ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 103 เกมจิตวิทยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 105 หิมะเดือดเลือดสาดในซอยมืด

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 104 เป็นไส้เดือนหรือเบ็ดกันแน่


ตอนที่ 104 เป็นไส้เดือนหรือเบ็ดกันแน่

ทุกคนมองไปข้างหลังพวกเขาเมื่อได้ยินเสียงลุงหลิวจื่อ และจ้องมองไปที่เสี่ยวฉู่ที่กำลังเดินออกจากตรอกทันที

“จบกัน เขากำลังช็อก” เสี่ยวลิ่วนั่งอยู่ในรถแล้วพูดกับหมาเหล่าเอ้อทันที “เด็กคนนี้อยากหนีออกไป”

ภายในตรอก เสี่ยวฉู่สะพายกระเป๋าที่ไหล่และสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายเนื้อหนา สองมือล้วงกระเป๋าเสื้อแก้หนาว เขาเร่งฝีเท้าเร็วมาก ในขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ยานพาหนะที่จอดอยู่รอบตัวเขาบริเวณนั้น

“นายจะเอายังไง?” ลุงหลิวจื่อก็มองไปที่หมาเหล่าเอ้อแล้วถามว่า “หยุดเขาหรือเปล่า?”

หมาเหล่าเอ้อค่อยๆ ชักปืนออกมา ดวงตาของเขาลังเลเพราะกำลังคิดถึงคำพูดของฉินหยู่

“ก็เห็นๆ กันอยู่แล้วนี่ ฉันว่าทำให้มันเสร็จๆ ไปดีกว่า จะต้องกังวลทำไม!” เสี่ยวลิ่วจ้องมองแล้วพูดว่า “ช่างแม่งเหอะ! ฉันจะลงไปจับเขาเอง”

“อย่าเพิ่ง!” ลุงหลิวจื่อยื่นมือออกดึงเสี่ยวลิ่วทันที “อย่าเพิ่งใจร้อน เราขับรถตามเขาไปก่อนได้”

ในขณะที่คนไม่กี่คนกำลังสื่อสารกัน เสี่ยวฉู่เดินเอามือล้วงกระเป๋าออกจากปากตรอกอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเลี้ยวไปทางด้านซ้ายของถนน

บนถนนค่อนข้างเปลี่ยวร้าง เสี่ยวฉู่เดินประมาณร้อยเมตรก่อนที่เขาจะหยุดกะทันหันและยืนอยู่ริมถนน มองไปรอบๆ ราวกับว่าเขากำลังมองหาแท็กซี่

ทันใดนั้นหมาเหล่าเอ้อตะโกนขึ้นทันทีพร้อมกับปืนในมือ “สตาร์ตรถ! เขาต้องการหารถเพื่อหลบหนี”

“คุณมีแผนยังไง” เสี่ยวลิ่วขมวดคิ้วถามขณะที่เขายื่นมือไปกดปุ่มสตาร์ตรถ

“ทำตามฉันก่อน” หมาเหล่าเอ้อขมวดคิ้วและสั่ง “ลุงจื่อ โทรหาฉินหยู่และลุงหม่า บอกให้เปลี่ยนสถานที่”

“ตกลง” ลุงหลิวจื่อพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดทันที

ในที่นั่งคนขับ เสี่ยวลิ่วก้มมองแล้วกดปุ่มสตาร์ตรถ ในขณะที่เขากำลังจะเข้าเกียร์และถอยรถ เสี่ยวฉู่ที่ยืนอยู่ริมถนน ทันใดนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและวิ่งอย่างรวดเร็วไปเข้าซอยฝั่งตรงข้ามของถนน

ทุกคนตกตะลึงไปตามๆ กัน

“ฉันบอกแล้ว ว่าเราเห็นอยู่แล้วว่าเขาเป็นยังไง น่าจะรีบจับๆ ให้เสร็จก็หมดเรื่อง” เสี่ยวลิ่วพูดอย่างหมดความอดทน “ดูมัน ดันเข้าไปอีกซอยหนึ่ง แล้วเรายังจะขับรถตามเข้าไปได้ไหม? เจ้าเด็กนี่มันว่องไวเหมือนหัวขโมย ถนนกว้างอย่างนี้ ถ้าเราขับรถตามไป มันจะไม่เห็นเราเหรอ? คุณมีแผนอะไรดีๆ มั่งมั้ย?!”

