264 - กลับมาแล้ว
กลับมาแล้ว
“มีคนเคลื่อนที่ผ่านมิติเข้าสู่เมือง”
“เป็นกองทหารที่ออกไปตามหาฮวงหรือเปล่า? เป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากป่าอสูรสวรรค์ถูกศัตรูล้อมไว้หมดทุกด้านไม่มีใครสามารถเข้าไปได้”
“ฮวงช่างโชคร้ายจริงๆ! เขาติดอยู่ที่นั่นไม่มีใครช่วยเขาได้อย่างแน่นอน”
มีคนสองสามคนพูดคุยกัน เห็นได้ชัดว่าข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกชายแดนรกร้างถูกส่งกลับมาแล้ว
กองทัพที่ยิ่งใหญ่จากต่างมิติเฝ้าอยู่นอกป่าอสูรสวรรค์ เมืองจักรพรรดิทราบข่าวนี้มานานแล้วและให้ความสนใจกับมันอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนั้นเป็นจุดอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากส่งกองกำลังออกไปมากมายพวกเขาส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่อโดยผู้อาวุโสใหญ่
มีบางคนยืนกรานที่จะไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมา เมื่อพวกเขาเห็นกองทัพขนาดใหญ่ของศัตรูล้อมรอบอยู่นอกป่าอสูรสวรรค์ ทุกคนได้แต่ถอนหายใจให้กับความโชคร้ายของฮวง
“ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเจิ้งจะประสบความสำเร็จหรือไม่?” หลายคนได้แต่หวังว่าผู้อาวุโสใหญ่จะสามารถช่วยฮวงกลับมาได้
ตอนนี้หลายคนรู้แล้วว่าฮวงได้หีบไม้จากนอกชายแดนรกร้างจนทำให้ศัตรูต่างมิติคุ้มคลั่งขึ้นมา
“ข้าได้ยินมาว่าฮวงสังหารศัตรูต่างมิติอย่างต่อเนื่องไม่มีผู้ใดสามารถจัดการเขาได้แม้ว่าศัตรูจะล้อมเขาไว้ในป่าอสูรสวรรค์มาหลายวันแล้วก็ตาม!”
รายงานลับบางฉบับถูกส่งมาทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก
เมื่ออีกฝ่ายตามล่าฮวงผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของศัตรูก็เสียชีวิตไปมากมาย สิ่งนี้ทำให้เด็กหนุ่มสาวหลายคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“พวกเขากำลังจะปรากฏตัวที่นี่!”
ทุกคนมองไปที่จัตุรัสกลางเมืองมีแท่นบูชาขนาดยักษ์อยู่ที่นั่น
ไม่ว่าจะออกจากเมืองหรือกลับเข้ามาที่เมืองทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ตรวจสอบแม้กระทั่งรอยประทับชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของผู้คนจำนวนมากในเมืองจักรพรรดิ
นั่นคือเหตุผลที่ไม่ว่าจะเป็นคนจำนวนมากหรือเพียงสองสามคนก็จะต้องใช้เวลาสักหน่อย
“สวรรค์เป็นผู้อาวุโสเมิ่ง!”
“ตาของข้าไม่ได้ฝาดไปเองใช่ไหม เขาช่วยฮวงกลับมาได้จริงๆ!”
ภายในประตูเมืองรอบจัตุรัสคนกลุ่มหนึ่งส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ สิ่งที่พวกเขาเห็นตอนนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ
ร่างสูงสง่าสวมชุดสีทองขาดรุ่งริ่งโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าแม้แต่เส้นผมของเขายังชุ่มโชกไปด้วยเลือด เขาสามารถพาฮวงฝ่าวงล้อมของศัตรูออกมาได้
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ขยี้ตาให้แน่ใจว่าพวกเขามองไม่ไม่ได้มองผิด จากนั้นคนจำนวนมากก็ระเบิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาอย่างมีความสุข
“ผู้อาวุโสเมิ่งองอาจกล้าหาญไม่มีใครเทียบได้จริงๆ เขาถึงกลับสังหารเข้าไปในป่าอสูรสวรรค์และช่วยฮวงออกมาได้!”
“ความแข็งแกร่งของเขาน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
“กองทัพใหญ่จากต่างมิติปิดล้อมป่าอสูรสวรรค์ทุกทิศทาง ทั้งยังมีผู้สูงสุดมากมายคอยเฝ้าดูแล แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งผู้อาวุโสเมิ่งจากการนำฮวงกลับมาได้!”
ทุกคนรู้ดีว่าเมิ่งเทียนเจิ้งต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นเขาจะทำลายการปิดล้อมของศัตรูและพาสือฮ่าวกลับมาที่เมืองจักรพรรดิ์ได้อย่างไร?
ร่างกายของเมิ่งเทียนเจิ้งชุ่มไปด้วยเลือดเสื้อเกราะของเขาถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี สิ่งเหล่านี้เพียงพอที่จะอธิบายเรื่องราวต่างๆได้ชัดมากพอแล้ว
นี่เป็นการต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุด! มันจะโหดร้ายและรุนแรงมากแค่ไหน?
แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่การที่เขาสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ก็นับเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่แล้ว!
“ข้าจะไปรายงานเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้นไม่นานข่าวก็ถูกส่งออกไป อย่างไรก็ตามมันไม่เร็วไปกว่าความเร็วของเมิ่งเทียนเจิ้ง เส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขาก่อนจะพาสือฮ่าวเข้าไปยังส่วนลึกของเมืองชั้นใน
“นี่คือปาฏิหาริย์! ฮวงกลับมาแล้ว เขารอดชีวิตจากป่าอสูรสวรรค์ถูกผู้อาวุโสใหญ่ช่วยเหลือกลับมาแล้ว!”
ข่าวนี้น่าตกใจจริงๆมันสามารถเขย่าเมืองจักรพรรดิ์ให้สั่นสะเทือน เป็นเพราะก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าสือฮ่าวไม่มีทางกลับมาและจะต้องตายในป่าอสูรสวรรค์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเมิ่งเทียนเจิ้งโค่นล้มทุกอย่างเพียงลำพัง เขาอาบเลือดของศัตรูก่อนจะบุกฝ่าสังหารจนสามารถนำศิษย์รักของเขากลับมาได้
เมืองจักรพรรดิ์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แม้ว่าเมืองนี้จะมีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ข่าวก็กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเรื่องใหญ่!
เป็นเพราะฮวงได้รับสมบัติล้ำค่าบางอย่างกลับมา! ของสิ่งนี้กระตุ้นความสนใจของอีกฝ่ายและต้องการที่จะยึดมันกลับคืนไปแต่ฮวงก็สามารถนำมันกลับมาเมืองจักรพรรดิโดยที่ฝ่ายตรงข้ามได้แต่มองตาปริบปริบ
“หีบไม้ถูกนำกลับมาจริงๆ” หลายคนให้ความสนใจข่าวนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มมหาอำนาจภายในเมืองยิ่งจับตาอย่างใกล้ชิด
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสใหญ่ก็ทำให้พวกเขาตกตะลึงเช่นเดียวกัน
“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสเมิ่งนั้นไม่มีใครเทียบได้! ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เปลี่ยนไปเขาคงได้รับความเป็นอมตะไปนานแล้ว!”
เส้นทางสีทองที่ยิ่งใหญ่บินผ่านด้านบนของเมืองจักรพรรดิ ทุกคนสามารถมองเห็นได้ว่าผู้อาวุโสใหญ่และสือฮ่าวเดินมาตามเส้นทางนั้นอย่างรวดเร็ว
“อา! เป็นผู้อาวุโสเมิ่ง!”
เมื่อมีคนเห็นพวกเขาก็มีอาการคอแห้งทันที จากนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปทักทายพวกเขาด้วยความสุภาพดวงตาของพวกเขาลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง
ผู้อาวุโสใหญ่คนปัจจุบันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเหมือนเทพสงครามที่ทำให้หลายคนรู้สึกชื่นชมอย่างหาที่เปรียบมิได้
“โปรดอย่ารบกวนผู้อาวุโสใหญ่ในตอนนี้ ท่านต่อสู้อย่างดุเดือดกับสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดห้าคนจนได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก!” สือฮ่าวกล่าวว่าด้วยความกังวล
"อะไร?" คนอื่นๆก็ตกใจ เขาต่อสู้อย่างเด็ดขาดเพียงลำพังกับสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดของอีกฝ่ายห้าคน? สิ่งนี้น่ากลัวแค่ไหน? ความแข็งแกร่งระดับนี้ยากที่ทุกคนจะจินตนาการถึง!
“ผลเป็นอย่างไร” แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่ไม่ได้รับอันตรายและกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว แต่หลายคนยังคงจมอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกตื่นเต้น
“ผู้อาวุโสใหญ่สังหารผู้สูงสุดคนหนึ่งก่อนที่ผู้สูงสุดของศัตรูจะมาเสริมกำลังอีกสามคน เหตุการณ์ในครั้งนั้นคับขันอย่างยิ่งโชคดีที่พวกเราเอาตัวรอดมาได้!” สือฮ่าวกล่าว
ฮ่อง!
ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างจิตใจฮึกเหิม
หลายคนรู้สึกโลหิตในร่างกายเดือดพล่าน เมื่อพวกเขามองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความชื่นชม
“นับเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเมืองจักรพรรดิเรา ผู้อาวุโสใหญ่สมกับเป็นวีรบุรุษแห่งสวรรค์!”
หลายคนคำรามออกมา
"ตามข้ามา." ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวกับสือฮ่าว
ใจกลางเมืองจักรพรรดิ์มีภูเขาลูกหนึ่งอยู่ที่นั่นมันเต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหล ผู้อาวุโสใหญ่พาสือฮ่าวเข้าไปข้างในภูเขา ที่นั่นมีพระราชวังโบราณแห่งหนึ่งตั้งอยู่ มันไม่ได้มีความงดงามมากนักแต่เต็มไปด้วยความเก่าแก่ลึกลับ
นี่เป็นสถานที่ที่ผู้อาวุโสใหญ่ใช้ในการบ่มเพาะอย่างสันโดษ
คนอื่นไม่กล้าตามพวกเขาเข้าไป
“ผู้อาวุโสเป็นอย่างไรบ้าง” สือฮ่าวรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆกลัวว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดกับผู้อาวุโสใหญ่
เมื่อพูดถึงตรงนี้สือฮ่าวก็หยิบขวดเคลือบใบหนึ่งออกมา ด้านในมีใบไม้ของต้นยาเซียนที่เขาเพิ่งได้รับมาสดๆร้อนๆ
ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหัวไม่ยอมรับ รอยแตกจำนวนมากปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขาเช่นเดียวกับเครื่องลายคราม มันน่ากลัวอย่างแท้จริงร่างกายของเขาอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“น่าเสียดายข้าเกือบจะทำได้แล้วแท้ๆ !” ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหัวพลางถอนหายใจ
จิตใจของสือฮ่าวกระตุกทันที
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลข้าสบายดี หากไม่ใช่ว่าผู้สูงสุดอีกสามคนเข้ามาเสริมกำลังอย่างทันท่วงที บางทีข้าอาจใช้การต่อสู้ครั้งนี้ในการฝ่าทะลุก็เป็นได้” ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่กล่าว
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยใช้ร่างกายเป็นเมล็ดพันธุ์ แต่มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจึงเกือบตายในกระบวนนั้นต่อมาข้าได้นิพพานขึ้นมาใหม่จากขี้เถ้า จึงคิดใช้โอกาสนี้กดดันร่างกายตัวเองให้สามารถฝ่าทะลุเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ…”
คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ทำให้ซือห่าวตกใจและมึนงงในทันที
การฝึกฝนของผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ได้มาถึงคอขวดแล้ว เขาจึงคิดยืมมือของผู้สูงสุดฝั่งตรงข้ามขัดเกลาร่างกายของตนเองเพื่อให้สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ
นี่เป็นวิธีการที่อันตรายอย่างยิ่ง เป็นเพราะว่าศัตรูก็คิดใช้โอกาสนี้สังหารเขาด้วยเช่นกัน!
สือฮ่าวรู้สึกว่าหากศัตรูไม่เข้ามาเสริมกำลังผู้อาวุโสใหญ่อาจสามารถทำได้สำเร็จก็เป็นได้
“ตอนนี้ข้าต้องการความสงบ เพื่อย่อยสลายสิ่งที่ได้รับจากการต่อสู้” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว ในขณะเดียวกันอาการบาดเจ็บของเขาก็รุนแรงไม่เบา
เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็ยกหีบไม้ในมือขึ้นมาศึกษา
หลังจากชมดูครู่หนึ่งผู้อาวุโสใหญ่ก็ถอนหายใจออกมาเพราะว่าไม่สามารถค้นพบความลับของมันได้ เขาได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วในขณะที่ต่อสู้กับศัตรูก่อนหน้านี้
ผู้อาวุโสใหญ่ส่งหีบไม้คืนให้สือฮ่าวแล้วกล่าวว่า
“คราวนี้เจ้าได้สังหารศัตรูนับไม่ถ้วน รายงานทุกอย่างตามความจริงตระกูลหินผาแห่งเมืองจักรพรรดิสมควรได้รับการปลดปล่อยสักที!” ผู้อาวุโสใหญ่เตือน
สือฮ่าวโค้งคำนับด้วยความเคารพ เขารู้สึกชื่นชมผู้อาวุโสใหญ่อย่างแท้จริง หากผู้อาวุโสใหญ่ไม่ทุ่มสุดชีวิตเพื่อช่วยเหลือเขาตอนนี้เขาคงตายไปนานแล้ว
“ไปเถอะ” ผู้อาวุโสใหญ่หลับตาลง เขาต้องเข้าสู่ความสันโดษเพื่อทำการพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดดรวมทั้งรักษาอาการบาดเจ็บอีกด้วย