233 - ผลงานยอดเยี่ยม
233 - ผลงานยอดเยี่ยม
แม่ทัพคนอื่นแลกเปลี่ยนสายตากันเมื่อพวกเขาเห็นหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนถูกจับด้วยวิธีการดังกล่าวโดยหวงฟู่เฉียนฉี
ในขณะนั้นพวกเขาไม่แน่ใจว่าทำไมผู้ว่าการทหารหวงฟู่เฉียนฉีถึงใช้วิธีนี้เพื่อจัดการกับหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุน
“หวงฟู่เฉียนฉี เจ้าคอยดูเถอะว่าผู้ว่าการแคว้นจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร…”
“หวงฟู่เฉียนฉี เจ้าคนโง่เขลา นี่เป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด ข้าจะรายงานเจ้า เจ้ารอรับผลที่ตามมาเถอะ”
หลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนซึ่งถูกตรึงไว้เนื่องจากถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนยังคงสาปแช่งอย่างต่อเนื่องในห้องโถงพยัคฆ์ขาว
“ทำให้พวกมันหุบปาก…”
ทหารของหวงฟู่เฉียนฉีที่จับกุมหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนได้กระชากส่วนหนาของดาบมากระแทกใส่ปากของแม่ทัพทั้งสอง ส่งผลให้ฟันส่วนใหญ่ของพวกเขาหลุดออกมาและใบหน้าก็บวมเหมือนหัวหมู
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทหารพวกนั้นก็ยัดเศษผ้าเข้าไปในปากของแม่ทัพทั้งสอง ทั้งหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนทำได้เพียงส่งเสียงคร่ำครวญภายในห้องโถงขณะที่พวกเขาจ้องมองหวงฟู่เฉียนฉีด้วยความอาฆาต
หวงฟู่เฉียนฉีเยาะเย้ยเมื่อเขาเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของพวกเขา เขาจ้องไปที่แม่ทัพคนอื่นๆพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“เมื่อสักครู่นี้ ผู้ว่าการแคว้นผิงซีเย่เทียนเฉิงถูกควบคุมตัวโดยผู้ตรวจการใหญ่แห่งแผ่นดินด้วยข้อหาร่วมมือกับชาวชาตูเพื่อก่อการกบฏต่อองค์จักรพรรดิ และในเวลานี้ผู้ตรวจการใหญ่ได้มอบหมายให้ข้ามาจับกุมหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนด้วยเช่นกัน…”
ใบหน้าของแม่ทัพคนอื่นเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินข่าวนี้ในขณะที่หลายคนก็แสดงสีหน้ายินดีออกมา
หลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนที่ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป ใบหน้าของพวกเขาเริ่มซีดเมื่อพวกเขาฟังคำพูดของหวงฟู่เฉียนฉีร่างกายของพวกเขาก็สั่นสะท้านเช่นกัน...
“ยอดเยี่ยมจริงๆ มันควรจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ทุกวันนี้ภายใต้การปกครองของเย่เทียนเฉิงพวกเราแทบจะปฏิบัติต่อชาวชาตูเหมือนกับปู่ของตัวเองอยู่แล้ว
พวกมันทำตัวโหดร้ายและไร้เหตุผล แต่เย่เทียนเฉิงคอยหนุนหลังพวกมันอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่พวกเราจัดการกับพวกมันตามกฎหมายเย่เทียนเฉิงก็จะกระโดดออกมาจัดการพวกเราเอง
ปรากฎว่าแล้วที่จริงแล้วเย่เทียนเฉิงสมรู้ร่วมคิดกับคนเถื่อนพวกนั้นจริงๆสวรรค์ช่างมีเมตตา…” แม่ทัพคนหนึ่งระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความยินดี
“ท่านแม่ทัพใหญ่พวกเราพี่น้องจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน ขอท่านออกคำสั่งมาได้เลย…” แม่ทัพคนอื่นๆรีบยืนขึ้นประสานมือแสดงความเคารพออกมาอย่างสูง
โดยปกติพวกเขาจะไม่กล้าพูดแบบนี้ แต่เนื่องจากผู้ตรวจการใหญ่จัดการเย่เทียนเฉิงไปแล้วดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอะไรอีก
“ท่านซุนมีแผนสำหรับเรื่องนั้นแล้ว…” หวงฟู่เฉียนฉีหันไปทางฉากกั้นด้านหลังพร้อมกับกล่าวว่า
“รองแม่ทัพเอี้ยนออกมาเถอะ…”
เอี้ยนลี่เฉียงอยู่ในหอพยัคฆ์ขาวตลอดเวลา แต่เขาจำเป็นต้องซ่อนตัวภายใต้คำขอของหวงฟู่เฉียนฉีทำให้เขาได้เห็นช่วงเวลาที่หวงฟู่เฉียนฉีสามารถจับตัวหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนได้สำเร็จ
เหล่าแม่ทัพในห้องโถงพยัคฆ์ขาวตกใจไม่มากก็น้อยเมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงเดินออกมาจากฉากกั้นด้านหลังหวงฟู่เฉียนฉี ถึงกระนั้น บางคนก็รู้แล้วว่าใครคือเอี้ยนลี่เฉียง
"คารวะแม่ทัพทุกท่าน!"
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและปรบมือให้ทุกคนที่อยู่ในหอพยัคฆ์ขาวทันทีที่เขาก้าวออกจากฉากกั้น รอยยิ้มที่เป็นมิตรของเขาทำให้คนส่วนใหญ่ประทับใจในตัวเองในทันที
“ให้ข้าแนะนำเขากับพวกเจ้าทุกคน นี่คือรองแม่ทัพเอี้ยนคนสนิทของผู้ตรวจการใหญ่ เขามาที่นี่เพื่อจับกุมหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุน!”
หลังจากที่แนะนำเกี่ยวกับเอี้ยนลี่เฉียงอย่างง่ายๆ หวงฟู่เฉียนฉีก็ถามอย่างสุภาพว่า
"รองแม่ทัพเอี้ยนจะเอาตัวหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนไปตอนนี้หรือไม่"
“เนื่องจากทั้งสองคนถูกจับได้แล้วงานของข้าถือว่าหมดลงเช่นกัน ดังนั้นต้องขอรบกวนผู้ว่าการทหารและแม่ทัพคนอื่นจัดการส่วนที่เหลือด้วย !” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวอย่างนอบน้อม
"ดี!"
หวงฟู่เฉียนฉีพยักหน้า จากนั้นเขาก็หันไปทางทหารในห้องโถงพยัคฆ์ขาวและร้องออกมา
"เซี่ยงจง!"
“ผู้น้อยอยู่!”
แม่ทัพคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าและป้องหมัดของเขาไปทางหวงฟู่เฉียนฉีจากนั้นก็สั่งให้ทหารคนสนิทของตัวเองลากตัวหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนออกไป
“นำทหารของเจ้าไปช่วยเหลือที่คฤหาสน์ผู้ตรวจการใหญ่ด้วย หากมีใครกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นั่นเจ้าก็สังหารให้หมด!”
ผู้บัญชาการชื่อเซี่ยงจงเงยหน้าขึ้นมองหวงฟู่เฉียนฉีและตอบด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
"รับทราบ!"
......
ข้างสำนักงานผู้ว่าการทหารเป็นที่ตั้งของค่ายแม่ทัพเซี่ยงจง
ในเวลาเพียงสิบนาทีเซี่ยงจงก็นำกองพันของเขาออกมารวมกลุ่มกับเอี้ยนลี่เฉียงพร้อมกับนำตัวหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนที่ถูกจับกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลจู
ตามระบบการทหารของจักรวรรดิฮั่นกองพันทหารหนึ่งหน่วยจะแบ่งย่อยออกเป็นหกกองทหาร ดังนั้นหนึ่งกองพันจะมีคนอยู่หกร้อยคน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองพันคือแม่ทัพกองพัน และยศทางทหารของพวกเขาถือได้ว่าเป็นนายทหารบัญชาการระดับต่ำสุด
ผู้บัญชาการกองพันเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยงจงผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อถือได้ของหวงฟูเชียนฉี
กองพันที่นำโดยเซี่ยงจงไม่ใช่ทหารราบธรรมดา แต่เป็นทหารชั้นยอดของหวงฟู่เฉียนฉี พวกเขามีอาวุธหนักที่ดีที่สุดเมื่อพวกเขาออกจากค่ายทหาร ไอสังหารของพวกเขาก็ตลบอบอวลไปทั้งกองพัน
เอี้ยนลี่เฉียงเป็นหนึ่งในขบวนที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มกันนักโทษสองคนที่ตอนนี้เป็นเหมือนปลาในถัง จากนั้นเขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลจูโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
ระหว่างการเดินทางครั้งนี้เอี้ยนลี่เฉียงอดคิดไม่ได้ว่าความสำเร็จนี้ได้มาง่ายเกินไป
การเคลื่อนไหวของผู้คนหกร้อยคนที่เดินด้วยกันบนถนนนั้นถือว่าดังมาก โดยเฉพาะในตอนกลางคืน เสียงฝีเท้าที่เป็นระเบียบแต่รุนแรงได้ทำลายความเงียบในเมืองนี้จนหมดสิ้น
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงออกจากสำนักงานผู้ว่าการทหาร หวงฟู่เฉียนฉีก็นำกองทัพของเขารวมทั้งแม่ทัพคนอื่นก็กลับไปที่ค่ายของตัวเองเพื่อนำทหารออกมา
ตามทฤษฎีแล้ว บรรยากาศในเมืองผิงซีในปัจจุบันค่อนข้างตึงเครียด แต่เนื่องจากช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้เกิดความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองจึงไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงมากนัก
เอี้ยนลี่เฉียงกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลจูโดยไม่มีปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้าไปในคฤหาสน์ เขาก็พบว่ามีกลุ่มผู้พเนจรอยู่ภายในเต็มไปหมด
เมื่อเขาเห็นซุนปิงเฉินในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ก็มีชายสองคนในชุดผู้พเนจรยืนอยู่ตรงกลางและถัดจากเขาไปนั้นมีเจ้าหน้าที่ของเมืองผิงซีกำลังโขกศีรษะจนเลือดท่วม
เขาถูกมัดไว้ในขณะที่ยังโขกศีรษะลงกับพื้นไม่หยุด ทำให้หน้าผากของเขาแตกยับเยินไปหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่คนนั้นยังคงโขกศีรษะต่อไปพร้อมกับร้องไห้
“ใต้เท้าข้ายอมสารภาพทุกอย่าง ทุกสิ่งที่ข้าทำไปล้วนเป็นคำสั่งของเย่เทียนเฉิง เขาเป็นผู้ว่าการแคว้นข้าไม่อาจขัดคำสั่งของเขาได้…”
เอี้ยนลี่เฉียงจำเจ้าหน้าที่ที่ถูกมัดอยู่บนพื้นได้ เขาเป็นผู้พิพากษาของสำนักงานบังคับใช้กฎหมายในเมืองผิงซี...
ซุนปิงเฉินหันกลับมายิ้มให้เอี้ยนลี่เฉียงแล้วกล่าวว่า
"เจ้าเหนื่อยแล้วไปพักผ่อนเถอะ!"