ตอนที่ 468 สามวิญญาณมฤตยู
ตอนที่ 468 สามวิญญาณมฤตยู
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ยู่ฉางตงยังดูสงบเยือกเย็น ตัวเขาได้คิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีคนมาขวางทางเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าควันสีดำที่เห็นเป็นของที่มีไว้เพื่อหยุดตัวเขา
ยู่ฉางตงลงมาจากบี่เอี๊ยนอย่างช้าๆ
ในตอนนั้นเองใครสามคนก็ได้ออกมาจากป่า
หนึ่งในนั้นเป็นชายผู้แต่งตัวประหลาด ชายคนนั้นไว้หนวดที่ดูเบาบาง ชายคนนี้เป็นผู้ที่ยืนนำหน้าทุกคน เขาเป็นเหมือนกับผู้นำนั่นเอง “สหายของข้า ข้าต้องการจะซื้ออะไรบางอย่างกับเจ้า”
“อะไรล่ะ?”
“ยาช่วยชีวิตไงล่ะ” ในตอนนั้นเองชายผู้แต่งตัวประหลาดก็ได้โบกมือของตัวเอง
ผู้ติดตามทั้งสองรีบนำทรัพย์สมบัติออกมาจากกล่องก่อนที่จะวางกองกับพื้น
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายมักจะไม่ได้สนใจเรื่องของสิ่งของวัตถุ
“เจ้าแน่ใจหรอว่าต้องการซื้อยาที่ข้ามี?” ยู่ฉางตงถามพร้อมรอยยิ้ม
“เป็นธรรมดาที่เจ้าจะคิดว่านี่เป็นเหมือนกับการรีดไถ” ชายคนนั้นส่งยิ้มกลับให้กับยู่ฉางตง “สำนักแก่นแท้แห่งหยางเป็นสำนักที่ถูกปกป้องด้วยม่านพลัง การที่พวกเราจะได้พบกับลูกค้าอย่างเจ้าเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ยังไงก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสามได้พบกับผู้ที่มาพร้อมกับสัตว์ขี่”
ยู่ฉางตงพยักหน้า “เจ้าสามารถใช้เวทมนตร์คาถาได้ เจ้ามาจากลั่วหลานหรือรั่วหลี่กันล่ะ?”
ชายที่แต่งตัวประหลาดตกใจกับคำพูดของยู่ฉางตง “เจ้ามีสายตาที่เฉียบคมจริงๆ สหายข้า...ตั้งแต่ที่ดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่เข้าสู่ยุคแห่งการตัดดอกบัว พวกเราชาวรั่วหลี่ไม่อาจที่จะทนล้าหลังอีกต่อไปได้”
‘พวกเขามาจากรั่วหลี่ไม่ผิดแน่’ หลังจากที่รู้แบบนั้นยู่ฉางตงก็คิดว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผล ผู้ฝึกยุทธในดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่กำลังแยกดอกบัวทองคำของตัวเอง เมื่อมีผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบมากพอ สักวันหนึ่งเผ่าพันธุ์อื่นๆ ก็คงจะถูกรุกราน หรงซีและหรงเป่ยจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะส่งหน่วยสอดแนมมายังที่แห่งนี้
“ชาวรั่วหลี่” ยู่ฉางตงยังคงยิ้มแย้มอยู่ “ดาบของข้าไม่เคยฆ่าผู้ไร้ชื่อ”
“ดูเหมือนเจ้าจะหยิ่งทะนงน่าดู แต่น่าเสียดายนี่ไม่ใช่ที่ตายของข้า” ชายที่แต่งตัวประหลาดโบกมือ
ผู้ติดตามทั้งสองเริ่มถอดเสื้อผ้าออก ที่ร่างกายของพวกเขามันเต็มไปด้วยลวดลาย ผิวหนังของพวกเขาต่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยอักษรโบราณ มันดูแปลกและเป็นการโอ้อวด ยังไงซะทั้งสามคนก็ยังเป็นชนเผ่าอื่น
หวืออ! หวืออ!
