บทที่ 45: ชายผู้มีบ้าน 18 หลัง
บทที่ 45: ชายผู้มีบ้าน 18 หลัง
หลังจากแยกทางกับเฉากังหู่และน้องชายของมันแล้ว หวังเต็งก็ไตร่ตรองถึงข้อเสนอของเฉากังหู่ขณะขับรถ
เขาต้องยอมรับว่าเฉากังหู่นั้นเป็นคนฉลาด
เมื่อเฉากังหู่เลือกที่จะยอมจำนนต่อหวังเต็งที่เป็นนักสู้ มันก็จะสามารถแก้ไขความแค้นระหว่างพวกเขาในอดีตได้ และในเวลาเดียวกัน มันก็จะสามารถเปลี่ยนหวังเต็งให้กลายเป็นร่มเงาของมันได้
หวังเต็งยิ้มอย่างคลุมเครือ
เขาควรยอมรับเฉากังหู่เข้ามาเป็นลูกน้องของเขาใช่ไหม?
…
ขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังเต็งก็ได้ขับรถเข้าไปในที่ดิน
ระหว่างเรียนช่วงเช้า เขาก็ได้ค้นหาบ้านที่อยู่ระหว่างทางไปโรงเรียนและบ้านของเขา
นอกจากนี้เขาก็ยังได้นัดหมายกับเจ้าของบ้านสองสามคนในตอนบ่ายเพื่อดูบ้าน
ที่ดินตรงหน้าเขาเป็นจุดหมายปลายทางแรกของเขา เจ้าของบ้านเป็นหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี
เนื่องจากหวังเต็งมาสายไปเล็กน้อย ดังนั้นการแสดงออกของหญิงวัยหลางคนจึงดูไม่มีความสุข อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเห็นเขาขับรถสปอร์ตมา ดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
เธอพาหวังเต็งไปเยี่ยมชมบ้าน เธอค่อยๆแนะนำบ้านให้เขารู้จัก โดยบอกเขาว่าบ้านของเธอนั้นดีแค่ไหนและอยู่ในทำเลที่สะดวกแค่ไหน
หวังเต็งรู้สึกว่าหัวของเขาหมุนเพราะการพูดคุยของเธอ
ขณะที่พวกเขาคุยกันเรื่องค่าเช่า เขาก็ยิ่งพูดไม่ออก
บนเว็บไซต์นั้นเขียนไว้ว่า 3500 ต่อเดือน แต่เมื่อเขามา มันกลับกลายเป็น 6000 ต่อเดือน ราคานี่มันเพิ่มขึ้นเกือบ 100%!
เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าเขาโง่!
ในท้ายที่สุด หวังเต็งก็ทำได้เพียงแค่ปัดเธอตกไปแล้วและบอกเธอไปว่าเขาจะเก็บเอาไปพิจารณาดู
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเขาขับรถออกมาจากที่ดินได้สำเร็จ
มันน่ากลัวมาก!
หลังจากนั้นเขาก็ไปดูบ้านอีกสองสามหลัง แต่มันก็ไม่มีบ้านหลังไหนที่ถูกใจเขา
เจ้าของบ้านบางหลังก็ดูแปลกๆในขณะที่เจ้ของบ้านบางหลังก็มีกฎที่เข้มงวด มันไม่เหมือนกับว่าพวกเขากำลังมองหาลูกบ้าน แต่มันเหมือนกับพวกเขากำลังมองหายามเฝ้าบ้าน
ห้ามใช้ห้องนี้นะ อุปกรณ์ชิ้นนั้นก็ห้ามใข้!
บ้านของฉันเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ดังนั้นโปรดอย่าทำให้ผนังสกปรก!
อย่าลืมรดน้ำดอกไม้และต้นไม้บนระเบียงของฉันด้วย แล้วก็อย่าลืมให้อาหารสุนัขและแมว
มันมีกฎเกณฑ์เช่นนี้อยู่ทุกที่!
หวังเต็งพูดไม่ออก มันไม่แปลกเลยที่จะไม่มีใครมาเช่าที่นี่
ถ้าต้นไม้และหมาแมวมันมีค่ามากขนาดนั้น งั้นทำไมพวกเขาถึงไม่เอามันไปด้วยกันซะเลยล่ะ?
…
หลังจากใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น หวังเต็งก็ยังไม่สามารถหาบ้านที่เขาต้องการได้จนมาถึงบ้านหลังสุดท้าย
อันที่จริงเขาไม่อยากจะหวังอะไรกับมันแล้ว
“ฉันน่าจะไปหานายหน้าค้าบ้านดีไหมนะ!” หวังเต็งส่ายหัว หลังจากที่ตระกูลหวังล่มสลายในชีวิตที่แล้ว เขาก็ได้ไปเช่าบ้านอยู่คนเดียวและถูกนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หลอกอยู่สองสามครั้ง เขายังคงจำมันได้แม่น และนั่นคือเหตุผลที่เขาละทิ้งความคิดที่จะมองหานายหน้าโดยไม่รู้ตัว
บ้านหลังสุดท้ายตั้งอยู่ขอบเมือง
มันไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นทางจากบ้านของเขาไปยังโรงเรียน อย่างไรก็ตามบริเวณนี้ก็เงียบสงบดี มันอยู่ที่ขอบเมืองดังนั้นการรักษาความปลอดภัยจึงไม่เลวเช่นกัน
เขาเห็นมันโดยบังเอิญและรู้สึกว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปดู
“นายคือ 'นายน้อยหวัง ราชาแห่งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจีเตียงใช่ไหม?”
เจ้าของบ้านเป็นชายวัยกลางคนที่ดูหยาบกระด้าง เขาสวมกางเกงชายหาดและรองเท้าแตะขณะยืนอยู่ข้างถนน ทันทีที่เขาเห็นหวังเต็ง คำถามของเขาก็ทำให้หวังเต็งรู้สึกตกใจ
“นายน้อยหวัง ราชาแห่ง… สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจีเตียง?!”
เขาสงสัยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นชื่อเล่นออนไลน์ของเขา
เขาได้สร้างชื่อเล่นเมื่อตอนที่เขายังเด็ก และเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว เมื่อเขาออนไลน์ในตอนเช้าวันนี้ เขาก็ไม่ทันได้สังเกตชื่อเล่นของเขาเลย
เขาไม่คิดมาก่อนว่ามันจะมีคนมาเรียกเขาด้วยชื่อนั้น...
มันน่าอายมาก!
เขาต้องการที่จะหายไปทันที!
เขาต้องการที่จะหารูและฝังตัวเองลงไปข้างในนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม ภายนอกเขาก็ยังคงสงบเป็นพิเศษ เขาพยักหน้า
“คุณคือเจ้าของบ้าน!”
“ใช่ฉันเอง มา ฉันจะพานายไปดูบ้าน” ชายที่ดูหยาบกระด้างทำตัวเป็นธรรมชาติ เขาไม่ได้ตื่นเต้นอะไร
เขาดูเหมือนคนที่มีประสบการณ์มามากมายในชีวิต!
เขานำหวังเต็งไปในทิศทางที่แน่นอน
มันมีบริเวณที่เต็มไปด้วยอพาร์ตเมนต์ระดับต่ำอยู่ข้างหน้าพวกเขา พวกเขาเดินเข้ามาจากถนนใหญ่แล้วเลี้ยวเข้าไปในตรอกเล็กๆ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านที่มีลานภายใน
ผนังด้านนอกมีสีขาวอมเทาและมีเถาวัลย์ปกคลุม เจ้าของบ้านเปิดประตูเหล็กและเข้าไปก่อน
“นายลองมองไปรอบๆตัวบ้านดูก็ได้”
หวังเต็งไม่รั้งรอและเริ่มมองดูรอบๆบ้านในทันที ยิ่งดูก็ยิ่งพอใจ
ตำแหน่งของบ้านเองก็ดูเงียบสงบ แม้ภายนอกจะดูเก่า แต่ของตกแต่งภายในนั้นก็เป็นของใหม่ทั้งหมด
มันมีลานขนาดเล็กรวมอยู่ด้วย มันดูกว้างขวาง ถ้าเขาต้องการที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระที่นี่
มหาวิทยาลัยประจำเมืองเองก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้ มันเงียบ แต่เมื่อคุณก้าวออกไปข้างนอก คุณก็จะเห็นถนนที่คับคลั่งไปด้วยผู้คน
คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้เป็นครอบครัวธรรมดา นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายคนเองก็ยังเช่าห้องที่นี่
“นายคิดว่าไง?” เจ้าของบ้านเมื่อเห็นว่าหวังเต็งดุบ้านเสร็จสิ้นแล้ว
“ไม่เลว บอกราคามาที” หวังเต็งพยักหน้า
เจ้าของบ้านหยิบบุหรี่ออกมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ส่งบุหรี่อีกหนึ่งมวนไปยังหวังเต็ง “เอาไหม?”
หวังเต็งยอมรับและเอามันเข้าไปในปากของเขา
เจ้าของบ้านจุดบุหรี่และสูดพ่นลึก เขาเป่าควันออกมาช้าๆแล้วถามว่า “ นายเช่าอยู่คนเดียวหรอ?
“ใช่แล้ว” หวังเต็งพยักหน้า
“ถ้านายเช่าคนเดียวมันก็จะไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ฉันสังเกตเห็นว่านายขับรถสปอร์ตมา ดังนั้นนายก็คงจะไม่ได้ขาดแคลนเงิน” เจ้าของบ้านยิ้ม “เอางี้เป็นไง? ฉันจะไม่เรียกเก็บเงินนายมากกว่า5,000 ต่อเดือน นายรับราคานี้ได้ไหม?”
หวังเต็งได้ตรวจสอบค่าเช่าบ้านในแถบนี้มาก่อน ซึ่งราคานี้มันก็สมเหตุสมผล
นอกจากนี้ การตกแต่งของมันก็ไม่เลว
หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชายที่ดูหยาบกระด้าง เขาประหลาดใจเล็กน้อย
“มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ? คุณคิดว่ามันถูกไปอย่างงั้นใช่ไหม?” ชายที่ดูหยาบกระด้างรู้ว่าหวังเต็งกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มและเผยให้เห็นฟันสีเหลืองของเขา
“เรื่องราคาไม่เป็นไร อย่างก็ตาม ฉันก็มีข้อเรียกร้อง” หวังเต็งกล่าว
“ข้อเรียกร้อง? ว่ามาได้เลย!” ชายที่ดูหยาบกระด้างเลิกคิ้วขึ้น
“ในตอนที่ฉันเช่าบ้าน มันก็จะต้องไม่มีใครสามารถเข้าไปในบ้านได้ รวมทั้งคุณด้วย” หวังเต็งกล่าว
“ไม่มีปัญหา! มันสมเหตุสมผลอยู่แล้ว” ชายที่ดูหยาบกระด้างพยักหน้าและตอบโดยไม่ลังเล
ในที่สุดชายคนนั้นก็ไม่ขอเงินเพิ่ม เขารักษาคำพูดและคิดค่าเช่าบ้านหวังเต็งเดือนละ 5,000 และสิ่งนี้ก็ทำให้หวังเต็งมีความประทับใจที่ดีต่อชายผู้นี้
ค่าเช่าหนึ่งเดือนเป็นเงินมัดจำและค่าเช่าสามเดือนจ่ายตรงจุด
จากนั้นเขาก็ได้ลงนามในสัญญาเช่า
ชายที่ดุหยาบกระด้างหยิบกุญแจออกมาและส่งให้หวังเต็ง
“ถ้านายกังวล ฉันก็สามารถมอบกุญแจสำรองให้กับนายได้ ฉันอาศัยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก ถ้านายไม่รีบ นายก็สามารถรอรับมันได้” ชายที่ดูหยาบกระด้างชี้ไปที่ที่ดินที่สามารถมองเห็นได้จากที่นี่
เมื่อพวกเขาไปถึงถนนสายหลักและกำลังจะจากลากัน โทรศัพท์มือถือของชายที่ดูหยาบกระด้างก็ดังขึ้น
“ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่คือความรักของฉัน...”
ริงโทนที่เร่าร้อนและไร้การควบคุมดังก้องไปตามท้องถนน มันดึงดูดนักเรียนหลายคนที่เดินไปมาให้หันกลับมามอง
“ฮัลโหล ที่รักหรอ… โอเค โอเค ฉันจะกลับไปทันทีเลย… อะไรนะ? โอ้ ซื้อขวดซอสถั่วเหลืองมาด้วยหรอ? แน่นอนๆ ฉันจะไปซื้อทันทีเลย”
หวังเต็งมองไปที่ชายที่ดูหยาบกระด้างอย่างเฉยเมย ในวินาทีเดียว ท่าทีที่ดูองอาจและไม่เกรงกลัวก็ได้เปลี่ยนไปราวกับหนูเจอแมว หลังของเขาค่อมลงและน้ำเสียงของเขาก็ดูประจบประแจงเป็นพิเศษ
หลังจากนั้นไม่นาน ชายที่ดูหยาบกระด้างก็วางสายและถอนหายใจยาว
เขาจุดบุหรี่สูบเพื่อทำจิตใจให้สงบ
หลังของเขาเริ่มยืดตรงอีกครั้ง
“เฮ้อ ฉันเป็นผู้ชายที่มีบ้านตั้ง 18 หลังให้อยู่ แต่แล้วทำไมฉันถึงได้ตกไปอยู่ในน้ำมือของผู้หญิงคนเดียวกันนะ?”
หวังเต็ง: …
พี่ชาย ฉันคิดว่าคุณเพิ่งเปิดเผยบางสิ่งที่เลวร้ายมากออกมา!