บทที่ 42: นี่มัน... ราชาการแสดง!
บทที่ 42: นี่มัน... ราชาการแสดง!
มันเป็นคืนแห่งการเก็บเกี่ยวขนแกะที่ยอดเยี่ยม... ไม่ใช่สิ มันเป็นคืนแห่งการฝึกต่างหาก!
หวังเต็งเก็บฟองสบู่ฟองสุดท้ายและออกมาจากสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้จีซิน เขาขับรถไปตามทางหลวงริมทะเลระหว่างทางกลับบ้าน
สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้จีซินนั้นตั้งอยู่ริมทะเล มันมีทางหลวงเลียบชายฝั่ง และในตอนกลางคืนก็มีรถไม่มากบนถนนสายนี้
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด สถานที่แห่งนี้ก็ดูเงียบสงบเป็นพิเศษ
เป็นอีกครั้งที่หวังเต็งเป็นคนสุดท้ายที่ออกไป ศิษย์คนอื่นๆของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้นั้นได้กลับบ้านไปหมดแล้ว
เสียงเพลงในรถถูกเปิดขึ้น และเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มก็ทำให้ความเงียบรอบๆเขาหายไป...
หิมะโปรยปรายในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ
ใจฉันหนาวเหน็บเมื่อต้องเดินทางไกล
วิ่งฝ่าลมฝนไม่อาจแยกร่างในสายหมอก
ท้องฟ้าและท้องทะเล เธอกับฉัน
เราจะเปลี่ยน…
…
เอี๊ยดดด…
แรงเสียดทานระหว่างยางและยางมะตอยได้ทำลายความเงียบสงบของค่ำคืน และบรรยากาศที่ผ่อนคลายที่เกิดจากเสียงเพลงก็หายไป
หวังเต็งสามารถหยุดรถได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้าเนื่องจากแรงเฉื่อย โชคดีที่เขาเป็นนักสู้ ดังนั้นการควบคุมร่างกายของเขาจึงยอดเยี่ยมมาก และนั่นก็ทำให้เขายังคงอยู่สามารถนั่งอยู่ที่ที่นั่งของเขาได้
ไฟสูงส่องฉากด้านหน้า ต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนข้างหน้า ในเวลาเดียวกัน มันก็มีเงาร่างมนุษย์กำลังนั่งอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็ไม่สามารถระบุลักษณะที่ชัดเจนของเงาร่างนั้นได้
หวังเต็งขมวดคิ้ว
ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะมีเจตนาร้าย และดูเหมือนว่ามันจะมุ่งเป้ามาที่เขาด้วย
ขณะที่หวังเต็งกำลังจะลงจากรถ ทันใดนั้นเขาก็นึกบางสิ่งขึ้นได้และเปิดใช้งานสายตาแห่งจิตวิญญาณของเขา
ลูกบอลสว่างไสวเหมือนหลอดไฟ 50 วัตต์ได้ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา ...
พลังฟอร์ส!
นักสู้!
หัวใจของหวังเต็งเต้นผิดจังหวะ ทำไมนักสู้คนนี้ถึงมองหาเขา? มันเป็นใคร? แล้วมันมีแรงจูงใจอะไร...
กองคำถามปรากฎขึ้นเต็มหัวใจของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบความเข้มของแสงที่เขาเห็นโดยใช้สายตาแห่งจิตวิญญาณกับแสงบนตัวเขาแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเลยแม้ว่าพวกเขาจะต้องปะทะกันก็ตาม
หวังเต็งหยิบดาบออกมาและสวมนวมชกมวย จากนั้นเขาก็ก้าวลงจากรถอย่างช้าๆ
“มอบของสิ่งนั้นมาซะ!” ชายคนนั้นมองไปที่หวังเต็งและเปิดปากของเขา
“ของเขิงอะไร? ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักแกนะ!” หวังเต็งถามด้วยความสงสัย
“ไม่สำคัญว่าแกจะรู้จักฉันหรือไม่ ยังไงก็ตาม หากแกมอบสิ่งของที่แกได้รับมาจากภูเขาเป่าอัน ฉันก็จะยอมไว้ชีวิตแก” ชายคนนั้นกล่าวอย่างเย็นชา
“ของอะไร? ภูเขาเป่าอันคืออะไร? ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่แกพูด” หัวใจของหวังเต็งเต้นเร็วขึ้น
ชายผู้นี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับอะไรมาจากภูเขาเป่าอัน?
ชายคนนั้นยืนขึ้นและเดินเข้าไปหาหวังเต็ง “แกไม่รู้หรอ? ถ้าอย่างงั้นดาบและนวมนั่นมันมาจากไหนกัน?”
“ฉันซื้อมันมา” หวังเต็งตอบอย่างเฉยเมย
เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ในที่สุดหวังเต็งก็เห็นรูปร่างหน้าตาของมัน มันเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี ไม่มีลักษณะเด่นบนใบหน้า แต่ดวงตาของมันนั้นดูเหมือนกับหมาป่าเดียวดาย มันไม่ได้ดูเป็นคนใจดีแต่อย่างใด
“แกกำลังเล่นกับความตายอยู่นะ ทำไมแกถึงไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีล่ะ?” ชายคนนั้นโบกโทรศัพท์มือถือของเขา “สมาชิกทุกคนในทีมของเราได้ติดตั้งระบบติดตามจีพีเอสในโทรศัพท์ของเรา ฉันต้องยอมรับว่าแกสามารถซ่อนและทำลายศพได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่แกโง่พอจะเอาโทรศัพย์ของศพติดมาด้วย”
“เชี่ย ฉันประมาทพวกมันเกินไป!” หวังเต็งดุตัวเองในใจ
“ตอนนี้แกไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่ไหม? งั้นแกก็บอกมาได้แล้วว่าของชิ้นนั้นมันอยู่ที่ไหน จากนั้นฉันก็จะไว้ชีวิตแก”
“ฉันไม่รังเกียจหรอกนะที่จะบอกแกว่าฉันเป็นนักสู้ ส่วนแกก็เป็นแค่ศิษย์นักสู้ ดังนั้นแม้ว่าแกจะมีอาวุธรูน แต่แกก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”
“ดังนั้นแล้ว อย่าทำร้ายตัวเองเลย” ชายคนนั้นพูดอย่างใจเย็น
หวังเต็งรู้สึกโชคดี โชคดีที่เขานำโทรศัพท์มือถือสองเครื่องติดตัวไปทุกที่ ดังนั้นพวกมันจึงไม่น่าจะรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน
ถึงกระนั้น หวังเต็งก็ยังคงแสร้งทำเป็นตกใจ
“นักสู้ พวกแกคือนักสู้จริงๆอย่างงั้นหรอ!”
“ถ้าฉันมอบของให้แก แกก็จะปล่อยฉันไปจริงๆไหม”
ในขณะนี้ ราวกับว่าหวังเต็งถูกราชานักแสดงเข้าสิง เขาได้แสดงเป็นชายหนุ่มที่กำลังหวาดกลัวและอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแนบเนียน
“แน่นอน แกควรจะรู้สึกโชคดีที่ฉันมาคนเดียวเพื่อจัดการเรื่องนี้”
“ถ้าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆของฉันพบแกก่อนล่ะก็ อืม... เรื่องมันก็คงจะไม่จบง่ายๆแบบนี้หรอก” ชายคนนั้นกล่าวต่อ
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอ?” หวังเต็งเงยหัวขึ้น
“ถูกต้อง มันมีฉันคนเดียวเท่านั้น แกไม่ต้องกังวล เรื่องทุกอย่างมันจะจบลงที่นี่แน่นอน” ชายคนนั้นอาจต้องการให้หวังเต็งเชื่อเขา ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงจริงใจอย่างยิ่ง
“ตกลง ฉันจะบอกแก แต่แกต้องสัญญาก่อนว่าจะไว้ชีวิตฉัน”
หวังเต็งกัดฟันและพยักหน้าอย่างมั่นคง เขาเดินหาอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง
ผู้ชายคนนั้นมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “ไม่ต้องกังวลไป ฉันทำตามคำพูดของฉันแน่นอน ฉันเป็นนักสู้นะ ฉันไม่จำเป็นต้องโกหกศิษย์ตัวน้อยอย่างแก”
“ฉันเก็บสิ่งนั้นไว้ที่...”
หวังเต็งเดินเข้าไปจนกระทั่งเขาอยู่ในระยะสามเมตรจากตัวนักสู้ จากนั้นสายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาก็กระทืบพื้นอย่างหนักแน่น และกระโดดลอยขึ้นไปในอากาศ
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว!
“เจ้าหนู ฉันว่าแล้วว่าแกจะต้องเล่นไม่ซื่อ แต่แล้วยังไงล่ะ? แกจะสามารถทำอะไรฉันได้?”
“แกมันก็เป็นแค่ศิษย์นักสู้!”
“วันนี้ฉันจะแสดงให้แกได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างศิษย์นักสู้กับนักสู้!”
ชายคนนั้นต่อยเข้าไปที่หวังเต็ง มันมีชั้นของพลังสีน้ำตาลปกคลุมกำปั้นของเขา และมันก็ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นและหนักหน่วง
หวังเต็งเหวี่ยงดาบยาวของเขาเพื่อตอบโต้
ผู้เชี่ยวชาญทักษะดาบขั้นพื้นฐาน!
เมื่อดาบยาวปะทะกับหมัด แรงระเบิดอันน่ากลัวก็ได้ปะทุออกมาจาก
บู้มมม!
พลังทั้งสองปะทะกันและทำให้เกิดเสียงระเบิด
หวังเต็งใช้กำลังทั้งหมดของเขาในการโจมตีครั้งนี้ ในขณะที่อีกฝ่ายโจมตีออกไปอย่างสบายๆเพราะมันมองว่าหวังเต็งนั้นเป็นเพียงศิษย์นักสู้เท่านั้น
และผู้ชนะก็ได้ปรากฏชัด!
เฉือน!
เนื้อของชายคนนั้นถูกตัดเฉือนและกระดูกของเขาก็หักจากกัน เลือดพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ มันพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของชายคนนั้นดังออกมาพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูด
“อ้ากกกก!”
แขนข้างหนึ่งของมันถูกหวังเต็งตัดขาด
เมื่อสักครู่นี้มันยังมั่นใจและหยิ่งผยองราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของมัน อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ใบหน้าของมันก็ซีดเผือกและบิดเบี้ยวเนื่องจากความเจ็บปวด ,ความประหลาดใจ ,ความโกรธ และความไม่เชื่อ
“นักสู้!”
“แกเป็นนักสู้!”
ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กมัธยมที่อยู่ตรงหน้ามันจะเป็นนักสู้
หนี!
มันต้องหนี!
ไม่งั้นก็ตาย!
ชายคนนั้นเสียแขนไปแล้วข้างหนึ่ง ดังนั้นความสามารถในการต่อสู้ของมันจึงลดลงไปอย่างมาก มันรู้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังเต็งแล้วในตอนนี้ และนั่นก็ทำให้หัวใจของมันเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
มันสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและเจตนาฆ่าจากแววตาของหวังเต็ง
เช่นเดียวกับแววตาที่ไม่แยแสของมัน
มันไม่มีความกังวลหรือความกลัวใดๆในตัวหวังเต็งอีกต่อไป ทั้งหมดก่อนหน้านี้นั้นเป็นของปลอม
นี่มัน… ราชาการแสดง!
“คิดที่จะหนีอย่างงั้นหรอ?”
หลังจากที่หวังเต็งตัดแขนของชายคนนั้นไปแล้ว เขาก็ไร้ซึ่งความลังเลอีกต่อไป เขาใช้ฟุตเวิร์คขั้นผู้เชี่ยวชาญของเขาเร่งความเร็วขึ้นแบบทวีคูณ ในเวลาเดียวกันเปลวเพลิงก็ประสานเข้ากับดาบของเขาขณะที่เขาฟันออกไปที่อีกฝ่าย
“เจ้าหนู อย่าได้ใจไป!” ชายคนนั้นตะโกนกลับมาในขณะที่มันหลบเลี่ยงการโจมตีอย่างฉิวเฉียด
หวังเต็งไม่สนใจ เขายังคงวิ่งไล่ฟันชายคนนั้นต่อไปอย่างไม่แยแส เมื่อเวลาผ่านไป หวังเต็งก็เริ่มเข้าใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขานั้นเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะสูญสียแขนไปแล้วข้างหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงสามารถควบคุมสติและการเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี
ฉันไม่สามารถปล่อยให้มันยืดเยื้อมากไปกว่านี้ไดแล้ว!
ฉันต้องรีบจบมัน!
หวังเต็งเริ่มรู้สึกร้อนรน ในชั่วพริบตา หวังเต็งก็ได้ตัดสินใจที่จะขว้างดาบของเขาออกไป
ฟิ้ว!
ดาบพุ่งออกไปราวกับลูกธนูในขณะที่พลังฟอร์สธาตุไฟยังคงห่อหุ้มมันเอาไว้
รูม่านตาของชายคนนั้นหดแคบลง ขนบนตัวของมันตั้งขึ้นในขณะที่มันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอียงตัวและหลบดาบ
เฉือน!
ดาบเฉือนผ่านหน้าอกของมันไปและทิ้งรอยเลือดไว้เบื้องหลัง ในขณะเดียวกันผิวหนังรอบๆก็กลายเป็นแผลไฟไหม้
ถึงกระนั้นแล้ว มันก็ยังสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีที่ร้ายแรงได้
ชายคนนั้นหอบอย่างหนัก มันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้เด็กน้อย แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก วันนี้...”
มันหัวเราะออกมา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะพูดจบ มันก็มีลมกระโชกแรงพัดผ่านหัวศีรษะของมันไป
ทันใดนั้นชายคนนั้นก็หันศีรษะของมันกลับไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานั้นเองที่มันได้เห็นหมัดที่ดูเหมือนประติมากรรมน้ำแข็งกำลังพุ่งเข้ามาหามันอย่างรวดเร็ว
“พลังฟอร์สธาตุน้ำแข็ง!”
“ไม่!”