เล่ม 1 ตอนที่ 6: การควบคุมของผู้เล่นมืออาชีพ
เล่ม 1 ตอนที่ 6: การควบคุมของผู้เล่นมืออาชีพ
กล่องรับข้อความสั่นขึ้นมาเพราะเป็นการแจ้งเตือน มู่หรงเสี่ยวเทียนเปิดมันขึ้นมา ก็เห็นว่ามันเป็นข้อความที่หยางซ่งส่งถึงเขา “พี่เทียน ซื้อยาติดตัวมาด้วยสักหน่อย และมาพบกันที่ประตูทางด้านซ้ายของหมู่บ้านเร็วเข้า”
มู่หรงเสี่ยวเทียนปิดหน้าต่างข้อความลง และจ้องมองไปยัง NPC เด็กสาวด้วยดวงตาที่ซับซ้อนหลังจากที่ให้เหรียญทองไปแล้ว เขาก็วิ่งออกไปที่ประตูทางซ้ายของหมู่บ้านทันที
เขาสามารถมองเห็นหยางซ่งได้จากระยะไกล อีกฝ่ายกำลังยืนอยู่ประตูฝั่งซ้ายของหมู่บ้าน รอบ ๆ ตัวของหยางซ่งก็มีคนอื่นอีกสองสามคนยืนรวมอยู่ด้วยกันกับเขา
“มองบ้าอะไรของแก ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อก่ออาชญากรรมซักหน่อย ไอ้พ่อคุณตำรวจของประชาชน” มู่หรงเสี่ยวเทียนวิ่งมาหยุดตรงหน้าด้วยอาการเหนื่อยหอบและพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมาทันที
“แหม่ลูกพี่ พี่บอกว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมถึงกับเปลี่ยนหน้าตาไปจนจำแทบไม่ได้แบบนี้ล่ะ หรือว่าพี่ต้องการปกปิดอะไรหรือเปล่า ?” หยางซ่งพูดประชดอย่างมีเหตุผล
“งั้นหรือ ? อยากโดนเตะรึยังไง ?” มู่หรังเสี่ยวเทียนยกเท้าขึ้นมากำลังจะเตะออกไป
“โอ้ว ๆ พอแล้ว ฉันคือผู้รับผิดชอบของกลุ่มหนานเทียนวู่เฟิงที่อยู่ในหมู่บ้านโนวิซ 110 พวกเรากำลังจัดตั้งทีมเพื่อเก็บเลเวล แน่นอน นายไม่ใช่ผู้เล่นมืออาชีพอย่างเป็นทางการ ดังนั้นนายสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ได้” บนหัวของชายรูปหล่อคนนี้มีตัวอักษรปรากฏชัดว่า “หนานเทียนวู่เฟิง” ซึ่งคำว่าวู่เฟิงนั้นก็มาจากชื่อจริงของเขาที่แปลว่า “สายลม”รวมทั้งยังเป็นชื่อของทีมเขาด้วย
มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปอีกสามคนที่ยังเหลืออยู่ คนหนึ่งมีตัวอักษรปรากฏขึ้นมาบนหัวว่า “หนานเทียนนักฆ่า” อีกคนหนึ่งชื่อ “หนานเทียนซัมมอนเนอร์” และอีกคนนั้นก็อายุอานามใกล้เคียงกันกับหยางซ่ง เธอไม่ได้สวยโดดเด่นมากมายนัก แต่เธอนั้นดูใสซื่อ เรียบร้อยอย่างมาก เธอนั้นมีชื่อว่า “หนานเทียนนักเวทย์” ดูเหมือนว่าผู้เล่นทางการของกลุ่มหนานเทียนนั้นจะตั้งโดยเอาชื่อกลุ่มนำหน้าจนกลายมาเป็นชื่อเล่นในเกม มู่หรงเสี่ยวเทียนแอบคิดภายในใจ
“พี่เทียน มันจะดีที่สุดถ้าเราติดตามกลุ่มของหนานเทียนวู่เฟิงนี้ไปเพื่อเก็บเลเวลของตัวเอง พวกเขาเป็นมืออาชีพและเป็นผู้เล่นประจำ เป็นคนที่เก่งกาจในเกมออนไลน์นี้ พวกเขาคือไอดอลของฉันเลยก็ว่าได้” หยางซ่งโบกดาบไม้ในมือไปมาอย่างตื่นเต้น
“สวัสดีทุกคน ในเมื่อพวกเราตัดสินใจที่จะรู้จักกัน ดังนั้นทุกคนก็สามารถเรียกฉันว่าเสี่ยวเทียนหรือว่าเทียนไซก็ได้นะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้าและพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการให้ใครเรียกเขาว่าพี่โจรอะไรทำนองนั้น
“วู่เฟิง นี่เราจะต้องรอคนอื่น ๆ อีกไหม ?” นักฆ่ามองไปที่วู่เฟิงและถามออกมา
“อย่าเสียเวลาเลย มีแค่พวกเรา 4 คนเท่านั้นที่อยู่ในหมู่บ้านโนวิซแห่งนี้ที่เป็นผู้เล่นมืออาชีพ ที่สำคัญผู้เล่นสำรองเองก็มีไม่เยอะ หากว่าพวกเราไม่ออกไปในตอนนี้ ก็คงจะไม่มีใครมาเพิ่มอีกแล้ว” วู่เฟิงโบกมือให้ทุกคน “ไปกันเถอะ” หลังพูดจบเขาก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า
มองออกไปภายนอกหมู่บ้านที่แออัดนั้น มีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลอยู่รอบ ๆ หมู่บ้าน ด้านซ้ายสุดของทุ่งหญ้าเป็นภูเขาที่มีหมอกหนาทึบส่วนทางด้านขวาที่อยู่ไม่ไกลมากก็เป็นป่าขนาดใหญ่
ผู้เล่นมากมายกำลังวิ่งไปมาบนผืนหญ้าแห่งนั้น ทันทีที่มอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นมาพวกมันมักจะถูกฆ่าตายไปในทันที
“ไปกันเถอะ เข้าไปในป่ากันดีกว่า” วู่เฟิงชี้ไปที่ด้านขวามือของพวกเขา “ที่นี่มีผู้เล่นเยอะกว่ามอนสเตอร์ แต่ละครั้งมอนสเตอร์ก็มักจะเกิดมาเพียงแค่สองสามตัวเท่านั้นหลังจากนั้นก็ตายไปอย่างรวดเร็ว อย่าว่าแต่จะได้เลเวลน้อยเลย พวกเราไม่มีโอกสจะได้ฆ่ามันได้เลยด้วยซ้ำ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้าตาม เขาเห็นด้วยกับปัญหาที่วู่เฟิงกล่าวออกมา มีสองสามคนเท่านั้นที่อยู่แถวชายป่า จากนั้นวู่เฟิงก็มองไปรอบ ๆ ตัวของเขา
พวกเขาเลือกที่จะไปแถวชายป่าเพราะว่าที่นั่นมีมอนสเตอร์อยู่ 2 ประเภท เลเวลของมันก็น่าจะสูงกว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในทุ่งหญ้า แต่ถ้าหากว่าพวกเขาเข้าไปลึกมากกว่านี้บางทีเลเวลของมอนสเตอร์ที่สูงเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการได้
“เห็นไหม..ไอดอลของผม ยอดเยี่ยมที่สุด !” หยางซ่งยกยอวู่เฟิงไม่หยุด
“วู่เฟิงพูดถูก การจำแนกมอนสเตอร์ในเกมนั้นจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ และเกมเดสตินี่เองก็ไม่น่าจะใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน” นักฆ่ากล่าวเสริม
“ผมก็คิดว่าอย่างนั้น” หยางซ่งเห็นด้วย แน่นอนว่านี่ก็เป็นสิ่งที่มู่หรงก็ต้องการจะพูดออกมาเหมือนกัน
“ฉันได้ศึกษาเว็บไซต์ทางการของเดสตินี่มาบ้างแล้ว” วู่เฟิงยิ้มออกมาขณะที่เขาเปิดหน้าต่างฟังก์ชั่นปาร์ตี้ แล้วก็เพิ่มหยางซ่งกับมู่หรงเสี่ยวเทียนเข้าไปด้วย จากนั้นเขาก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ในเกมเดสตินี่มีมอนสเตอร์อยู่ 3 ประเภทที่ฉันพอจะจำแนกได้ อย่างแรกคือมอนสเตอร์ที่มีไอคิวสูง มันมีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง เมื่อมันตายลงไปไม่นานมันก็จะปรากฏตัวขึ้นมาใหม่ ประเภทที่สองนั้นคือประเภทไอคิวต่ำ มันจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่เราเข้ามาในเดสตินี่แล้ว และเมื่อมันตายไปมันก็จะไม่เกิดมาใหม่จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม ประเภทที่สามคือมอนสเตอร์ที่มีเลเวลต่ำ พวกมันมักจะเกิดใหม่มาเรื่อย ๆ ตามสถานที่ที่กำหนดไว้”
“เอาล่ะ การล้างสมองเสร็จสิ้นแล้วเพื่อน นายตำรวจเพื่อประชาชนระวังตัวและอย่ากลายเป็นคนทรยศต่อประชาชนหลังจากถูกล้างสมองล่ะ” ซัมมอนเนอร์พูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม
“โอ้โห ฉันไม่เห็นนายพูดอะไรมาสักพักแล้ว แต่เมื่อนายพูดออกมา คำพูดของนายก็ช่างคมคายยิ่งนัก ถ้าหากว่านายไม่พูดอะไร ก็ไม่มีใครคิดว่านายเป็นใบ้หรอกนะ”
