บทที่ 407
ตูม! เสียงน้ำสาดกระเซ็น เนี่ยฟงต้องเร่งโคจรลมปราณทั่วร่างป้องกันความเย็นที่แทงเฉียบพลันเข้ามาในร่างกาย เขาหรี่ตามองลูกแก้วสีฟ้าที่แผ่ไอเย็นออกมา ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวาเข้าไปที่ลูกแก้ว ไม่ถึงครึ่งลมหายใจลูกแก้วพุ่งหายเข้ามาที่มือขวาอย่างรวดเร็ว วูบ.. ร่างกายเนี่ยฟงสั่นสะท้านผิวหนังเริ่มปริแตกพร้อมกับเลือดไหลซึมออกมา ทันใดนั้นเองรอบกายปรากฏม่านพลังสีทองออกมาครอบทั่วร่าง เขากัดฟันนั่งเร่งโคจรลมปราณเพื่อดูดซับพลังปราณธาตุน้ำในลูกแก้ว ดาบทั้งหกเล่มสั่นสะท้านดูดพลังปราณอย่างบ้าคลั่ง ดาบเล่มที่เจ็ดเริ่มส่องแสงออกมาบ้างแล้ว ชั่วน้ำเดือดน้ำในบึงกลายเป็นน้ำแข็งจนหมด
ผ่านไปสองวันน้ำในบึงเริ่มละลาย ซากศพราชาอสรพิษถูกสัตว์อสูรกัดกินจนหลงเหลือเพียงโครงกระดูก เนี่ยฟงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขาสัมผัสได้ถึงกลุ่มคนจำนวนมากพุ่งเข้ามายังบึง
“ไอ้หนู เจ้าโชคดีไม่น้อยที่ได้พลังธาตุน้ำมาอยู่ในร่าง ตลอดสองวันเจ้าคงลำบากไม่น้อย เจ้ารีบหาสมบัติอีกชิ้นหนึ่งเถอะก่อนที่คนพวกนั้นจะมาถึง”
เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นเขาตื่นตกใจไม่น้อย เขาสะบัดมือขวานำกระบี่ขาวจักรพรรดิออกมา ทันใดนั้นเองมันพุ่งออกจากมือขวาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง! กระบี่ขาวจักรพรรดิพุ่งปักไปที่ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง เนี่ยฟงรีบพุ่งไปตรวจสอบพบเห็นกล่องขนาดเล็กแอบฝังอยู่ในก้อนหิน เขารีบคว้าจับไปที่กระบี่ขาวจักรพรรดิเก็บเอาไว้ในแหวนพร้อมกับหินก้อนนั้น หลังจากนั้นเขารีบพุ่งทะยานขึ้นมาจากบึงก็พบกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบสามสิบคนปรากฏตัวด้านหน้า เนี่ยฟงแผ่ลมปราณจากร่างเขาเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มเริ่มแห้งอย่างรวดเร็ว
“คนของลัทธิสวรรค์มีอยู่ทุกที่เสียยิ่งกว่าแมลงวัน ดีข้าจะให้พวกเจ้าเป็นหุ่นทดสอบพลังใหม่ของข้า”
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่มือขวาปรากฏน้ำก้อนกลม ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือออกมาพร้อมกับประกายสายฟ้าเขาสะบัดซัดน้ำในมือออกไป มันแตกกระจายกลายเป็นเข็มขนาดเล็กพุ่งเข้าหากลุ่มชายฉกรรจ์ด้านหน้า ทันใดนั้นเองมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งพุ่งทะยานออกมายืนด้านหน้าเขาสะบัดมือขวานำไม้เท้าจ้วงแทงลงพื้น ปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงกลายเป็นม่านป้องกัน เนี่ยฟงแสยะยิ้มสร้างก้อนน้ำในมือซัดออกไปโจมตีอีกครั้ง ทันทีที่เข็มสายฟ้าชุดแรกปะทะม่านพลังสีแดงก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เข็มสายฟ้าชุดที่สองจึงพุ่งเข้าสังหารกลุ่มชายฉกรรจ์ เสียงร้องโหยหวนดังลั่นออกมาทั่วทั้งป่า ชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าลงไปดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดเข็มสายฟ้าพุ่งจมหายไปในร่างกายสายฟ้าโจมตีจากภายในร่างกาย
เสียงสะบัดมือดังแว่วเนี่ยฟงถือมีดสั้นสองเล่มเอาไว้ในมือ เขารีบเร่งโคจรลมปราณไปที่มีดทั้งสองเล่ม ใบมีดซ้ายมือกลายเป็นสีแดงจากความร้อนจากธาตุไฟ ส่วนในมือขวาใบมีดกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ที่น่าแปลกใจคือมีดทั้งสองเล่มมีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาด้วยเช่นกัน เขาจ้องมองมีดสั้นในมือด้วยความแปลกใจ ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงโยกตัวไปทางซ้ายหลบปราณทวนที่พุ่งเข้ามา เขาแสยะยิ้มถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว คมมีดทั้งสองกรีดผ่านร่างกายของชายฉกรรจ์ ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งตกตายด้วยความทรมานจากบาดแผลที่หน้าอกมีรอยเผาไหม้จากปราณธาตุไฟและสายฟ้า ส่วนอีกผู้หนึ่งตกตายด้วยบาดแผลที่หน้าอกมีน้ำแข็งเกาะอยู่ เสียงตวาดดังลั่นออกมาจากชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง กลุ่มคนที่เหลือต่างพุ่งทะยานหลบหนี
“เมื่อคิดสังหารข้า ก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกสังหาร พวกเจ้าคิดหนีไปที่ใด”
เนี่ยฟงกระทืบเท้าขวาลงพื้น เปรี้ยง! เขาใช้ทักษะจิตแห่งเทพมังกรแผ่ออกไปรอบกาย ชายฉกรรจ์ที่เหลือต่างนิ่งค้างเหงื่อเย็นไหลผ่านลงด้านหลังตามด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด หลังจากสังหารกลุ่มคนทั้งหมด มีดสั้นในมือทั้งสองก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ร่วงลงพื้น เนี่ยฟงทำได้แต่ถอนหายใจเขารีบพุ่งเข้าไปปลดแหวนออกมาจากซากศพพร้อมกับทะยานออกไปอย่างเร่งรีบ
เนี่ยฟงเร่งเดินทางเขาใช้เวลาเกือบแปดวันก็ถึงเมืองขนาดใหญ่ด้านหน้า ด้านหลังมองเห็นเขาอู่เทียนปิงไกล ๆ เมื่อเดินทางมาถึงสภาพด้านหน้าของเมืองถูกทำลายจากการปะทะ ซากศพและชิ้นส่วนเกลื่อนพื้นบางแห่งมีสัตว์อสูรกำลังกัดกินซากศพ ด้านบนกำแพงมีทหารสวมชุดเกราะและชาวยุทธ์มากมายยืนอยู่
ทันทีที่เนี่ยฟงก้าวเดินเข้ามาในพื้นที่ด้านหน้าของเมือง ทหารเกือบสิบนายพุ่งทะยานออกจากประตูเมืองล้อมตัวเนี่ยฟงเอาไว้ ทหารนายหนึ่งกำชับดาบในมือแน่นก้าวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“เจ้าเป็นใครกันไอ้หนู เหตุใดถึงเดินทางมาที่นี่”
“ข้าเป็นเพียงนักเดินทาง ที่คิดจะเดินทางไปที่แคว้นหลี่ข้าสอบถามได้หรือไม่ เหตุใดที่นี่ถึงมีสภาพเช่นนี้”
“ข้าว่าชีวิตนี้เจ้าคงเดินทางไปแคว้นหลี่ไม่ได้เสียแล้วไอ้หนู เส้นทางที่เจ้าจะผ่านคือพื้นที่ของพวกลัทธิสวรรค์ อย่างที่เจ้าได้เห็นสภาพโดยรอบของที่นี่เกิดจากคนจากลัทธิสวรรค์บุกโจมตี”
เนี่ยฟงก้มหน้าครุ่นคิด
“เช่นนั้นข้าขอเข้าไปพักในเมืองได้หรือไม่”
“ข้าขอบอกต่อเจ้าก่อนสภาพของเมืองนี้ไม่ต่างจากเมืองร้างผู้คนส่วนใหญ่ต่างอพยพออกไปจากเมืองเกือบหมดแล้ว หากเจ้าไม่กลัวว่าคืนนี้พวกลัทธิสวรรค์จะบุกที่นี่ก็เชิญ”
สิ้นเสียงกล่าวทหารนายนั้นก็หลีกทางให้ เนี่ยฟงก้มคารวะพร้อมก้าวเดินเข้าไปด้านใน เมื่อเข้ามาด้านในสภาพบ้านเรือนใกล้กำแพงเมืองถูกปรับเป็นเป็นที่พักของทหารและชาวยุทธ์ กระโจมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลังเป็นโรงหมอมีทหารและชาวยุทธ์จำนวนไม่น้อยที่กำลังรักษาตัวอยู่ เนี่ยฟงเดินเท้าเข้าไปด้านในเมืองบริเวณลานกว้างกลางเมือง โดยรอบลานกว้างมีชาวเมืองจำนวนมากนั่งรอคอยบางอย่าง ทันใดนั้นเองมีเสียงเคาะระฆังดังลั่น ชาวเมืองส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ต่างออกมายืนต่อแถวในมือกำถ้วยกระเบื้องเคลือบเอาไว้จนแน่น ไม่นานได้มีกลุ่มคนสวมชุดสีเขียวก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับเกวียนลากสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่บรรทุกหม้อขนาดใหญ่ ทันทีที่เกวียนลากสัตว์อสูรหยุดลง กลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดสีเขียวหลายสิบคนช่วยกันแบกหม้อลงมาด้านล่าง ทันทีที่ฝาหม้อถูกเปิดออกกลิ่นอาหารโชยมาตามสายลม ผู้คนที่เหลือต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ ไม่นานได้มีกลุ่มหญิงสาวก้าวเดินออกมาตักอาหารในหม้อแจกแก่ทุกคน ระหว่างนั้นเองได้มีเสียงตวาดดังมาจากด้านหลัง
“หลีกทางไอ้ลูกหมา คิดว่าทางเดินที่นี่เป็นของเจ้าอย่างนั้นรึ”
เนี่ยฟงหันหลังไปมองพบกลุ่มชายฉกรรจ์สี่คนสวมชุดสีฟ้าก้าวเดินเข้ามา
“ข้าบอกให้เจ้าหลีกทางให้แก่พี่ใหญ่เฟิงเหวินไอ้ลูกหมา”
สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งที่มีรอยแผลตรงแก้มพุ่งทะยานเข้ามาพร้อมกับต่อยหมัดขวา เนี่ยฟงรีบยกแขนทั้งสองขึ้นมากันพร้อมกับถีบเท้าถอยออกไปด้านหลังชนกับกำแพงบ้านหลังหนึ่ง
“สวะเช่นเจ้าสมควรแล้ว”
ไม่นานกลุ่มคนทั้งสี่คนก้าวเดินเข้าไปบริเวณที่หญิงสาวแจกอาหาร ชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนฉุดกระชากชาวบ้านออกมาจากจากแถวแล้วเข้าไปต่อแถวแทน เนี่ยฟงหรี่ตามองได้แต่ส่ายศีรษะไปมา เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ ใช้ฝ่ามือทั้งสองปัดฝุ่นตามเสื้อผ้าก้าวเดินเข้าหาชายฉกรรจ์ทั้งสี่ ชายฉกรรจ์ผู้มีรอยแผลที่แก้มหันไปมองด้านหลังพบเห็นชายหนุ่มที่เขาพึ่งต่อยไปก้าวเดินเข้ามา
“ข้าคงสั่งสอนเจ้าไม่ดีพอสินะไอ้ลูกหมา”
สิ้นเสียงกล่าวชายผู้นั้นต่อยหมัดขวาออกมา เนี่ยฟงยกมือซ้ายคว้ารับพร้อมกับบิดออกด้านข้างต่อยหมัดขวาไปที่คอหอยอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง! เขากระชากมือซ้ายใช้ร่างของชายฉกรรจ์ด้านหน้าต้านรับเท้าขวาของชายอีกผู้หนึ่ง เปรี้ยง! เขารีบปล่อยมือซ้ายใช้มือขวาคว้าจับหมัดขวาหมุนตัวบิดไปด้านหลังใช้มือซ้ายคว้าจับไปที่ต้นคอ เตะเท้าขวาไปที่หัวเข่าด้านขวา เปรี้ยง! กดศีรษะชายด้านหน้าลงพื้นดิน เขาซัดฝ่ามือขวาไปที่พื้น เปรี้ยง! กระโดดม้วนหน้าถีบเท้าขวาไปที่หน้าอกชายฉกรรจ์อีกคนที่พุ่งเข้ามา เปรี้ยง! กระเด็นไปด้านหลังเนี่ยฟงหันไปยกยิ้มให้กับชายฉกรรจ์นามเฟิงเหวิน
“เจ้าคงมีนามว่าเฟิงเหวินสินะ เจ้าจะออกไปต่อแถวด้านหลังหรือจะให้ข้าทุบตีเจ้า”
“อวดดีนักคิดว่าเจ้าเป็นใคร ข้าเป็นหลานชายของเจ้าเมืองที่นี่”
เนี่ยฟงผายมือทั้งสองข้างออกมา
“แล้วอย่างไร เจ้าเป็นหลานเจ้าเมืองจริงรึเหตุใดถึงทำตัวบัดซบเช่นนี้เล่า ดูจากฐานะของเจ้าคงไม่จำเป็นต้องมาต่อแถวเพื่อรับอาหารที่นี่ ผู้คนที่นี่ได้รับความลำบากมามากพอแล้วเจ้ายังคิดจะสร้างความลำบากให้แก่พวกเขาอีกรึ”
“หุบปากของเจ้า”
เฟิงเหวินกล่าวยังไม่ทันสิ้นเสียง เนี่ยฟงถีบเท้าเข้าประชิดต่อยหมัดขวาเข้าไปที่ใบหน้าอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง! ใบหน้าสะบัดเฟิงเหวินกระเด็นออกไปนอนกองบนพื้น