234 - ภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ
234 - ภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ
หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงออกมาจากห้องโถงใหญ่ที่ซุนปิงเฉินอาศัยอยู่และมอบหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนให้กับทหารยามเพื่อจัดการต่อ เหลียงอี้เจี๋ยก็เดินเข้ามาหาเขา
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงเห็นเหลียงอี้เจี๋ยเขาก็รีบถามออกไปด้วยความสงสัยว่า
“พี่เหลียง ทำไมตอนนี้มีผู้พเนจรมากมายในคฤหาสน์ ตอนที่ข้าเข้ามาข้ารู้สึกตกใจมากนึกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในคฤหาสน์เสียอีก!”
“อย่ากังวลผู้พเนจรที่มาที่คฤหาสน์เหล่านี้ล้วนเป็นคนของนายท่านทั้งสิ้น…” เหลียงอี้เจี๋ยอธิบายด้วยรอยยิ้ม เอี้ยนลี่เฉียงตกใจ
“เป็นไปได้ไหมว่านายท่านส่งผู้พเนจรมาที่นี่ ตอนที่งูจงอางสร้างปัญหาในเมืองผิงซี?”
“แน่นอนเจ้าคิดว่านายท่านมาที่แคว้นผิงซีโดยไม่ได้เตรียมการใดๆอย่างนั้นหรือ บรรดาผู้พเนจรกลุ่มใหญ่มารวมตัวกันโดยบังเอิญที่เมืองผิงซีในช่วงเวลานั้น ดังนั้นนายท่านจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้และส่งผู้พเนจรมาหลายคน
พวกผู้พเนจรรวบรวมหลักฐานความผิดของเย่เทียนเฉิงมากมายในช่วงสองสามวันนี้ และเนื่องจากหลักฐานที่สรุปได้ นายท่านจึงได้ลงมือจัดการเขาในวันนี้”
“ทำไมผู้พเนจรเหล่านั้นถึงยอมรับใช้นายท่าน?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะได้รู้ ผู้พเนจรเหล่านั้นมีสถานะเป็นทหารองครักษ์ของนายท่านทั้งสิ้น นายท่านเป็นศิษย์ของนิกายปราชญ์ มันเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมากที่นิกายปราชญจะส่งคนมาช่วยเหลือเขา!”
เหลียงอี้เจี๋ยดูร่าเริง เขายังตบไหล่ของเอี้ยนลี่เฉียงอย่างแรงและจ้องมองเขาด้วยความชื่นชมในขณะที่อธิบายเรื่องนี้ไปด้วย
“การแสดงออกของเจ้าในห้องโถงหลังเมื่อสักครู่นี้ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ในตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นเด็กคนหนึ่งคงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แต่การที่เจ้ากระโดดออกมาปกป้องนายท่านนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ติดตามของนายท่านควรทำแล้ว”
เอี้ยนลี่เฉียงเกาหัวและหัวเราะ
“ตอนนั้นข้าไม่ทันได้คิดอะไรด้วยซ้ำ ข้ารู้แต่เพียงว่าเย่เทียนเฉิงกำลังจะโจมตีนายท่านดังนั้นข้าต้องทำอะไรสักอย่าง…”
“ตราบใดที่เย่เทียนเฉิงและพรรคพวกของเขาถูกกำจัด เมืองผิงซีจะไม่จมอยู่ในความโกลาหลอีกต่อไป!”
หลังจากประสบการณ์ครั้งก่อน ทัศนคติของเหลียงอี้เจี๋ยต่อเอี้ยนลี่เฉียงก็ดูมีความเมตตามากขึ้น ในแง่หนึ่ง เขาถือว่าเอี้ยนลี่เฉียงเป็นพี่น้องของเขาแล้ว
“พี่เหลียง ข้าได้ยินมาว่าเย่เทียนเฉิงเป็นหนึ่งในสามเย่ของตระกูลเย่ของแคว้นกาน หากนายท่านสังหารเย่เทียนเฉิงในเมืองผิงซี ตระกูลเย่คงไม่ยอมเลิกราเรื่องนี้อย่างแน่นอน
พวกเรารู้อยู่แล้วว่าตระกูลเย่ในแคว้นกานเป็นเพียงตระกูลสาขาเท่านั้น ตระกูลเย่ที่อยู่ในเว่ยหยวน เป็นตระกูลใหญ่ลำดับต้นๆของอาณาจักรฮั่นของเรา มันจะมีการจราจลในแคว้นเว่ยหยวนหรือไม่?”
เอี้ยนลี่เฉียงถามด้วยความเป็นห่วงและสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ใหญ่กว่า ท้ายที่สุดซุนปิงเฉินและเหลียงอี้เจี๋ยไม่ใช่ประชาชนของเขตปกครองพิเศษกาน
พวกเขาไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่พวกเขาทำมากเกินไป ในทางกลับกัน บ้านของเอี้ยนลี่เฉียงอยู่ในแคว้นผิงซีซึ่งสังกัดแคว้นกานอีกต่อหนึ่ง
ทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าเขายืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับซุนปิงเฉินและเหลียงอี้เจี๋ย
อย่างไรก็ตามในมุมมองของคนอื่นเขาได้กระโดดขึ้นเรือโจร ซึ่งถูกกำหนดให้ต่อสู้กับตระกูลเย่จนถึงที่สุดในอนาคต แม้ว่าเขาจะไม่เห็นแก่ครอบครัวของตนเองแต่ครอบครัวของเพื่อนฝูงของเขาก็อยู่ที่นี่ทั้งสิ้น
“เจ้าคิดว่านายท่านออกมาตรวจการครั้งนี้เพื่ออะไร นายท่านรับราชโองการให้มาจัดการตระกูลเย่โดยตรงจากฝ่าบาท ตระกูลเย่เห็นแก่ตัวที่สมรู้ร่วมคิดกับชาวชาตูและคิดจะตั้งตัวเป็นกบฏ
พวกเขาเป็นเนื้อร้ายของอาณาจักรและต้องถูกกำจัดให้หมด ไม่ต้องกังวล ในตอนที่นายท่านจัดการเย่เทียนเฉิง ตระกูลเย่ที่อยู่ในดินแดนอื่นก็จะถูกจัดการเช่นกัน ตระกูลใดที่คิดจะเป็นศัตรูกับฝ่าบาทพวกมันต้องถูกสังหาร!”
เหลียงอี้เจี๋ยให้ความเชื่อมั่นต่อเอี้ยนลี่เฉียง
“ก็ดี…”
เอี้ยนลี่เฉียงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
เอี้ยนลี่เฉียงทำได้เพียงถอนหายใจเมื่อนึกถึงการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายของเขา ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีกที่เกิดจากผลกระทบของเขานั้นน่ากลัวเกินไป
ครั้งที่แล้วแม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ตระกูลเย่ก็ยังสบายดีอยู่อีกสองสามปี และเย่เทียนเฉิง ยังคงเป็นผู้ว่าการแคว้นผิงซี อย่างไรก็ตามตั้งแต่วินาทีที่เย่เซียวถูกคนทุบตีตายในคืนนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
“วันนี้เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว ลี่เฉียงตอนนี้ไม่มีอะไรให้เจ้าทำอีกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ…”
“ข้ายังรู้สึกสบายดีหากพี่ใหญ่ต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรท่านก็บอกได้ตลอดเวลา!”
...
เอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆเป็นเพียงผู้เข้าร่วมตลอดกระบวนการ ขณะที่ซุนปิงเฉินจับกุมเย่เทียนเฉิง และรักษาความสงบที่เมืองผิงซี กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขาเป็นเพียงพยานเหตุการณ์บางอย่างในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด เขาโชคดีเพียงที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆคลี่คลายและเขาได้มีส่วนในความพยายามเพียงเล็กน้อยต่อสาเหตุนี้
เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ แม้ว่าขณะนี้ซุนปิงเฉินและเหลียงอี้เจี๋ยขอให้เขาพักผ่อน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจบางสิ่งที่ค้างอยู่ในใจของเขา
เมื่อเขาอ่านนิยายเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาในชีวิตที่แล้ว ตัวละครหลักที่เดินทางไปยังอีกโลกหนึ่งจะสามารถสังหารหมู่กองทัพได้อย่างง่ายดาย
ตัวละครเหล่านั้นจากอีกโลกหนึ่งมักจะมีไอคิวสูงและกลายเป็นตัวละครหลักในเหตุการณ์ต่างๆอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงกลับมามีชีวิตอีกครั้งในโลกนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่เขลา ไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้นและไม่ใช่ตัวละครหลักในโลกนี้
แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะรู้อยู่แล้วว่าสติปัญญาของเขาเทียบไม่ได้กับไอน์สไตน์ แต่เขาก็ยังถือว่าเขาเป็นคนฉลาด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสติปัญญาในปัจจุบัน เขาก็สามารถเข้าใจได้เพียงเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ตลอดทั้งคืน
และเนื่องจากในที่สุดเขาก็เข้าใจสถานการณ์ เอี้ยนลี่เฉียงจึงสามารถรู้สึกเคารพผู้ตรวจการซุนปิงเฉินอย่างแท้จริง
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าซุนปิงเฉินได้สร้างม่านควันเพื่อให้เย่เทียนเฉิงสับสนตั้งแต่ตอนที่เลือกเขาเป็นผู้ติดตามส่วนตัว
ความสามารถของเขาอาจได้รับการชื่นชมจากซุนปิงเฉินในระดับหนึ่ง แต่ซุนปิงเฉินไม่ได้เลือกเขาเพราะว่าความสามารถแบบนี้เพียงอย่างเดียว
ถ้าเขาคือเย่เทียนเฉิงและเขาเห็นผู้ตรวจการใหญ่มาที่เมืองผิงซีเพื่อรับสมัครชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ มีความคิดที่เป็นไปได้สองอย่าง
อย่างแรกคือซุนปิงเฉินมีคนน้อยมากที่เขาสามารถใช้ได้จริงๆ และอย่างที่สองคือซุนปิงเฉินไม่ระวังเย่เทียนเฉิงอย่างสิ้นเชิง
ถ้าซุนปิงเฉินจะทำอะไรบางอย่างกับเย่เทียนเฉิงที่เมืองผิงซีในครั้งนี้ คงไม่มีทางที่เขาจะรับสมัครชายหนุ่มซึ่งมาจากเมืองนี้เพราะเขาคนนั้นอาจเป็นคนของเย่เทียนเฉิง
เชื่อกันว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อปกปิดจุดประสงค์ที่แท้จริงของซุนปิงเฉิน
ในช่วงเวลานั้นซุนปิงเฉินได้พบปะกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอย่างเปิดเผย และยังออกท่องเที่ยวรอบเมืองผิงซีอีกหลายวัน...
ด้วยการปล่อยม่านควันเหล่านี้เย่เทียนเฉิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสับสนกับซุนปิงเฉินและเนื่องจากการเตรียมการเหล่านี้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเย่เทียนเฉิงจึงไม่มีที่พึ่งเมื่อเขามาถึงคฤหาสน์ในคืนนี้
และในความเป็นจริงผู้พเนจรที่เป็นคนของซุนปิงเฉินก็ได้มาถึงเมืองผิงซีแล้วก่อนการมาถึงของซุนปิงเฉิน แผนการลับทุกอย่างถูกสร้างขึ้นไม่มีโอกาสที่เย่เทียนเฉิงจะหนีรอดกับดักครั้งนี้ไปได้
แม้แต่สาวใช้ที่ต่อสู้กับเย่เทียนเฉิงก็ยังแฝงตัวอยู่ในคฤหาสน์นี้มาก่อนล่วงหน้า ทุกคนรอเวลาที่จะจัดการเย่เทียนเฉิงให้ได้ในคราวเดียว
ซุนปิงเฉินไม่ได้ดำเนินการในคืนนี้อย่างเร่งรีบแปลว่าเขาได้เตรียมการไว้ล่วงหน้านานแล้ว อีกทั้งเขายังได้เตรียมการกับผู้ว่าการแคว้นกานเพื่อให้จัดกองกำลังขนาดใหญ่ไว้จัดการตระกูลเย่ในเวลาเดียวกัน
ระยะห่างระหว่างเมืองผิงซีและเมืองกานอยู่ห่างไกลกันมาก ไม่มีทางที่จะส่งข้อความระหว่างกันและกันได้ในเวลาเพียง 2 3 วันอย่างแน่นอน
เรื่องนี้จึงพิสูจน์ได้ว่าซุนปิงเฉินและเล่ยสือตงผู้ว่าการแคว้นกานจะต้องมีการประชุมกันเรื่องนี้มานานแล้ว เปรียบเสมือน*ภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ
*ภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ เปรียบเปรยถึงการกระทำที่ไร้ข้อบกพร่องเนื่องจากมีการเตรียมตัวหรือวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว