230 - เทพสงคราม
230 - เทพสงคราม
การจู่โจมของเหลียงอี้เจี๋ยต่อเย่เทียนเฉิงสร้างความตกใจให้กับทุกคนอย่างแน่นอน รวมทั้งเอี้ยนลี่เฉียง เขาไม่คิดว่าเหลียงอี้เจี๋ยจะจู่โจมเย่เทียนเฉิงในเวลาแบบนี้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ความแข็งแกร่งของเย่เทียนเฉิงถูกเปิดเผยทันที
ขณะที่ดาบวาววับตัดผ่านเย่เทียนเฉิง เย่เทียนเฉิงก็ใช้ฝ่ามือกระแทกโต๊ะด้านพุ่งเข้าหาดาบของเหลียงอี้เจี๋ย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่เขาเตรียมที่จะหนีโดยกระโดดไปด้านข้าง
จานและช้อนส้อมบนโต๊ะกระแทกพื้น และตัวโต๊ะก็ถูกดาบของเหลียงอี้เจี๋ยผ่าครึ่ง
เมื่อเย่เทียนเฉิงกำลังจะกระโดด สาวใช้ที่รินเหล้าให้เขาจากด้านหลังก็กระแทกฝ่ามือเข้าใส่แผ่นหลังของเย่เทียนเฉิงเบาๆ...
"ฮึ…!"
ใบหน้าของเย่เทียนเฉิงเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินทันทีก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมา เขาคร่ำครวญด้วยความโกรธ แล้วเหวี่ยงหมัดไปข้างหลังอย่างแรง
สาวใช้กางแขนทั้งสองออกแล้วบินถอยหลังอย่างสง่างาม นางเอาขาข้างหนึ่งไปเกี่ยวที่เสาซึ่งอยู่ไม่ไกลทางด้านหลัง ดังนั้นจึงหลบเลี่ยงการโจมตีของเย่เทียนเฉิงไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดาบที่ส่องประกายพุ่งเข้าหาเย่เทียนเฉิงอีกครั้งอย่างไม่ลดละ เย่เทียนเฉิงคำรามอย่างโกรธจัดและผมของเขาก็โบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง
เขากางแขนออกก่อนที่มือจะประสานกันอีกครั้งราวกับคีมคู่ใหญ่ จับดาบของเหลียงอี้เจี๋ยด้วยการตบมือเข้าหากัน
การโจมตีนั้นรวดเร็วอย่างยิ่ง บรรยากาศที่ร่าเริงก่อนหน้านี้ในห้องโถงใหญ่เริ่มเข้มข้นขึ้นในชั่วพริบตา สาวใช้ที่อยู่ข้างๆซุนปิงเฉินและหวงฟู่เฉียนฉีต่างกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงกับฉากตรงหน้าเขา
เย่เทียนเฉิงผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความสุภาพมารยาทและสง่างามดูน่าสมเพชในชั่วพริบตา ผมของเขายุ่งเหยิงและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
ซุนปิงเฉินยังคงยิ้มและเขาก็ปรบมือ
“ทักษะดี ทักษะดี อย่างที่คาดไว้ ผู้ว่าการแคว้นดูเหมือนจะฝึกฝนทักษะของตัวเองอยู่เสมอแม้กระทั่งสามารถหยุดดาบด้วยมือเปล่าได้ หากให้คาดเดาเจ้าต้องแข็งแกร่งเกินกว่าปรมาจารย์นักสู้ไปแล้วบางทีอาจจะก้าวเข้าสู่ระดับเทพสงครามแล้วก็ได้…”
เย่เทียนเฉิง ผู้ซึ่งจับดาบของเหลียงอี้เจี๋ยได้ มองดูซุนปิงเฉินราวกับหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ
หวงฟู่เฉียนฉีลุกขึ้นจากที่นั่งของเขามานานแล้วและจ้องมองที่ซุนปิงเฉินจากนั้นไปที่เย่เทียนเฉิงด้วยความงงงัน ดูเหมือนว่าเขาจะตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
“ท่านซุน เกิดอะไรขึ้น…?”
“เย่เทียนเฉิงผู้ว่าการแคว้นผิงซี ได้สมรู้ร่วมคิดกับชาวชาตูก่อกบฏ และทำลายล้างพลเมืองของอาณาจักรฮั่น ในฐานะผู้ตรวจการใหญ่แห่งแผ่นดินข้ามีหลักฐานแน่นหนาแล้ว ท่านยังสงสัยอะไรอีกผู้ว่าการทหาร?”
การแสดงออกของซุนปิงเฉินเปลี่ยนไปเคร่งขรึมในขณะที่เขาจ้องไปที่หวงฟู่เฉียนฉีและพูดอย่างเย็นชา
"ข้ารู้ดีว่าแม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้ว่าการทหารของแคว้นนี้แต่เจ้าก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเย่เทียนเฉิง เมื่อเป็นดังนี้เจ้าก็ไม่ต้องวิตกกังวลไปความผิดจะไม่ลามหาเจ้าอย่างแน่นอน"
เมื่อได้ยินซุนปิงเฉินแจกแจงอาชญากรรมของเขา สีหน้าของเย่เทียนเฉิงก็บิดเบี้ยวทันที เขาคำรามอย่างโกรธจัดและแสงสีแดงระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
เขาเหวี่ยงมือทั้งสองข้างของเขาและเตะส่งเหลียงอี้เจี๋ยบินออกไปก่อนที่เขาจะพุ่งไปที่ซุนปิงเฉิน
เมื่อสาวใช้ที่ยืนอยู่บนเสาเห็นเย่เทียนเฉิงเคลื่อนไหว นางก็กระโดดขึ้นไปในอากาศจากเสาด้วยเสียงตะโกน นางเหวี่ยงแขนเสื้อของตัวเองกลางอากาศ มันเปลี่ยนเป็นลักษณะคล้ายกับดาบสีขาวฟาดฟันเข้าใส่เย่เทียนเฉิง
เย่เทียนเฉิงชกแขนเสื้อด้วยเสียงดัง แขนเสื้อแตกออกจากกันเศษของมันตกลงมาราวกับหิมะที่โปรยปรายบนท้องฟ้าก่อนที่มันจะลุกเป็นไฟในอากาศ
สาวใช้ที่บินเข้าหาเขาถูกกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง นางจึงถูกส่งตัวกลับไปอีกครั้งเย่เทียนเฉิงหมุนไปรอบๆกลางอากาศและพุ่งเข้าหาซุนปิงเฉินต่อไป
ซุนปิงเฉินยังคงนั่งเหมือนภูเขาที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ถือถ้วยสุราอยู่ในมือขณะที่เขาเฝ้าดูเย่เทียนเฉิงที่กำลังเข้ามาใกล้
ในขณะนั้นเอี้ยนลี่เฉียงก็เคลื่อนไหว ในฐานะผู้ติดตามส่วนตัวของซุนปิงเฉิน เอี้ยนลี่เฉียงมีการตัดสินใจอย่างฉับไว
เขาไม่มีอาวุธติดตัว อย่างไรก็ตามมีกระถางธูปอยู่ข้างๆเขาซึ่งทำจากทองแดงและสูงมากกว่าครึ่งวา กระถางทองแดงแกะสลักด้วยฝีมือประณีตและกลิ่นหอมของมันยังคงเล็ดลอดออกมาจากภายใน
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงเห็นเย่เทียนเฉิงพุ่งเข้าหาซุนปิงเฉินเขาก็ยกกระถางธูปขึ้นโดยไม่คิดอะไรเลย ด้วยเสียงคำรามเขาพุ่งไปข้างหน้าซุนปิงเฉินและเหวี่ยงกระถางธูปขนาดใหญ่ราวกับอาวุธใส่เย่เทียนเฉิงที่พุ่งไปในทิศทางของพวกเขา
น้ำหนักของกระถางธูปขนาดใหญ่นั้นมากกว่าสองร้อยจิน ด้วยกำลังดุร้ายของเอี้ยนลี่เฉียงมันถูกเหวี่ยงด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงขว้างมันด้วยสุดกำลัง ก็เกิดเสียงลมกรรโชกแรงพัดผ่านบริเวณรอบตัวของเขา
ความเกลียดชังและเจตนาฆ่าของเอี้ยนลี่เฉียงต่อเย่เทียนเฉิงได้ปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้และเขาจึงไม่มีการออมมือแม้แต่น้อย
สำหรับคนอื่นๆการกระทำของเอี้ยนลี่เฉียงดูเหมือนเป็นการกระทำที่กล้าหาญและปราศจากความกลัว ไม่สะทกสะท้านจากอันตรายใดๆ
เมื่อมองดูกระถางธูปขนาดใหญ่ซึ่งกลายเป็นอาวุธของเอี้ยนลี่เฉียงพุ่งตรงเข้ามาหาเขา ไม่มีทางที่เย่เทียนเฉิงจะหลบเลี่ยงมันได้เช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นมือออกไปและกระแทกกระถางทองแดงตรงๆ
ตามคำกล่าวที่ว่า 'ผู้ชายที่มีกำลังดุร้ายสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้สิบคนได้'
เมื่อมือของเย่เทียนเฉิงสัมผัสกับกระถางที่เอี้ยนลี่เฉียงเหวี่ยงใส่เขา สีหน้าของเขาก็กลายเป็นบิดเบี้ยวอย่างร้ายแรง เขาไม่คิดว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะทรงพลังถึงขนาดนี้
ทันทีที่พวกเขาแลกหมัดเอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกถึงพลังที่กระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง ร่างกายทั้งหมดของเขาถูกส่งกลับหลังไปกระแทกกับฝาผนัง
หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ร่วงหล่นอยู่บนพื้น ในทางกลับกันเย่เทียนเฉิงถูกหยุดยั้งจากการโจมตีของเอี้ยนลี่เฉียงและเขาก็ถอยหลังไปสองสามก้าว
ดาบแวววาวของเหลียงอี้เจี๋ยกวาดไปทางเย่เทียนเฉิงอีกครั้งจากด้านหลังราวกับน้ำตกที่ไหลเชี่ยว เมื่อหวงฟู่เฉียนฉีที่กำลังลังเล เห็นว่าแม้แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็ยังพุ่งเข้าหาเย่เทียนเฉิงเขาก็รีบกลับมาสู่ความเป็นจริงทันทีและตอบโต้
เขาไม่กล้าที่จะยืนดูอยู่ข้างๆ เขาชักดาบยาวที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา ด้วยเสียงตะโกน เขาเหวี่ยงดาบของเขาไปทางเย่เทียนเฉิงจากด้านข้าง
เมื่อเย่เทียนเฉิงกำลังจะขยับใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอีกครั้ง เขากระอักเลือดอีกคำหนึ่ง การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอย่างกะทันหันในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีที่มาบรรจบกันจากเหลียงอี้เจี๋ยและหวงฟู่เฉียนฉี