“หุบปาก!” หมาเหล่าเอ้อหันขวับมาจ้องมองที่เสี่ยวลิ่วแล้วตะโกน

เสี่ยวลิ่วตกใจและไม่กล้าพูดอะไรอีก

หมาเหล่าเอ้อจ้องมองที่ริมถนน เมื่อเขาเห็นเสี่ยวฉู่เข้าไปในอีกซอยหนึ่งแล้วเขาก็ตะโกนทันที “ขับรถตามไปและจัดการมัน”

“อ้า…ต้องอย่างนี้สิ”

เสี่ยวลิ่วเข้าเกียร์อย่างรวดเร็ว ถอยรถกลับเข้าข้างถนนอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเปลี่ยนเกียร์แล้วกระทืบคันเร่ง

เสียงเครื่องยนต์ของรถเร่งขึ้น และพุ่งไปที่ทางเข้าซอยราวกับลูกศรพุ่งออกจากคันธนู

เสี่ยวฉู่หันขวับมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น ดวงตาของเขาถูกแสงไฟจากไฟหน้าสาดส่องจนตามืดบอด เขาใช้แขนบังไว้และวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล

“เอี๊ยด!”

รถเบรกกะทันหัน ทำให้รถไถลเคลื่อนตัวไปข้างหน้าถึงสามสี่เมตรบนถนนที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ก่อนที่จะหยุดนิ่งในที่สุด

หมาเหล่าเอ้อผลักประตูรถ วิ่งออกไปพร้อมกับปืนในมือ

“เสี่ยวลิ่ว ดูพวกเขาไว้” ลุงหลิวจื่อสั่ง แล้วรีบออกจากรถไปกับลูกน้องอีกคน

ทั้งสามรีบวิ่งตามเข้าไปในซอยพร้อมกับปืนในมือ ในเวลาไม่ถึงสองวินาทีก็เห็นเสี่ยวฉู่วิ่งอยู่ข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ห่างจากพวกเขาไม่เกินสิบห้าเมตร

ลุงหลิวจื่อ ง้างนกปืน ยกมือขึ้นแล้วเหนี่ยวไกปืน

“ปัง!”

เสียงปืนดังขึ้นทำลายความเงียบสงบในยามค่ำคืน กระสุนพุ่งเข้าใส่กำแพงทำให้เกิดประกายไฟแลบออกมา

“วิ่ง วิ่งเข้าไป ลองดูกันว่าขาของนายกับกระสุน อะไรจะเร็วกว่ากัน” ลุงหลิวจื่อตะโกนพร้อมเล็งปืนใส่เขา

ในซอยที่ชื้นแฉะและมืดมิด เสี่ยวฉู่ค่อยๆ วิ่งช้าลงและหยุดยืนหันหลังให้ทุกคน

“ยกมือขึ้น!” ลุงหลิวจื่อตะโกน

เสี่ยวฉู่หันกลับมาพร้อมใบหน้าอันซีดเซียว มองทุกคนและตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ถ้าคุณไม่ปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่ ก็ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย”

เมื่อหมาเหล่าเอ้อได้ยินเช่นนั้น เขาก็หยุดโดยสัญชาตญาณและมองไปที่เสี่ยวฉู่ด้วยสายตาแปลกๆ “มีบางอย่างผิดปกติกับเขา”

ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นบนถนน และมีรถออฟโรดสี่คันพุ่งออกมาจากทางแยกด้านซ้ายและขวา

ในเวลาเดียวกัน ในซอยด้านหลังเสี่ยวฉู่ ก็มีร่างชายสี่คนรีบวิ่งเข้ามาพร้อมปืนในมือ

“ฉิบหายละสิ พวกมันมาถึงก่อน”

จู่ๆ หมาเหล่าเอ้อก็รู้สึกเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก หลังจากยืนลังเลอยู่สองวินาที เขารีบวิ่งไปข้างหน้าทันที “ข้าถอยไม่ได้! ฉันจะจับเสี่ยวฉู่ก่อน”

……

บนถนน

เสี่ยวลิ่วไหวตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นรถ 4 คันเข้ามาใกล้ เขารีบหมุนพวงมาลัย เข้าเกียร์ถอย และเหยียบคันเร่งทันที

“บรื้นน!”

ควันหนาทึบพุ่งออกมาจากท่อไอเสีย สองล้อท้ายรถหมุนตะกุยไปบนขอบถนน พารถแล่นถอยกลับเข้าไปในซอย

มีเสียงเบรกของรถสี่คันมาจอดข้างถนน และมีคนหลายสิบคนวิ่งกรูกันลงมา และผู้นำของพวกเขาคือ ฉิงจื่อหาว

“อย่าขยับ! หยุดรถ”

“หยุด!”

“……!”

