232 - จับกุมโดยละม่อม
232 - จับกุมโดยละม่อม
ในเวลาอันสั้น คฤหาสน์ที่ซุนปิงเฉินกำลังพักอยู่ได้ถูกกองกำลังมากมายโอบล้อมไว้อย่างเข้มงวดโดยไม่อนุญาตให้คนภายนอกมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ด้านใน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเริ่มเคลื่อนไหวแล้วพวกเขาได้สวมใส่ชุดเกราะและหน้าไม้ คอยคุ้มกันสถานที่ต่างๆ ภายในคฤหาสน์
พ่อบ้านและคนรับใช้ทั้งหมดที่เดิมอยู่ในคฤหาสน์มารวมตัวกันที่โถงคฤหาสน์ ไม่มีใครกล้าทำอะไรที่น่าสงสัย ข้อมูลใดๆที่พวกเขามีอยู่ไม่สามารถรั่วไหลออกจากคฤหาสน์ได้
ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงเดินตามหวงฟู่เฉียนฉี เขาเห็นผู้คุ้มกันสองคนกำลังพักผ่อนอยู่ที่ลานภายในคฤหาสน์ รอคอยหวงฟู่เฉียนฉีอย่างอดทนเพื่อกลับมา
ส่วนผู้ติดตามของเย่เทียนเฉิงข้างในตอนนี้ถูกเหลียงอี้เจี๋ยจับตัวไว้
ในส่วนขององครักษ์ของหวงฟู่เฉียนทั้งคู่ไม่ได้ยินอะไรเลย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาทั้งคู่ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในคฤหาสน์
“นายท่าน…”
ผู้คุ้มกันสองคนที่กำลังพักผ่อนอยู่ก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นหวงฟู่เฉียนเข้ามาในลานบ้าน
“กลับไปที่สำนักงานผู้ว่าการทหาร!”
หวงฟู่เฉียนฉีไม่ได้พูดอะไรอีกและออกคำสั่งอย่างชัดเจน โดยนำองครักษ์ทั้งสองและเอี้ยนลี่เฉียงไปกับเขาขณะที่พวกเขาออกจากประตู
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหวงฟู่เฉียนฉี เอี้ยนลี่เฉียงและผู้คุ้มกันสองคนของหวงฟู่เฉียนก็ขึ้นไปบนม้าแรด จากนั้นพวกเขาก็ออกจากคฤหาสน์ไปทางสำนักงานผู้ว่าราชการทหาร
หลังจากที่พวกเขาออกจากคฤหาสน์หวงฟู่เฉียนฉีก็หันไปมองที่คฤหาสน์และตระหนักว่าสถานที่ทั้งหมดยังคงสว่างไสว ซึ่งเกือบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันกับเมื่อเขามาถึง
เขาแอบกลัวการเข้าใกล้ซุนปิงเฉิน เมื่อเขาหันไปมองเอี้ยนลี่เฉียงที่อายุน้อยซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าแรดทางด้านหลัง การรับรู้ของหวงฟู่เฉียนฉีที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงไม่เข้าใจเหตุผลที่ซุนปิงเฉินยอมให้เอี้ยนลี่เฉียงตามเขาไปที่สำนักงานผู้ว่าการทหาร
อย่างไรก็ตามหวงฟู่เฉียนซึ่งอยู่กับเจ้าหน้าที่และกองทัพมาเกือบตลอดชีวิตทำไมเขาถึงจะไม่เข้าใจในเรื่องนี้
การส่งเอี้ยนลี่เฉียงไปกับเขาก็เพราะว่าซุนปิงเฉินต้องการให้เอี้ยนลี่เฉียงมีผลงานจับกุมหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนโดยไม่มีความเสี่ยงหรืออันตรายใดๆ
ตราบใดที่ชายหนุ่มคนนี้ตามเขาไปและจับสองคนนั้นได้ ในทางทฤษฎีถือว่าประสบความสำเร็จ กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาจะมีส่วนร่วมในการจับกุมพันธมิตรสำคัญของเย่เทียนเฉิงในเมืองผิงซี
เมื่อหวงฟู่เฉียนคิดอย่างนั้น เขาเริ่มรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเพราะเขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ชื่อเอี้ยนลี่เฉียงได้รับความไว้วางใจจากซุนปิงเฉินเป็นอย่างมาก
เห็นได้จากตอนที่เขาวิ่งไปข้างหน้าเพื่อปกป้องซุนปิงเฉินเมื่อเย่เทียนเฉิงพุ่งเข้าโจมตีในตอนนั้น ชายหนุ่มคนนี้กระโดดข้ามประตูมังกรไปในครั้งเดียวเนื่องจากความไว้วางใจจากซุนปิงเฉิน
เหตุผลที่ซุนปิงเฉินอนุญาตให้เอี้ยนลี่เฉียงเข้าร่วมคือให้โอกาสเขาในการได้รับผลงานและเพื่อเสริมสร้างรากฐานในอนาคตของเขา
ไม่เช่นนั้นเพียงซุนปิงเฉินเพียงสั่งให้หวงฟู่เฉียนฉีจับหลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนพวกเขาก็ไม่มีปัญญาต่อต้านได้
ในเมื่อเหตุการณ์การจับกุมครั้งนี้จะไม่มีอันตรายดังนั้นซุนปิงเฉินจะยอมให้ผลงานอันยิ่งใหญ่นี้ตกไปหาคนอื่นได้อย่างไร
บางครั้ง การเลือกของบุคคลอาจกำหนดผลลัพธ์ของสิ่งต่างๆมากมาย
เอี้ยนลี่เฉียงหันกลับมาและยิ้มให้หวงฟู่เฉียนฉีเมื่อเขารู้สึกว่าหวงฟู่เฉียนฉีกำลังเฝ้าดูเขาอยู่
เขาไม่ได้พูดอะไรแต่หวงฟู่เฉียนฉีสามารถสัมผัสได้จากรอยยิ้มของเอี้ยนลี่เฉียงว่าเขาได้ตระหนักถึงความตั้งใจของเย่เทียนเฉิงที่จะส่งเขามาที่นี่แล้ว
ไม่ว่าหวงฟู่เฉียนจะคิดอะไรเอี้ยนลี่เฉียงก็สามารถรู้ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามในขณะนั้น นอกเหนือจากความคิดเหล่านี้ในหัวของเอี้ยนลี่เฉียงยังคงประหลาดใจกับความมหัศจรรย์ของโชคชะตา
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับตระกูลเย่ในตอนท้ายเขาคิดว่าเขาจะสามารถหลีกหนีจากข้อพิพาทกับตระกูลเย่ได้แล้วซะอีก
ในตอนนี้ ความหวังเดียวของเอี้ยนลี่เฉียงที่มีต่อซุนปิงเฉินก็คือเขาควรจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นเมื่อตระกูลเย่ตอบโต้นั่นก็ไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว
......
หลังจากติดตามหวงฟู่เฉียนสักครู่ เอี้ยนลี่เฉียงก็มาถึงสำนักงานผู้ว่าการทหารที่คุ้นเคย
ทันทีที่พวกเขามาถึงสำนักงานหวงฟู่เฉียนได้เรียกประชุมแม่ทัพนายกองของแคว้นผิงซีมาที่สำนักงานผู้ว่าการทหารในทันที
เหตุผลนั้นก็ง่ายๆคือเพื่อจัดเตรียมการคุ้มกันสำหรับผู้ตรวจการแผ่นดินซุนปิงเฉินออกจากเมืองผิงซีในวันพรุ่งนี้
หลังจากที่เขาส่งผู้นำสารออกไปแล้วหวงฟู่เฉียนก็เรียกคนสนิทของเขาต่อเอี้ยนลี่เฉียงมาเพื่อซักซ้อมการจับกุมแม่ทัพทั้งสอง
เอี้ยนลี่เฉียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“ท่านผู้ว่าการไม่ต้องลำบากถึงขนาดนั้น ข้าน้อยมีแผนการบางอย่างที่จะสามารถจับกุมแม่ทัพทั้งสองได้อย่างง่ายดายโดยที่พวกเขาไม่มีทางขัดขืน!”
“มีแผนที่จะทำอย่างนั้นเหรอ?” หวงฟู่เฉียนฉีไม่เชื่อเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขาร้องออกมาด้วยความประหลาดใจหลังจากฟังแผนของเอี้ยนลี่เฉียง
... ......
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามต่อมา แม่ทัพนายกองทั้งหมดในแคว้นผิงซีก็มารวมกันที่ห้องโถงพยัคฆ์ขาวในสำนักผู้ว่าการทหาร
แม่ทัพแปดนายเข้ามาทีละคน และเมื่อพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องรออีกหนึ่งเค่อ กว่าที่แม่ทัพคนสำคัญอีกสองคนจะมาถึงห้องโถงนี้
“ปั๊ก…!”
หวงฟู่เฉียนฉีจ้องมองด้วยความโกรธไปที่แม่ทัพทั้งสองที่มาสายที่สุดพร้อมกับทุบโต๊ะอย่างรุนแรง
"หลิวฉวนจงและตู้ชุนหยุนทำไมเจ้าถึงกล้าให้พวกเรารอที่นี่ เจ้าไม่รู้ถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์หรืออย่างไร"
“พวกเรามาที่นี่ทันทีที่ได้รับคำสั่งของท่านแม่ทัพใหญ่ ท้องฟ้ามืดครึ้มและถนนยาวไกลทำให้พวกเรามาสายอยู่บ้าง ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพใหญ่จะโมโหไปด้วยเรื่องอะไร?”
แม้ว่าแม่ทัพทั้งสองจะประหลาดใจเล็กน้อยจากการระเบิดอารมณ์ของหวงฟู่เฉียนฉีแต่พวกเขาก็ยังสามารถตอบโต้ออกมาได้อย่างปกติ
จากลักษณะท่าทางของแม่ทั้งสองแล้วเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความยำเกรงต่อผู้ว่าการทหารของแคว้นนี้เลย
“บังอาจ! ทหารเข้ามาจับตัวเจ้าคนโอหังพวกนี้ไว้ส่งมอบให้กับผู้ว่าการแคว้นลงโทษ…” ด้วยคำสั่งจากหวงฟู่เฉียนทหารองครักษ์ก็รีบวิ่งเข้ามาตรึงร่างแม่ทัพทั้งสองไว้กับพื้น
แม่ทัพทั้งสองต้องการที่จะต่อต้านในตอนแรก แต่หลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็ยอมจำนนและอนุญาตให้ผู้คุ้มกันของหวงฟู่เฉียนฉียึดอาวุธของพวกเขาออกไปและมัดพวกเขาด้วยเชือก
พวกเขาไม่แสดงอาการกลัว หนึ่งในนั้นยังเยาะเย้ยหวงฟู่เฉียนฉีราวกับหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อน
"เรามาดูกันว่าผู้ว่าการแคว้นจะว่ายังไงในเรื่องนี้..."
เมื่อหวงฟู่เฉียนฉีได้ยินดังนั้นเขาก็สั่งให้ทหารของเขาใส่โซ่ตรวนแม่ทัพทั้งสองอย่างแน่นหนา
“หวงฟู่เฉียนฉี เจ้ากำลังทำอะไร…”
แม่ทัพทั้งสองรู้สึกไม่สบายใจและอุทานออกมาเมื่อเห็นหวงฟู่เฉียนฉีจับมัดพวกเขาด้วยกุญแจมือเหล็กและปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยวิธีที่สงวนไว้สำหรับอาชญากรโดยเฉพาะ…
“ไอ้พวกโง่!” หวงฟู่เฉียนฉีสาปแช่ง