ตอนที่แล้วWS บทที่ 149 ความเปลี่ยนแปลงของดินแดนมนต์ดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 151 เขตแดนแสงดำ

WS บทที่ 150 ออสมู


ดวงตาสีเลือดแนวตั้งบนหน้าผากของพ่อมดลีโอจ้องมองไปที่เหล่านักเวทย์ที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเย็นชา จากั้นเขาก็พูดว่า

“ข้ามีเรื่องสำคัญจะพูกับพวกเข้า ในสามวันหลังจากนี้ นักเวทย์ที่อยู่ต่ำกว่าระดับสี่ลงไป พวกเจ้าทั้งหมดต้องเก็บข้าวของทั้งหมดและออกจากดินแดนมนต์ดำ”

เหล่านักเวทย์ต้องพากันตกใจและแลกเปลี่ยนสายตา พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันร้ายแรงถึงขนาดที่ทำให้นักเวทย์ที่ต่ำกว่าระดับสี่ทุกคนต้องออกจากดินแดนมนต์ดำ

นักเวทย์หลายคนที่อยู่ในดินแดนมนต์ดำมากว่าสองทศวรรษ ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

“อาจารย์ลีโอ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เราทุกคนล้วนเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการที่ลงนามในสัญญากับดินแดนมนต์ดำ เราต้องช่วยองค์กรของเราหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

คนที่พูดคือพ่อมดฮาวล์ เขาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของดินแดนมนต์ดำ การจะเป็นสมาชิกอย่างเป้นทางการนั้น นอกจากจะเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งแล้ว ยังจะต้องลงนามในสัญญากับทางดินแดนมนต์ดำด้วย

แม้พ่อมดลีโอจะไม่ใส่ใจกับลูกศิษย์ในหอคอยมากนักแต่ก็ยังมีนักเวทย์ที่สามารถก้าวขึ้นเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้จำนวนหนึ่ง

พวกนักเวทย์เหล่านี้ได้ลงนามสัญญากับดินแดนมนต์ดำเพื่ออยู่ที่นี่ หากดินแดนมนต์ดำเกิดปัญหา พวกเขาจำเป็นต้องรวมตัวและทำงานร่วมกันกับนักเวทย์หอคอยอื่น ๆ เพื่อขนัดปัญญา

นี่เป็นอำนาจของสัญญาทำให้พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงหน้าที่นี้ได้

พ่อมดลีโอพยักหน้าเล็กน้อยและสีหน้าของเขาได้อ่อนลง แม้ว่าจะยังมืดอยู่ก็ตาม เขาได้อธิบายด้วยน้ำอันหนักแน่น

“เรื่องนี้เป็นสิ่งที่นักเวทย์ที่ต่ำกว่าระดับสี่ไม่สามารถรับมือได้ ถึงข้าจะไม่บอกพวกเจ้าในตอนนี้แต่อีกไม่ช้าก็เร็วพวกเจ้าก็รู้อยู่ดี”

พ่อมดลีโอเงียบไปครู่หนึ่งและพูดออกมาอย่างช้า ๆ “ไคลส์ได้ทรยศติอดินแดนมนต์ดำและไปเข้าร่วมกับออสมู!!”

“ไม่จริง!! ไคลส์ทรยศต่อดินแดนมนต์ดำ”

“เขาเป็นนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในดินแดนมนต์ในรอบร้อยปี เขาได้สร้างคาถาห้าธาตุได้ในเวลาอันสั้นละตอนนี้อยู่จุดสูงสุดของนักเวทย์ระดับสามแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับสี่ เมื่อเขาทำสำเร็จ เขาก็จะสามารถสร้างหอคอยของตัวเองในดินแดนมนต์ดำได้

ไม่เพียงเท่านั้น หากเขากลายเป้นนักเวทย์ระดับสี่ เขาก็จะมีพลังที่แข็งแกร่งเทียบเท่านักเวทย์ระดับหก ทางดินแดนมนต์ดำดูแลเขาอย่างดีเสมอมา เหตุใดเขาถึงกล้าที่จะทรยศต่อดินแดนมนต์ดำ”

เหล่านักเวทย์ต่างรู้จักหรือไม้ยินชื่อของไคลส์ แต่สำหรับเมอริ์ลนเพิ่งจะมาได้ยินเมื่อไม่นานมานี้ ตัวเขามักจะถูกเปรียบเทียบกับเขาอยู่บ่อยครั้ง

ไคลส์นั้นถือว่าเป็นบุคคลในตำนานของดินแดนมนต์ดำ ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาได้รับเลือกให้เป็นลูกศิษย์ของนักเวทย์ระดับเจ็ดในฐานะที่เขาเป็นนักเวทย์ห้าธาตุ นอกจากนี้เขาได้ใช้เวลา 12ปี จากนักเวทย์ระดับเริ่มต้นขึ้นสู่นักเวทย์ระดับสาม ด้วยความเร็วระดับนี้มีเพียงอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้นที่ทำได้

หากเขาสามารถหายเป็นนักเวทย์ระดับสี่ได้ ตัวเขาจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่านักเวทย์ระดับหก ดังนั้นเหล่านักเวทย์ดินแดนมนต์ดำต่างคาดหวังว่าไคลส์จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับได้เร็ว ๆ

แต่ทว่าไคลส์กลับทรยศต่อความความหวังของดินแดนมนต์ดำและหันหน้าไปหาออสมู

สำหรับเรื่องของออสมูนั้น มีเพียงนักเวทย์ไม่กี่คนเท่านั้นจะรู้จักชื่อนี้

“เอาล่ะ พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม พวกเจ้าต้องออกจากดินแดนมนต์ดำอีกสามวัน สงครามกำลังจะปะทุในอีกไม่ช้า มันเป็นสงครามระหว่างนักเวทย์!”

แม้พ่อมดลีโอจะดูสงบแต่รู้สึกของเขาฟังดูกดดันมาก ดวงตาสีเลือดของเขา ช่างดูน่าขนลุกจนทำให้สันหลังของใครกลายคนสั่นสะท้าน

สงครามระหว่างนักเวทย์ ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว นักเวทย์หลายคนได้ทราบเรื่องนี้จะหนังสือโบราณบางเล่มเท่านั้น

“อาจารย์ลีโอ พวกเราจะกลับมาได้เมื่อไหร่ขอรับ”

มีนักเวทย์คนหนึ่งรวบรวมคามกล้าถามออกมาอย่างระมัดระวัง กว่าพวกเขาจะเข้ามาในดินแดนมนต์ดำนั้นต้องผ่านอุปสรรคมากมาย มันจึงเป็นเรื่องยากที่จำทำใจออกไปจากสถานที่แห่งนี้

พ่อมดลีโอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า “น่าจะอีกนานมาก พวกเจ้าเก็บแหวนมนต์ดำให้ดี ข้าจะแจ้งให้พวกเขากลับทันทีที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว”

ฝูงชนพยักหน้า นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ จากนั้นพวกเขาได้แยกย้ายไปเก็บข้าวของ

ในระหว่างที่เมอร์ลินที่กำลังคิดวางแผนที่จะออกไป จู่ ๆ พ่อมดลีโอก็มาหาเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า

“เมอร์ลิน เจ้ายังเหลือคาถาอีกสองคาถา เจ้ารีบไปเลือกพวกมันมาโดยเร็ว”

เมอร์ลินพยักหน้าอย่างเข้าใจความคิดของลีโอ ก่อนที่เขาจะออกจากดินแดนมนต์ดำ เขาจำเป็นต้องเตรียมคาถาระดับหนึ่งให้พร้อมเสียก่อน

“เมื่อเลือกได้แล้วก็รีบมาหาข้านะ”

หลังจากพ่อมดลีโอกล่าวเสร็จ ความผันผวนธาตุลมได้ปรากฏรอบตัวเขา จากนั้นก็บินตรงไปยังหอคอยสูง

ทางด้านเมอร์ลิน เขาไม่สามารถชักช้าได้อีกต่อไป เขามุ่งตรงไปที่หอสมุดทันที เขาต้องรีบเลือกคาถาระดับธาตุไฟฟ้ากับมืดให้เร็วที่สุด

...

ในหอคอยของนักเวทย์ระดับเจ็ด เหล่านักเวทย์ระดับสี่ขึ้นไปมารวมตัวกันที่นี่

“ทุกคนอยู่ครบมั้ย?” ชายชราผมขาวและสวมแหวนมรกตขนาดใหญ่ ถามด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง

นักเวทย์ส่วนใหญ่ของดินแดนมนต์ดำได้มารวมตัวกันที่นี่ละมีประมาณ 40คนในดินแดนมนต์ดำ

“พ่อมดฮิวเซียส พวกเรามากันเกือบครบแล้ว คนที่ไม่ได้มาที่นี่ พวกเขาอยู่ห่างไกลจากดินแดนมนต์ดำเลยไม่สามารถมาได้ในตอนนี้ ท่านบอกพวกเราทีว่าคนของออสมู มันอยู่ที่ไหน” พ่อมดลีโอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา สีหล้าของเขาน่ากลัวมาก แม้แต่นักเวทย์ระดับสี่ขึ้นไปยังรู้สึกกลัวเขา

พ่อมดฮิวเซียสเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนมน์ดำ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกรธที่ถูกลีโอขัดจังหวะ น้ำเสียงของเขาบ่งบอดว่า เขาปฏิบัติต่อลีโอในสถานะที่เท่าเทียม

“ข้าแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ นักเวทย์อัจฉริยะของเราไคลส์ได้ทำการทรยศต่อดินแดนมนต์ดำและไปเข้าร่วมกับออสมู นี่เป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดเท่าที่ดินแดนมนต์ดำต้องเผชิญ”

เสียงของพ่อมดฮิวเซียสดังก้องไปทั่วห้องโถงราวกับพายุหายนะ มันสร้างความหวาดกลัวให้กับนักเวทย์หลายคน

“เจ้าโง่ หยุดพูดอะไรไร้สาระสักที บอกพวกเรามาเร็ว ๆ ว่าชาวออสมู พวกมันอยู่ที่ไหน” ดวงตาสีแดงได้กะพริบเล็กน้อย ดูเหมือนว่าลีโอจะไม่กลัวพ่อมดฮิวเซียสเลย

“เอ่อ...”

นักเวทย์หลายคนต่างตกตะลึง พวกเขาพอจะรู้ว่าพ่อมดลีโอเป็นคนหยิ่งทนงแต่ไม่เคยหยาบคาย อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขากล้าเรียกพ่อมดิวเซียสว่า ‘เจ้าโง่’ ในที่สาธารณะ

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ พ่อมดฮิวเซียสดูเหมือนจะไม่โกรธเลย เขายิ้มและตอบไปว่า

“อย่าเพิ่งใจร้อนไปพ่อมดลีโอ ออสมูต้องเข้ามาอย่างเต็มกำลังแน่นอนในศึกครั้งนี้แน่นอน นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ดินแดนมนต์ดำเท่านั้นที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ ที่เมืองแห่งอัคคีมีอัจฉริยะสองคนได้ทำการทรยศและเข้าร่วมกับออสมูเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีหอคยอเวจีด้วย ข้าได้ยินมาว่าอัจฉริยะคนนั้นกำลังพัฒนาดวงใจแห่งความมืดใกล้จะสำเร็จแล้วด้วย ดูเหมือนว่าศึกครั้งนี้พวกเราจะไม่ได้สู้เพียงลำพัง พันธมิตรของเราประกอบด้วยหอคอยอเวจี เมืองแห่งอัคคี แคว้นแห่งธุลีและองค์กรอื่นๆ พวกเราผนึกกำลังเพื่อต่อสู้กับออสมู!!” น้ำเสียงของฮิวเซียสฟังดูจริงจังและหนักแนนมาก เขาเองก็โกรธแค้นพวกออสมูเช่นด้วยกัน

นักเวทย์ระดับขึ้นสี่ขึ้นไป ส่วนใหญ่รู้จักออสมูเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้ยินข่าวลือมากมายจากพวกเขา

มีข่าวลือเล่าว่ามีเพียงอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะเข้าร่วมกับออสมูได้ หากปรากฏอัจฉริยะขึ้นที่ใด ออสมูจะใช่ทุกวิถีทางเพื่อดึงอัจฉริยะเหล่านั้นเข้าร่วมกับออสมู

ออสมูนั้นถูกสร้างขึ้นโดยเหล่านักเวทย์ที่มีพรสวรรค์ทั้งหมด โดยชื่อของ ‘ออสมู’ มันเป็นคำมาจากภาษามอลต้า ที่แปลว่า ‘อัจฉริยะ’

ไม่มีใครรู้ว่าออสมูแข็งแกร่งแค่ไหนและไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่ตั้งของพวกมันแต่ทุกคนจะรู้เพียงแค่ว่า ในทุกๆ สองสามทศวรรษจะมีนักเวทย์อัจฉริยะบางคนจากองค์กรต่างๆ ได้ทำการทรศต่อต่อองค์กรของพวกเขาและเข้าร่วมกับออสมู

สัญญาที่เหล่านักเวทย์ได้ลงนามกับองค์นักเวทย์ได้ถูกทำลายโดย ‘น้ำยาธรณีชำระล้าง’ ของออสมู แม้แต่องค์กรขนาดใหญ่ก็ยังไม่มี ‘น้ำยาธรณีชำระล้าง’ มากนักแต่ออสมูกลับมีมากพอที่จะทำลายสัญญาของเหล่าอัจฉริยะได้จำนวนหนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความแข็งแกร่งมากเพียงใด

แม้ว่าพ่อมดฮิวเซียสจะโกรธมากแต่เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคาม เขาต้องรักษาความเยือกเย็นไว้

*วิ้ง*

ทันใดนั้นก็มีอักษรรูนลึกลับปรากฏบนร่างของพ่อมดฮิวเซียส เขาตรวจสอบอย่างรวดเร็ว มันเป็นข้อความที่ถูกส่งมา

หลังจากผ่านไปครู๋หนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มออกมา

“เมืองแห่งอัคคี หอคอนอเวจีและแคว้นแห่งธุลี พวกเขาตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับพวกเ คราวนี้แหละพวกเราจะต้องสอนบทเรียนให้กับออสมูที่บังอาจโลภมากมาชิงตัวนักเวทย์ของเราไป!”

หลังจกานั้นพ่อมดฮิวเซียสก็เริ่มเตรียมการบางอย่าง พวกเขาให้นักเวทย์ระดับสี่มารวมตัวกันที่นี่ นี่จะเป็นสงครามที่ดุเดือดและโหดร้ายระหว่างองค์กรนักเวทย์ด้วยกันและพวกเขาไม่ต้องการที่จะพ่ายแพ้สงครามในตรั้งนี้

ทางด้านพ่อมดลีโอ จิตสังหารของเขาเข้มข้นมากแหวนสีดำได้ปรากฏขึ้นบนมือของเขา เขามองไปที่มันและพึมพำเบา ๆ ว่า “เรย์ดอร์ น้องชายสุดที่รักของข้า ในที่สุดข้าก็มีโอกาสล้างแค้นให้น้องแล้ว ข้าจะฆ่านักเวทย์ของออสมูด้วยมือของข้าเอง!!”

พ่อมดฮิวเซียสเหลือบไปมองท่าทางที่ดุร้ายของพ่อมดลีโอ เขาได้ส่ายหัวเบา ๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาทำได้เพียงแค่แสดงความเห็นอกเห็นใจออกมาเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด