ตอนที่แล้วChapter 4: เกิดเรื่องประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 6: เปลี่ยนความหวาดกลัวการเข้าสังคมไปเป็นความบ้าคลั่ง

Chapter 5: นี่จะเป็นเกมอิยาชิเคอิได้ยังไง?


เงาดำที่เคยอยู่ข้าง ๆ โซฟานั้นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นที่ประตูห้องนอน หานเฟยบอกได้คร่าว ๆ ว่านั่นเป็นเงาของคนผู้หนึ่ง มันนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นก้มหน้าต่ำ หานเฟยชันเข่าอยู่บนเตียงตัวแข็งเป็นหิน ผ้าคลุมเตียงสีแดงขึ้นราพาดอยู่บนแผ่นหลังของเขา ‘ถ้าฉันรู้ว่านี่เป็นเกมแนวแอ็คชั่น ฉันก็คงจะเตรียมตัวมามากกว่านี้ แต่ว่าบอสกับนักวิจารณ์บนอินเตอร์เนตล้วนบอกฉันว่านี่เป็นเกมแนวอิยาชิเคอิ ใครมันจะไปเตรียมตัวหนีเอาชีวิตรอดในเกมอิยาชิเคอิกันเล่า?!’

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องนอน สมองของเขาเริ่มหมุนหลังจากที่หยุดทำงานไปชั่วคราว เขาติดอยู่ในเกมปริศนานี่แล้วดังนั้นจึงไร้ประโยชน์ที่จะโทษเกม เขาต้องเอาชีวิตรอดภายใต้กฏที่ถูกตั้งเอาไว้! จะออกจากเกมได้เขาก็ต้องทำเงื่อนไขสองอย่าง หนึ่งคือเล่นเกมให้ได้สามชั่วโมง สองคือทำภารกิจให้สำเร็จอย่างน้อยหนึ่งภารกิจ

‘ฉันทำภารกิจเปลี่ยนฟิวส์ที่บ้านคุณยายสำเร็จไปแล้ว ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเข้ามาในเกมครั้งแรก ฉันเห็นนาฬิกาที่กำแพงบอกเวลาเที่ยงคืน ครั้งสุดท้ายที่ฉันดูนาฬิกาคือตีสองสี่สิบสี่นาที ดังนั้นโดยทางเทคนิคแล้วฉันแค่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้อีกสิบหกนาที และจากนั้นฉันก็จะได้ออกไปจากที่บ้า ๆ นี่!’ สมองของหานเฟยไม่เคยทำงานเร็วขนาดนี้มาก่อน มองไปที่ประตู กล้ามเนื้อของเขาเกร็งเขม็งและปลายนิ้วของเขาก็กำรอบด้ามมีดปังตอแน่น ‘จากการสำรวจก่อนหน้านี้ของฉัน ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ และมันยังไม่ได้ใหญ่พอที่จะซ่อนใครเอาไว้ดังนั้นไอ้สิ่งนั้นคืออะไรกันแน่? นรกเหอะ ตัวประหลาดนั่นเป็นตัวเดียวกับที่หนีออกมาจากห้องน้ำหรือเปล่า?’

หานเฟยเพียงแค่ต้องมีชีวิตรอดอีกสิบหกนาทีแต่ว่าคำถามสำคัญก็คือ ทำยังไง? เรื่องราวดูจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เขาบอกไม่ได้เลยว่ามีดปังตอจะใช้กับตัวประหลาดพวกนั้นได้หรือเปล่า อันที่จริง มีดปังตอนี่ก็เพื่อให้เขาสบายใจเท่านั้นเอง เขาถูกบอกให้นอนบนเตียงและจากนั้นประตูห้องน้ำก็เปิดออกโดยไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากนั้นก็มีตัวประหลาดอะไรไม่รู้ปรากฏขึ้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนที่จะขยับไปขวางประตูห้องนอนเอาไว้ นี่น่าจะเป็นความเฮงซวยหนึ่งของเกมแนวอิยาชิเคอิ!

‘ใจเย็นก่อน! ฉันต้องใจเย็น ๆ!’ การออกจากเกมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหานเฟยอย่างมาก เหมือนเขายังคงโซซัดโซเซอยู่หลังจากถูกความสยองขวัญไร้ที่มากระแทกเข้าใส่เต็มเปา พูดกันตามตรง ความจริงที่ว่าเขายังมีสติอยู่นั้นก็ทำให้ตัวหานเฟยเองประหลาดใจมากแล้ว ‘หญิงชราคนนั้นบอกว่าเคยเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นที่บ้านหลังนี้และมันจะเป็นการดีกว่าที่จะย้ายออกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอน่าจะเตือนฉันเรื่องตัวประหลาดบนพื้นนี่ การที่อพาร์ทเม้นท์ห้องอื่นยังมีคนอาศัยอยู่น่าจะหมายความว่าเจ้าสิ่งนี้น้อยครั้งที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ดังนั้นฉันน่าจะปลอดภัยถ้าสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้’ แต่พูดน่ะง่ายกว่าลงมือทำ ตอนที่หานเฟยเพ่งสายตาไปที่เงาพร่าเลือนข้างประตู เขาก็สูญเสียความกล้าที่จะลงมือ ‘ไม่ รอก่อน! ยังมีความหวังอยู่! ถ้ามันอยู่ที่ข้างประตู ฉันก็แค่ต้องรออยู่ตรงนี้อีกสิบหกนาทีแล้วทุกอย่างก็จะจบลง แต่ถ้ามันคลานเข้ามา ฉันก็จะวิ่งออกไปจากห้องนอนทันที!’

นั่นอาจจะทำให้เขาทำภารกิจผู้เล่นใหม่ล้มเหลวแต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสนใจเรื่องนั้น ดวงตาของหานเฟยขยับไปมองนาฬิกาที่บนผนังห้องนั่งเล่น ก่อนที่เขาจะทันอ่านเวลา ผิวเขาก็เย็นเฉียบจนตัวชาไปหมด!

หานเฟยหรี่ตามองไปยังประตูห้องนอนอีกครั้ง เงาที่นั่งยอง ๆ อยู่หายไปแล้ว ตอนนี้ หานเฟยตัดสินใจที่จะหนี เขาจะไม่วิ่งไปเปิดไฟหรือว่าถอยไปยังห้องน้ำหรือรอให้เจ้าสิ่งนั้นมาจับตัวเขา เขากระโดดลงจากเตียงและวิ่งไปทางประตูหน้า! เขารู้ว่าสิ่งนั้นเข้าไปในห้องนอนแล้ว เขาจะไม่รออยู่ในนั้นเหมือนแกะรอถูกเชือด แทนที่จะหาว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร หานเฟยให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเองมากกว่า

ทุกวินาทีล้วนมีค่า หานเฟยไม่คิดว่าตัวเองจะเคยวิ่งเร็วเท่าตอนนี้มาก่อน เขาพุ่งไปทางประตูกันขโมยแล้วพุ่งผ่านมันออกไป ความเคลื่อนไหววุ่นวายทำให้ไฟทางเดินสว่างขึ้น แสงสลัวส่องเข้าไปในบ้านแต่หานเฟยไม่กล้าหันกลับไปมอง เขาได้แค่เหลือบมองกลับไปด้านหลังครั้งหนึ่งด้วยปลายหางตาตอนที่วิ่งไปทางบันได

ในห้องที่ควรว่างเปล่า คนผู้หนึ่งบิดตัวเป็นมุมที่ไม่น่าเป็นไปได้อยู่ใต้แสงไฟห้องนอน ถ้าหานเฟยหยุดเปิดไฟ เขาก็คงต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าไร้สีเลือดนั่น!

ตอนที่เขาวิ่งออกไป หานเฟยปิดประตูห้องลงด้วยการเหวี่ยงเท้าครั้งหนึ่งเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าสิ่งนั้น บางทีประตูอาจจะหยุดเจ้าสิ่งนั้นไม่ให้ออกมาได้ใครจะไปรู้ แต่ว่า ไม่ช้าหานเฟยก็ได้ยินเสียงที่ทำให้สันหลังเย็นวาบดังมาจากในบ้านของเขา เสียงเหมือนมีคนใช้เล็บขูดประตู ‘เจ้าสิ่งนั้นอยากจะออกมาด้วย? เจ้านั่นมันทะลุผ่านกำแพงไม่ได้เหรอ?’

ดี หานเฟยไม่อยู่รอคำตอบ เขากำมีดปังตอวิ่งไปยังบันได หานเฟยรู้ว่าหญิงชรานั้นไม่ใช่ตัวละครที่เป็นมิตรแต่เทียบกับตัวประหลาดนั่นแล้ว หญิงชราก็ดูจะน่ากลัวน้อยกว่า

หานเฟยไปถึงชั้นสามและกลิ่นเนื้อที่คุ้นเคยก็กระทบจมูกเขาอีกครั้ง เขาเห็นประตูห้องของหญิงชราเปิดอยู่ครึ่ง ๆ และยังมีถุงพลาสติกสีดำหลายใบอยู่ที่ข้างประตู พวกมันต่างไปจากที่เขาเห็นในตู้เย็นก่อนหน้านี้ หานเฟยถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะกระแทกเข้ากับประตูของบ้านอื่น กระจกปากว้า*ที่แตกอยู่แล้วหล่นจากบนประตูเกือบจะโดนเขาเข้า พอหันกลับไปมอง หานเฟยก็พบว่าบนประตูของห้องนี้นั้นเต็มไปด้วยยันต์มากมาย นั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย

‘ในตึกนี้ไม่มีคนธรรมดาอยู่เลยหรือไง? แล้วทำไมฉันถึงไม่สังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้?’

การถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ ไม่สิ้นสุดทำให้เส้นประสาทของหานเฟยตึงเขม็ง ในตอนนี้ ไฟเปิดด้วยเสียงล้วนดับลง เขากระทืบพื้นดัง ๆ แต่ว่าไฟก็ไม่กลับมาติด ในความเงียบงันที่ตามมา หานเฟยได้ยินเสียงประตูเปิดดังชัดเจน มีบางอย่างตรงเข้ามาหาเขาในความมืด หัวใจของเขาเต้นรัว หานเฟยถอยกลับไปทางเดิม เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไล่ตามเขามา เขากัดฟันพุ่งตัวไปยังชั้นแรก จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังเมื่อเห็นทางเข้าตึกถูกล็อกเอาไว้ เขาไม่สามารถออกไปจากอพาร์ทเม้นท์หลังนี้ได้

หานเฟยพยายามใช้กำลังทำลายกุญแจ มีดปังตอสับใส่แม่กุญแจซ้ำ ๆ กระทั่งเงาหนึ่งชะโงกเงื้อมเหนือตัวเขาเหมือนมีตัวอะไรใหญ่โตมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังเขา บางอย่างเลื้อยพันรอบคอของเขา หานเฟยยังพยายามตัดแม่กุญแจเหมือนเสียสติไปแล้ว แต่อันที่จริง เขากำลังรอให้ปุ่มออกจากเกมสว่างขึ้น ความเย็นแทรกซึมเข้ามาในร่างของเขา เรี่ยวแรงเริ่มหายไป และมีดปังตอก็ถูกทิ้งห้อยข้างตัวเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนที่เขากำลังจะหมดสติไปนั้น ในที่สุดปุ่มก็สว่างขึ้น

ครบสามชั่วโมงแล้ว!

“ออกจากเกมเดี๋ยวนี้!”

ปัง! เสียงกระแทกดังลั่นในสมองของเขา โลกหมุนคว้างและความเจ็บปวดเข้าเกาะกุมเขาเอาไว้ ทันทีที่หานเฟยควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกครั้ง เขาก็ฝืนทนความเจ็บปวดดึงหมวกเล่นเกมออกจากศีรษะตัวเองแล้วโยนมันไปบนโต๊ะอย่างแรง

นาฬิกาที่บนผนังบอกเวลาตีสามหนึ่งนาที หานเฟยเข้าเกมไปตอนเช้า แต่ตอนที่เขากลับออกมาก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว ความอ่อนล้าถาโถมเข้าใส่ทุกตารางนิ้วของร่างกายเขา ความรู้สึกเหนือจริงเข้าครอบงำ เพราะว่าโลกเกมนั้นเหมือนกับโลกจริงมาก มันเหมือนกับว่าเขายังติดอยู่ในเกม

“ประกาศสำหรับผู้เล่น 0000! คุณเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกในเกม Perfect Life รุ่นแรกสำเร็จแล้ว กรุณาสำรวจเกมนี้ไปเรื่อย ๆ!” เสียงระบบเย็นชืดดังอยู่ในใจเขา หานเฟยตัวแข็งอยู่กับที่ เขาแน่ใจว่าเขาถอดหมวกเล่นเกมออกแล้ว แล้วเสียงนั่นมาจากไหนกัน... ‘เป็นไปได้ยังไง?’

“ประกาศสำหรับผู้เล่น 0000! คุณเข้าเกมครั้งแรกสำเร็จแล้ว กรุณาเริ่มการเข้าสู่เกมครั้งที่สองภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อจากนี้!”

‘ทำไมเสียงนี่ถึงยังอยู่ในหัวฉัน?’ หานเฟยแตะหลังศีรษะของตัวเองและสะดุ้งอย่างเจ็บปวด เขาหยิบหมวกเล่นเกมใบหนาหนักขึ้นมาและก็ต้องตกใจที่เห็นเลือดเปรอะอยู่ด้านในหมวก เมื่อคิดกลับไปแล้ว หานเฟยก็จำได้อย่างรางเลือน มีบางอย่างถูกใส่เข้าไปในหัวของเขาตอนที่เขาสวมหมวกครั้งแรก

‘เดี๋ยวก่อนนะ นี่น่าจะนับเป็นการพยายามฆ่าใช่ไหม?’ หานเฟยดึงโทรศัพท์ออกมาเรียกตำรวจแต่ตอนที่เขาคิดจะทำนั้นก็มีเสียงระบบดังขึ้นอีกครั้ง “ประกาศสำหรับผู้เล่น 0000! กรุณาอย่าเปิดเผยข้อมูลของเกมสู่บุคคลอื่น ไม่อย่างนั้นกล่องดำในศีรษะของคุณจะระเบิดและสมองจะตายภายในเวลา 0.001 วินาที”

‘กล่องดำ? สมองตาย?’ หานเฟยมองไปยังสัญลักษณ์เกมอิยาชิเคอิที่ติดเอาไว้ที่ด้านข้างของหมวกเล่นเกมและรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

กระจกปากว้า* อ่านว่า ปา-กว้า เป็นกระจกแปดเหลี่ยมคล้ายยันต์เชื่อว่าช่วยขับไล่พลังงานด้านลบ มักแขวนไว้ตามประตูหน้าต่าง

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด