ตอนที่แล้วตอนที่ 465 ไม่อาจมองข้ามได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 467 ศิษย์พี่ใหญ่ผู้น่าสงสาร

ตอนที่ 466 ความลับของยู่เฉิงไห่


ตอนที่ 466 ความลับของยู่เฉิงไห่

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ไม่นานหลังจากที่จ้าวยู่ก็พาสีวู่หยามายังศาลาทางตะวันออก

สภาพจิตใจของสีวู่หยาดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับหลายวันก่อน สีวู่หยาเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวังในขณะที่จ้าวยู่ยังยืนอยู่ที่ด้านนอก เมื่อเข้ามายังศาลาสีวู่หยาก็ได้เห็นลู่โจวที่กำลังนั่งหลับตาอยู่บนเบาะเก่าๆ ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้ส่งเสียงเรียกผู้เป็นอาจารย์เบาๆ “ท่านอาจารย์”

ลู่โจวค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นก่อนที่จะเหลือบมองสีวู่หยา “นั่งลง”

“ข้าไม่กล้า”

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรกัน พูดมาซะ”

สีวู่หยาพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มพูด “ข้าได้ใช้เวลาไตร่ตรองตัวเองภายในถ้ำแห่งเงาสะท้อนมาหลายวัน ในที่สุดข้าก็นึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคริสตัลแห่งความทรงจำได้ ข้ารู้สึกว่าคริสตัลนี้จะอยู่ในหรงซีแทนที่จะอยู่ในหรงเป่ย”

“ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”

“หลังจากที่ท่านอาจารย์ผนึกความทรงจำของตัวเอง ท่านอาจารย์ก็เดินทางไปยังหรงซี...ภายในหรงซีมีดินแดนทั้งหมด 5 ดินแดน ได้แก่ฉีกง, วู่เซียน, ซูเฉิน, ฉางกู และลั่วหลาน ที่ดินแดนทั้ง 5 ต่างก็มีชนเผ่าอื่นอาศัยอยู่ พวกเขาต่างก็เชื่อและบูชาในสัตว์ร้าย หลังจากที่ท่านกลับมาจากการปิดผนึกความทรงจำของตัวเองท่านอาจารย์ก็ถูกยอดฝีมือจากสำนักใหญ่ทั้ง 10 เข้าโจมตี...และเพื่อที่จะวางแผนใหญ่เช่นนั้น สำนักใหญ่จะต้องรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของท่านอย่างละเอียดก่อนแน่ ในความเห็นของข้าลั่วหลานเป็นดินแดนเดียวที่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำแบบนั้น”

“ลั่วหลานอย่างงั้นเหรอ?” ลู่โจวรู้สึกงุนงง ในตอนที่ตัวเขามายังโลกใบนี้เป็นครั้งแรก ลู่โจวคิดมาตลอดว่าปัญหาทั้งหมดจะเกิดจากศิษย์ไม่รักดีทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยู่เฉิงไห่ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่สีวู่หยาพูดดูเหมือนมันจะฟังดูสมเหตุสมผลจนน่าเชื่อถือ

สีวู่หยาพูดต่อ “ศิษย์พี่รองเคยสังหารชายาแห่งดินแดนทางตะวันตกไป ท่านรู้เหตุผลรึเปล่าท่านอาจารย์?”

ลู่โจวเหลือบมองสีวู่หยาก่อนที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าพยายามที่จะล้อข้าเล่นหรอ เจ้าศิษย์ไม่รักดี?”

สีวู่หยาตกใจมากจนรีบพูดต่อ “ชายาที่ข้าพูดถึงเป็นคนทรงผู้ยิ่งใหญ่ นางได้จับตาดูศิษย์พี่รองก็เพื่อที่จะควบคุมเขา แต่ศิษย์พี่ไม่หลงกล หลังจากที่สังหารชายาคนนั้นทางราชวงศ์จึงต้องรับชายายู่ด้วยการแต่งงานเพื่อสร้างสัมพันธไมตรีขึ้นมาแทน ชายายู่เป็นคนธรรมดา แต่ถึงแบบนั้นนางก็ถูกม่อหลี่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ม่อหลี่เป็นคนที่ต้องการชักนำดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่ให้ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าขวางนางไว้ได้”

ลู่โจวพยักหน้า “สิ่งที่เจ้าต้องการจะบอกก็คือลั่วหลานวางแผนต่อต้านข้าอย่างงั้นสินะ?”

“น่าจะเป็นเช่นนั้น”

“เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับคริสตัลแห่งความทรงจำด้วยสินะ?”

สีวู่หยาตอบ “เป็นเพราะผู้คนจากลั่วหลานรู้ถึงการเคลื่อนไหวของท่านเป็นอย่างดี...ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องรู้ว่าท่านอาจารย์เคยไปเยือนที่ไหนในหรงซีมาแล้ว ถ้าหากพวกเราสืบหาต้นทางได้ บางทีพวกเราอาจจะค้นพบคริสตัลแห่งความทรงจำเป็นได้”

ลู่โจวลูบเคราในขณะที่ไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยิน ศิษย์ไม่รักดีคนนี้พูดมีเหตุผล แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาควรจะเริ่มจากอะไร?

