บทที่ 406
ยอดเขาอู่เทียนปิงด้านบน ภายในห้องศาลาแปดเหลี่ยมมีชายชราผู้หนึ่งรูปร่างผอมแห้งดวงตามืดบอดหลังค่อมสวมชุดสีเทาในมือถือไม้เท้า ยืนจ้องมองหม่าซือเทียนที่ตอนนี้นั่งกำหมัดทั้งสองมือแน่นด้วยความด้วยความตื่นตกใจ ไม่นานเสียงเอ่ยวาจาจากชายชราดังแว่วขึ้นมาอีกครั้งหม่าซือเทียนถึงกับลุกขึ้นยืนตัวสั่นสะท้าน
“เป็นจริงอย่างที่ท่านเหอชิงหนานกล่าวหรือไม่ หากข้าจัดการยึดพื้นที่แห่งนี้ข้าจะได้รับพลังจากองค์เทพ”
“แน่นอน องค์เทพไม่เคยโกหกผู้ใด เจ้าดูแคว้นแห่งหลี่เป็นตัวอย่างเถอะ หากคิดต่อต้านองค์เทพอีกไม่นานสงครามคงใกล้จบแล้วเจ้ารีบเตรียมกำลังคนของเจ้าเถอะ”
สิ้นเสียงกล่าวของเหอชิงหนานมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งรีบพุ่งเข้ามาในศาลาอย่างเร่งรีบ เขารีบก้มคารวะทั้งสองพร้อมกับเอ่ยวาจาด้วยเสียงหอบเหนื่อย
“เรียนท่านประมุข ท่านผู้นำฝ่ายซ้ายถูกสังหารที่สำนักจันทร์เสี้ยวขอรับ”
“ตาแก่เจินหมิงผู้นี้มีฝีมือไม่น้อย”
“หาได้เป็นฝีมือของตาเฒ่าเจินหมิงขอรับ เป็นฝีมือของชายหนุ่มผู้หนึ่ง หากข้าเดาไม่ผิดคนผู้นี้ต้องมีนามเนี่ยฟงขอรับ มันผู้นี้ด้วยเช่นกันที่เป็นคนสังหารตาเฒ่าเจินหมิง”
เหอชิงหนานได้ยินนามเนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วก้มหน้าครุ่นคิดบางอย่าง ส่วนหม่าซือเทียนแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“หนูสกปรกตัวนี้มีความสามารถไม่น้อย ในที่สุดตัวบัดซบนั้นก็ปรากฏตัวเสียที สั่งคนของเราล้อมมันไว้ข้าจะออกไปสังหารมันเอง”
“ขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์รีบก้มคารวะทั้งสองพุ่งทะยานออกไปจากศาลาแปดเหลี่ยม
“เด็กน้อยนามเนี่ยฟงผู้นี้มีชะตาที่แปลกประหลาดข้าไม่สามารถตรวจสอบมันผู้นี้ได้”
“ท่านไม่ต้องกังวลคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่มันได้มองเห็นแสงจันทร์ ข้าจะเป็นคนสังหารหนูสกปรกตัวนี้เอง ท่านรอฟังข่าวดีเถอะขอรับ”
“ดี ตัวข้าคงหมดธุระที่นี่แล้ว เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อนยังมีอีกหลายคนที่ข้าต้องไปแจ้งข่าว”
หม่าซือเทียนรีบก้มคารวะ
“เดินทางปลอดภัยขอรับผู้อาวุโส”
ทันทีที่หม่าซือเทียนเงยหน้าขึ้นมาเหอชิงหนานได้หายไปจากศาลาแปดเหลี่ยมแล้ว ไม่ถึงสองลมหายใจมีหญิงสาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหม่าซือเทียนแต่ทว่าเสียงเอ่ยวาจาที่ดังออกมากับเป็นเสียงชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง
“ท่านประมุขเงาสังหารพร้อมลงมือแล้วขอรับ”
“ดี เจ้านำกำลังคนทั้งหมดออกไปสังหารหนูสกปรกนั่น ข้าจะปิดด่านเพิ่มพลังปราณ อีกไม่นานข้าจะยึดครองพื้นที่แห่งนี้ให้หมด”
“ขอรับท่านประมุข”
รุ่งเช้า เนี่ยฟงนั่งตรวจสอบแหวนที่ได้รับมาเขาพบเจอบางอย่างเป็นแผ่นหนังม้วนหนึ่งที่มีตราประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปิดผนึกเอาไว้อย่างดี เขาแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปิดผนึกเมื่อเปิดม้วนหนังออกมาพบว่ามันคือแผนที่บางอย่างแต่ที่น่าแปลกใจคือมันมีรูปวาดของกระบี่ขาวจักรพรรดิพร้อมอักษรโบราณเขียนอยู่ด้านข้าง เนี่ยฟงทำการแปลอักษรโบราณจึงได้รับรู้ว่ามันคือแผนที่สมบัติที่ต้องใช้กระบี่ขาวจักรพรรดิเป็นตัวหาที่ซ่อน ทันใดนั้นเองเขารีบเก็บม้วนหนังเอ่ยวาจาออก
“พี่ชายทั้งสองข้าพบแผนที่สมบัติเราจะเดินทางไปที่นั่นก่อน แต่ทว่าตอนนี้มีกลุ่มคนล้อมเราเอาไว้ พวกท่านรีบจัดการเถอะหากเสร็จสิ้นแล้วเราจะเร่งเดินทาง”
“ขอรับคุณชาย”
