บทที่ 405
เนี่ยฟงรีบปลดแหวนในมือของจางซือจวิน เขาหันไปมองซินหยางและเก่อคัง ทั้งสองพยักหน้าถีบเท้าเร่งติดตามเนี่ยฟงออกไปจากเมือง ทันทีที่ทั้งสามมาถึงด้านหน้าของประตูเมือง ซากศพของทหารกองเกลื่อนพื้น กลิ่นเหม็นสาบโชยออกมาจากซากศพ เนี่ยฟงรีบแผ่ลมปราณออกจากร่างเพื่อตรวจสอบเขาถึงกับขมวดคิ้ว หันไปมองซินหยางและเก่อคังเขาสะบัดมือขวานำแผ่นป้ายไม้ออกมายื่นให้แก่ซินหยาง
“พี่ชายทั้งสองกลับไปที่สำนักจันทร์เสี้ยวอีกครั้ง รบกวนท่านมอบป้ายไม้ให้แก่ผู้อาวุโสเจินหมิงแจ้งเขาว่า เร่งอพยพคนออกมาจากเมืองให้เร็วที่สุดตอนนี้มีฝูงปีศาจจากลัทธิ์สวรรค์กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่”
เนี่ยฟงสะบัดมือซ้ายออกไปด้านข้างมีดสั้นสามเล่มพุ่งหายไปในเงามืดไม่ถึงครึ่งลมหายใจได้ยินเสียงบางอย่างร่วงลงพื้น เก่อคังขมวดคิ้วถีบเท้าเขาไปตรวจสอบพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง
“เป็นคนจากลัทธิ์สวรรค์จริงขอรับคุณชาย”
ซินหยางรีบคว้าแผ่นไม้เก็บเอาไว้ในแหวน
“รบกวนพี่ชายทั้งสองรีบไปแจ้งข่าวเถอะ หากเสร็จสิ้นแล้วรีบกลับมาช่วยข้าที่นี่”
“ขอรับคุณชาย”
สิ้นเสียงกล่าวทั้งสองถีบเท้าพุ่งทะยานกลับเข้าไปในเมืองอีกครั้ง เนี่ยฟงสะบัดมือขวาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าเอาไว้ด้านหน้าทางเขาประตูเมืองทับซ้อนกันถึงสี่วงหลังจากนั้นเขาถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปด้านหน้าของเมือง เสียงสะบัดมือดังแว่วเขากำชับดาบในมือแน่นจ้องมองไปด้านหน้ามองเห็นกลุ่มควันสีเทาถูกพัดเข้ามาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน พยัคฆ์ตัวใหญ่สองตัวก้าวเดินออกมาจากม่านกลุ่มควัน เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจร่างกายของมันทั้งสองคล้ายดั่งซากศพมองเห็นซี่โครงและกระดูกบางส่วนโผล่ออกมา ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองมาทางตนอย่างไม่วางตา พยัคฆ์ตัวหนึ่งทางขวามือกระทืบเท้าหน้าด้านซ้ายไปลงยังจุดที่เนี่ยฟงยืนอยู่ ตูม! ฝุ่นควันฟุ้งกระจายพยัคฆ์ทั้งสองหาได้สนใจสิ่งใดมันก้าวเดินเข้ามาในเมือง ไม่ถึงสามลมหายใจศีรษะของพยัคฆ์ทั้งสองก็ร่วงลงพื้น
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่ดาบประกายสายฟ้าพุ่งออกมารอบใบดาบเขาฟาดฟันดาบออกไปในแนวขวาง ปราณดาบสีฟ้าขนาดใหญ่พุ่งหายเข้าไปในกลุ่มควัน เปรี้ยง! ปราณดาบปะทะบางอย่างเสียงดังลั่นกลุ่มควันถูกพัดไปตามแรงปะทะมองเห็นฝูงซากศพสัตว์อสูรและมนุษย์ถูกฟันขาดกระเด็นเกลื่อนพื้น ทันใดนั้นเองมีบางอย่างพุ่งลงมาจากท้องฟ้า เนี่ยฟงหรี่ตาจ้องมองเห็นเป็นไม้เท้ารูปร่างคดงอมีหัวกระโหลกขนาดเล็กอยู่ด้านบน ไม่ถึงสามลมหายใจปรากฏดวงตาสีแดงก่ำที่หัวกระโหลกควันสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากดวงตาพุ่งไปยังซากศพที่เกลื่อนพื้น เนี่ยฟงกำชับดาบในมือแน่นเร่งโคจรลมปราณเตรียมพร้อม ชั่วน้ำเดือดซากศพเริ่มขยับตัวอีกครั้ง ร่างกายที่ขาดออกจากกันเริ่มกลับมารวมกันอีกครั้งจากควันสีม่วง
เปรี้ยง!! ปราณดาบสีฟ้าห้าเล่มพุ่งทะยานปะทะม่านพลังสีม่วงที่ปรากฏออกมาต้านรับจากไม้เท้า ไม่นานไม้เท้าเริ่มลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าปรากฏชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งผิวขาวผมยาวถึงกลางหลังสวมชุดสีดำที่ขาดหลุดลุ่ย เสียงเอ่ยวาจาดังแว่วออกมาเป็นเสียงเล็กแหลมแสบแก้วหู
“เด็กน้อยเช่นเจ้า คิดขัดขวางกองกำลังผีดิบของข้าอย่างนั้นรึ”
เนี่ยฟงหาได้กล่าวสิ่งใดตอบถีบเท้าเหยียบเกราะสายฟ้าพุ่งทะยานเข้าประชิดชายฉกรรจ์ด้านหน้า ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบในมือ เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เสียงปะทะดังลั่น เนี่ยฟงขมวดคิ้วฟาดฟันดาบในมือลงไปด้านล่างปราณดาบห้าเล่มพุ่งลงไปสังหารผีดิบด้านล่าง เปรี้ยง! เปรี้ยง! ชายฉกรรจ์แสยะยิ้มฟาดหวดไม้เท้าในมือ เนี่ยฟงหมุนตัวตวัดดาบในมือต้านรับ เคร้ง! ควันสีม่วงพวยพุ่งออกมาบดบังด้านหน้า ชายฉกรรจ์ซัดฝ่ามือซ้ายเกราะสายฟ้าปรากฏออกมาสกัด เปรี้ยง! เนี่ยฟงใช้มือซ้ายคว้าจับไปที่ข้อมือขวาบิดกระชากพร้อมกับตวัดดาบในมือ ฉับ! คมดาบวาดผ่านแขนขวาขาดเลือดสีแดงพุ่งกระฉูด เนี่ยฟงรีบหมุนตัวโยนแขนของชายฉกรรจ์ทิ้งจ้วงแทงดาบ ปลายดาบทะลุออกไปด้านหลัง เขารีบกระชากดาบออกมาตวัดตัดศีรษะของชายฉกรรจ์ ทันใดนั้นเองเสียงร้องคำรามดังลั่นมาจากด้านล่างเมื่อหันไปมองพบเห็นกองกำลังผีดิบกำลังคุ้มคลั่งพุ่งเข้าหาเมืองอย่างรวดเร็ว
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่ดาบในมือพร้อมกับซัดดาบไปยังด้านหน้าของเมือง ทันทีที่ดาบแทงลงพื้นดินประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาเป็นม่านพลังป้องกันที่ประตูเมืองสายฟ้าพุ่งออกมาจากม่านพลังเผาทำลายผีดิบที่เข้ามาปะทะ เนี่ยฟงสะบัดมือขวากระบี่ขาวจักรพรรดิพุ่งทะยานลงไปด้านล่าง ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากกระบี่ขาวจักรพรรดิกลายเป็นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดใหญ่ สายฟ้าและเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าโจมตี เสียงปะทะดังสนั่น เหล่ายอดฝีมือจำนวนไม่น้อยจากงานชุมนุมพุ่งทะยานมายังด้านหน้าของเมือง เนี่ยฟงรีบลงมาด้านล่างสะบัดมือขวาเก็บกระบี่ขาวจักรพรรดิพร้อมกับสลายม่านพลัง ไม่ถึงสิบลมหายใจเจินหมิงและยอดฝีมือมาถึงด้านหน้าของเมือง เสียงเอ่ยวาจาดังแว่วด้วยความหวาดกลัวดังมาจากชายผู้หนึ่งด้านหลังเจินหมิง
“เป็น.. เป็นเขาขอรับผู้อาวุโสเจินหมิง เขาเป็นคนที่ข้าแจ้งต่อท่าน”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วเพราะคนที่เอ่ยวาจาออกมาเป็นฉางหยาง เจินหมินหาได้กล่าวสิ่งใดก้าวเดินเข้ามา เขาหันไปมองรอบด้านพร้อมกับยกยิ้ม
“ข้าต้องขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่”
“เรื่องเล็กน้อยขอรับ อีกอย่างข้ากำลังจะออกจากเมืองคงไม่รบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
เนี่ยฟงรีบก้มคารวะทันใดนั้นเขาก็พบว่าเจินหมิงแผ่ลมปราณออกมากดดัน
“เจ้ายังไปไหนไม่ได้ไอ้หนู หากเจ้ายังไม่คืนสมบัติของสำนักจันทร์เสี้ยวมาก่อน”
“สมบัติใดขอรับ”
ฉางหยางแสยะยิ้มก้าวเดินออกมาด้านหน้า
“กระบี่ขาวจักรพรรดิสมบัติของสำนักจันทร์เสี้ยวอยู่ที่เจ้า ข้าเห็นมากับตาว่าเจ้าใช้มันสังหารกองทัพผีดิบ”
เนี่ยฟงหรี่ตามองไปที่ฉางหยาง
“หากข้าไม่มอบมันให้กับพวกเจ้าละ”
สิ้นเสียงกล่าวมีคนของสำนักจันทร์เสี้ยวพุ่งเข้าจับกุมซินหยางและเก่อคัง เมื่อเห็นเช่นนั้นเนี่ยฟงถึงกับหัวเราะดังลั่น เขาสะบัดมือขวานำกระบี่ขาวจักรพรรดิออกมาถือ
“ของชิ้นนี้ใช่ของที่เจ้าต้องการหรือไม่”
ฉางหยางแสยะยิ้มก้าวเดินออก
“ใช่ มันคือสมบัติของเจ้าสำนักรุ่นแรกของสำนักจันทร์เสี้ยว หากเจ้าไม่มอบมันให้ข้าคงรู้นะว่าเพื่อนของเจ้าจะเป็นเช่นไร”
เนี่ยฟงยกยิ้มหันไปมองซินหยางและเก่อคังพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“ในเมื่อคนของสำนักจันทร์เสี้ยวต้องการสังหารพวกท่าน เช่นนั้นก็มอบความตายให้แก่พวกเขาเถอะพี่ชายทั้งสอง”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่เท้าขวา เขากระทืบลงพื้น เปรี้ยง! พลังปราณที่เจินหมิงแผ่ออกมากดดันสลายหายไปอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงรีบแผ่ลมปราณออกมากดดัน คนของสำนักจันทร์เสี้ยวทั้งหมดลงไปคุกเข่ากับพื้น ส่วนยอดฝีมือคนอื่นต่างถีบเท้าถอยหลบหนีออกไปด้านหลัง ซินหยางและเก่อคังสะบัดมือขวากำชับอาวุธในมือไล่สังหารคนของสำนักจันทร์เสี้ยวทีละคนท่ามกลางสายตาของยอดฝีมือนับไม่ถ้วน เนี่ยฟงก้าวเดินเข้าหาฉางหยางอย่างช้า ๆ
“คุณชายฉางหยางเมื่อไม่กี่วันก่อนหากไม่มีข้าอยู่ที่นั่นท่านคงต้องตกตายไปแล้ว วันนี้ท่านพบเจอข้าไม่แม้แต่จะเอ่ยวาจาขอบคุณ ท่านยังคิดต้องการของของข้าอีก ส่วนท่านผู้อาวุโสเจินหมิงตัวท่านเป็นถึงผู้อาวุโสยังไม่ทันได้สอบสวนอันใดก็ใช้กำลังบังคับข้า ท่านรู้หรือไม่หากไม่มีข้าอยู่ที่นี่ สำนักของท่านคงถูกจัดการจนสิ้นจากสำนักพยัคฆ์ชิงฟานไปแล้ว ส่วนอาวุธชิ้นนี้ข้าคงมอบคืนให้แก่พวกท่านไม่ได้”
ฉางหยางตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองชายหนุ่มด้านหน้า มีเพียงเจินหมิงและผู้อาวุโสของสำนักอีกสี่คนที่พยายามลุกขึ้นโดยการเร่งโคจรลมปราณต้านรับ เนี่ยฟงเห็นว่าตอนนี้ซินหยางและเก่อคังสังหารคนของสำนักจันทร์เสี้ยวเกือบหมดหลงเหลือเพียงไม่กี่คน
“ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางต่อแล้วขอรับพี่ชายทั้งสอง ส่วนที่เหลือให้สวรรค์เป็นผู้กำหนดก็แล้วกันขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปไม่ถึงครึ่งลมหายใจซินหยางและเก่อคังก็ถีบเท้าพุ่งติดตาม ไม่ถึงสิบลมหายใจกระบี่ขาวจักรพรรดิพุ่งลงมาจากท้องฟ้าปักลงพื้นดินด้านหน้าฉางหยางประกายสายฟ้าพุ่งออกจากกระบี่ขาวจักรพรรดิกลายเป็นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดใหญ่ สายฟ้าและเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าโจมตี เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! หลังจากนั้นไม่นานกระบี่ขาวจักรพรรดิพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทิ้งไว้เพียงซากศพของคนจากสำนักจันทร์เสี้ยวท่ามกลางยอดฝีมือที่ยืนนิ่งค้างด้วยความหวาดกลัว