนตัวอยู่ในหมอกแห่งความโกลาหลและเผยตัวออกมา
คนที่พูดขึ้นมานี้คือผู้อาวุโสที่มีขาเพียงข้างเดียว เขานั่งอยู่บนก้อนหินสีน้ำเงินขนาดใหญ่ข้างๆเขามีไก่ตัวใหญ่หัวโล้นซึ่งเป็นสัตว์ขี่ของเขา
คนคนนี้เคยปรากฏตัวในเมืองจักรพรรดิมาก่อนแล้ว!
ในตอนนั้นเหตุผลที่เขามาที่เมืองจักรพรรดิ์ก็เพราะว่าเขาได้ยินมาว่ามีแผนที่ที่ถูกเขียนบนแผ่นหนังของสัตว์ร้ายโบราณ ซึ่งชี้ให้เห็นสถานที่ตั้งของหีบไม้ใบนี้
และตอนนี้สือฮ่าวได้เปิดหลุมฝังศพนั้นและนำหีบไม้กลับมาทำให้ราชันพื้นที่ปิดผนึกส่งทูตออกมาอีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสขาเดียวได้นำข้อมูลที่น่าตกใจมาด้วยในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าหีบไม้ใบนี้ซุกซ่อนความลับที่จะทำให้คนผู้หนึ่งสามารถกลายเป็นราชาอมตะได้!
นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจอย่างไม่ต้องสงสัยแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ในแท่นบูชาบรรพบุรุษก็ยังเกิดความแตกตื่น ตอนนี้ผู้สูงสุดจากทั่วทุกมุมของเก้าสวรรค์ล้วนมาปรากฏกายที่นี่!
ชายชราขาเดียวกล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงความจริงใจที่ผู้สูงสุดจากเมืองจักรพรรดิ์อนุญาตให้เขาเข้าร่วมศึกษาหีบไม้ใบนี้
เขาแจ้งให้ผู้บ่มเพาะของเมืองจักรพรรดิทราบว่าพื้นที่ปิดผนึกจะไม่แย่งชิงมันอย่างแน่นอน แต่ต้องการยืมไปศึกษาชั่วระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ผู้คนในเมืองจักรพรรดิร่วมกันศึกษาแล้ว
นั่นคือสาเหตุที่สถานการณ์ปัจจุบันซับซ้อนมาก!
ถ้าหีบไม้นี่มันสำคัญขนาดนั้น พวกเขาจะอนุญาตให้คนนอกยืมไปได้ยังไง?
“สหายเต๋าทุกท่านโปรดร่วมกันศึกษาก่อน” ทูตของดินแดนปิดผนึกกล่าวออกมา
จินไท่จุนลืมตาขึ้นมองไปยังใจกลางห้องโถง หีบไม้ตกมาอยู่ในมือของนางทันที นางเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหวและเริ่มตรวจสอบมัน
ในบางครั้งดวงตาของนางจะมองไปทางสือฮ่าวเพื่อทำการข่มขู่
“โปรดเล่าประสบการณ์ทั้งหมดของเจ้าให้พวกเราฟังหลังจากหีบไม้ใบนี้ปรากฏขึ้น” จินไท่จุนกล่าวอย่างใจเย็น
สือฮ่าวไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อนาง อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาจำเป็นต้องพูดออกมาเพราะเขาหวังว่าคนที่นี่จะสามารถไขความลับของหีบไม้นี้ได้เพื่อทำให้เมืองจักรพรรดิ์มีพลังมากขึ้น
จินไทจุนหลับตาลงไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน หีบไม้ยังคงอยู่ในมือของนางเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยามเพื่อตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง
ทุกคนทราบว่านางกำลังออกแรงค้นหาด้วยเจตจำนงของเทพเจ้าพยายามเปิดหีบไม้อย่างสุดกำลัง แต่มันก็ไร้ผลไม่มีสิ่งใดสามารถทำได้
ในที่สุดนางก็วางหีบไม้ลง
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆก็มีโอกาสลองบ้าง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็เหมือนกันพวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับหีบไม้นี้ได้
เมื่อถึงตาของเซียนอมตะหวังเขาใช้ง้าวขนาดเล็กฟาดฟันมันลงไปตรงๆที่หีบไม้!
“สหายเต๋าโปรดคิดใหม่ให้ดี!” มีเสียงเตือนดังขึ้นมาเพราะกลัวว่าเขาอาจทำลายหีบไม้โดยไม่ได้ตั้งใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อง้าวสงครามถูกตัดลงมากลับไม่สามารถสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้กับหีบไม้ได้