“เจ้าเด็กปากมาก นอกจากคำพูดของแกจะทำร้ายคนอื่นแล้ว แกนี่ยังเป็นตัวปั่นประสาทอีกด้วย !” ขณะที่เขาพูดออกมา ซัมมอนเนอร์ก็พุ่งเข้าไปเตะก้นของหยางซ่งทันที
“เมจช่วยด้วย” หยางซ่งตะโกนออกมาขณะวิ่งไปรอบ ๆ เปียวซือ
มู่หรงเสี่ยวเทียนและวู่เฟิงที่กำลังเฝ้าดูพวกเขาโต้เถียงกัน ก็เผยรอยยิ้มออกมา
“เอาล่ะ อย่าส่งเสียงดังมาก เรามาจัดการมอนสเตอร์กันเถอะ” จากสิ้นเสียงของนักฆ่า มอนสเตอร์ที่มีหัวเป็นม้าจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาในป่าแห่งนั้น พวกมันกระจายกันอยู่สองสามกลุ่มก่อนที่จะวิ่งกรูเข้ามาที่พวกเขา
“โอ้ย ฉับเจ็บเกือบจะตายแล้วเนี่ย !” สัตว์ประหลาดหัวม้าเตะเข้าไปที่ชายโครงด้านซ้ายของหยางซ่ง นั่นทำให้เขาเสียค่าพลังชีวิตไป 20 หน่วย โชคยังดีที่นักฆ่ามาช่วยทันเวลาไม่งั้นเขาอาจจะต้องไปเจอกันอีกที ที่จุดเกิดก็เป็นได้
“เดสตินี่มันแปลก ๆ ยังไงชอบกล ทำไมมันถึงเจ็บปวดได้สมจริงมากขนาดนี้ มันไม่ลดความเจ็บปวดลงเลยแม้แต่น้อย” หยางซ่งรีบหลบไปด้านหลังของนักฆ่าจากนั้นเขาก็เอาน้ำยาเพิ่มเลือดขึ้นมาพร้อมกับกระดกลงไปทันที
“ตำรวจ นายเสียเลือดไปกี่หน่วย ?” นักฆ่าตวัดดาบออกไปจนทำให้มอนสเตอร์หัวม้าถูกฆ่าตายแทบจะทันที
“20 หน่วย” หยางซ่งตอบกลับ
“ระวังตัวด้วยนะทุกคน พวกนายจะถูกโจมตีได้มากที่สุดก็ 2 ครั้งเท่านั้น” นักฆ่าพูดเตือนออกมา
ด้านหน้าของพวกเขา มีมอนสเตอร์หัวม้าปรากฏตัวขึ้นมาอีก 3 ตัว วู่เฟิงเป็นคนที่ล่อพวกมันออกไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “พลังโจมตีของมอนสเตอร์หัวม้านั้นสูงมาก แต่ทว่าความรวดเร็วของมันกลับต่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ เมจ เธอช่วยนักฆ่าจัดการกับพวกมันที่เหลือได้ไหม? นักฆ่าไปโจมตีมันจากทางด้านหลัง ใช้ความเร็วของพวกนายให้เป็นประโยชน์ รักษาตัวด้วย อย่าปล่อยให้มันโจมตีพวกนายล่ะ ส่วนซัมมอนเนอร์ นายนำพี่เทียนและตำรวจสู้กับตัวที่เหลืออีก 1 ตัวก่อน พยายามล่อมันออกมาให้ห่างจากพวกของมันแล้วจัดการซะ และระวังอย่าพลาดท่าให้มันล่ะ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนที่ดื้อรั้นพยายามต้านทานการโจมตีของมอนสเตอร์หัวม้า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้ ดูเหมือนว่ามันจะปลุกความป่าเถื่อนที่หลับไหลอยู่ในตัวของเขาขึ้นมาใหม่
“เป็นไปได้ไหมว่าฉันชินชากับความเจ็บปวดเหล่านี้แล้ว ?” ดวงตาของมู่หรงเสี่ยวเทียนฉายแววแห่งความเศร้าออกมาเล็กน้อย
ซัมมอนเนอร์เข้ามาได้ทันเวลา เขาเข้ามาและใช้ดาบไม้ฟาดฟันไปที่มอนสเตอร์หัวม้าเพื่อแหวกวงล้อมให้มู่หรงเสี่ยวเทียน
“ตำรวจ ระวังด้านข้าง ถอยแล้วโจมตีมันกลับ และฆ่ามันให้ตายซะ !” ซัมมอนเนอร์กวัดแกว่งดาบไปมาขณะที่กำลังเดินถอยหลัง จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกหยางซ่ง
หยางซ่งทำการโจมตีทันทีจากด้านข้างและเขาก็ฟันอย่างสุดแรงเกิดไปในครั้งเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้กลับจากมอนสเตอร์หัวม้า
“พี่เทียน หลังจากที่เราโจมตีแล้วมันจะพยายามโจมตีกลับมา” ซัมมอนเนอร์เห็นว่ามอนสเตอร์หัวม้าหันหลังกลับไปต่อสู้ทันทีที่หยางซ่งโจมตีมัน เขาเหวี่ยงดาบอีกครั้งและรีบวิ่งออกไป
“พี่เทียน ตำรวจ พยายามโจมตีจุดสำคัญของมันให้มากที่สุด หากโจมตีในจุดนั้นจะสามารถสร้างความเสียหายให้มันมากขึ้น” เมจพูดขณะที่พยายามโจมตีไปด้วย
ช่วงแรก ๆ มันก็จะวุ่นวายหน่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็ค่อย ๆ กลายเป็นทีมเวิร์คที่ดี หลังจากผ่านไปสองสามครั้ง มอนสเตอร์หัวม้าก็ถูกกำจัดลง
มู่หรงเสี่ยวเทียนแอบยอมรับพวกเขาอย่างลับ ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมทีมงานของวู่เฟิง ความรอบคอบที่มาจากนักฆ่า การตัดสินใจที่เฉียบขาดของวู่เฟิง การจู่โจมที่แม่นยำและความว่องไวของเปียวซือนั้นช่างน่าประทับใจมาก การควบคุมความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนรวมถึงทักษะของพวกเขาแทบไม่มีที่ติเลย เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาแล้ว ทั้งมู่หรงและหยางซ่งก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อย พวกเขาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่รู้อะไรเลย และการที่กลุ่มหนานเทียนยอมจ้างผู้เล่นมืออาชีพด้วยเงินเดือนที่สูง ตอนนี้มาดูแล้วการทำแบบนั้นก็ใช่ว่าจะไร้ความหมาย
“พี่เทียน ฉันคิดว่าอาการของพี่อาจจะไม่ค่อยสู้ดีนัก พี่ควรดื่มน้ำยาเพิ่มเลือดซักเล็กน้อย มันจะทำให้เลือดของพี่เพิ่มขึ้นมา” วู่เฟิงพูดพรางหยิบเหรียญทองแดงที่หล่นบนพื้น แล้วเดินกลับมา
“เฮ้อ ฉันได้เอาเหรียญทองให้คนอื่นไปแล้ว ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อน้ำยามาเพิ่มเลือดตัวเองด้วยซ้ำ” ใบหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นแดงก่ำไปด้วยความร้อนรุ่ม
“พี่เทียน นี่พี่เอาทองให้ NPC เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ไปใช่มั้ย ? NPC นั้นถูกจัดขึ้นมาจากระบบของเกมเพื่อที่จะลดหลั่นเหรียญทองในเกมน่ะ ทำไมเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้พี่ก็ทำผิดพลาดได้ ?” หยางซ่งรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก
“ฉันเต็มใจน่ะ นายมีปัญหารึไง ?” ร่องรอยแห่งความเสียใจฉายออกมาผ่านทางแววตาของมู่หรง
“พระเจ้า พี่นี่นะ....”
“เอาล่ะ ๆ เงียบกันได้แล้ว” เมจที่คอยระมัดระวังได้สังเกตเห็นความแปลกประหลาดบางอย่าง จากนั้นเธอก็ห้ามหยางซ่งที่กำลังจะพูดออกมา
“รับน้ำยาเพิ่มเลือดนี่ไป” วู่เฟิ่งหยิบกล่องยาออกมาจากกระเป๋ามิติของเขาและส่งมันให้กับมู่หรงเสี่ยวเทียน
มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่วู่เฟิงก่อนที่จะรับเอามันกลับมา เขาไม่ได้พูดอะไร ทำให้สถานการณ์ตอนนี้สงบลงไป
ปล.ตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุม (อังกฤษ: non-player character บ้างก็เรียกว่า non-person character หรือ non-playable character) หรือ เอ็นพีซี (NPC) ในเกมหมายถึง ตัวละครใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้เล่น โดยปกติในวิดีโอเกมจะหมายถึง ตัวละครที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ผ่านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence หรือ AI) ในเกมเล่นตามบทบาท (Tabletop role-playing game) แบบดั้งเดิมคำนี้จะใช้กับตัวละครที่ถูกควบคุมโดยเกมมาสเตอร์ (Gamemaster หรือ GM) หรือผู้ตัดสิน มากกว่าที่จะใช้คำว่าผู้เล่น
To be continued…