สิ้นเสียงกล่าวซินหยางและเก่อคังจางหายไปอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นออกไปสิบเล่มหลังจากนั้นเขาหลับตาโคจรลมปราณทั่วร่างสะบัดมือขวาไปมา ไม่นานเขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังแว่วไม่ถึงครึ่งเค่อซินหยางและเก่อคังพุ่งทะยานเข้ามา เนี่ยฟงลืมตาขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม
“เดินทางกันเถอะขอรับ”
เนี่ยฟงใช้เวลาถึงสามวันเดินทางลัดเลาะไปตามแม่น้ำใหญ่ข้ามเขาอีกสองลูกจึงมาพบบึงขนาดใหญ่กลางหุบเขา รอบบึงมีสมุนไพรพิษหลากหลายชนิดขึ้นเป็นกลุ่ม เนี่ยฟงเดินตรวจสอบพบรอยเท้าสัตว์อสูรขนาดใหญ่และรอยพบรอยบางอย่างถูกลากลงไปในบึง เขารีบเอ่ยวาจาออกมา
“พี่ชายทั้งสองพวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ บึงแห่งนี้มีสัตว์อสูรปกครองอยู่”
เนี่ยฟงรีบพาทั้งสองออกห่างจากบึงเกือบสองลี้
“พวกเราพักอยู่ที่นี่ก่อนคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเราจะออกไปสำรวจที่บึงกัน”
ย่างเข้ายามจื่อทั้งสามรีบพุ่งทะยานขึ้นไปแอบบนกิ่งไม้ใหญ่ เสียงย่ำเท้าหนัก ๆ ของสัตว์อสูรตัวใหญ่จำนวนไม่น้อยมุ่งหน้าไปที่บึง เนี่ยฟงยกยิ้มหันไปมองซินหยางและเก่อคังพร้อมกับสะบัดมือขวาซัดแผ่นหินไปที่ใต้ต้นไม้สามแผ่นพร้อมกับยื่นแผ่นหินอีกสองแผ่นให้แก่ทั้งสอง
“แผ่นหินสำหรับหลบหนี พวกท่านเพียงโคจรลมปราณไปที่แผ่นหินมันจะนำท่านมาที่นี่”
หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็พาทั้งสองพุ่งทะยานไปตามกิ่งไม้มุ่งหน้าไปที่บึง กลิ่นเหม็นสาบจากฝูงสัตว์อสูรวานรขนแดงนับสิบตัวยืนล้อมอยู่ด้านข้างของบึง ไม่ถึงสามลมหายใจมีบางอย่างโผล่ออกมาจากบึงเป็นอสรพิษตัวใหญ่เกร็ดสีเขียวสะท้อนแสงจันทร์ มันจ้องมองฝูงวานรด้วยดวงตาแดงก่ำ ไม่นานการปะทะของสองสัตว์อสูรก็เกิดขึ้นมันเป็นการสังหารเพียงผู้เดียวไม่ถึงหนึ่งเค่อฝูงวานรขนแดงถูกจัดการจนหมด ซากศพถูกลากลงไปในบึง ชั่วน้ำเดือดมีแสงสีเขียวพวยพุ่งออกมาจากบึงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ พลังปราณมหาศาลแผ่ออกมาจากบึงกดดันทั้งสาม เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วแผ่ลมปราณออกจากร่างสลายแรงกดดันเขาหันไปมองซินหยางและเก่อคัง
“พี่ชายทั้งสองรีบหนีไปจากที่นี่ก่อนขอรับ หากพบเจอคนของเราให้พวกท่านรวมกลุ่มกันไว้ข้าจะติดตามไปทีหลัง”
“รักษาตัวด้วยขอรับคุณชาย”
สิ้นเสียงกล่าวทั้งสองเร่งโคจรลมปราณไปที่แผ่นหินไม่ถึงสองลมหายใจทั้งสองก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณทั่วร่างเตรียมพร้อม เขาถีบเท้าพุ่งทะยานลงจากกิ่งไม้ก้าวเดินเข้าไปที่บึง ตูม! เกิดเสียงระเบิดดังลั่นที่กลางบึงทันใดนั้นเองมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งก้าวเดินขึ้นมาจากบึง ร่างกายสูงใหญ่สวมเพียงกางเกงตัวเดียว เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจเมื่อเห็นเกร็ดสีเขียวคล้ายอสรพิษขึ้นที่ผิวหนัง
“ไม่คิดว่าจะมีมนุษย์มาที่นี่ นานหลายปีแล้วที่ข้าไม่ได้พบเจอ”
ชายฉกรรจ์หันไปมองเนี่ยฟงพร้อมกับพุ่งทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็ว ชายฉกรรจ์เอียงตัวไปทางซ้ายเตะเท้าขวาออกมา เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วรีบก้มตัวหลบ พลังปราณพุ่งออกจากเท้าขวาปะทะต้นไม้ด้านหลัง เปรี้ยง! ตูม!! ถึงกับหักโค่นลง
“รวดเร็วนักไอ้หนู จงภูมิใจเถอะที่เจ้าจะตกตายเพราะราชาอสรพิษเช่นข้า”
เนี่ยฟงกระทืบเท้าซ้ายพุ่งเข้าประชิดต่อยหมัดซ้ายเข้าไปที่ใบหน้าอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง! ราชาอสรพิษกระเด็นออกไปชนกับต้นไม้เสียงดัง โครม!
“เหตุใดท่านถึงชอบเอ่ยวาจานัก ราชาอสรพิษหรือราชาหนอนกันแน่”
ตูม! เสียงระเบิดดังลั่นราชาอสรพิษก้าวเดินออกมาพร้อมร่างกายมีแต่เกร็ดสีเขียว
“ข้าจะสังหารเจ้า”
เนี่ยฟงยกมือซ้ายขึ้นกวักเรียก
“อย่าเอ่ยวาจาให้มากความขอรับ”
ราชาอสรพิษระเบิดพลังปราณออกมาควันสีเขียวที่แฝงด้วยพิษร้ายพวยพุ่งออกมา ต้นหญ้าโดยรอบแห้งเหี่ยวตายด้วยพิษ เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่มือทั้งสองเขายกขึ้นมาตบที่ด้านหน้า เปรี้ยง! พลังปราณพัดควันพิษสีเขียวจางหายไปอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นออกไปสามเล่มพร้อมกับพุ่งติดตาม ราชาอสรพิษร้องคำรามตวัดมือทั้งสองปัดป้องมีดสั้นสามเล่ม เนี่ยฟงก้มตัวหลบมือขวาที่จ้วงแทงเข้ามา เขาสะบัดมือขวากำชับดาบในมือตวัดออกไป ราชาอสรพิษถีบเท้าถอยออกไปด้านหลัง ปราณดาบสีฟ้าปะทะต้นไม้ใหญ่ด้านหลังเสียงดังสนั่น เปรี้ยง! เนี่ยฟงใช้ทักษะจิตแห่งเทพมังกรถีบเท้าขวาโยกมาทางซ้ายฟาดฟันดาบในมือไปที่หน้าอกอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง! คมดาบกรีดไปที่หน้าอกเป็นแผลเหวอะหวะเลือดพุ่งกระฉูดราชาอสรพิษกระเด็นร่วงไปในบึง
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่ดาบในมือเตรียมพร้อม ตูม! ราชาอสรพิษร่างสัตว์อสูรพุ่งออกมาจากบึง มันเลื้อยรอบตัวเนี่ยฟงเอาไว้ตรงกลางมันพ่นพิษสีเขียวออกมาจากปาก เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับพิษ เนี่ยฟงแสยะยิ้มจ้วงแทงดาบลงพื้น ปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าออกมาที่พื้นสายฟ้าพุ่งออกมารัดตัวราชาอสรพิษอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานพร้อมเตะเท้าขวาไปที่ปากด้านล่าง เปรี้ยง! เขาเหยียบเกราะสายฟ้าเป็นฐานกระหน่ำต่อยหมัดทั้งสองไปที่ร่างกายของราชาอสรพิษ เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เกร็ดสีเขียวกระเด็นร่วงลงพื้น นานนับสิบลมหายใจรอยสักที่แขนซ้ายสว่างวาบเนี่ยฟงแสยะยิ้มต่อยหมัดซ้ายออกไป เปรี้ยง! มือซ้ายหายเข้าไปในร่างราชาอสรพิษ เขากระชากแขนซ้ายดึงบางอย่างออกมาโยนลงพื้น ราชาอสรพิษดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้นเขาหรี่ตามองเห็นบางอย่างสะท้อนแสงจันทร์ออกมาจากบึงเป็นก้อนกลมดุจไข่มุก ราชาอสรพิษรีบสะบัดศีรษะฟาดเนี่ยฟงกระเด็นร่วงลงพื้น
“เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ ข้าอยากรู้นักว่าสิ่งใดกันที่อยู่ในบึง”
“หุบปากของเจ้าซะ มันคือสมบัติของข้าเจ้าไม่มีสิทธิ์ครอบครอง”
“ผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ”
เนี่ยฟงพุ่งไปที่ดาบเขากระชากออกมาจากพื้น วงอักขระศักดิ์สิทธิ์จางหายไปราชาอสรพิษพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว เขาถีบเท้าซ้ายหลบออกไปทางขวาทันทีที่ราชาอสรพิษพุ่งผ่านเขาจ้วงแทงดาบในมือออกไปพร้อมกับถีบเท้าพุ่งทะยานไปด้านหน้า ปลายดาบจ้วงแทงเข้าไปลำตัวหายเข้าไปเกือบครึ่งกรีดผ่านร่างกายไปจนถึงหาง เนี่ยฟงหาได้สนใจราชาอสรพิษเขาพุ่งทะยานลงไปในบึงอย่างรวดเร็ว