อวตารราชาหมาป่าสองตัวได้ปรากฏตัวขึ้น
ยู่ฉางตงเหลือบมองพวกเขา พลังอวตารทั้งคู่มีดอกบัวสองกลีบ
ดอกบัวทองคำจากร่างอวตารสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีและป้องกันได้ เพราะแบบนั้นตามหลักแล้วพลังอวตารที่มีดอกบัวทองคำก็คงจะแข็งแกร่งกว่าพลังอวตารที่ไร้ซึ่งดอกบัวทองคำ แต่ยังไงก็ตามยู่ฉางตงก็ไม่ใช่คนที่ถูกประเมินพลังตามทฤษฎีได้
ยู่ฉางตงไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับชนเผ่าอื่น
ชาวรั่วหลี่ทั้งสองพุ่งเข้าใส่ยู่ฉางตง พวกเขาทั้งคู่ต่างก็พุ่งมาพร้อมกับพลังอวตารราชาหมาป่า ความแข็งแกร่งและความว่องไวที่พวกเขามีเป็นสิ่งที่เกินคาดยู่ฉางตงไปพอสมควร
พรึ๊บ!
พลังอวตารราชาหมาป่าได้กระโจนเข้าใส่ยู่ฉางตงอย่างพร้อมเพรียงกัน
ยู่ฉางตงยังคงยื่นนิ่ง ในช่วงเวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตัวเขาก็ได้เอามือตบหลังบี่เอี๊ยน “หลบไปซะ ข้าเกรงว่าเจ้าจะได้รับบาดเจ็บเข้า”
โฮรกก!
บี่เอี๊ยนที่ได้ฟังแบบนั้นดูไม่เต็มใจเท่าไหร่ มันที่ไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ได้หลบไปยังข้างทาง
เมื่อพลังอวตารทั้งสองมาถึงตัวของยู่ฉางตง...
ชิ๊ง!
ยู่ฉางตงได้ชักดาบยืนยาวออกมาจากฝัก! มันเปล่งประกายแสงสีแดงฉานออกมา! ดาบในมือของยู่ฉางตงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว แทนที่ตัวเขาจะถอยกลับ ยู่ฉางตงเลือกที่จะก้าวไปยังด้านหน้าแทน เพียงแค่การใช้ปลายเท้าเท่านั้นยู่ฉางตงก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว ยู่ฉางตงที่เคลื่อนที่ได้แกว่งดาบที่มีอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครมองตามวิถีของดาบที่ยู่ฉางตงกวัดแกว่งได้ทัน “ดาบไร้รอย”
ดาบยืนยาวได้ตัดผ่านอวตารราชาหมาป่าทั้งสอง พลังอวตารทั้งสองแตกสลายไปในทันที พร้อมๆ กันนั้นมีเสียงร้องอันแสนเจ็บปวดดังขึ้น มันดังไปทั่วทั้งผืนป่า
ยู่ฉางตงอยู่ที่ด้านหลังของชาวรั่วหลี่ทั้งสอง ยู่ฉางตงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองผลจากการโจมตี
ดาบยืนยาวกลับคืนสู่ฝัก
แปะ! แปะ! แปะ!
ชายที่แต่งตัวแปลกประหลาดปรบมือก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้าเก่งในการใช้ดาบจริงๆ สหายข้า...”
“เจ้าพูดเยินยอเกินไป”
ชายที่แต่งตัวประหลาดพูดต่อ “มีคนหลายคนที่เก่งกาจในการใช้ดาบในดินแดนแห่งนี้...ข้าเคยได้ยินยอดฝีมือผู้ใช้ดาบมาหลายคน ทั้งผู้คลั่งไคล้ดาบ เฉินเหวินเจีย, ดาบปีศาจ ยู่ฉางตง หรือทาสแห่งดาบหวังไห่เฉา...แต่น่าเสียดาย เมื่อเทียบฝีมือเจ้ากับคนเหล่านั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้ายังห่างชั้นอีกไกล”
“เจ้าพูดถูกแล้วล่ะ” ยู่ฉางตงไม่ได้โต้แย้งคำพูดของชายคนนั้น พลังอวตารของเขาในตอนนี้เป็นเพียงพลังอวตารดอกบัวสามกลีบเท่านั้น เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้ยู่ฉางตงห่างไกลจากพลังดั้งเดิมที่ตัวเขามี
“ให้ข้าได้แนะนำตัวเองเถอะ ข้ามีชื่อว่าคาร์รัน ข้าเป็นน้องชายของแม่ทัพคาร์รอล แม่ทัพใหญ่แห่งรั่วหลี่” คาร์รันยิ้มให้ยู่ฉางตงอย่างมั่นใจ
“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อเจ้ามาก่อน”
“...”
“แต่ถ้าเป็นชื่อคาร์รอลข้าคุ้นเคยดี...”
“หืม?”
ยู่ฉางตงได้กวัดแกว่งดาบไปที่ด้านหน้า ตัวเขาได้ถือมันเอาไว้ก่อนที่จะก้าวเดิน ยู่ฉางตงกำลังยิ้ม เห็นได้ชัดว่าตัวเขาไม่ได้กังวลเลยเมื่อได้ยินชื่อเสียงของคาร์รอล
คาร์รันที่เห็นพลังรอบตัวของยู่ฉางตงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาด มันเป็นความรู้สึกที่มาจากลางสังหรณ์ของตัวเขา
หวืออ!
คาร์รันกางแขนของตนออก ในตอนนั้นเองพลังอวตารราชาหมาป่าตัวใหญ่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
มันเป็นพลังอวตารราชาหมาป่าดอกบัวหกกลีบ!
“ที่แห่งนี้ถูกวางเวทมนตร์คาถาอยู่ก่อนแล้ว...มันเป็นเวทมนตร์คาถาที่จะทำให้ข้ามีพลังเทียบเท่าได้กับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบได้ชั่วคราว”
ยู่ฉางตงเดินหน้าต่อด้วยรอยยิ้ม
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
หวืออ!
เมื่อยู่ฉางตงอยู่ห่างจากพลังอวตารราชาหมาป่าได้สิบเมตร พลังอวตารที่สูงกว่า 30 ฟุตของเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้น พลังอวตารที่ปรากฏตัวขึ้นอยู่เหนือยู่ฉางตงขึ้นไป มันเป็นพลังอวตารที่ดูราวกับกำลังบินอยู่
“สามกลีบอย่างงั้นเหรอ?” เมื่อคาร์รันเห็นพลังอวตารของยู่ฉางตง ตัวเขาก็เริ่มขมวดคิ้ว หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของคาร์รันก็เปลี่ยนไป “ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าไว้สูงจนเกินไป”
ควันสีดำได้มารวมตัวกันอยู่ที่ร่างอวตารราชาหมาป่า
ในตอนนั้นเองยู่ฉางตงก็ได้วิ่งเข้าหาคาร์รันด้วยความเร็วในชั่วพริบตา
คาร์รันที่เห็นแบบนั้นตกตะลึง โลกตรงหน้าของเขากำลังดูบิดเบี้ยวและพร่ามัว
คาร์รันมองเห็นเงาสามเงาปรากฏขึ้นจากทางด้านซ้าย, ด้านขวา และตรงกลาง
ในเวลาเดียวกันคาร์รันก็มองเห็นกลีบดอกบัวทั้งหมดที่กำลังหมุนรอบดาบ
คาร์รันตกใจมาก ไม่ว่าจะมองเท่าไหร่ตัวเขาก็มองไม่เห็นดอกบัวทองคำ นี่คือพลังอวตารที่ไร้ดอกบัวทองคำ! เมื่อเห็นแบบนั้นคาร์รันก็ได้ระเบิดพลังลมปราณออกมาในทันที
พลังลมปราณของอวตารได้ทะลักออกมาโดยรอบ
“ข้าต้องขอโทษด้วย แต่เจ้าน่ะช้าเกินไป”
คมดาบจากเงาทั้งสามหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว มันได้พุ่งเข้าทะลุใส่ร่างกายของคาร์รัน ทะลุผ่านอวตารก่อนที่จะทิ่มแทงไปที่หน้าอกของตัวเขา
การต่อสู้สิ้นสุดลง
ป่าที่เคยเงียบสงบกลับมาเงีบบดั่งเดิมอีกครั้ง
ยู่ฉางตงในตอนนี้ยืนอยู่ที่ด้านหลังคาร์รัน หลังของเขายังตั้งตรงและยังดูสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ ในตอนนี้ดาบยืนยาวของตัวเขากำลังชี้ไปที่ด้านหน้า
ยู่ฉางตงไม่ได้สนใจว่าคาร์รันจะอยู่หรือจะตาย ตัวเขาจ้องมองไปที่ดาบยืนยาวของตัวเองแทน กลีบดอกบัวสามกลีบได้ส่องแสงรอบดาบยืนยาวก่อนที่จะจางหายไป เรื่องนี้พิสูจน์สิ่งที่ยู่ฉางตงเคยคิดเอาไว้ได้ แม้ว่าการป้องกันของดอกบัวทองคำจะแข็งแกร่งก็ตาม แต่ความเฉียบคมของกลีบดอกบัวเองก็ยังเป็นอะไรที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน
คาร์รันเอามือแตะไปที่หน้าอกของตัวเองก่อนจะคุกเข่าลง ตัวเขาได้กระอักเลือดออกมาเฮือกใหญ่ สีหน้าที่เคยมั่นใจเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ก่อนที่เวทมนตร์คาถาเสริมพลังจะหมดตัวเขากลับถูกสังหารตาย เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง? ทำไมผู้ฝึกยุทธจากดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่ถึงแข็งแกร่งได้เพียงนี้?
“เจ้า...เจ้า...” คาร์รันพยายามส่งเสียงเฮือกสุดท้าย “เจ้า...สุดท้ายแล้วเจ้าช่วยบอกชื่อก่อนจะได้ไหม? ข้า...ข้าจะได้จากไปอย่างสงบ...” ในขณะที่พูดเลือดจากปากและจากบาดแผลของเขาก็เริ่มไหลรินมากยิ่งขึ้น มันได้ย้อมเสื้อคลุมของคาร์รันจนเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสีแดงฉาน
ยู่ฉางตงหันกลับมาอย่างช้าๆ ตัวเขาไม่แม้แต่จะชำเลืองดูคู่ต่อสู้ ยู่ฉางตงเหลือบมองไปที่ซากศพทั้งสอง ซากศพทั้งสองมีถุงผ้าผูกติดอยู่กับตัว กลิ่นของมันคุ้นเคยกับจมูกของยู่ฉางตงดี ‘นี่มันยาช่วยชีวิต?’ ท้ายที่สุดยู่ฉางตงก็ได้เก็บถุงผ้าก่อนที่จะตอบคาร์รันไป “ข้า ยู่ฉางตง”
หลังจากที่เปิดเผยชื่อของตัวเอง ยู่ฉางตงก็บินขึ้นไปบนฟ้า ตัวเขาได้ขี่บี่เอี๊ยนก่อนที่จะลอยหายไปอย่างรวดเร็ว
คาร์รันนั่งลงบนพื้นก่อนที่จะหัวเราะให้กับตัวเอง “ดาบปีศาจ...ไม่แปลก...ไม่แปลกเลย...ข้าคงได้แต่โทษโชคชะตาที่ตัวข้ามี!” คาร์รันกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ในตอนนี้ตัวเขาแทบที่จะไม่มีโอกาสเอาชีวิตรอดหลังจากการถูกโจมตีด้วยดาบได้เลย แต่ถึงแบบนั้นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดอันแข็งแกร่งของเขาก็ทำให้คาร์รันยังคงยืนหยัดได้
“ข้าจะตายไม่ได้...ข้าจะตายไม่ได้...ดาบปีศาจ เจ้ายังไม่เข้าใจชาวรั่วหลี่!” คาร์รันพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะร้อนรนถอดเสื้อผ้าออก ตัวเขาได้ใช้เลือดของตัวเองขีดเขียนอะไรบางอย่างบนร่างกาย ไม่นานนักร่างกายของคาร์รันก็เต็มไปด้วยเลือด
แปะ! แปะ! แปะ!
ใครคนหนึ่งได้เดินออกมาพร้อมกับเสียงปรบมือ ชายคนนั้นจ้องมองไปที่ยู่ฉางตงที่กำลังจะลอยหายไปพร้อมกับบี่เอี๊ยน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพและความชื่นชม “ไม่มีทาง เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน? ผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวสามกลีบสามารถจัดการผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบได้?”
คาร์รันรีบหันมามองผู้มาเยือนหน้าใหม่
ผู้มาเยือนหน้าใหม่คนนี้แต่งตัวแปลกประหลาดเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการมีอยู่ของคาร์รัน ตัวเขากำลังยุ่งอยู่กับชื่นชมอยู่ “เป็นไปได้ยังที่ผู้มีพลังอวตารกลีบดอกบัวน้อยกว่าจะทำแบบนั้นได้? หรือว่าเขากำลังปิดซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้? ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้!”
คาร์รันรู้สึกสับสน
“เฮ้ย ข้ากำลังคุยกับเจ้าอยู่!” ชายที่แต่งตัวประหลาดกว่าได้เตะไปที่คาร์รัน
“อ๊ากก!”
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย