บทที่ 44: ตัด
บทที่ 44: ตัด
วันอังคาร
หลังจากที่หวังเฉินกั๋วกลับมา หวังเต็งก็ไม่สามารถโดดเรียนได้แม้ว่าเขาจะต้องการแค่ไหนก็ตาม
หวังเต็งยัดไข่ลงในกระเป๋าของเขาแล้ววางมันลงในรถของเขาพร้อมกับอาวุธทั้งสอง เขาวางแผนที่จะเช่าบ้านพักข้างนอกในวันนี้
เขาจะหาบ้านพักเพื่อเอาไว้ซ่อนไข่!
หวังเต็งมาถึงโรงเรียนของเขาในไม่ช้า
หลังจากนั้นเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อตระหนักได้ว่ามันมีนักเรียนหลายคนกำลังศึกษา 'การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี' อยู่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าทุกคนบ้าแค่ไหน
แม้แต่หลินซัวหานเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เธอเรียนหนักมากราวกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน
การสอบเข้าหลักสูตรศิลปะการต่อสู้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา ดังนั้นแม้ว่ามันจะมีโอกาสน้อยมากแค่ไหนก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ต้องการที่จะยอมแพ้โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร
พวกเขาเต็มใจที่จะเดิมพันชีวิตของพวกเขาไปกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พวกเขาก็ต้องการที่จะลองดูสักครั้ง
หวังเต็งรู้สึกพอใจ
เมื่อมองดูฟองสบู่ค่าคุณสมบัติ “การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี” ที่เพื่อนร่วมชั้นดรอปออกมา หวังเต็งก็ให้กำลังใจพวกเขาอยู่อย่าเงียบๆ
หวังเต็งแสดงความชื่นชมต่อเพื่อนทุกคนในห้องเรียขณะที่ขาก็ไล่เก็บฟองสบู่ค่าคุณสมบัติไป
พวกนายทุกคนน่าทึ่งมาก!
ในเช้าวันเดียว หวังเต็งก็สามารถเข้าใจ 'การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี' ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกับซูเจี๋ยและเพื่อนคนอื่นๆของเขาแล้ว เขาก็ขับรถออกจากโรงเรียนไปในตอนบ่าย
เฉากังหู่และเฉากังเป่าเอ๋อกำลังรอเขาอยู่นอกประตูโรงเรียนมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ หลังจากไตร่ตรองมาตลอดทั้งคืน ในที่สุดเฉากังหู่ก็สามารถตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบากที่สุดได้
เขารอมานานแล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าบ่น
เฉากังเป่าเอ๋อกำลังนั่งอยู่บนขั้นฟุตบาตข้างถนนด้วยท่าทางที่ดูหดหู่และสิ้นหวัง มันสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องและความหดหู่ก็ปรากฎออกมาพร้อมกับควันที่พ่นออกไป
เมื่อรถของหวังเต็งขับรถออกไป เฉากังหู่ก็จำรถเขาได้ในทันที
“นายน้อยหวัง!” ดวงตาของเขาเป็นประกายในขณะที่เขาตะโกนอย่างเร่งรีบ
หวังเต็งกำลังจะขับรถออกไป แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ เขาก็เหยียบเบรกอย่างรวดเร็ว “โอ้ เป็นพวกแกนี่เอง”
เขาจอดรถข้างถนนแล้วก้าวลงมาจากรถ
“เป็นยังไงบ้าง? คิดได้แล้วหรอ?” หวังเต็งพูดคุยกับเฉากังหู่หลังจากลงจากรถ
“ตั้งแต่ที่กระผมได้สัญญากับนายน้อยหวังแล้ว กระผมก็ได้รีบคิดอย่างถี่ถ้วน” เฉากังหู่ยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่เขาตอบ
“ถ้าอย่างงั้น แล้วแกคิดยังไงล่ะ?” หวังเต็งถามด้วยความสนใจ เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเฉากังหู่
เฉากังหู่กัดฟันของมัน มันดูลังเลเล็กน้อยในนาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด มันก็กล่าวว่า “นายน้อยหวัง กระผมอาจจะไม่ใช่คนที่มีความสามารถหรือพละกำลังที่มากมาย แต่อย่างไรก็ตาม กระผมก็มีศิษย์นักสู้ขั้นเริ่มต้นและขั้นกลางหลายคนที่คอยติดตามอยู่...”
“ดังนั้นแล้วถ้านายน้อยไม่ว่าอะไร เราก็จะขอติดตามนายน้อยหวังไปตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
หวังเต็งตกตะลึง
ในตอนแรกเขาคิดว่าเฉากังหู่อาจจะยอมขายสมบัติทั้งหมดของมันทิ้งเพื่อเอาเงินมาให้เขา หรือไม่ก็จัดหาอาวุธรูนมาเพื่อให้เรื่องนี้มันจบไป
แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเฉากังหู่จะยอมลดเกียรติของตัวเองและผันตัวมาเป็นลูกน้องของเขา!
“พี่!” เฉากังเป่าเอ๋อตกตะลึง
มันเองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเฉากังหู่จะตัดสินใจเช่นนี้ ถ้าเฉากังหู่กลายเป็นลูกน้องของหวังเต็งจริงๆ งั้นมันก็จะไม่มีใครให้มันได้พึ่งพาในอนาคต
หวังเต็งกำลังใคร่ครวญอะไรบางอย่าง
พวกอันธพาลส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงศิษย์นักสู้ขั้นเริ่มต้นหรือไม่ก็ขั้นกล่างเท่านั้น และถึงแม้ว่าเฉากังหู่จะเป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูง แต่กลุ่มของมันก็ยังคงมีขนาดเล็กอยู่
แม้ว่าจะพูดอย่างงั้น แต่เขาก็สามารถเก็บพวกมันไว้ใต้ปีกของเขาได้!
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตอบเห็นด้วยในทันที เขากลับมองไปที่มันอย่างลำบากใจแทน
หัวใจของเฉากังหู่เต้นแรงเมื่อมันเห็นสิ่งนี้ มันดึงเฉากังเป่าเอ๋อที่อยู่ข้างๆเข้ามาและพูดว่า “เนื่องจากน้องชายของกระผมเป็นคนสร้างปัญหาทั้งหมดนี่ ดังนั้นกระผมก็จะขอตัดไข่ของมันทิ้งเพื่อเป็นการไถ่โทษให้แก่นายน้อยหวัง”
เฉากังเป่าเอ๋อเกือบจะฉี่รดกางเกงของมันด้วยความตกใจ
“พี่!”
“พี่เป็นพี่แท้ๆของฉันนะ!”
“ฉันไม่ได้ถูกเก็บมาจากข้างถนนนะ พี่จะมาตัดไข่ของฉันออกไปดื้อๆแบบนี้ไม่ได้!” เฉากังเป่าเอ๋อตะโกนเสีนงดังแล้วพยายามจะวิ่งหนีออกไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในปัจจุบันของมัน มันจึงไม่สามารถขัดขืนเฉากังหู่ที่เป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูงได้
หวังเต็งก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ตะ… ตัด!”
เขาฟื้นคืนสติหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจ้องไปที่เฉากังหู่ด้วยท่าทางแปลก ๆ
ถ้าสองคนนี้หน้าตาไม่เหมือนกัน เขาก็คงจะคิดว่าเฉากังเป่าเอ๋อนั้นถูกก็บมาจากข้างถนนจริงๆ
“แกไม่คิดว่าการตัดของๆมันออกนั้นมันจะรุนแรงเกินไปหน่อยหรอ?” หวังเต็งพึมพำ
เฮากังเป่าเอ๋อประทับใจมากจนเกือบจะร้องไห้เมื่อได้ยินหวังเต็งพูดแทนมัน มันพยักหน้าอย่างเร่งรีบ
“พี่ชาย ดูสิ แม้แต่นายน้อยหวังก็ยังคิดแบบเดียวกัน ได้โปรดยกโทษให้ฉันในครั้งนี้เถอะ”
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว!”
“ครั้งนั้นฉันตาบอดไป นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันมีความคิดที่ชั่วช้าต่อเพื่อนของนายน้อยหวัง ตอนนี้ฉันจะไม่คิดอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ฉันรู้ความผิดของฉันแล้ว...”
เฉากังหู่ไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็ได้พยักหน้า “ดูเหมือนว่าน้องชายของแกจะรับรู้ได้ถึงความผิดพลาดของเขาจริงๆ ถ้าอย่างงั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องตัดมันทิ้งแล้วล่ะ”
เฉากังหู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อมันฟังการสนทนาของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทันที
เฉากังเป่าเอ๋อรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก มันรู้ว่าหวังเต็งนั้นทำให้ความคิดพี่ชายที่คิดจะตัดไข่ของมันนั้นจบลง
แต่หวังเต็งก็หยุดชั่วคราวก่อนจะพูดต่อ “ฉันเป็นคนใจดีมีเมตตา ดังนั้นลดโทษลงมาเหลือตัดแค่ครึ่งหนึ่งก็พอ!”
