[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 107 ไพ่ใบสำคัญของตระกูลหม่า
ตอนที่ 107 ไพ่ใบสำคัญของตระกูลหม่า
ในสถานที่ก่อสร้างซึ่งการก่อสร้างอยู่ในระหว่างหยุดชั่วคราว หมาเหล่าเอ้อและลุงหลิวจื่อพยุงเสี่ยวลิ่วเดินโซเซผ่านรั้วเหล็ก เมื่อพวกเขากำลังจะเข้าอุโมงค์ เสียงฝีเท้าวิ่งกันวุ่นวายก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“หมาเหล่าเอ้อ แกยังวิ่งได้อยู่หรือเปล่า?” ฉิงจื่อหาววิ่งไล่เขาจากด้านข้างพร้อมปืนในมือพร้อมตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ถ้าไม่ ฉันกำลังไปกระทืบแกแล้ว”
“ทางนี้คุณฉิง”
“เห็นพวกมันอยู่แถวปากอุโมงค์”
“…!”
เสียงตะโกนจากลูกน้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นทีละคนเช่นกัน
เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวของฝ่ายตรงข้าม หมาเหล่าเอ้อวางเสี่ยวลิ่วลงไว้ข้างรางเหล็กซีเมนต์ขนาดใหญ่ แล้วหันกลับมาบอกลุงหลิวจื่อ “ลุงจื่อ พาเสี่ยวลิ่วลงไปในอุโมงค์”
“ปัง ปัง!”
ฉิงจื่อหาวยิงปืนเข้าไปในอุโมงค์ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีเพียงเส้นทางเดียวของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่หลังรั้วเหล็ก และเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องตามไป
ถัดจากรางปูนซีเมนต์ หมาเหล่าเอ้อและลุงหลิวจื่อยิงโต้กลับ แต่อีกฝ่ายเพียงยิงเพื่อสกัดกั้นพวกเขาไม่ให้เดินหน้าได้และไม่โผล่หัวออกมาให้เห็นหรือมีทีท่าว่าจะบุกมาข้างหน้าแต่อย่างใด
ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายก็มาอยู่ในทางตันภายในไม่ถึงยี่สิบวินาที หมาเหล่าเอ้อชะเง้อมองแล้วหันกลับมาบอกลุงหลิวจื่อ “ลุงจื่อ แบ่งกระสุนสำรองฉันหน่อย”
ลุงหลิวจื่อถูกยิงสองครั้งที่แขนซ้ายและขาขวา เขาเริ่มหมดแรงแล้ว และสูญเสียความสามารถขั้นพื้นฐานในการเคลื่อนไหวไป เขานอนอยู่บนพื้นและตอบด้วยสีหน้าสิ้นหวัง “ฉัน...ฉันเหลือกระสุนสองนัดเท่านั้น...ใช้หมดแล้ว”
หมาเหล่าเอ้อตกตะลึง
ทันทีที่เสียงปืนหยุดลง ฉิงจื่อหาวก็นั่งยองๆ ข้างรั้วเหล็กแล้วตะโกนว่า “แกมีเส้นทางอื่นอีกไหม ที่จะหนีโดยที่ฉันตามไปไม่ได้?”
ไม่มีใครในสถานที่ก่อสร้างตอบสนอง
ฉิงจื่อหาวเลียริมฝีปากของเขา หันกลับมาชี้ไปที่ลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์คนหนึ่งและสั่งว่า “เอาลูกน้องอีกสองคน เข้าไปดูว่าพวกมันยังเตรียมกระสุนอยู่หรือเปล่า”
ลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และทำได้แค่สั่งเพื่อนอีกสองคนอย่างทื่อๆ จากนั้นทั้งสามก็ก้มลงรอดเข้าไปในรั้ว
ชายทั้งสามปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าใส่พร้อมกับปืนเตรียมยิง หมาเหล่าเอ้อและลุงหลิวจื่อนั่งอยู่บนพื้นโดยไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ
“ไอ้เวรเอ๊ย อย่าขยับ ยกมือขึ้น” ลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์ตะโกนพร้อมปืนจ่อใส่
“ขยับ? ใครจะขยับไปไหนกัน?”
“ให้ตายห่า ฉันจะกระทืบแกให้ตายคาตีน!”
เด็กหนุ่มอีกสองคนมีความโมโหอยู่แล้ว พวกเขายกด้ามปืนขึ้นและทุบหัวและใส่หน้าหมาเหล่าเอ้อและลุงหลิวจื่ออย่างบ้าคลั่ง พวกลูกน้องระดับล่างเหล่านี้ที่มาร่วมงานกับฉิงจื่อหาว มักจะมีอารมณ์หดหู่อยู่ในใจเสมอ ทุกคนกลัวความตาย แต่เจ้านายอย่างฉิงจื่อหาว รับผิดชอบแค่การจ่ายเงินให้เท่านั้น เขาไม่สนใจชีวิตหรือความตายของลูกน้องเลย และหากพวกเขายอมแพ้และหยุดทำงานนี้ ชีวิตในปัจจุบันของพวกเขาก็จะเคว้งคว้างไร้อนาคต ดังนั้นสถานการณ์ของคนกลุ่มนี้จึงไม่ได้ดีไปกว่าสถานการณ์ของพี่น้องชนชั้นล่างที่เจ็บป่วยบนถนนถู่จ้าเท่าไหร่เลย
หมาเหล่าเอ้อและลุงหลิวจื่อถูกทุบตีจนหัวเต็มไปด้วยเลือด พวกเขาขดตัวและกลิ้งตัวไปบนหิมะ ดิ้นไปมาตามแรงกระแทกของมือแล้วและเท้าจากพวกสมุนที่อัดอั้นในความอับจนของพวกตนเองแท้ๆ ดูน่าสังเวชใจเป็นอย่างมาก
ฉิงจื่อหาวรออยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรดังมาจากด้านในอีก เขาก็โบกมือและตะโกนบอกลูกน้องที่เหลืออีกสองคนทันที “พวกแกสองคนตามเข้าไปก่อน เร็ว!”
ทั้งสองมองหน้ากันและรีบเข้าไปในสถานที่ก่อสร้าง ฉิงจื่อหาวเดินตามหลังลูกน้องและตะโกนเสียงดัง “ค้นตัวพวกมัน หยิบโทรศัพท์และอะไรที่อยู่กับตัวมันมา รีบๆ หน่อย”
ขณะที่ลูกน้องสองคนได้ยินเสียงคำสั่งนั้นหัวใจก็แทบหยุดเต้น ลูกน้องคนอยู่หน้าก้มเล็กน้อยตะโกนสั่งเสียงสั่น “ยกมือขึ้น”
ทันทีที่หมาเหล่าเอ้อได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะค้นตัวเขา เขาก็กำหมัดซ้ายรวบรวมพลังอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว คว้าปืนที่ซ่อนอยู่ข้างรางปูนออกมา แล้วเหนี่ยวไกปืนจนสุดด้วยความรู้สึกล้วนๆ โดยไม่ต้องเล็ง
“ปังง!...”
เมื่อเสียงปืนดังขึ้น สะบักซ้ายของฉิงจื่อหาวก็แตกออกเลือดพุ่งกระเซ็นซ่าน และเขาก็เสียหลักถอยกลับไปสองสามก้าว ในเวลาเดียวกัน เขาก็เอียงร่างกายหลบไปทางขวาโดยสัญชาตญาณทันที
“ปังง!”
เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้น และลูกน้องหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าฉิงจื่อหาว ถูกยิงเข้าที่หน้าอกและหงายหลังล้มลงกับพื้นสิ้นใจทันที
“กริ๊ก!”
เสียงเหนี่ยวไกปืนเปล่าดังขึ้นเพราะกระสุนหมดแล้ว หมาเหล่าเอ้อลุกขึ้นยืนด้วยแววตาแห่งความโกรธเกรี้ยว ถือมีดสั้นไว้ในมือซ้าย และตะโกนว่า “ข้าจะถลกหนังแก! เป็นตายช่างแม่งมัน!”
“จับมันไว้สิ”
ฉิงจื่อหาวแตะแขนของเขาตรวจดูบาดแผลตนเองแล้วกระโดดลุกขึ้นพร้อมคำราม
“ปัง ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และหมาเหล่าเอ้อก็ถูกยิงที่ขาขวาและล้มลงไปนอนบนพื้น
“ถ้าขยับอีกฉันจะฆ่าแก” ลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์ชี้ปืนไปที่หัวของหมาเหล่าเอ้อแล้วตะโกน
“ไอ้ระยำเอ๊ย!” หมาเหล่าเอ้อพุ่งเข้าแทงเขาด้วยมีด “ฆ่าข้าให้ตายเลยสิวะ!”
ขาของลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์ถูกมีดบาดเหวอะหวะ แต่เขาไม่กล้าฆ่าหมาเหล่าเอ้อ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเอาด้ามปืนตีเขาที่หัวหมาเหล่าเอ้ออย่างแรง
เมื่อความสนใจของทุกคนมุ่งไปที่หมาเหล่าเอ้อ ทันใดนั้น เสี่ยวลิ่วที่เลือดโทรมเต็มตัวพร้อมมีดในมือขวาก็กระโดดโผล่มาจากมุมหนึ่งลงไปหาฉิงจื่อหาว
ฉิงจื่อหาวถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความตื่นตระหนก และรีบยกปืนขึ้นในฉับพลัน
“สวบ!”
ฉิงจื่อหาวหลบไปด้านข้าง ปลายมีดของเสี่ยวลิ่วก็เสียบเข้ากระดูกสะโพกด้านข้างของฉิงจื่อหาวทันที
“ไปนรกด้วยกันเถอะ” เสี่ยวลิ่วผลักฉิงจื่อหาวด้วยมือซ้าย แล้วชักมีดออกมาแทงเขาอีกครั้ง
“ปังปัง!”
ฉิงจื่อหาวยิงเสี่ยวลิ่วสองนัดในระยะเผาขน หัวใจของเสี่ยวลิ่วมีเลือดออก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาเดินเซถอยหลังไปสามหรือสี่ก้าว ก้มมองลงไปที่รูกระสุนบนหน้าอก และบ่นพร้อมเลือดที่ทะลักออกมาจากปากและจมูกของเขา “เช้า...เช้า…เย็น…”
“โครม!”
เสี่ยวลิ่วล้มลงนอนหงายบนพื้น กระตุกไปทั้งตัว และหันหน้าไปมองหมาเหล่าเอ้อ
“เสี่ยวลิ่ว!” หมาเหล่าเอ้อสะเทือนใจและถูกผลักลงไปที่พื้นและร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
ลุงหลิวจื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสและนอนอยู่ข้างรางซีเมนต์ เขาหลับตาและแตะมีดสั้นที่เอวของเขา “หนึ่ง... ไปด้วยกัน”
ถัดจากรั้วเหล็ก ฉิงจื่อหาวแตะปากกระบอกปืนของเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว จ้องมองไปที่หมาเหล่าเอ้อที่เข้ามาใกล้อย่างว่างเปล่า “พวกแกทุกคนไม่เกี่ยวออกไปให้พ้น”
ลูกน้องหนุ่มฉกรรจ์ได้ยินเช่นนั้นจึงเข้าแย่งมีดจากมือของหมาเหล่าเอ้อ และชกหมาเหล่าเอ้อหงายหลังล้มไปแล้วเขาเอาเท้าเข้าไปเหยียบหน้าอกหมาเหล่าเอ้อไว้ ในขณะที่คนอื่นๆ ที่เหลือค่อยหลบถอยไป
“ยิงฉัน แกกล้ายิงฉันเหรอ?” แม้ตอนนี้เขาจะบาดเจ็บไม่น้อย แต่อารมณ์ของฉิงจื่อหาวนั้นยังคงบ้าคลั่งและดุร้าย เขามองลงไปที่หมาเหล่าเอ้อแล้วแหกปากตะโกน
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร หา?!”
“พั้วะพั้วะ!”
ฉิงจื่อหาวยกด้ามปืนลูกซองยาวขึ้น และกระแทกใบหน้าของหมาเหล่าเอ้ออย่างต่อเนื่อง
“ถ้าฉันไม่มาที่นี่เพื่อจับเฒ่าหม่า คิดว่าแกจะยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เหรอ? หา!”
“พั้วะพั้วะ!”
“ไอ้สัตว์นรก พวกแกมันก็แค่กลุ่มคนเลว ชนชั้นต่ำ หนอนที่อาศัยอยู่ในกองขยะ แกต่อสู้กับฉัน และแย่งงานของฉัน กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้!”
“พั้วะพั้วะ!”
“……!”
หลังจากถูกกระแทกอย่างหนักกว่าสิบครั้ง กระดูกดั้งจมูกของหมาเหล่าเอ้อก็ยุบลง ฟันกรามของเขาก็แตกออก และมุมปากของเขาก็ฉีกเปิดออก เขาไม่ดูเหมือนมนุษย์อีกต่อไป
ฉิงจื่อหาวอ้าปากค้างหมดแรงขณะถือปืน จ้องไปที่ดวงตาของหมาเหล่าเอ้อแล้วตะโกน “แหกตามองสิ เงยหน้าขึ้น”
หมาเหล่าเอ้อเงยหน้าขึ้นอย่างว่างเปล่า “...ฉันแพ้แล้ว...ไม่มีอะไรจะพูด...แต่ไม่ช้าก็เร็ว แกจะตายในมือของเรา”
“ฮ่าฮ่า แกพูดอะไร?” ฉิงจื่อหาวแค่นหัวเราะแล้วยกปืนขึ้นสูง และชี้พานท้ายปืนไปที่หมวกเทียนหลิงของหมาเหล่าเอ้อ และคำรามเสียงดัง “แกต้องการฆ่าฉันเหรอ? ไอ้ฉิบหาย ถ้าฉันตาย คนในถนนถู่จ้ามากกว่าครึ่งหนึ่งจะต้องเข้าไปนอนในโลงศพพร้อมฉันด้วย แค่หลงซิ่งเอ่ยปากเพียงคำเดียว เขตที่เก้าจะตัดยาออก 40% ทันที ใครจะกล้าฆ่าฉัน ถามนายกเทศมนตรีเฟิ่งเป่ยซิ เขากล้ามั้ย?!”
นอกรั้วเหล็ก ร่างหนึ่งซึ่งยืนอยู่ที่นั่นอย่างน้อยสามหรือสี่วินาที ยกปืนขึ้นมาและตะโกนดังลั่น “ไอ้สัตว์นรก ข้านี่แหละที่กล้าฆ่าแก!!”
ฉิงจื่อหาวหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียง
ใบหน้าชายแก่ปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา ปากกระบอกปืนถูกยกขึ้นอย่างทื่อๆ และเล็งไปที่หัวของฉิงจื่อหาว ที่อยู่ห่างออกไปสามเมตร
“หา อะไรวะเนี่ย…?!” ฉิงจื่อหาวถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตกใจ และยกปืนขึ้นโดยสัญชาตญาณ
“ข้าคือเฒ่าหม่าแห่งซงเจียง! และกล้าที่จะฆ่าแก!”
เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วสถานที่ก่อสร้าง ไกปืนถูกเหนี่ยวเข้า และกระสุนปืนถูกยิงออกไป
“ปัง! ปัง! ปัง!”
หลังจากเสียงดังสามครั้งผ่านไป ฉิงจื่อหาวก็ถอยกลับไปสองสามก้าว และล้มลงนอนตาค้าง สิ้นใจทันที
ลุงหม่า ผู้ซึ่งเป็นชายแก่ยืนหลังงอถือปืนในมือขวา มือซ้ายหยิบเสื้อคลุมทหารที่เก่าซีดอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาขึ้น เผยให้เห็นแท่งระเบิดเป็นแถวรอบเอว เขาพูดอย่างไม่แสดงอารมณ์ “คนหนุ่มสาวทุกวันนี้มันขี้คุยจริงๆ ฉันแก่ขนาดนี้แล้ว แต่อย่างน้อย ฉันก็ยังสำนึกว่าแกที่เป็นลูกของแม่คนหนึ่ง เอาเถอะ ใครที่ปากดีนัก ขอเล่นกับแกหน่อย” ว่าแล้วผู้เฒ่าหม่าก็เดินจากไป
เสียงฝีเท้าอีกกลุ่มหนึ่งดังมาจากอยู่ด้านนอกของลานก่อสร้าง กวนฉี, แมวแก่ และคนอื่นๆ ก็กรูกันเข้ามา จ่อปืนที่พวกลูกน้องฉิงจื่อหาวที่ยังเหลือรอดอยู่พร้อมตะโกน “ทุกคนหมอบลง อย่าขยับ”
ฉินหยู่รีบวิ่งเข้ามาท้ายสุด เมื่อเขาก้มลงมองและเห็นคุณฉิง ที่เพิ่งถูกฆ่าตาย ฉินหยู่อึ้งไปจนพูดอะไรไม่ออก
…………………………………………………………