บทที่ 55: ร่างปีศาจดอกบัวพิษ
บทที่ 55: ร่างปีศาจดอกบัวพิษ
หวังเต็งนึกขึ้นได้ว่าในชีวิตที่แล้วของเขา เขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับพ่อที่เป็นอัมพาตของหลินซัวหานมาก่อน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าในชีวิตนี้ สถานการณ์ของเธอก็จะยังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงชีวิตนี้ พ่อของหลินซัวหานก็เป็นนักสู้และกลายเป็นอัมพาตเพราะแผนการของคนอื่น
“โอ้ใช่ แล้วเพื่อนร่วมทีมของพ่อเธอล่ะ? พวกเขาไม่รู้สถานการณ์ในครอบครัวของเธอบ้างหรอ” หวังเต็งถาม
“ในอดีตพวกเขาก้ได้เคยช่วยเหลือเราเอาไว้มาก อย่างไรก็ตาม เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ถูกใช้ไปในทวีปซินหวู และบางครั้งพวกเขาก็จะจากไปประมาณสองถึงสามเดือน อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้พวกเขาก็จากไปได้ครึ่งปีแล้ว”
“และเมื่อครึ่งเดือนก่อน อาการป่วยของน้องสาวฉันก็ได้กำเริบขึ้น ดังนั้นแม่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำแนะนำของคนอื่น ท้ายที่สุดเธอก็ไปยืมเงินจากคนพวกนั้นเพื่อเอามารักษาน้องสาวของฉัน” หลินซัวหานกล่าว
“เธอมีน้องสาวด้วยหรอ? เธอป่วยเป็นอะไรกัน?” หวังเต็งตระหนักได้ว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของหลินซัวหานเลย
“ฉันมีน้องสาว แต่นายก็แค่ไม่รู้เกี่ยวกับเธอ ส่วนเรื่องอาการป่วยของเธอ... เห้อ คงจะดีถ้าเรารู้ว่าเป็นโรคอะไร” หลินซัวหานถอนหายใจ
ขณะที่เธอพูด เธอก็พาหวังเต็งไปที่ประตูห้องอีกห้องแล้วเคาะ “ซัวเซีย ฉันพาเพื่อนมา ฉันเข้าไปได้ไหม”
“เข้ามา~ เข้ามา~”
เสียงแผ่วเบาของหญิงสาวดังออกมาจากข้างในห้อง วิธีที่เธอพูดนั้นแปลกมาก เธอพูดคำต่อคำ แต่มันก็ไม่มีการแบ่งระหว่างคำ เธอดูอ่อนแอและไร้ชีวิตชีวาเล็กน้อย
ถ้าจู่ๆมีใครได้ยินเสียงนี้ในตอนกลางคืนในที่มืด พวกเขาก็อาจจะฉี่รดกางเกงได้
หวังเต็งรู้สึกขนลุกในทันทีที่คิดถึง
หลินซัวหานหัวเราะแห้ง “ไม่ต้องสนใจหรอก เสียงของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ”
เธอผลักประตูเข้าไป
เอี๊ยด~
ประตูไม้ส่งเสียงเอี๊ยดเนื่องมาจากการเสียดสีกับบานพับ ห้องมืด ม่านปิดสนิทและไม่มีแสงอะไรเข้ามาในห้องได้
หวังเต็งมองไปรอบๆห้อง ไม่มีมนุษย์อยู่ในสายตาเลย
แต่-
เขาเห็นทะเล... ฟองสบู่!
นี่คืออะไร?
หวังเต็งรู้สึกตกตะลึงในทันที
ฟองสบู่ค่าคุณสมบัติดรอปออกมาเต็มไปหมดทั้งห้อง พวกมันอยู่บนพื้น โต๊ะ เก้าอี้ เตียง หน้าตู้...
พวกมันอยู่ทุกที่ ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยฟองสบู่ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
หวังเต็งกลืนน้ำลายของเขา เขาไม่สามารถรอที่จะเข้าไปในห้องได้
“อย่า!” หลินซัวหานหยุดเขาอย่างเร่งรีบ จากนั้นเธอก็เตือนเขาว่า “ฉันคิดว่านายตามหลังฉันมาดีกว่า จำเอาไว้ว่าอย่าเข้าใกล้เธอมากเกินไป”
“ทำไม?” หวังเต็งรู้สึกงงงวย
“ฉันจะบอกนายในภายหลัง” หลินซัวหานกล่าวด้วยเสียงต่ำ
จากนั้นเธอก็เข้าไปในห้องและพูดกับมุมระหว่างขาเตียงกับผนัง “ซัวเซีย พี่สาวกำลังเข้าไปนะ”
หวังเต็งเดินตามเธอไปและในที่สุดพวกเขาก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่ในจุดบอดที่มุมเตียง หัวของเธอถูกฝังไว้ระหว่างเข่าของเธอ เธอมีผมสีดำยาวสลวยสลวย
ผมยาวสีดำและเหยียดตรง!
เขามองไปที่หลินซัวหาน ใช่แล้ว พวกเธอทั้งคู่ดูเหมือนกัน!
จากนั้น ความสนใจของเขาหันไปที่ฟองสบู่ค่าคุณสมบัติที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเขา
ฟองสบู่ค่าคุณสมบัติเหล่านี้มันคืออะไรกัน?
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนปกติดรอปฟองสบู่ค่าคุณสมบัติมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ฟองสบู่เหล่านี้ก็ยังได้ดรอปออกมาตามธรรมชาติ นี่มันผิดปกติมาก!
หรือนี่มันจะเกี่ยวข้องกับอาการป่วยแปลกๆของน้องสาวของซัวหานกันนะ?
หวังเต็งเดาอย่างลับๆ จากนั้นเขาก็แตะฟองสบู่ที่อยู่ข้างๆเบาๆ
เขาเก็บมันขึ้นมา!
พลังฟอร์สธาตุพิษ*2
พลังฟอร์สธาตุพิษ*1
ร่างปีศาจดอกบัวพิษ*1
ในทันใดนั้นหวังเต็งก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในร่างกายของเขา เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่แปลกประหลาดและหายากในโลกนี้
พลังฟอร์สธาตุพิษ!
พลังแบบนี้มีอยู่จริงๆหรอ? หวังเต็งตกตะลึง
หลังจากนั้น พลังฟอร์สธาตุพิษก็ได้ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของหวังเต็ง เขาไม่เคยฝึกฝนคัมภีร์ทักษะพลังฟอร์วธาตุพิษมาก่อน ดังนั้นพลังพิษจึงระเบิดในทันทีและเริ่มไหลเวียนเข้าไปในร่างกายขงอเขาอย่างช้าๆ
บัดสบ! หวังเต็งรู้สึกประหลาดใจ
หากมีคนสังเกตผิวหนังบนร่างกายและใบหน้าของเขาในตอนนี้ พวกเขาก็จะสังเกตเห็นว่ามันมีชั้นสีม่วงแดงปรากฎอยู่บนตัวของเขา
เขาดูราวกับว่าเขาถูกวางยาพิษ
อย่างไรก็ตาม พลังงานลึกลับบาวอย่างก็ได้ทำให้พลังฟอร์สธาตุพิษสงบลงในทันทีและรวมพลังฟอร์สทั้งหมดไว้ในนิวเคลียสฟอร์ส ในไม่ช้า มันก็สร้างสมดุลกับพลังฟอร์สธาตุอื่นๆ
สีแปลกๆบนผิวของเขาค่อยๆหายไปภายในไม่กี่วินาที
“มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?” หลินซัวหานหันศีรษะกลับมาและถาม
“เอ่อ ฉันสบายดี” หวังเต็งฟื้นความสงบและยิ้ม
ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวที่กำลังนั่งยองๆอยู่ตรงมุมห้องก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นและมองดูหวังเถิงอย่างสงสัย
หัวใจของหวังเต็งเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหญิงสาว
โครงหน้าของเธอนั้นคล้ายกับของหลินซัวหานมาก พูดกันตามตรงเธอก็นับได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมาก อย่างไรก็ตาม มันก็มีจุดพิษสีม่วงแดงที่แก้มทั้งสองข้างของเธอ และพวกมันก็กินพื้นที่บนใบหน้าของเธอไปมากกว่าครึ่ง
จุดพิษนั้นหยาบและเป็นหลุมเป็นบ่อ พวกมันดูน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก พวกมันทำลายความงามทั้งหมดบนใบหน้าและทำให้เธอดูน่ากลัวและน่าสะพรึงกลัว และมันก็ทำให้เป็นการยากที่จะมองหน้าเธอเป็นเวลานาน
หวังเต็งจ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกรังเกลียดเธอแต่อย่างใด
เขาแค่รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้นั้นน่าสงสารมาก เธอเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของชีวิต แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดในห้องของเธอเท่านั้น เธอไม่สามารถอยู่อย่างคนปกติได้
เธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากบ้านของเธอแม้แต่ก้าวเดียว หวังเต็งสามารถจินตนาการได้ถึงความเกลียดชังและการเยาะเย้ยที่เธอต้องได้รับมาในอดีต
นี่คงจะเป็นโรคประหลาดที่หลินซัวหานพูดถึง
ร่างปีศาจดอกบัวพิษ!
นี่จะต้องเป็นร่างกายที่หายากมากอย่างแน่นอน ไม่อย่างงั้น พ่อของหลินซัวหานก็คงจะพบวิธีรักษาไปนานแล้วตั้งแต่เขายังเป็นนักสู้
หากนักสู้ไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับร่างกายประเภทนี้ได้ งั้นอุตสาหกรรมการแพทย์ในปัจจุบันก็จะไม่สามารถหาวิธีการรักษาได้เช่นกัน
ยุคแห่งศิลปะการต่อสู้และยุคแห่งเทคโนโลยีนั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ก่อนที่ยุคแห่งศิลปะการต่อสู้จะเริ่มต้น ร่างกายแบบนี้ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงไม่มีกรณีรักษาที่ประสบความสำเร็จมาก่อนในวงการแพทย์
แลพวิธีแก้ปัญหานี้ก็จะพบได้แค่ในทวีปซินหวู่เท่านั้น
“พี่สาว~ เขาเป็นใคร” หญิงสาวมองไปที่หวังเต็งอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้ก็ได้หายไปแล้ว คำใบ้ของความผิดหวังแวบเข้ามาในดวงตาของเธอ
“ชื่อของเขาคือหวังเต็ง เขาเป็นเพื่อนของพี่เอง” หลินซัวหานนั่งยองๆต่อหน้าหญิงสาว แต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปใกล้เธอมากเกินไป มันมีระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรระหว่างพวกเขา
หวังเต็งเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินซัวหานถึงไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปใกล้น้องสาวของเธอ
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังฟอร์สธาตุพิษที่รุนแรงที่พุ่งออกมาจากร่างของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศรอบตัวเธอนั้นเต็มไปด้วยพลังฟอร์สธาตุพิษ
ถ้าคนธรรมดาเข้ามาใกล้มากเกินไป พวกเขาก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน และหากโต้ตอบกันนานเกินไป พวกเขาก็อาจจะถูกพิษเข้าไปด้วยก็ได้ ซึ่งมันก็อาจจะรุนแรงจนทำให้คนๆเสียชีวิตได้เลย
ร่างปีศาจดอกบัวพิษช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
“เขาเป็นพี่เขยของฉันหรอ~” จู่ๆหญิงสาวก็ถามหลินซัวหาน
พัฟ!
“พี่เขย!” หลินซัวหานตะลึงงัน ใบหน้าทั้งหมดของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงภายในเสี้ยววินาที “เด็กโง่ เธอกำลังพูดอะไรน่ะ! เขาไม่ใช่พี่เขยของเธอสักหน่อย”
หวังเต็งเกือบจะระเบิดหัวเราะออกมา หญิงสาวคนนี้ช่างเป็นผู้ช่วยที่ดีจริงๆ!
“โอ้~” หญิงสาวเอียงศีรษะและให้คำตอบที่คลุมเครือ มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์บนใบหน้าของเธอ
หลินซัวหานรู้สึกหมดหนทาง เธอลุกขึ้นและพูดกับหวังเต็งว่า “นี่คือน้องสาวของฉัน หลินซัวเซีย แล้วก็อย่าไปสนใจสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้เลย”
“ทำไมเธอถึงดูประหม่าจัง” หวังเต็งล้อเธอ
“ฉันไม่ได้ประหม่านะ!” หลินซัวหานรู้สึกประหม่าเพราะการจ้องมองของเขา
หวังเต็งยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินผ่านหลินซัวหานไปและตรงเข้าไปหาหลินซัวเซีย
“อย่าเข้าไปนะ!” หลินซัวหานต้องการหยุดเขาอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร ทุกอย่างปกติดี!”
หวังเต็งโบกมือ ก่อนที่หลินซัวหานจะทันได้รั้งเขาไว้ เขาก็ได้นั่งลงตรงหน้าหลินซัวเซียแล้ว เขายกมือขึ้นแล้วพูดว่า “สวัสดี!”