ตอนที่ 8
ในตอนนี้นั้น คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทั้งสามตัวคือ ลู่หนานหยุน เหว่ยอี้เฉิน และเฟิงหยาน ซึ่งทั้งสามคนนี้เป็นตัวท๊อปจากคลาส A
ผู้ชมทั่วทั้งสารทิศเงียบไปเกือยหนึ่งนาทีได้ หลังจากนั้นเสียงรบมือก็ดังขึ้น
การแสดงออกของพวกเขาทั้งสามคนแตกต่างกัน เฟิงหยานนั้นตกตะลึงและตัวสั่น มือของเขาปรบมือจนเจ็บไปหมด เหว่ยอี้เฉินนั้นสงบมาก แต่สายตาของเขายังคงติดตรึงอยู่ที่จีเจ๋อหยู และหลู่หนานหยุนตกใจและสับสน ดูเหมือนเขาจะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ปรากฎอยู่ตอนนี้ เด็กหนุ่มที่น่าตื่นตาตื่นใจคือจีเจ๋อหยูอย่างนั้นเหรอ
ผู้เข้าแข่งขันข้างหลังเวทีก็แทบจะถูกเผาแล้ว
“ฉันกำลัง… ฉันกำลังฝันอยู่ใช่ไหม!”
" จีเจ๋อหยูพัฒนาเร็มเกินไปแล้ว!"
“โว้ว กลุ่มนี้โคตรแข็งแกร่งเลย”
เฉินเหอตกตะลึงเป็นเวลานาน หลังจากที่ทีมงานมาเตือนเขา เขาก็เดินเข้าไปหาจีเจ๋อหยูและคนอื่นๆในทีมอย่างล่องลอย และพูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อว่า " การแสดงของคุณยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะจีเจ๋อหยู ผมไม่คิดว่าคุณจะแสดงได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นับถือ!"
หน้าอกของจีเจ๋อหยูยังหอบขึ้นลงอย่างเงียบๆ และลมหายใจยังคงนิ่งสนิท " ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ PDเฉิน"
เหล่าคณะครูอาจารย์ผู้ตัดสินนั้นรู้ดีกับความแข็งแกร่งของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ยกเว้นหนานหลิน การประเมินของคนอื่นๆ คือ " ความก้าวหน้าของจีเจ๋อหยูนั้นน่าทึ่งมาก" และพวกเขายังชื่นชมความสามาคีในการทำงานร่วมกันของกลุ่มนี้
แม้แต่ผู้ชมทั่วไปก็พูดเรื่องนี้เช่นกัน
“บ้าจริง ฉันเคยด่าจีเจ๋อหยูเพราะเขามาอยู่ในคลาสBได้ยังไง แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าเขาสามารถอยู่คลาส A ได้เลย!”
“กลุ่มนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว โดยเฉพาะ จีเจ๋อหยู”
" ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ... "
กลุ่มของถังเจินก้าวขึ้นไปบนเวที ผู้เข้าแข่งขันสองกลุ่มยืนอยู่คนละด้านของเวที และผู้ชมก็เริ่มลงคะแนน แม้ว่าถังเจินจะยิ้มแย้ม แต่รอยยิ้มของเขาก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
ผู้เข้าแข่งในกลุ่ม A คิดในใจว่า มันสมเหตุสมผลไหมที่เรือบรรทุกเครื่องบินจะเก่งแบบนี้?!
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงมีรอยยิ้มแสดงความยินยอมอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
ผู้ชมหยิบเครื่องลงคะแนนขึ้นมาและเลือก
จีเจ๋อหยูรู้สึกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก
ไป่เซิงเจี๋ยเหมือนเด็กเล็กและมีเหงื่อออกผุดพรายที่หน้าผาก เขายืนอยู่ข้างจีเจ๋อหยูและคว้าข้อมือโดยไม่ตั้งใจและกระซิบถาม " กัปตัน ฉันประหม่ามากเลย... "
จีเจ๋อหยูตบไหล่ไป่เซิงเจี๋ยและปลอบโยนเขา เสียงของฉีอ่าวตงก็ดังขึ้นจากอีกด้านของเขา " กัปตัน ผมก็ประหม่าเหมือนกัน " เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
จีเจ๋อหยูรีบหันศีรษะเพื่อปลอบเขา " ไม่ต้องประหม่านะ พวกเราทำดีที่สุดแล้ว... "
ฉีอ่าวตงขยับตัวเข้าไปใกล้จีเจ๋อหยูมากขึ้น อย่างลื่นไหลและเอ่ยรับ "อืม" ออกไปอย่างนุ่มนวล
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินเหอก็เริ่มประกาศผล " การนับคะแนนโหวตของทั้งสองกลุ่ม "Look At Me Now" สิ้นสุดลงแล้วครับ กลุ่มที่ชนะคือ—"
ผู้ชมกลั้นหายใจ จีเจ๋อหยูเองก็กำมือของเขาโดยไม่รู้ตัว
" ยินดีด้วยกับกรุ๊ปบีครับ! "
ขณะที่เสียงของเฉินเหอเบาลง หน้าจอด้านหลังของจีเจ๋อหยูและคนอื่นๆก็สว่างขึ้น และและปรากฎภาพของทั้งหกเรียงกัน ซึ่งมีเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงกลางก็ดูหล่อเหลาและเป็นประกาย
จีเจ๋อหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอกและในที่สุดก็ยิ้มออกมา เพื่อนร่วมทีมกรีดร้องด้วยความดีใจ ว่านหลงกอดจีเจ๋อหยูแน่นและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง " บ้าจริง เราชนะแล้ว!"
เมื่อสามวันก่อน พวกเขายังคิดว่าการแสดงคงไม่มีหวังแน่แล้ว ทำให้ความสุขในช่วงเวลานี้เอ่อล้นและมีค่ามากกว่าเดิม
สมาชิกในทีม B ทุกคนล้วนยกความดีความชอบให้กับจีเจ๋อหยู และพวกเขาก็แปะมือเพื่อแสดงความยินดีกับเขา จนมือของจีเจ๋อหยูเจ็บไปหมด
สมาชิกของกลุ่ม A เองก็ยิ้มและปรบมือให้กับพวกเขาเช่นกัน
เฉินเหอหยิบการ์ดในมือแล้วพูดต่อ “ต่อไปผมจะประกาศเด็กฝึกที่มีคนชอบมากที่สุดในรอบนี้นะครับ…”
ผู้ชมเกือบทั้งหมดกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว การแสดงของจีเจ๋อหยูดีไม่แพ้ใครบนบัลลังก์นั่นเลย และการโหวตของเขาจะตัดสินได้ว่าใครคือราชาที่จะได้รับการยกย่องในค่ำคืนนี้
“เขามาจากกลุ่ม B…” เฉินเหอเม้มริมฝีปากและเอ่ยอย่างช้าๆ “จี เจ๋อ หยู! และคะแนนของเขาคือ—”
แฟนๆของจีเจ๋อหยูรู้สึกประหม่าเกินกว่าจะหายใจออกมาได้
ทั้งสามคนบนบัลลังก์เองก็มองไปที่จีเจ๋อหยูอย่างพร้อมเพรียง
เด็กฝึกที่อยู่หลังเวทีก็จ้องไปที่หน้าจอด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“หนึ่งพันสี่ร้อย...” เฉินเหอพูดขึ้นทีละนิด “หกสิบเจ็ดโหวต! ขอแสดงความยินดีกับจีเจ๋อหยูสำหรับรางวัลราชานี่น่ายกย่องที่สุดในคืนนี้!”
ผู้ชมต่างปรบมือและโห่ร้องเชียร์ก้อง
เด็กฝึกที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มปรบมือพร้อมกัน
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว มันเป็นการต่อสู้ของเหล่าทวยเทพจริงๆ!”
"คืนนี้ฉันมันสนุกมากเลย!"
" จีเจ๋อหยูเป็นวัวพันธ์ชั้นดี..."
จีซือเฉิงที่อยู่ในหมู่ผู้ชมฟังเสียงเชียร์ของเหล่าแฟนคลับ และยังตกอยู่ในภวังค์เหมือนฝัน เมื่อน้องชายของเขากลายเป็นราชาแห่งเวทีไปแล้ว และได้รับความรักจากผู้คนมากมาย มันช่างช่างเหลือเชื่อจริงๆ
จีหมิงหยุนเองก็กรีดร้องไปพร้อมกับแฟนๆ " เสี่ยวหยู! เสี่ยวหยู! น้องเป็นที่หนึ่งเสมอ!" เธอดูคลั่งกว่าแฟนคลับจริงๆเสียอีก
เจียงลี่แอบเช็ดน้ำตาของเธอไป กดชัตเตอร์ไป
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เหล่าแฟนคลับคลั่งรักจะตื้นตันได้มากไปกว่าการได้เห็นไอดอลของตัวเองเปล่งประกายด้วยตาของคุณเอง
กล้องถ่ายตามจีเจ๋อหยูไปจนถึงบัลลังก์ ทั้งสามคนที่อยู่บนนั้นคิดเหมือนกันคือลุกขึ้น เฟิงหยานก้าวไปข้างหน้าและกอดจีเจ๋อหยู และชื่นชมข้างหูของเขาอย่างจริงใจ " นายเต้นแล้วเท่มาก "
จีเจ๋อหยูตกตะลึง
เดิมทีเขาตั้งใจจะนั่งบนบัลลังก์อย่างเฉยๆ แต่ด้วยท่าทางของเฟิงหยานแล้ว หมายความว่าเขาต้องโต้ตอบกับอีกสองคนที่เหลือด้วย มิฉะนั้นเขาจะถูกแฟนๆของพวกเขารุมประนามในโลกออนไลน์
อีกสองคนเห็นได้ชัดว่าคิดเหมือนกัน
เหว่ยอี้เฉินยิ้มบางๆ เขาก้าวไปข้างหน้าและกอดจีเจ๋อหยูอย่างอ่อนโยนและพูดเบา ๆ ว่า " ยินดีด้วยนะ " ด้วยน้ำเสียงจริงใจ
ลู่หนานหยุนก้าวไปข้างหน้าหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาแค่อยากจะเอื้อมมือออกไป แต่จีเจ๋อหยูก็เริ่มกอดเขาก่อน การเคลื่อนไหวนั้นเบาและเร็วมาก แทบไม่มีการสัมผัสกันมากนัก
หลังจากนั้นจีเจ๋อหยูก็ก้าวถอยหลังอย่างเป็นธรรมชาติ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และนั่งลงอย่างมีความสุขบนเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงขอบทองของเขา
ดวงตาของลู่หนานหยุนหรี่ลงเล็กน้อย เขารับรู้ได้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังหลบหน้าเขา
ตามความเข้าใจของลู่หนานหยุนเกี่ยวกับจีเจ๋อเจ๋อหยู การสัมผัสทางร่างกายแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เขาไม่คว้าโอกาสไว้หรือไง?
เขากำลังฝืนห้ามใจตัวเองใช่ไหม?
เมื่อดูท่าทีระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ดวงตาของเหว่ยอี้เฉินก็เปล่งประกายด้วยอารมณ์ที่ไม่มีใครรู้
ทางรายการได้ถ่ายภาพหมู่ของทั้งสามคน จีเจ๋อหยูนั่งบนที่นั่งที่สูงที่สุดตรงกลางด้วยท่านั่งเรียบร้อย
อีกสองร่างที่อยู่ข้างๆ ร่างกายดูแข็งแกร่งกว่าของจีเจ๋อหยู ตัดกับเขาที่นั่งบนเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงอย่างเชื่อฟัง ดูเหมือนเจ้าชายน้อยที่ถูกปกป้องโดยอัศวินทั้งสอง เป็นองชายผู้สูงศักดิ์ หล่อเหลาและสง่างาม
แน่นอนว่าจีเจ๋อหยูไม่ต้องการเป็นเจ้าชาย และไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับคนสองคนนี้ หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เขาก็กระโดดลงจากเก้าอี้ทันทีและกลับไปหาเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างรวดเร็ว
“ทำไมไม่นั่งก่อนล่ะครับ” ฉีอ่าวตงถามเขาด้วยรอยยิ้ม
" มันแข็งไปหน่อยน่ะ " จีเจ๋อหยูโกหกอย่างลื่นไหล " เจ็บก้น "
เมื่อเห็นว่าที่หนึ่งหายไป อีกสองคนที่เหลือก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
เหว่ยอี้เฉินเหลือบมองที่ลู่หนานหยุนด้วยสายตาอ่านยาก และทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า " ดูเหมือนว่าเขาจะหลบหน้านายนะ "
หลังของลู่หนานหยุนพลันแข็งทื่อ
“ทำไม เขาไม่สนใจนายแล้วเหรอ” เหว่ยอี้เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ลู่หนานหยุนเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามกลับไป " นายมาสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน "
“ถ้าจีเจ๋อหยูไม่ชอบนาย แน่นอนว่าฉันย่อมยินดี” เหว่ยอี้เฉินพูดช้าๆ
ลู่หนานหยุนตกตะลึง เขาไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเหว่ยอี้เฉิน
เหว่ยอี้เฉินกล่าวต่อ “ถึงยังไง เด็กคนนั้นมักจะสร้างปัญหาให้ฉันเพราะนายไม่ใช่เหรอ?” โทนเสียงก็เบาบาง
หลังจากพูดจบ มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย และเดินจากไปอย่างสงบ
ลู่หนานหยุนจ้องมองเขาจากด้านหลังเป็นเวลานานแล้วตามเขาไปอย่างว่างเปล่า
หลังจากจบการแสดง จีเจ๋อหยูก็ได้พบกับหยุนเจี่ยที่ตื่นเต้นอยู่หลังเวที
หยุนเจี่ยรีบวิ่งเข้าไปกอดเขาและตะโกนด้วยความยินดี “โอ้พระเจ้า ฉันไม่อยากเชื่อเลย ตอนนี้เธอเอาชนะทั้งลู่หนานหยุนกับเหว่ยอี้เฉินได้!”
“...พี่ต้องระวังคำพูดหน่อยนะครับ” จีเจ๋อหยูคิดว่าคำพูดของเธอคอนข้างแปลก
ฉีอ่าวตงพูดอย่างนอบน้อมที่ด้านข้างว่า " หยุนเจี่ย ผมทำได้ไม่ดีเหรอ?"
หยุนเจี่ยตกตะลึง รีบปล่อยจีเจ๋อหยูและกอดฉีอ่าวตงแทน “พวกเธอยอดเยี่ยมมาก วันนี้อ่าวตงสะดุดตาสุดๆไปเลย”
เด็กฝึกคลาสC อีกสามคนของจากบริษัทเดียวกันก็มาแสดงความยินดีกับจีเจ๋อหยูด้วย เดิมทีพวกเขาไม่พอใจอีกฝ่ายมาก แต่คืนนี้นั้นพวกเขานั้นเชื่อใน "ราชาที่ถูกยกย่อง" ของจีเจ๋อหยูแล้ว
ระหว่างทางกลับ หยุนเจี่ยได้บอกกับจีเจ๋อหยูว่าพี่ชายและพี่สาวทั้งสองของเขาซื้อเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงประดับเพชรให้เขาแล้ว โดยบอกว่าพวกเขาซื้อให้เพื่อรำลึกถึงการเป็นราชาที่ถูกยกย่อง
เขาที่ไม่รู้ความจริง และรู้สึกประทับใจกับความรักนี้มาก
การแสดงครั้งแรกจบลงแล้ว แฟนๆที่ออกจากงานแสดงสดแทบจะถล่มแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เกือบทุกคนพูดถึงการแสดงที่คาดไม่ถึงของจีเจ๋อหยู ซึ่งทำให้ชาวเน็ตอดอยากปากแห้งกันใหญ่
“นี่มันเรื่องโกหกแน่ๆ จีเจ๋อหยูเนี่ยนะจะได้นั่งบัลลังก์”
" เรื่องราวมันเป็นยังไงเนี่ย ฉันอยากดูแล้ว "
แม้ว่าจีเจ๋อหยูจะไม่เห็นความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต แต่เขาก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าสายตาของผู้คนรอบตัวเขาเปลี่ยนไป
ในช่วงเช้าตรู่ของวันถัดมา จีเจ๋อหยูกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยเขารู้สึกว่าตัวตนของเขาในฐานะตัวร้ายได้เปลี่ยนไปแล้ว
เขาไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสาดน้ำกรดอีกต่อไป
ด้วยความสุขเช่นนี้ จีเจ๋อหยูจึงหลับไปอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม ความสุขนี้ไม่ได้คงอยู่แค่วันเดียว ในตอนเย็นของวันถัดไป สายฟ้าฟาดจากท้องฟ้าสีครามก็กระทบเขาหัวของจีเจ๋อหยูอย่างจัง…
ตอนที่สองของ "Star Way Shines" ได้ออกอากาศ ซึ่งเป็นช่วงครึ่งหลังของการจัดอันดับคลาสเบื้องต้น และเนื้อหาของการประเมินเพลงธีม
การประเมินเพลงธีม...แสดงโดยจีเจ๋อหยูเวอร์ชั่นในหนังสือต้นฉบับ
ทุกคนได้ยินว่าจีเจ๋อหยูถูกเลือให้เป็นราชาเมื่อคืนนี้ พวกเขาคิดว่าเขาต้องเป็นม้ามืดแห่งการตอบโต้แน่นอน และรีบไปดูตอนที่สองอย่างมีความสุข และแล้วความโกรธเคืองก็ประทุ
" เวรเอ้ย นี่ฉันคิดไปเองใช่ไหม นั่นเขาเรียกว่าเต้น?"
“ใครบอกว่าเมื่อคืนว่าเขาพัฒนาขึ้นมาก มันก็แค่นั้น”
“ราชา! เขามีดีแค่หน้าไม่ใช่หรือไง!”
เพียงครึ่งชั่วโมงหลังจากรายการตอนที่สองออกอากาศ ชื่อของจีเจ๋อหยูก็พุ่งไปที่การค้นหาที่ร้อนแรง และตามด้วยเสี่ยวฮ่วยที่มาจาก Class F
เสี่ยวฮ่วยนั้นเป็นเด็กฝึกของ Xunhua Entertainment เขาเป็นลูกครึ่ง ดูตั้งใจและทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่เขากลับมีพื้นฐานที่แย่มาก เขาได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในคลาส D ในการจัดอันดับเริ่มต้น
เมื่อเพลงธีมถูกประเมิน เสี่ยวฮ่วยได้ยืนอยู่ข้างๆจีเจ๋อหยู หลังจากที่เห็นจีเจ๋อหยูกระโดดไปรอบๆอย่างมั่นใจ เขาก็ไร้สมาธิและเขาก็ถูกผลักออกจากฉากไป หลังจากประเมินเพลงหลักแล้ว เขาก็ถูกให้ไปอยู่ในคลาส F
เป็นผลให้ความโกรธของชาวเน็ตเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
“ฉันพูดไม่ออกจริงๆ เสี่ยวฮ่วยทำงานหนักมาก ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะที่เขาได้อยู่คลาส F แต่ทำไมจีเจ๋อหยูถึงได้อยู่ในคลาส B ล่ะ!”
“เจ้าชายแห่งซิงหยูช่างน่าทึ่งมาก เขายัดเงินเข้ารายการไปเท่าไหร่?”
“เสี่ยวฮ่วยช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว เจ้าชายเลือดผสมตัวน้อยถูกเตะทิ้งไปอย่างนั้น”
ความคิดเห็นของชาวเน็ตยังคงเดือดดาล และรุนแรงกว่าตอนที่ออกอากาศตอนแรกมาก จนXingyu Entertainment ต้องเริ่มประชาสัมพันธ์ให้จีเจ๋อหยูอีกครั้ง
จีเจ๋อหยูรู้เรื่องนี้จากทีมงานและเจอหยุนเจี๋ยในตอนเย็น
ไม่เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้ หยุนเจี๋ยนิ่งมาก แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เธอพาจีเจ๋อหยูไปที่มุมห้อง
จีเจ๋อหยูเอ่ยกระซิบ " พี่ ผมสบายดี ... "
“ฉันไม่ได้มาเพื่อปลอบใจเธอ” หยุนเจี๋ยเผยอริมฝีปากสีแดงเพลิงของเธอด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ฉันไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นศิลปินจริงๆมาก่อน—ยกโทษให้ฉันด้วยที่พูดแบบนั้น แต่ตอนนี้ ฉันต้องบอกว่าเธอคืออนาคตของเรา กลายเป็นดาวค้างฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
จีเจ๋อหยูนิ่งค้าง
“เธอน่าจะรู้เรื่องในอินเทอร์เน็ตแล้ว” หยุนเจ๋ยกล่าวต่อ “แต่เธอไม่จำเป็นต้องมองย้อนกลับไปหรอกนะ ตอนนี้เธอยังมีอะไรต้องทำอีกมาก” น้ำเสียงมีความมั่นใจ
เธอเป็นผู้จัดการอันดับต้นๆของ Xingyu Entertainment และแม้แต่วงการบันเทิงทั้งหมดเธอยังเหนือชั้น
แต่จีเจ๋อหยูได้ตระหนักถึงความจริงข้อนี้แล้ว
“ไม่ว่าตอนนี้เธอจะถูกเกลียดชังมากแค่ไหน ตราบใดที่เธอทำตามที่ฉันพูด...” หยุนเจี๋ยยิ้มและพูดต่อ ท่ามกลางดวงตาที่ประหลาดใจของจีเจ๋อหยู
“ฉันสัญญาว่าเธอจะกลายเป็นดวงดาวสีแดง เป็นสีแดงที่อยู่บนสุด!”