ลูกสมุนหลายสิบคนรีบวิ่งไปข้างหน้าและขู่คำรามเสียงดังเซ็งแซ่

ฉิงจื่อหาวหยิบปืนลูกซองยาวขนาดใหญ่ยาวครึ่งเมตรจากผู้ติดตามคนหนึ่งของเขา ฉิงจื่อหาวก้มลงเล็กน้อยแล้วกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำกระสุนปืน เอียงคอแล้วคำรามอย่างโอหัง “นี่ก็คือพวกตระกูลหม่าอันโด่งดังใช่ไหม?!”

“ปัง ปัง!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ฉิงจื่อหาวก็เล็งปืนไปที่รถแล้วเหนี่ยวไก

กระสุนลูกซองอันทรงพลังถูกยิงออกมา และพุ่งกระจายเข้าระเบิดกระจกหน้ารถแตกกระจายทันที เสี่ยวลิ่วไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทัน ขณะที่เขาขยับหัวลงพยายามหลบ กระสุนลูกบอลเหล็กจำนวนมากก็พุ่งเจาะใบหน้าด้านข้างและหน้าอกกับไหล่ของเขา เกิดเป็นรูเล็กๆ หลายรู เลือดพุ่งออกมาเป็นสาย

“เข้ามาเลย ไอ้ชาติหมาที่ชื่อหมาเหล่าเอ้อ มาคุกเข่าลงตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะให้โอกาสแกโทรกลับบ้านเพื่อลาตายซะ!” ฉิงจื่อหาวตะโกนเข้าไปในตรอกด้วยดวงตาแห่งความโกรธเกรี้ยว

……

ทางแยก

หย่งตงนั่งอยู่ในรถ กำลังคุยโทรศัพท์กับหยวนหัว จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงปืนจึงถามด้วยสีหน้าตกใจ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีเสียงปืนยิงกัน?”

ขณะที่เขาพูดจบ ผู้ติดตามหย่งตงจากซงเป่ย เปิดประตูรถออกมาอย่างร้อนรน “พี่ตง เกิดการยิงต่อสู้กันที่นั่นครับ”

“หา การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแล้วเรอะ?” หย่งตงหันกลับมาแล้วถามว่า “พวกมันถูกจัดการไปหมดแล้วเหรอ?”

“ไม่ครับ” ผู้ติดตามส่ายหัว “พอเจ้าหมาเหล่าเอ้อและคนอื่นๆ กระโดดออกไป ฉิงจื่อหาวก็นำคนมาล้อมพวกเขา”

“ทั้งเฒ่าหม่าและฉินหยู่ไม่อยู่ด้วยรึ?” หย่งตงถามอีกครั้ง

“ใช่ ฉันไม่เห็นมัน”

“ให้ตายเถอะ เจ้าฉิงจื่อหาวนี่ สมองมันวิปริตหรือเปล่าวะ!” เมื่อหย่งตงได้ยินคำตอบนี้ เขาก็หน้าซีดและด่าสาปแช่ง “เสี่ยวฉู่เป็นเหยื่อที่อยู่ในมือของเราแล้ว ทำไมมันถึงรีบร้อนแบบนั้นวะ? เฒ่าหม่าคือปลาตัวใหญ่ของเรา มันไม่เข้าใจเรื่องนี้เหรอเนี่ย?”

ผู้ติดตามตอบทันทีหลังจากได้ยินเช่นนั้น “บางทีเขาอาจกลัวว่าหมาเหล่าเอ้อจะได้ตัวเสี่ยวฉู่ไป”

“ให้เขาเป็นผู้นำไปเถอะ เขาพาพวกมาหลายคันรถ คุณแค่คอยรับมือกับเขาและตามให้ทันก็พอ ฉันว่านะ”

หย่งตงจ้องมองและตะโกน “ถ้าหมาเหล่าเอ้อจะจับใครซักคน เขาจะต้องไปหาลุงของเขา ถ้ารอจนกว่าพวกเขาจะพบกันแล้วเราลงมือ เราจะได้พวกมันทั้งครอบครัว นายเข้าใจหรือเปล่า?!”

“ฉิงจื่อหาวต้องการลงมือ... ใครจะกล้าขัดใจเขาล่ะ” ผู้ติดตามตอบเสียงอ่อยๆ

“เจ้าบ้านี่มันไร้สมองจริงๆ” หย่งตงโกรธมากแล้วก้มลงพูดโทรศัพท์ต่อ “เฒ่าหยวน ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เขาไปขวางหมาเหล่าเอ้อ เดี๋ยวฉันจะไปดูเหตุการณ์! การยิงกันต้องจบโดยเร็ว และปล่อยเสี่ยวฉู่ไว้เป็นเหยื่อล่อตามเดิม เฒ่าหม่าอาจยังต้องการจับเหยื่อตัวนี้อยู่”

“ไปจัดการเลย” หยวนหัวพยักหน้า

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด