บทที่ 409
กลิ่นหอมจากเนื้อสัตว์อสูรย่างและกลิ่นสมุนไพรที่นำมาทำอาหารโชยออกไปจากบริเวณด้านหน้าของจวนเจ้าเมืองผู้คนที่เหลือต่างเข้ามาร่วมงานเลี้ยง ภายในห้องโถงใหญ่จวนเจ้าเมืองปรากฏม่านพลังสีฟ้าครอบเอาไว้ เนี่ยฟงนั่งครุ่นคิดบางอย่างอยู่กลางห้องล้อมรอบไปด้วย เตียวมู่ถัง ชวี่ซง ซินหยาง เก่อคัง กงหลี่ กงซาน หยุยเหลย ต้วนไห่ ส่วนคนที่เหลือช่วยแป๊ะซือทำอาหารด้านนอก ชั่วน้ำเดือดเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมา
“คืนนี้พวกลัทธิสวรรค์ต้องบุกมาที่นี่อย่างแน่นอน พี่ชายแซ่กงทั้งสองรบกวนเฝ้าที่ประตูด้านหน้าหากมีอะไรผิดปกติรีบแจ้งข้าผ่านแผ่นหยก ส่วนที่เหลือแสร้งทำเป็นเมามายกับสุรา ข้าคิดว่าที่นี่ต้องมีคนของลัทธิสวรรค์แฝงตัวมาแน่นอน อาจจะเป็นคนที่อยู่ในจวนเจ้าเมืองเอง อีกอย่างที่ข้าต้องแจ้งให้พวกท่านทราบคือหากจัดการกับลัทธิสวรรค์เสร็จสิ้นจะมีพวกเราสองคนเป็นเจ้าเมืองที่นี่เพื่อรอรับคนจากแดนเถื่อน”
เนี่ยฟงสะบัดมือขวานำแผ่นหยกออกมายื่นให้แก่ทุกคน
“คุณชายท่านแน่ใจได้อย่างไร ว่าคนพวกนั้นจะเข้าร่วมกับเรา”
“เรื่องนั้นง่ายมากขอรับพี่ชายมู่ถัง ข่าวที่เราจัดการกับลัทธิสวรรค์จะเป็นสิ่งที่นำพาพวกเขาเข้าร่วมกับเราเอง”
หลายคนที่ได้ยินต่างพยักหน้าตอบรับ
“เจ้ามีความมั่นใจมากแค่ไหนที่จะจัดการกับลัทธิสวรรค์”
“ข้ามีความมั่นใจหกส่วน สองส่วนขึ้นอยู่กับตระกูลลู่และอีกสองส่วนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ”
หยุยเหลยถึงกับขมวดคิ้ว
“ตระกูลลู่ข้าคงพอจะเดาได้แต่สภาพอากาศที่เจ้าว่าข้าไม่เข้าใจ”
“เมื่อไหร่ที่พายุฝนกระหน่ำเราจะบุกขึ้นเขาอู่เทียนปิง”
“เหตุใดต้องให้พายุฝนกระหน่ำ”
“เขาอู่เทียนปิงเป็นเทือกเขาสูงที่ตั้งของพวกมันอาจจะอยู่บนยอดเขาแน่นอนว่าจำนวนคนที่อยู่ที่นั้นต้องมีจำนวนมาก ทักษะและพลังปราณที่ข้าถ่ายทอดให้แก่พวกท่านมีพลังสายฟ้าอยู่ มันจะแสดงพลังออกมาได้มากที่สุดเมื่อตอนมีน้ำเป็นสื่อกลาง พี่ชายทั้งหมดจ้องมองมาที่มือข้า”
เนี่ยฟงยกมือขวาขึ้นมาแบเอาไว้พร้อมกับโคจรลมปราณไปที่มือขวา ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทันใดนั้นเองได้มีก้อนน้ำปรากฏออกมา ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากก้อนน้ำรุนแรงมากยิ่งกว่าเดิม หลังจากนั้นเขาก็สลายพลัง
“พี่ชายทั้งหลายคงเห็นแล้ว หากมีสายฝนหรือน้ำพวกท่านจะเป็นดั่งพยัคฆ์ติดปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายซินหยางและพี่ชายเก่อคังที่มีทักษะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว”
เนี่ยฟงยกยิ้มสะบัดมือขวาสลายม่านพลัง ทันใดนั้นเองเป็นแป๊ะซือก้าวเดินเข้ามาในห้องโถง
“อาหารเตรียมพร้อมแล้วเชิญคุณชายด้านนอก”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มหันไปมองเตียวมู่ถัง
“รบกวนพี่ชายมู่ถังแจ้งต่อพี่ชายซือด้วยขอรับถึงสิ่งที่เราพูดคุยกัน”
ไม่นานหลังจากที่ทุกคนออกมาถึงลานด้านหน้าผู้คนมากมายต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ลู่ไป๋เหมยก้าวเดินออกมาพร้อมกับชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหญ่
“คุณชายเนี่ยฟง หัวหน้าตระกูลของข้ามีบางอย่างจะกล่าวต่อท่าน”
เนี่ยฟงยกยิ้มก้มศีรษะคารวะ
“ข้าน้อยเนี่ยฟงคารวะหัวหน้าตระกูลลู่ขอรับ”
“ข้าลู่ไป๋เฟิงหวงต้องขอบคุณคุณชายสำหรับเม็ดยาและขอบคุณสำหรับการจัดการกับเจ้าเมือง”
“ไม่เป็นไรขอรับ เชิญพวกท่านที่งานเลี้ยงเถอะขอรับ คนของข้าจัดเตรียมที่นั่งเอาไว้ให้พวกท่านแล้ว”
“ขอบคุณคุณชายเนี่ยฟง”
เนี่ยฟงหันไปมองซินหยาง
“พี่ชายซินหยาง รบกวนพาผู้อาวุโสลู่ไป๋เฟิงหวงและแม่นางลู่ไป๋เหมยไปที่โต๊ะด้วยขอรับ”
หลังจากที่กลุ่มของตระกูลลู่เดินจากไป ก็ได้มีบรรดาชาวเมืองเข้าขอบคุณเนี่ยฟงอีกเป็นจำนวนมาก ในระหว่างนั้นเองเนี่ยฟงตรวจพบรังสีแห่งการฆ่าฟันพุ่งออกมาจากชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งที่นั่งโต๊ะทางซ้ายมือ เขาจึงเอ่ยวาจาผ่านลมปราณให้แก่คนของตน
“พี่ชายทั้งหมด จับตาดูชายที่สวมชุดสีเทาที่นั่งโต๊ะทางซ้ายมือให้ดี หากเดาไม่ผิดคนผู้นี้อาจเป็นคนจากลัทธิสวรรค์”
งานเลี้ยงยังดำเนินไปจนย่างเข้ายามไฮ่ผู้คนต่างเริ่มเมามายจากสุรา ในจังหวะนั้นเองชายฉกรรจ์สวมชุดสีเทาลุกขึ้นมาแอบเดินเข้ามาทางด้านหลังของเนี่ยฟงที่ยืนคุยอยู่กับชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ไม่ถึงสองลมหายใจชายผู้นั้นสะบัดมือขวากำชับมีดสั้นจ้วงแทงเข้ามาจากด้านหลัง ทันใดนั้นเองชายผู้นั้นถึงกับตื่นตกใจมีดสั้นในมือหักก่อนที่จะถึงเสื้อที่สวมใส่ เนี่ยฟงรีบหมุนตัวจี้สกัดจุดเคลื่อนไหวใช้มือขวาคว้าจับที่ลำคอกระชากลงพื้น เปรี้ยง!!
“คิดจะสังหารข้าอย่างนั้นรึ”
สิ้นเสียงกล่าวเขารีบใช้มือซ้ายคว้าจับใบมีดที่หักจ้วงแทงไปที่หน้าอกด้านซ้ายบริเวณหัวใจ เขารีบปลดแหวนพร้อมกับตรวจสอบภายในแหวนพบแผ่นยันต์สีเหลืองสามใบ
“พี่ชายมู่ถังเตรียมคนของเราให้พร้อมพวกมันคงใกล้มาถึงแล้ว”
สิ้นเสียงกล่าวแผ่นหยกของแต่ละคนก็สว่างขึ้นเป็นกงหลี่แจ้งข่าวมาว่า ตรวจพบกองกำลังของลัทธิสวรรค์มุ่งหน้ามาที่เมือง เนี่ยฟงหันไปมองรอบด้าน
“ทุกท่านตอนนี้มีคนจากลัทธิสวรรค์กำลังบุกมาที่นี่ พวกท่านไม่ต้องตกใจกินดื่มกันอยู่ที่นี่เถอะ คนของข้าจะดูแลที่นี่เอง”
ไม่นานเนี่ยฟงสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือจวนเจ้าเมือง ไม่นานก็กลายเป็นโดมครอบทั้งหมดเอาไว้
“ขอเพียงพวกท่านอยู่ที่นี่จะปลอดภัย”
ทันใดนั้นเองเป็นลู่ไป๋เหมยรีบวิ่งเข้ามา
“คุณชายเนี่ยฟงแล้วคนที่อยู่ที่ตระกูลข้าจะปลอดภัยหรือไม่”
“แม่นางลู่ไป๋เหมยไม่ต้องเป็นกังวลพวกท่านสามารถนำคนที่เหลือมาหลบอยู่ที่นี่ได้”
เนี่ยฟงหันไปมองรอบด้านอีกครั้ง
“พวกท่านด้วยเช่นกัน สามารถนำคนที่ยังอยู่ที่บ้านมาหลบภัยที่นี่ได้ อาหารและสุราเรายังคงมีเหลืออีกมากนัก”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงสะบัดมือขวาปรากฏเนื้อสัตว์อสูรและสุรากองใหญ่
“รบกวนพี่ชายแป๊ะซือแล้วขอรับ”
ไม่นานเนี่ยฟงก็ได้นำคนทั้งหมดไปที่ด้านหน้าของเมือง
“ทหารทุกคนขึ้นไปประจำการที่กำแพงเมือง พวกท่านอย่าออกไปด้านนอก ให้คอยระวังอย่าให้พวกมันหลุดเขามาในเมืองได้ ส่วนพวกท่านที่เหลือออกไปกับข้าด้านนอก”
เมื่อเนี่ยฟงออกมาด้านนอกก็พบสองพี่น้องแซ่กงยืนอยู่
“พวกมียอดฝีมือแปดคนส่วนที่เหลืออีกนับพันเป็นผีดิบและสัตว์อสูรขอรับคุณชาย”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“เอาเป็นว่าพวกท่านที่เข้าร่วมประชุมทั้งแปดคนมีหน้าที่สังหารยอดฝีมือทั้งแปดส่วนที่เหลือจัดการพวกผีดิบ”
สิ้นเสียงกล่าวปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าที่ด้านหลังของเนี่ยฟงไม่นานมันกลายเป็นปีกขนาดใหญ่ แน่นอนผู้คนที่พบเห็นล้วนตื่นตกใจ
“พวกท่านไม่ต้องกังวลเมื่อจัดการที่นี่เสร็จข้าจะมอบปีกให้พวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะจัดการพวกมันอย่างรวดเร็ว อย่าพึ่งรีบลงมือ รอสัญญาณจากข้า”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงถีบเท้าปีกด้านหลังสะบัดเขาพุ่งทะยานขึ้นบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เขาสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นออกไปรอบกาย ไม่นานวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมาบนมีดสั้นสายฟ้าพุ่งหากันกลายเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ ท้องฟ้าเริ่มมีเฆมดำปรากฏพร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำราม ด้านล่างฝูงผีดิบปรากฏกายพร้อมกับหมอกควันสีม่วง เนี่ยฟงสะบัดมือขวากำชับดาบในมือเตรียมพร้อม เมื่อฝูงผีดิบพุ่งผ่านไปเขาฟาดฟันดาบในมือลงด้านล่าง ปราณดาบสีฟ้าหกเล่มพุ่งปะทะฝูงผีดิบด้านล่าง เปรี้ยง! ตูม! กลุ่มของเตียวมู่ถังถีบเท้าพุ่งทะยานเข้าปะทะ เนี่ยฟงยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้าจ้องมองไปที่ด้านล่างเพื่อรอเวลา เกือบครึ่งเค่อสายฝนก็กระหน่ำตกลงมา ไม่นานเขาก็แสยะยิ้มพุ่งทะยานเข้าไปในเมือง หัวหน้าหน่วยรักษาประตูเมืองรีบเข้ามาต้อนรับ
“คุณชาย”
เนี่ยฟงยกมือขวาห้าม
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว ท่านจงนำกำลังคนมาพร้อมกับข้า ไปจับคนของลัทธิสวรรค์ที่กำลังแฝงตัวอยู่ที่จวนเจ้าเมือง”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงสะบัดมือขวาถือขวดบางอย่างอยู่ในมือขวา เข้าใช้มือซ้ายฉีกเสื้อผ้าที่สวมใส่พร้อมกับเทบางอย่างไปที่เสื้อผ้ามันเป็นเลือดสัตว์อสูร
“พวกท่านแค่นำตัวข้ากลับไปที่จวน แล้วแจ้งทุกคนว่าข้าบาดเจ็บสาหัส”
“ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าคนพวกนั้นจะหลงกล”
“แน่นอนคนพวกนั้นเห็นความสามารถของข้าแล้วพวกมันต้องลงมือแน่”
ไม่นานเนี่ยฟงก็ถูกพาตัวกลับไปที่จวนเจ้าเมือง ผู้คนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตื่นตกใจ ลู่ไป๋เหมยรีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“รบกวนแม่นางลู่ไป๋เหมยหลีกทางก่อนขอรับ คุณชายเนี่ยฟงได้รับบาดเจ็บหนักใกล้ตาย ข้าต้องนำตัวเขาเข้าไปรักษา”
แป๊ะซือและคนที่เหลือต่างรีบเข้ามารับร่างของเนี่ยฟงเข้าไปด้านในห้องโถงของจวนเจ้าเมือง