[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 105 หิมะเดือดเลือดสาดในซอยมืด
ตอนที่ 105 หิมะเดือดเลือดสาดในซอยมืด
ในซอย
ชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนที่รีบวิ่งมาหาเสี่ยวฉู่ สองคนจับไว้และดึงเขาไปข้างหลัง อีกสองคนถือปืนและเหนี่ยวไกปืนยิงรัวๆ
“ปัง ปัง ปัง...!”
เสียงปืนดังลั่นขึ้นอย่างรุนแรง ซอยก็แคบมากและมีสิ่งของ ขยะ แง่มุม และกำแพงยาวเป็นช่วงๆ ทำให้การต่อสู้เป็นไปด้วยความทุลักทุเลทั้งสองฝ่าย หมาเหล่าเอ้อและคนอื่นๆ ไม่อาจบุกไปข้างหน้าได้ ทำได้เพียงหลบอันตรายคุกคามโดยพิงด้านข้างกำแพงเพื่อหลีกเลี่ยงกระสุนที่ปลิวว่อนมานับไม่ถ้วน ในขณะเดียวกันก็ยิงโต้กลับไปเป็นระยะ
มีเสียงฮัมของเครื่องยนต์รถออฟโรดถอยกลับไปเข้าซอยด้วยความเร็วสูง ท้ายรถชนมุมผนังปูนเสียงดังโครมแล้วหยุดในแนวเฉียงข้างหลังหมาเหล่าเอ้อ
เสี่ยวลิ่วตัวเต็มไปด้วยเลือดเขาเปิดประตูรถด้วยมือซ้ายแล้วล้มหล่นจากรถ สติสัมปชัญญะของเขาค่อยๆ พร่ามัว แต่เขาก็รวบรวมพลังตะโกนว่า “วิ่ง...ทิ้งฉันไว้ที่นี่...วิ่ง พี่เหล่าเอ้อ มีคนอยู่ข้างนอก”
เมื่อได้ยินเสียง หมาเหล่าเอ้อก็หันกลับมามองที่เสี่ยวลิ่วที่ลุกขึ้นนั่งพิงรถหลบกระสุนไปด้วย และยกปืนขึ้นยิงไปตามถนนด้านนอกอย่างไม่เลือกหน้า เพื่อคุ้มกันพวกหมาเหล่าเอ้อขณะหาทางหลบหนีออกไปจากซอย
ข้างกำแพง ลุงหลิวจื่อนั่งยองๆ อยู่ด้านหลังถังขยะใบใหญ่แล้วดึงหมาเหล่าเอ้อเข้ามาหลบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดดุดัน “ไม่มีโอกาส รีบไปกันเถอะ ถ้านายไม่ออกไป นายจะตายที่นี่!”
“กลับไปลากเสี่ยวลิ่วไปด้วย” หมาเหล่าเอ้อสะบัดแขนของลุงหลิวจื่อหลุด แล้วยิงโต้กลับฝ่ายตรงข้ามขณะพยายามวิ่งออกไป
ลุงหลิวจื่อและลูกน้องอีกคนหนึ่งที่ติดตามเขา เป็นพี่น้องที่ติดตามผู้เฒ่าหม่ามาหลายปี พวกเขาจงรักภักดีกับตระกูลหม่าอย่างแท้จริง พวกเขาไม่ได้หนีเอาตัวรอดเมื่อเกิดปัญหา ดังนั้นเขาจึงติดตามหมาเหล่าเอ้อโดยไม่ลังเลใจ
บนถนน
ฉิงจื่อหาวซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงทางด้านซ้ายของซอย เขาดึงลูกเลื่อนบรรจุกระสุนและยิงปืนสองนัดใส่ยางของรถออฟโรด
เสียงยางรถระเบิดดังสนั่น เหลือเพียงดุมล้อที่ทรุดลงกระแทกพื้นถนนบลูสโตน
“หมาเหล่าเอ้อ แกคิดว่าแกยังสามารถออกไปได้หรือ หา?!” แววตาของฉิงจื่อหาวเวลานี้ราวกับเป็นคนบ้า “เป็นเพราะแก ทำให้ฉันต้องร้องขอชีวิตกับคนสุดท้ายที่ฉันอยากจะขอและถึงกับถูกทหารกระทืบซ้ำ เพราะฉะนั้น แกคิดว่าฉันจะอนุญาตให้แกกลับไปที่ซงเจียงอย่างยิ่งใหญ่อย่างงั้นเรอะ?”