สีวู่หยาดูเหมือนจะคาดการณ์สิ่งที่ลู่โจวสงสัยไว้ล่วงหน้าแล้ว “ท่านอาจารย์ ข้าเคยวางแผนส่งคนของตัวเองไปแฝงตัวอยู่กับชนเผ่าอื่น และในลั่วหลานเองข้าก็ได้ส่งไป”

ลู่โจวเหลือบมองสีวู่หยาอีกครั้ง ตัวเขาสังเกตเห็นถึงค่าความจงรักภักดีที่ศิษย์คนนี้มี มันมีสูงกว่าแต่ก่อน แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก

“ท่านอาจารย์ ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถทำงานนี้ได้ แม้ว่าเจียงอาเฉียนจะมีแหล่งข่าวมากมายแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจชนเผ่าอื่นดีพอ นอกจากนี้เจียงอาเฉียนที่รักอิสระยังเกียจคร้าน เขาคงจะไม่ได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แน่ ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลหลายอย่างกับศาลาปีศาจลอยฟ้าในนามของสำนักแห่งความมืด แต่เจียงอาเฉียนทำได้เพียง...”

“เจียงอาเฉียนไว้ใจได้...”

ในช่วงเวลาที่ดูอันตรายสีวู่หยาก็เลือกที่จะเงียบไป ตัวเขาสังเกตเห็นถึงความน่ากลัวจากสายตาของผู้เป็นอาจารย์ได้ดี และเพราะแบบนั้นสีวู่หยาจึงได้แต่สั่นกลัว ตัวเขาคุกเข่าลงอย่างสำนึกผิด “ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดให้ร้ายเจียงอาเฉียน! ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ท่านอาจารย์!”

ลู่โจวลูบเคราก่อนที่จะพยักหน้า “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงอยากให้เจ้าไตร่ตรองตัวเองในถ้ำแห่งเงาสะท้อน?”

“ข้ารู้ดีว่าการทรยศของข้าไม่ควรที่จะได้รับการอภัย ไม่ว่าท่านอาจารย์จะลงโทษข้าแบบไหน แต่ข้าจะยอมรับการลงโทษแต่โดยดี”

“ผิดแล้วล่ะ”

เห็นได้ชัดว่าลู่โจวไม่มีเหตุผลที่จะลงโทษสีวู่หยาสถานหนักเพียงเพราะเรื่องในอดีต เรื่องที่ตัวเขาได้จากที่นี่ไป ท้ายที่สุดแล้วศิษย์คนนี้ก็ได้คุกเข่าอยู่นอกวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ถึงสามวันสามคืนเพียงเพื่อที่จะช่วยซู่ฮ่องกง ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อช่วยยู่ฉางตง สีวู่หยาถึงกับศึกษาเรื่องของอักษรโบราณให้กับผู้เป็นศิษย์พี่ และในบันทึกส่วนตัวสีวู่หยาก็ยังคงช่วยยู่เฉิงไห่ไว้ได้ ถ้าหากลู่โจวยังคงคิดตำหนิจากสิ่งที่สีวู่หยาเคยทำ การตัดสินใจของตัวเขาก็คงจะเต็มไปด้วยอคติ

ลู่โจวพูดต่อ “เจ้าก็เหมือนกับยู่ฉางตง เจ้าน่ะมีความภาคภูมิใจในตัวเองมากจนเกินไป”

“ความภาคภูมิใจ?”

“การมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่การที่เจ้ามั่นใจในตัวเองมากไปมีแต่จะทำให้เจ้ากลายเป็นคนอวดดี ความภาคภูมิใจที่เจ้ามีท้ายที่สุดแล้วมันก็บดบังดวงตาของเจ้าเอง”

สีวู่หยาตกตะลึง ตัวเขาจำกระดาษทุกแผ่นที่อยู่ในถ้ำแห่งเงาสะท้อนได้ดี ทุกวินาทีที่สีวู่หยาพยายามจะแก้โจทย์ปัญหา ตัวเขาก็มีแต่จะรู้สึกร้อนมากยิ่งขึ้น สีวู่หยาที่ภาคภูมิใจในตัวเองที่ตัวเขาฉลาดหลักแหลมและสามารถคิดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเอาชนะอุปสรรคได้ แต่ท้ายที่สุดตัวเขาก็ไม่อาจตอบคำถามของผู้เป็นอาจารย์ได้ ท้ายที่สุดสีวู่หยาก็เข้าใจ “ท่านพูดถูกแล้วท่านอาจารย์ ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว”

ลู่โจวเดินไปที่เก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดก่อนจะนั่งลง “จนถึงตอนนี้...เจ้าก็ยังไม่คิดจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับยู่เฉิงไห่สินะ?”

สีวู่หยาตัวสั่น “ข้าเคยให้สัญญากับศิษย์พี่ใหญ่เอาไว้แล้ว”

ลู่โจวขมวดคิ้วเมื่อเห็นความมุ่งมั่นที่สีวู่หยามียังคงอยู่ สีวู่หยาบอกว่าเข้าใจทุกอย่าง แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ยังดื้อรั้นอยู่ดี

สีหน้าของลู่โจวดูเข้มงวดมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ “ดี ถ้าหากเจ้ายืนกรานที่จะไม่บอกข้า ข้าก็จะขับไล่เจ้าออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะไม่มีความผู้พันใดๆ กับศาลาปีศาจลอยฟ้าอีก ข้าจะเป็นผู้คืนพัดขนนกยูงให้กับเจ้าเอง”

ลู่โจวได้พลิกฝ่ามือของตัวเอง ในตอนนั้นพัดขนนกยูงก็ปรากฏขึ้น ตัวเขาไม่ลังเลเลยที่จะโยนมันคืนให้กับสีวู่หยา

สีวู่หยายังคงนิ่งเงียบ

ลู่โจวมองไปที่สีวู่หยาด้วยดวงตาอันเฉียบแหลมก่อนที่จะรอคำตอบของเขา “ออกไปได้ทุกเมื่อตามที่เจ้าต้องการ ถ้าหากพวกเราพบกันอีกครั้งพวกเราก็คงจะพบกันในฐานะศัตรู อย่าคิดว่าข้าจะเมตตาต่อเจ้าอีก”

“...”

ลู่โจวไม่เชื่อว่าความมุ่งมั่นที่สีวูหยามีในการรักษาสัญญาทีให้ไว้กับยู่เฉิงไห่จะเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ ‘ถ้าหากสีวู่หยาคิดจะทรยศอาจารย์ของตัวเองได้ ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเจ้านี่จะรักษาสัญญาที่มีไว้กับยู่เฉิงไห่ได้ น่าขันซะจริง!’

สีวู่หยามองดูพัดขนนกยูงอย่างตกตะลึง จิตใจของเขาว่างเปล่า

“ติ้ง! ชี้แนะสีวู่หยา ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 500”

คราวนี้สีวู่หยาคุกเข่าอย่างสุดตัว “ข้าจะบอกทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ต้องการจะรู้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้าอย่างหนึ่งก่อน”

“เจ้าพยายามจะต่อรองกับข้าอย่างงั้นเหรอ?”

สีวู่หยารีบพูด “...ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดคำสั่งท่าน และข้าเองก็ไม่กล้าที่จะเจรจากับท่าน”

“แล้วตอนนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าพยายามเจรจาอยู่เหรอไงกัน?” ลู่โจวจ้องไปที่สีวู่หยาด้วยดวงตาที่เกรี้ยวกราด

“ข้า...” สีวู่หยารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ความมั่นใจและความเยือกเย็นที่มีดูเหมือนจะหายจางไป สายตาของผู้เป็นอาจารย์ได้ลบทุกอย่างจากตัวของสีวู่หยาไป ในตอนนี้ตัวเขาสูญเสียความเยือกเย็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ลู่โจวได้หยิบบันทึกของสีวู่หยาออกมาจากแขนเสื้อของตน ก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะ

ภายในห้องกลับมาเงียบสงบ

หนึ่งอาจารย์ หนึ่งลูกศิษย์ คนหนึ่งกำลังนั่ง อีกคนกำลังคุกเข่า

หลังจากที่เงียบไปนานลู่โจวก็ได้พูดขึ้น “เจ้าคิดว่าข้าจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้เพียงเพราะเจ้าปฏิเสธที่จะบอกข้าอย่างงั้นสินะ?”

สีวู่หยามองไปที่ลู่โจวก่อนที่จะพูดออกมาอย่างตื่นตกใจ “ท่านอาจารย์รู้อยู่แล้ว?”

“ชาวหวู่ฉีแม้ตัวจะตายแต่หัวใจของพวกเขาจะยังคงทำงานต่อไปได้ พวกเขาสามารถฟื้นคืนกลับมาใหม่ได้เมื่อถูกฝังและรดน้ำ”

“...” ดวงตาของสีวู่หยาเบิกกว้าง ตัวเขาเหลือบมองบันทึกที่อยู่บนโต๊ะ สิ่งที่ตัวเขาทำมันชัดเจนจนเกินไป คงจะยากที่จะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ของเขาก็รู้เรื่องนี้เข้า สีวู่หยาไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาอีก “ศิษย์พี่ใหญ่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้ว!”

“เจ้านั่นน่ะเหรอ? ลู่โจวทำหน้าสงสัย ยู่เฉิงไห่เป็นผู้ที่ก่อตั้งสำนักอเวจีและยังหลอมรวมผู้คนจากทั่วทุกที่ให้มาร่วมกับตน สุดยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่มีก็ล้วนแต่ทำหน้าที่ได้อย่างกล้าหาญ ตอนนี้สำนักฝ่ายอธรรมทั้งหมดก็ล้วนแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว ยู่เฉิงไห่สามารถใช้รถม้าเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อยึดครองดินแดนเหล่านั้นให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองได้ ชีวิตแบบนั้นน่ะเหรอยากลำบาก?

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด