265 - พบกันอีกครั้ง
265 - พบกันอีกครั้ง
สือฮ่าวถือหีบไม้ไว้ในมือก่อนจะออกมาจากวังลึกลับ
สิ่งนี้ก่อให้เกิดความโกลาหล เมื่อบางคนเห็นหีบไม้ในมือเขาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร!
มันเป็นหีบที่ทำให้กองทัพใหญ่จากต่ามิติทำการเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล
“นี่มันหีบไม้ใบนั้นเหรอ” เสียงของผู้คนหลายคนสั่นสะท้านบางคนก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความปรารถนาว่าจะพบความลับอะไรบางอย่าง
สือฮ่าวไม่ได้หยุดพวกเขา เขาค่อนข้างใจกว้างปล่อยให้ทุกคนชมดูจนพอใจ เป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นเขาหรือผู้อาวุโสใหญ่ไม่มีทางใดที่จะมองเห็นความลึกลับของมันได้
“สือฮ่าวอยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้ฮวงอยู่ที่ไหน”
ในขณะเดียวกันเด็กกลุ่มใหญ่วิ่งเข้ามาจากระยะไกลพวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่คุ้นเคย
ตัวอย่างเช่นเฉาอวี่เวิ่ง ฉางกงเอี๋ยน หงส์เพลิงทั้งสี่ของตระกูล เว่ย, มดเขาสวรรค์รวมทั้งคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาได้รับข่าวการกลับมาของสือฮ่าวพวกเขาต่างก็ตกตะลึง
“เจ้าสารเลวน้อยเจ้ากลับมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มาแสดงตัวต่อหน้าพวกเรา?” กระต่ายน้อยก็ยิ่งร้องเสียงหลงออกมา
ราวกับว่านางจะไม่มีวันเติบโตขึ้นเลย นับตั้งแต่ที่สือฮ่าวพบนางครั้งแรกนางก็ดูเหมือนอยู่ในช่วงก่อนวัยรุ่นเสมอ
ราชันย์สิบสมัย สือยี่ ราชันหกสมัยหนิงฉวนและคนอื่นๆก็มาด้วยเช่นกัน พวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าสือฮ่าวสามารถรอดปลอดภัยกลับมา
นอกจากนี้มหาโสดาฉวีโตว้, นักพรตซีกู้ และคนอื่นๆก็มาด้วย
แม้แต่คนของของตระกูลหวังและตระกูลจินล้วนแต่อยู่ที่นี่เช่น หวังซีและจินซานรวมถึงผู้ติดตามของพวกเขา พวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและผิดหวังไม่คิดว่าสือฮ่าวจะรอดกลับมาได้
“สัตว์ประหลาดโดยแท้จริง! ผ่านไปหลายวันแล้วแต่เขาก็ยังสามารถรอดชีวิตมาได้!” นี่เป็นคำพูดของคนจากตระกูลหวังพวกเขาทั้งหมดรีบไปดูให้เห็นด้วยตาของตัวเอง
เป็นเพราะสิ่งของที่สือฮ่าวนำกลับมามีความสำคัญอย่างยิ่งมหาอำนาจต่างๆจึงทำการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ! ทำไมเจ้าถึงตายยากตายเย็นขนาดนี้!” กระต่ายน้อยร้องมาด้วยท่าทางโอหัง แต่ก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
สำหรับมดเขาสวรรค์ก็ยิ่งกรีดร้องเสียงดังก่อนจะตัดหน้าคนอื่นมายืนบนไหล่ของสือฮ่าว ในขณะเดียวกันผีเสื้อจักรพรรดิ์ก็บินอยู่รอบๆเช่นเดียวกัน
“สือฮ่าวเจ้า…ไม่ง่ายเลยจริงๆ! เจ้ารอดกลับมาได้!” เฉาอวี่เซิ่งร้องไห้ออกมา
หลายคนรุมล้อมอยู่รอบตัวเขา แต่เมื่สือฮ่าวเห็นเฉาอวีเวิ่งเขาก็หวั่นไหวทันที เขาจะไม่มีทางลืมผู้คนและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฝังศพโบราณ
คนคนนั้นคือเฉาอวี่เซิ่งหลังจากเวลาผ่านไปอย่างยาวนานไม่รู้จบเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
หลายปีต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น? สือฮ่าวก็ยังไม่รู้เลย!
ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่กระต่ายตัวน้อย เขาจำได้ว่าเฉาอวี่เซิ่งได้ขอร้องอย่างจริงจังให้เขาดูแลกระต่ายหยกจันทราให้ดีที่สุดเพราะในอนาคตนางจะ 'หายไป'
“เจ้าปัญญาอ่อนไปแล้วหรือไง? ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย?” กระต่ายหยกจันทราล้อเลียนออกมา
ในความเป็นจริงพวกเขาทุกคนต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สือฮ่าวสามารถกลับมาอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล จึงพยายามทำตัวร่าเริงอย่างเต็มที่
“ก่อนหน้านี้เราทุกคนออกจากเมืองไปแล้วแต่ว่าผู้อาวุโสใหญ่ส่งพวกเรากลับมา!” เฉาอวี่เซิ่งกล่าว ฉางกงเอี๋ยนพยักหน้าจากด้านข้าง
“พี่สือสามารถกลับมาอย่างปลอดภัย นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ พวกเราต้องเฉลิมฉลอง!” เจ้าของรถศึกห้าวิญญาณฉีหงกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา
แม้แต่ราชันย์สิบสมัยยังเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับเขา โดยปกติแล้วเขาไม่ได้ใกล้ชิดกับสือฮ่าวมากนัก แต่ตอนนี้เขายังพูดว่า“ข้าก็อยากไปช่วยเจ้าเหมือนกัน แต่ว่าข้าถูกส่งตัวกลับมา”
“สือฮ่าวเจ้าไม่เป็นอะไรนะ” ชิงยี่ปรากฏตัวขึ้นหลังสุด หลังจากเข้าสู่เมืองจักรพรรดิ์นางก็ถูกส่งไปฝึกวิชากับผู้สูงสุดคนหนึ่งอยู่เสมอ
เป็นเพราะนางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพธิดาชิงเยว่ผู้อมตะโบราณในยุคอันยิ่งใหญ่ มีเมล็ดพันธุ์เปลวไฟอยู่ในร่างกายของนางสิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุด
เมื่อไม่นานมานี้เมื่อได้ยินว่าสือฮ่าวกลับมาอย่างปลอดภัยนางก็ขออนุญาตอาจารย์เพื่อมาพบเขา
เซียนสาวก็ปรากฏตัวขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆมีเสน่ห์ แม้กระทั่งตอนนี้นางก็ยังยืนหยัดต่อสู้กับชิงยี่และเยว่ฉาน
ในสามพันแคว้นมีสำนักเซียนสวรรค์และสำนักแยกฟ้าในขณะที่เก้าสวรรค์เบื้องบนก็มีสองสำนักนี้เช่นกัน ทั้งสองนิกายเป็นมหาอำนาจที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าตระกูลอมตะ
สือฮ่าวตอบกลับพวกเขาทีละคนโดยเฉพาะชิงยี่ นับตั้งแต่ที่เขาเข้าสู่เมืองจักรพรรดิ์ก็เป็นเวลานานแล้วที่พวกเขาได้พบกันครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีเรื่องบางอย่างที่คลุมเครือระหว่างพวกเขาทั้งสอง
“ตอนนี้เจ้าจะทำยังไง? เจ้าได้หีบใบนั้นมาแล้วเจ้าจะทำยังไงกับมันต่อ” กระต่ายน้อยถาม
สือฮ่าวหัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า“นี่คือหีบใบนั้น ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง”
เขายื่นมันออกมา เป็นผลให้กลุ่มคนรีบเบียดเสียดเข้ามามุงดูอย่างรวดเร็ว
ฮ่อง!
เกิดการปะทะกันขึ้นมาระหว่างตู๋กูหยวนทายาทผู้พิทักษ์กับราชันย์สิบทั้งคู่ต่างปรารถนาจะเป็นคนแรกที่ได้ศึกษามัน
ในท้ายที่สุดแม้แต่อัจฉริยะของตระกูลอมตะในเมืองจักรพรรดิอย่างทัวปาอู่หลงและฉีหงก็ยังยื่นมือเข้ามาต่อสู้ด้วย
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ลงมือกันอย่างเอาเป็นเอาตายแต่เพียงโจมตีออกมาครั้งเดียวด้วยญาณวิเศษบางอย่างเท่านั้น
“พวกเจ้าถอยไปให้หมด! ทุกคนไม่เห็นเหรอว่าข้าเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสมัน! ให้ข้าได้ศึกษาก่อน!” มดเขาสวรรค์ตะโกนออกมา
เมื่อทุกคนเห็นสิ่งนี้พวกเขาก็พูดไม่ออกทันที พวกเขาเห็นหีบไม้ใบใหญ่กำลังทับมดเขาสวรรค์อยู่!
“ทำอย่างนี้ก็ได้หรือ…” เฉาอวี่เซิ่งพึมพำ
“ถ้าเจ้าไม่ยอมรับก็มาต่อสู้กับข้า!” มดเขาสวรรค์ร้องออกมา ด้วยเสียงหงษ์ กำปั้นสีทองของมันขยายใหญ่ขึ้นและชนเข้ากับใบหน้าของเจ้าอ้วนเฉาส่งเขาบินออกไป
“เจ้าถั่วงอกบัดซบ!” ได้ยินเสียงตะโกนของเจ้าอ้วนเฉาดังมาจากระยะไกล
“ฮ่าฮ่า…” ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข
ในระยะไกลหวังซีเต็มไปด้วยความเศร้าโศก นางเห็นทุกคนหัวเราะมีความสุขก็ยิ่งเต็มไปด้วยความเสียใจ
ในตอนแรกตัวนางและสือฮ่าวนั้นถือได้ว่าเป็นสหายกัน ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดสถานการณ์จึงพลิกผันมาถึงขนาดนี้
มีคนจากตระกูลหวังอยู่ที่นี่ด้วยพวกเขาเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ทางด้านข้างอย่างเย็นชา
ความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ของตระกูลจินจินซานก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะคนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ยอมรับในตัวของสือฮ่าว
อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญตระกูลของเขาจึงไม่ยินยอมให้คนทั้งสองต่อสู้กัน เรื่องนี้สร้างความคับแค้นให้เขาเป็นอย่างมากเพราะทุกคนต่างกล่าวว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮวง
องค์หญิงเหยาเยว่ยิ้มแย้มแจ่มใส นางหันหน้าไปยิ้มเยาะหวังซีเล็กน้อยแล้วค่อยเดินไปหาสือฮ่าว
ตระกูลของนางมีความขัดแย้งกับตระกูลหวังเพราะว่าบรรพบุรุษของนางให้การสนับสนุนผู้อาวุโสใหญ่อย่างเต็มที่ แม้แต่ผ้าห่อศพราชาอมตะก็ยังให้เขายืมใช้อยู่เสมอ
“เล่าให้เราฟังหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกบ้าง!” กระต่ายหยกจันทราเป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจน้อยที่สุดแล้ว นางรีบถามออกมาทันที
ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปสถานที่จัดเลี้ยงซึ่งฉีหงเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างไว้แล้ว
“ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายข้าได้พบกับผู้สืบทอดตระกูลกู่ ทายาทของตระกูลจักรพรรดิ ผู้สืบเชื้อสายของเฮ่ออู่ซวงทังยังมีสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกนับไม่ถ้วน
สือฮ่าวถอนหายใจอย่างโล่งอก การที่เขาสามารถรอดชีวิตได้แม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ
“แล้วจะรอดมาได้อย่างไร?เจ้าได้ต่อสู้กับพวกเขาหรือไม่? เจ้าฆ่าไปกี่คน?” หนึ่งในสี่หงส์เพลิงของตระกูลเว่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ตัวข้าฆ่าไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถ้ารวมคนที่ข้าสังหารไปทางอ้อมก็หลายคนอยู่ อาจจะราวๆแสนคน” สือฮ่าวกล่าว
"อะไร?" หลายคนส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก
เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด ตัวเลขนี้น่ากลัวจริงๆ
นี่เป็นเพราะสือฮ่าวกล่าวด้วยความถ่อมตัวเท่านั้น หากพวกเขารู้ว่าสือฮ่าวได้สังหารผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองด้วยมือของเขาไปเท่าไหร่ทุกคนจะยิ่งตกตะลึงมากไปกว่านี้!
สือฮ่าวไม่ได้วางแผนที่จะปิดบังอะไร เพราะเขายังคงต้องการที่จะปลดปล่อยตระกูลหินผาให้เป็นอิสระ
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงเริ่มเล่าเรื่องราวของเขาให้ทุกคนฟัง