ขณะที่เขาพูด ฉิงจื่อหาวยังคงโบกมือให้ลูกน้องรอบตัวเขารีบนำหน้าเข้าไปในซอยก่อน
“ปัง ปัง ปัง...!”
ทันใดนั้นลุงหลิวจื่อและลูกน้องของเขาที่อยู่ทางขวา ก็รีบวิ่งออกมาจากด้านซ้ายและด้านขวาของรถ โดยใช้ตัวรถเป็นที่กำบัง และยิงโต้กลับหลายนัด
หมาเหล่าเอ้อวิ่งไปคว้าแขนที่เปื้อนเลือดของเสี่ยวลิ่ว ลากไปข้างหลังด้วยกำลังทั้งหมด “ลุกขึ้น! เราต้องไปด้วยกัน”
“ไป แม่งแกจะไปไหน หา?!” ฉิงจื่อหาวโบกมือให้ลูกน้องบุกเข้าไปแล้วตะโกน “ใครก็ตามที่กินข้าวบ้านฉันและไม่อยากได้เงิน ก็อยู่ข้างหลัง ฉันจะให้พวกแกทุกคนที่บุกไปด้านหน้าคนละ 10,000 หยวน ไปจัดการมันเดี๋ยวนี้!”
“ฮูร่า!”
กลุ่มลูกน้องที่อยู่นอกซอยรีบกรูกันเข้ามาและยิงปืนเข้าใส่พวกหมาเหล่าเอ้ออย่างไม่ยั้งมือ
ทั้งสองฝ่ายยิงแลกเปลี่ยนกันอย่างดุเดือด หมาเหล่าเอ้อและพวกของเขาต้องแบกรับความกดดันเพราะคนจำนวนน้อยกว่า แล้วในเวลาที่คับขัน ลุงหลิวจื่อดันปืนกระสุนหมด อีกทั้งโชคร้ายซ้ำเติม เขาถูกยิงที่แขนซ้าย ทำเอาเขาถอยกลับไปสามก้าวทันที
“ลุงอดทนไว้”
หมาเหล่าเอ้อคำรามและก้าวไปข้างหน้า
ลุงหลิวจื่อถอยกลับ หลบและเปลี่ยนแมกาซีนกระสุนอย่างรวดเร็วด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วพยุงเสี่ยวลิ่วด้วยแขนซ้าย หมุนตัวอย่างรวดเร็ว ยิงโต้กลับและลากเสี่ยวลิ่ววิ่งไปหลบยังตำแหน่งของถังขยะใหญ่
“ถอยออกไปเหมาจื่อ ติดตามลุงจื่อไป เร็วเข้า” หมาเหล่าเอ้อตะโกนสั่ง
ลูกน้องหม่าทางขวาก้าวถอยหลังหลังจากได้ยินคำสั่ง หันหลังกลับตามลุงหลิวจื่อเข้าไปในซอย และยิงป้องกันเป็นระยะ
หมาเหล่าเอ้อยืนหลบกระสุนพิงกับรถออฟโรด เขาเคลื่อนตัวถอยไปหลายก้าวพร้อมตะโกน “ไอ้ระยำเอ๊ย! เข้ามาเลย ข้าจะยิงถังแก๊ส!”
เมื่อสมุนอีกฝ่ายที่อยู่ข้างนอกได้ยินอย่างนั้น พวกเขาผงะถอยกลับไปสองสามก้าวโดยสัญชาตญาณ
ภายในรถ เหวินเทาหมอบหลบอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครดูแล และคนขับอีกคนหนึ่งที่ถูกจับเป็นตัวประกันไปแล้ว เหวินเทาตัดสินใจออกจากรถ รีบวิ่งออกไปโดยก้มหัวลงต่ำ แต่ขาของเขาบาดเจ็บทำให้อ่อนแอมากจนต้องหยุดคุกเข่าลงกับพื้นและตะโกนบอก “พี่ชาย พวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรา อย่ายิง อย่ายิง!”
หมาเหล่าเอ้อใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้และรีบถอยกลับไปที่ถังขยะขนาดใหญ่แล้วตะโกน “เหมาจื่อ ยิงสกัดพวกมัน
ลุงจื่อ วางเสี่ยวลิ่วพิงกำแพงไว้ก่อน”
เหมาจื่อเปลี่ยนแมกาซีนสำรองอย่างรวดเร็ว แล้วลุกขึ้นยืนยิงทันทีไปทางด้านในซอยเพื่อสกัดกั้นศัตรูสี่คนที่เคลื่อนตัวกดดันโอบล้อมเข้ามา แต่หมาเหล่าเอ้อต้านฝ่ายตรงข้ามไม่ไหวแล้ว เขาจึงหันปืนเล็งไปที่ถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถแล้วเหนี่ยวไกปืนอย่างต่อเนื่อง
“ปัง ปัง ปัง ปัง...!”
เสียงปืนดังขึ้นหลายนัดอย่างรวดเร็ว และเจาะถังน้ำมัน 3 - 4 รู น้ำมันรั่วพุ่งออกไปเป็นสาย และกระสุนโดนแผ่นโลหะที่ตัวถังรถ ทำให้เกิดประกายไฟแลบขึ้นมา
“บูมมม!”
เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณในคืนอันมืดมิด และด้านหลังของรถออฟโรดก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับลูกไฟขนาดมหึมา เศษชิ้นส่วนรถกระเด็นกระจายออกไปนับไม่ถ้วน
ที่ทางเข้าซอย ยาแก้โรคระบบประสาทที่ฉิงจื่อหาวฉีดเข้าไปยังไม่หมดฤทธิ์ เขาหันหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศษสะเก็ดดินจากระเบิดกระเด็นเข้าหน้าของเขา และเขาก็ตะโกนด้วยความบ้างคลั่งกับดวงตาสีแดงเข้มน่าสะพรึงกลัวใส่ลูกน้อง “พวกมันล้วนเป็นแค่เศษขยะ ฉันใช้เงินสนับสนุนพวกแกเพื่อมาจุดประทัดเล่นกันที่นี่เหรอ หา?! บุกเข้าไป!”
“พี่หาว รถมันระเบิดนะครับ”
“ไฟลุกท่วมเลย”
“……!”
ทุกคนที่หลบเลี่ยงสะเก็ดระเบิดที่ทางเข้าซอยรอดมาได้ ต่างแก้ตัวเป็นเสียงเดียวกันทีละคน
ทันใดนั้นสมองฉิงจื่อหาวก็ร้อนขึ้น เขาโมโหคลั่งขึ้นมาอีก ยิงปืนใส่พื้นและวิ่งเข้าไปในตรอก พลางตะโกนว่า “ไอ้พวกขี้ขลาด! ใครอยู่ข้างหลังฉัน กลับบ้านเมื่อไหร่ฉันจะลงโทษมันให้หมด!”
เมื่อลูกน้องทุกคนได้ยินเช่นนั้นและเห็นว่าฉิงจื่อหาวบ้าคลั่งวิ่งเข้าไปในซอย พวกเขาจึงทำได้เพียงเสี่ยงตายตามเข้าไปเพื่อกดดันฝ่ายตรงข้าม แต่พวกเขาก็พยายามวิ่งเลียบกำแพงเพราะกลัวว่ารถจะระเบิดขึ้นอีกครั้ง
ภายในซอย
ลุงหลิวจื่อแบกเสี่ยวลิ่วไว้บนไหล่ของเขาและยกร่างเสี่ยวลิ่ววางพาดไว้บนกำแพงซอย แล้วลุงหลิวก็ปีนขึ้นไปด้วย
หมาเหล่าเอ้อเหงื่อแตกเปียกโชกไปทั้งตัว เขาก้มศีรษะลงและเปลี่ยนแมกาซีนกระสุนแล้วตะโกน “เหมาจื่อ นายขึ้นไปก่อน รีบหน่อย”
หลังพูดจบ หมาเหล่าเอ้อก็หันไปยิงสกัดฝ่ายตรงข้ามอีกหลายนัด กระสุนปลิวว่อนเจาะพื้น กำแพง และสิ่งของในซอยเป็นรูเป็นรอยเต็มไปหมด การยิงโต้ตอบกันยังไม่จบสิ้นง่ายๆ
เหมาจื่อก้มศีรษะลงเพื่อเปลี่ยนแมกาซีนกระสุน และทันใดนั้น เขาก็งอตัวหมอบลงครึ่งหนึ่ง มือยันกับกำแพงและตะโกน “พี่ไปก่อน เร็วเข้าเหยียบไหล่ฉันขึ้นไป”
“นายแม่งจะ...!” หมาเหล่าเอ้อตกตะลึงพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งแล้วจะเปิดปากเพื่อตอบโต้
“เร็วเข้า รีบออกไป พี่รออะไรอยู่วะ?!” เหมาจื่อหันหลังกลับยิงสกัดไปที่ทางเข้าตรอก “เร็วเข้า!”
หมาเหล่าเอ้อรู้ว่าหากเขาพูดอีกคำในตอนนี้ เขาอาจเสียโอกาสหลบหนีไปได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เหยียบผนังด้านข้างของถังขยะด้วยเท้าขวา เหยียบเท้าซ้ายบนไหล่ของเหมาจื่อ แล้วออกแรงยกตัวเขาเองขึ้นไป
เหมาจื่อรู้สึกถึงน้ำหนักจากเท้าซ้ายของหมาเหล่าเอ้อ และเขายืดตัวยกหมาเหล่าเอ้อขึ้นไปทันที
หมาเหล่าเอ้อคว้ากำแพงด้วยมือซ้ายแล้วปีนขึ้นไปเหมือนลิง จากนั้นเขาก็นอนบนสันกำแพง เหยียดมือห้อยลงมาพร้อมตะโกนบอก “คว้าแขนฉันไว้!”
เหมาจื่อหันกลับมา เอื้อมคว้าข้อมือของหมาเหล่าเอ้อด้วยมือซ้าย และเตะกำแพงด้วยเท้าขวา
“แรงขึ้น!”
หมาเหล่าเอ้อคำรามคว้าแขนของอีกฝ่ายแล้วดึงมันขึ้นมาอย่างแรง
“บูม!”
มีเสียงปืนดังขึ้น และร่างของเหมาจื่อที่ห้อยอยู่บนผนังก็ฉีกขาดแยกชิ้นส่วนทันที
ฉิงจื่อหาวยิงลูกซองลำกล้องขนาดใหญ่ของเขาเพียงหนึ่งนัดเข้าที่ลำตัวและกระดูกสะโพกด้านซ้ายของเหมาจื่อก็ฉีกขาดราวกับว่าครึ่งหนึ่งของร่างกายของเขาถูกสัตว์ร้ายกัดแหว่งไป และอวัยวะภายในช่องท้องของเขาก็ฉีกขาดหลุดร่วงลงพื้นอย่างน่าสยดสยอง ขาซ้ายตกลงมาห้อยรวมขาขวาของเขา
หมาเหล่าเอ้อนอนอยู่บนสันกำแพงและจ้องมองที่เหมาจื่อด้วยความช็อกไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ดวงตาแดงก่ำของเขาเต็มไปด้วยความพิศวงงงงวย รู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว…
เขาได้รับการดูแลจากผู้เฒ่าหม่าตั้งแต่เริ่มช่วยงานของครอบครัว เขาต้องมาเห็นฉากโหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร?
“ไป...ไป...!” เหมาจื่อยังร้องบอกด้วยเสียงแหบแห้ง ทั้งที่ร่างกายที่แกว่งไปมาเลียบผนังได้ตายไปก่อนที่สมองจะหยุดทำงานแล้ว
“เหมาจื่อ!!” หมาเหล่าเอ้อร้องคำรามด้วยดวงตาสีแดงแห่งความโกรธที่เหมือนจะระเบิดออกมาจากอกของเขา
“ไปละ…”
ลุงหลิวจื่อซึ่งกระโดดข้ามกำแพงไปแล้ว จู่ๆ ก็ดึงขาขวาของหมาเหล่าเอ้อ
“ปัง! ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นและมีเศษซากกำแพงแตกกระจายร่วงตามหลังหมาเหล่าเอ้อลงมา หลังจากถูกลุงหลิวจื่อลากตกลงไปอีกด้านหนึ่งของกำแพงอย่างรวดเร็ว
……
บนถนน
หย่งตงนั่งอยู่ในรถพลางเร่งเร้า “เร็วเข้า ขับรถเร็วเข้า”
ในซอย ฉิงจื่อหาวหันกลับมาพร้อมกับปืนด้วยท่าทางและสีหน้าที่ยังโมโหดุร้าย เขาชี้ไปที่ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วตะโกนว่า “ถ้าแกไม่สามารถจัดการกับพวกอันธพาลสองสามคนในพื้นที่ได้ แล้วแกจะมีประโยชน์อะไร!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ลูกน้องสี่คนจากทางด้านในของซอยก็วิ่งมาหาพร้อมกับเสี่ยวฉู่ในมือของพวกเขา
……………………………………………………………