ตอนที่ 7 : ธาตุแห่งความโกลาหล
*กึกกัก*
หลังจากที่เกรย์เคลื่อนย้ายพลังงานไปทั่วร่างกายของเขาจนครบสิบรอบได้สำเร็จก็มีเสียงดังก้องออกจากร่างกายของเขา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มเกิดขึ้นในร่างกายของเขาทันที
เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น เกรย์ก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของเขา เขาเห็นชายคนหนึ่งยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศและมองลงมาที่โลก เขามีออร่าอันสูงส่งแผ่กระจายไปทุกทิศทางราวกับว่าเขาเป็นจ้าวเหนือทุกสรรพสิ่ง เขายื่นมือขวาออกมา บนมือของเขาสามารถมองเห็นธาตุทั้งหมดมารวมกันอยู่บนมือของเขากลายเป็นภาพที่สวยงามเป็นอย่างมาก
ธาตุต่างๆก่อตัวเป็นลูกกลมๆที่ด้านบนของมือของเขา ลูกกลมๆนั้นสวยงามและชวนให้หลงใหล แต่เกรย์สัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างที่ซ่อนอยู่ในลูกกลมๆที่สวยงามนั่น เกรย์อาจเรียกสิ่งนี้ได้ว่านักฆ่าที่สวยงามเลยทีเดียว
ชายคนนั้นกางมือออกกว้างๆและลูกกลมๆนั้นก็ระเบิดออก มันเป็นภาพที่น่าทึ่งและยังสวยงามอีกด้วย เกรย์ประหลาดใจกับจำนวนธาตุที่ชายคนนั้นควบคุมได้ ชายคนนั้นมองมาทางเกรย์และยิ้มให้เขา
หลังจากที่แสงไฟจากการระเบิดดับลง ชายคนนั้นก็เดินมาหาเขาอย่างสบายๆก่อนจะพยักหน้าให้กับเกรย์
เกรย์ยืนอย่างประหม่าและมองชายตรงหน้าที่กำลังเดินมาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา เขาไว้ผมยาวประบ่า
“เด็กน้อย นายชื่ออะไร”
ชายคนนั้นถามอย่างใจเย็น
"เกรย์"
เกรย์ตอบอย่างระมัดระวัง
ชายคนนั้นเลิกคิ้ว และจ้องมาที่เขาอย่างใกล้ชิด
“นายเป็นคนที่สืบทอดพลังของฉัน เพราะนายสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำได้ นายต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ถ้านายต้องการใช้ธาตุแห่งความโกลาหล”
“ธาตุแห่งความโกลาหล?”
เกรย์ประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ทุกอย่าง แต่เขาก็รู้ว่ามีธาตุเพียงเจ็ดธาตุเท่านั้นในโลกใบนี้ และธาตุนั้นได้แก่ ธาตุไฟ น้ำ ลม ดิน สายฟ้า ความมืด และแสงสว่าง เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับธาตุแห่งความโกลาหลที่ชายลึกลับคนนี้พูดถึงมาก่อน
"อืม ในตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้มากนักหรอก นายเพียงแค่เก็บมันไว้ในใจของนายก็พอ ตอนนี้นายได้รับการสืบทอดพลังของเทพที่แข็งแกร่งที่สุด เทพแห่งความโกลาหล"
ชายคนนั้นพูดกับเกรย์
“เทพแห่งความโกลาหลเหรอ?”
เกรย์ได้อ่านเกี่ยวกับเทพเจ้าในหนังสือบางเล่ม และรู้ว่ามีเทพสำหรับแต่ละธาตุ แต่เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเทพแห่งความโกลาหลที่ชายคนนี้พูดถึง
"ใช่แล้ว เทพแห่งความโกลาหล เขาแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเทพทั้งหมด และเป็นผู้นำของเทพทั้งหมดด้วย"
ชายคนนั้นกล่าว
"ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องเทพแห่งความโกลาหลคนนี้ที่ท่านพูดถึงเลย"
เกรย์พูดกับเขา
ชายคนนั้นมองเขาด้วยสายตาที่งุนงง
“ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับเทพแห่งความโกลาหลงั้นหรือ?”
เขาถาม
"ไม่มีเลย หลังจากสงครามครั้งใหญ่ของเหล่าทวยเทพฉันก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของเทพแห่งความโกลาหลเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และสงครามครั้งนั้นก็เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 100,000 กว่าปีที่แล้ว"
เกรย์อธิบาย
ชายลึกลับคนนั้นตื่นตระหนกทันที
“ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นจะมีสงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาไม่รู้เรื่องของเทพแห่งความโกลาหล”
ชายลึกลับพึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา
"อืม ตอนนี้ลืมมันไปซะ นายจะได้รู้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตอนนี้เนื่องจากนายได้รับการสืบทอดพลังนี้แล้ว นายก็น่าจะรู้สึกถึงมันบ้างแล้วใช่ไหม?”
ชายคนนั้นบอกอย่างจริงจัง
"ใช่ ฉันรู้ว่าฉันสามารถใช้ธาตุทั้งหมดได้"
เกรย์ตอบ
“อืม นั่นยังไม่ใช่ด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน นายน่าจะยังไม่สามารถสร้างธาตุแห่งความโกลาหลได้ในเร็วๆนี้”
ชายคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เข้าใจแล้ว แล้วตอนนี้ฉันสามารถใช้พลังในการควบคุมธาตุได้หรือยัง"
เกรย์ถามอย่างตื่นเต้น เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเทพแห่งความโกลาหลหรือธาตุโกลาหล ตอนนี้สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือ เขาสามารถใช้ธาตุต่างๆได้หรือยัง ถึงแม้ว่าเขาจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของเทพแห่งความโกลาหลหรือธาตุแห่งความโกลาหล แต่มันก็ไม่ได้สำคัญกับเขาขนาดนั้น
"ไม่"
ชายคนนั้นตอบ
"อะไรกัน!"
เกรย์ร้องอุทาน
"ไม่"
ชายคนนั้นพูดอีกครั้ง
“แต่มันระบุไว้ในม้วนหนังสือว่าฉันจะสามารถควบคุมธาตุทั้งหมดได้”
เกรย์พูดอย่างรวดเร็ว เขาจินตนาการไว้แล้วว่าเขาจะควบคุมธาตุทั้งหมดได้ยังไง แต่ตอนนี้ชายคนนี้กำลังบอกเขาว่าเขาไม่สามารถใช้ธาตุได้ในตอนนี้
"ฉันรู้ แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เหตุผลเป็นเพราะว่าร่างกายของมนุษย์ไม่ควรมีความสัมพันธ์กับธาตุทุกธาตุ ดังนั้นมันต้องใช้เวลาและการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะควบคุมมันได้"
ชายคนนั้นพูดขณะมองไปที่เกรย์
"ฝึกฝนอย่างหนักงั้นหรอ ฉันฝึกฝนหนักมากกับร่างกายของฉัน แต่ท่านกำลังบอกฉันว่าฉันจะยังคงต้องฝึกฝนให้หนักมากขึ้นงั้นหรอ"
เกรย์รู้สึกหดหู่ เขาฝึกฝนหนักมากแล้วจากมุมมองของเขา และเขาตัดสินใจที่จะฝึกฝนหนักขนาดนี้เพราะเขานึกถึงสิ่งที่เขาจะได้รับ เขาคิดว่าเขามีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเขากลับไม่ได้มีอะไรเลย
“นายไม่ได้คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นใช่มั้ย?”
ชายคนนั้นพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
เกรย์รู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอก
“ฉันลดจำนวนธาตุที่จะควบคุมได้ให้เหลือเพียงธาตุเดียวได้ไหม?” เกรย์ถาม
แม้ว่าความคิดในการใช้ธาตุทั้งหมดจะฟังดูดีมาก แต่ถ้าหากเขาต้องรอไปอีก 15 หรือ 20 ปี มันคงไม่ดีแน่ ถ้าเขาสามารถใช้ธาตุได้เพียงหนึ่งธาตุเขาก็คงจะพอใจมากแล้ว เขาไม่ได้โลภเกินไป เขารู้สึกว่ามันจะไม่คุ้มค่าที่จะมีธาตุทั้งหมด ถ้าเขาต้องรอนานขนาดนั้น ถ้าเขาตายเพราะเขาไม่สามารถควบคุมธาตุใดๆได้ล่ะ มันจะแย่ขนาดไหนกัน
ชายคนนั้นมองไปที่เกรย์และพูดไม่ออกกับสิ่งที่เกรย์พูดถึง
"แล้วนายจะทำให้มันน้อยลงได้ยังไง?"
เขาอดไม่ได้ที่จะถาม
"ฉันไม่ได้จะทำให้น้อยลง ฉันแค่จะทำในสิ่งที่สมเหตุสมผลมากกว่าจากมุมมองของฉัน ฉันตามหลังเพื่อนในแง่ของการฝึกฝนแล้ว ดังนั้นถ้าฉันใช้เวลานานมากกว่านี้ ฉันก็อาจจะยอมแพ้ได้ในสักวันหนึ่ง"
เกรย์ให้เหตุผล
ชายคนนั้นมองไปที่เกรย์สักพักก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
"นี่คือมิติแห่งความโกลาหล นายจะสามารถเข้าใจธาตุแต่ละส่วนได้ที่นี่ นายสามารถมาที่นี่ได้ตลอดเวลาเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับมัน หลังจากที่นายมีความเข้าใจในธาตุนั้นๆสูงขึ้นแล้วละก็ นายก็จะสามารถใช้ธาตุเหล่านั้นได้”
ชายคนนั้นกล่าว
"โอ้ สิ่งที่ฉันต้องทำคือเข้าใจธาตุต่างๆงั้นหรอ?"
เกรย์ถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
'ทำไมคุณไม่พูดก่อนหน้านี้แทนที่จะพูดให้ฉันกลัว' เกรย์คิด
"อย่าคิดว่ามันจะง่าย การเข้าใจธาตุที่มีอยู่แล้วด้วยตัวเองกับการเกิดมาพร้อมกับธาตุที่ถูกกำหนดไว้แล้วนั่นมันแตกต่างกัน การทำความเข้าใจจะยากกว่าและความสามารถในการใช้ธาตุของนายจะเพิ่มขึ้นตามความเข้าใจของนาย หากความเข้าใจของนายต่ำพลังการควบคุมธาตุนั้นๆก็จะต่ำลงเช่นกัน”
เขาอธิบายให้เกรย์ฟังอย่างอดทน
“มันไม่น่าจะยากขนาดนั้น ฉันจะเข้ามาในมิติแห่งความโกลาหลนี้ได้ยังไง?”
เกรย์พูดอย่างไร้เดียงสาก่อนจะถามคำถามสำคัญ สำหรับเขา เขาไม่คิดว่ามันจะยากสำหรับเขาที่จะเข้าใจธาตุต่างๆได้ สิ่งที่เขากังวลคือเขาจะมาที่นี่ได้อย่างไร
ชายคนนั้นมองมาที่เขาและไม่ตอบกลับ เขารู้ว่าการเข้าใจธาตุต่างๆนั้นยากแค่ไหน และเขาก็ไม่อยากทำให้เกรย์ตกใจ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เกรย์คิดในสิ่งที่ตัวเองอยากคิด
"เพียงแค่นายทำแบบเดิม นายก็จะสามารถมาที่นี่ได้ทุกเมื่อ"
ชายคนนั้นกล่าว
"โอเค"
เกรย์ตอบอย่างมีความสุข เนื่องจากตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาจะมาที่นี่ได้อย่างไรทุกอย่างจึงสงบลง
"โอ้! ฉันยังไม่ได้บอกนายถึงแง่มุมที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน"
จู่ๆชายคนนั้นก็พูดขึ้น
เกรย์มองเขาด้วยความสนใจ
"การหลอมรวมธาตุ"
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"การหลอมรวมธาตุงั้นหรอ?"
ความสนใจของเกรย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้
ชายคนนั้นรู้ว่าเขาจะต้องอธิบายให้เกรย์ฟัง เขาจึงอธิบายให้เกรย์ฟังอย่างอดทนว่า
"ใช่การหลอมรวมธาตุ พลังนี้จะทำให้นายสามารถหลอมรวมธาตุได้ หลังจากที่นายสามารถหลอมรวมธาตุทั้งหมดได้แล้ว นายก็จะสามารถสร้างธาตุแห่งความโกลาหลซึ่งเป็นการรวมกันของธาตุทั้งหมดจนมันกลายเป็นธาตุที่แข็งแกร่งที่สุด"
เกรย์ตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ธาตุแห่งความโกลาหลเป็นการหลอมรวมของธาตุทั้งหมดยังงั้นหรอ
“นั่นใช่สิ่งที่ฉันเห็นท่านทำก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
เกรย์ถาม เขาจำได้ว่าเขาเห็นชายคนนั้นสร้างลูกกลมๆที่ด้านบนของมือที่ยื่นออกมา มันสวยงามแต่ก็ดูอันตรายเป็นอย่างมาก
"ใช่แล้วมันคือสิ่งที่นายเห็นนั่นแหละ สิ่งที่ฉันสร้างขึ้นคือธาตุแห่งความโกลาหล"
ชายคนนั้นไม่ได้ซ่อนอะไรจากเกรย์ และบอกเขาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
“แล้วจะมีธาตุที่จะเอาชนะธาตุนี้ได้ด้วยหรอ ยกเว้นแต่การที่ธาตุอื่นๆจะสามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันได้เหมือนกัน”
เกรย์รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้ยินและก็ตื่นเต้นเช่นกัน เพราะนั่นหมายความว่าเขาจะมีความสามารถที่น่าทึ่งแบบนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถใช้ธาตุทั้งหมดได้ แต่เขายังสามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันได้อีกด้วย
และเป็นอีกครั้งที่เกรย์เริ่มจินตนาการถึงตัวเองเมื่อเขาใช้ธาตุแห่งความโกลาหล และเขาอดไม่ได้ที่จินตนาการอย่างตื่นเต้น
ชายคนนั้นมองมาที่เขา และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“คนประเภทนี้ได้รับสืบทอดพลังของฉันงั้นหรอ”
เขาเริ่มสงสารโลกใบนี้เพราะคนปัญญาอ่อนที่มีอำนาจมากมายกำลังจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระในไม่ช้านี้ แต่ตัวของเขาเองก็รู้ว่าเกรย์เป็นคนที่มุ่งมั่นเพราะเขาสามารถฝึกฝนตัวเองให้บรรลุข้อกำหนดที่ระบุไว้ได้
แต่ถ้าเขารู้ว่าเกรย์ไม่ได้ทำอย่างตั้งใจขนาดนั้นเขาจะต้องใจหายอย่างแน่นอน