เฉากังหู่: …
เฉากังเป่าเอ๋อ: ¥%%…*&&*#¥¥%¥…&
มึงมันปีศาจ!
หัวใจต้องดำขนาดไหนถึงมาตัดไข่กันได้!
ครึ่งหนึ่ง?
ตัดไข่กูไปข้างหนึ่ง!
ใบหน้าทั้งหมดของเฉากังเป่าเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีซีดเผือก มันมองไปที่หวังเต็งด้วยความงุนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหวังเต็งบอกว่าตัวเองมีเมตตาแต่กลับจะตัดไข่มัน
“นายน้อยหวัง ทำไมเราถึงไม่ตัดมันออกไปให้หมดเรื่องไปเลยล่ะ?”
เปลือกตาของเฉากังหู่กระตุกอย่างโกรธจัด เขาเตือนตัวเองอย่างต่อเนื่องว่าเขาจะต้องไม่ไปยั่วยุหวังเต็งในอนาคต
ตัดไข่…
พูดออกมาได้ไง เฮ็งซวย!
เฉากังเป่าเอ๋อรู้สึกกลัวจนพูดไม่ออก
โลกช่างน่ากลัวเหลือเกิน! แม่ผมอยากกลับบ้าน!
หวังเต็งสังเกตว่าคำพูดของเขาได้ผลตามที่ต้องการ ดังนั้นเขาจึงหยุดทำให้เฉากังเป่าเอ๋อหวาดกลัว เขาตบไหล่มันและพูดว่า “เอาล่ะ ฉันแค่ขู่แกเล่น อย่าไปสร้างปัญหาอีกในอนาคตล่ะ ไม่อย่างงั้นแกก็อาจจะไม่ได้โชคดีเจอคนมีเมตตาอย่างฉัน”
เฉากังเป่าเอ๋อเงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่น่ายินดี มันจะไม่ถูกตัดไข่จริงๆใช่ไหม?
“แต่ถ้าแกยังทำผิดซ้ำซากอีก ฉันก็จะจัดการแกเอง!” หวังเต็งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ จากนั้นเขาก็เพิกเฉยต่อเฉากังเป่าเอ๋อและกลับเข้าไปในรถของเขา เขาสตาร์ทเครื่องยนต์และเตรียมจะจากไป
“นายน้อยหวัง ไม่ทราบว่านายน้อยคิดอย่างไรบ้างกับข้อเสนอของกระผม” เฉากังหู่ตะโกนถามอย่างกะทันหัน
“ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ฉันตรวจสอบภูมิหลังของพวกมันเสร็จก่อน หากเป็นไปตามข้อกำหนดของฉัน เราก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง”
หวังเต็งตอบออกไปอย่างสบายๆ จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป
หลังจากที่รถแล่นออกไปไกล เฉากังเป่าเอ๋อก็ถามพี่ชายของมันอย่างระมัดระวังว่า “พี่ชาย พี่จะไม่ตัดไข่ฉันจริงๆใช่ไหม?”
“ไอ้โง่ แกอยากโดนตัดไข่มากนักรึยังไง? มันมีแต่แกเท่านั้นแหละที่คิดว่าฉันจะตัดไข่แก ดุนายน้อยหวังสิ เขาสามารถมองผ่านสถานการณ์ออกได้ในพริบตา และที่เขาพูดแบบบนั้น เขาก็แค่ต้องการทำให้แกกลัวก้เท่านั้น” เฉากังหู่จ้องไปทั่นขณะที่เขาตอบ
เฉากังเป่าเอ๋อคุ้นเคยกับการดุนี้ดี ดังนั้นมันจึงไม่สนใจในครั้งนี้เช่นกัน เขาเพียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและตบหน้าอกของพี่ชาย “ฉันกลัวแทบตายแหนะพี่ชาย!”
“ไอ้นี่!” เฉากังหู่เตะน้องชายของเขาอย่างไม่พอใจ
เฉากังเป่าเอ๋อกระโจนไปด้านข้างอย่างชำนาญและหลบลูกเตะ มันหัวเราะเยาะและถามอีกครั้งว่า “พี่ชาย ต่อจากนี้ไปเราจะต้องรับคำสั่งจากเขาจริงๆหรอ?”
“หากเราติดตามนักสู้แล้วล่ะก็ มันก็จะต้องมีอนาคตที่สดใสยิ่งกว่าการติดตามศิษย์นักสู้อย่างแน่นอน นอกจากนี้เขาก็ยังเป็นนักสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นแกก็คิดเอาเองละกันว่าอนาคตของเรานั้นจะสดใสขนาดไหนหากได้ติดตามเขา” เฉากังหู่ตอบอย่างลึกซึ้ง