[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 103 เกมจิตวิทยา
ตอนที่ 103 เกมจิตวิทยา
ในร้านขนม
ฉินหยู่ขมวดคิ้วแล้วพูดใส่โทรศัพท์ “นายอย่าเพิ่งรีบร้อนไป รอจนกว่าเราทุกคนมารวมกันที่นี่ก่อน แล้วค่อยเคลื่อนไหวจะเป็นการดีกว่า”
“กว่านายจะมาถึงก็สายเกินไปแน่ๆ” หมาเหล่าเอ้อเน้นอารมณ์ “ตอนที่ฉันจับเหวินเทา บังเอิญมีคนรู้จักเขาที่เอ็มจีออกมาเจอเข้าโดยบังเอิญ และฉันไม่รู้ว่าคนคนนี้รู้จักเสี่ยวฉู่หรือเปล่า และโทรศัพท์ของเหวินเทาก็ยังดังขึ้นสองครั้งแต่เราไม่รับสาย เขาแค่โทรหาเราเฉยๆ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี้คงจะเริ่มหวาดระแวงแล้ว ดังนั้นถ้าฉันไม่รีบไปที่นั่นตอนนี้ ถ้าเขาหนีเตลิดไปอีก เราจะหาเขาไม่เจออีกต่อไป”
“หมาเหล่าเอ้อ ถ้าเขาหวาดระแวงจริงๆ เขาจะยังคงวิ่งหนีต่อไป และนายจะไม่สามารถจับเขาได้หรอก ไม่ว่าเราจะกังวลแค่ไหนก็ไม่ควรเร่งรีบ นายหยุดรถใกล้บ้านเหวินเทาก่อน แค่จับตามองเขาไว้ แต่อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่ามจะดีกว่า”
ฉินหยู่พยายามเตือนต่อไป “ฉันยังคงพูดเหมือนเดิม ในเรื่องนี้นายจะพิจารณาแต่เสี่ยวฉู่ไม่ได้ แต่ยังต้องพิจารณาว่าบริษัทยาและหย่งตงก็รู้ว่าเรากำลังมา และความสัมพันธ์ในท้องถิ่นของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเรามาก ถ้าหากพวกเขารู้เรื่องนายจับตัวเหวินเทาก่อน นายคิดว่าพวกเขาจะยอมเสียเปรียบหรือ?”
“เสี่ยวหยู่ ถ้านายไม่ได้อยู่ข้างฉัน นายจะไม่เข้าใจสถานการณ์จริงๆ” หมาเหล่าเอ้อโต้ตอบอย่างรีบร้อน “หากอีกฝ่ายต้องการเหวินเทา เขาคงโดนจับไปนานแล้ว คงไม่มีโอกาสใด้กลับไปที่เอ็มจีอีก ลองคิดดูสิ เสี่ยวฉู่อยู่ที่เฟิ่งเป่ยนานแค่ไหนแล้ว? เกือบจะเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว นายก็รู้? ตอนนี้เราไม่ต้องสนใจว่าเขาจะรู้หรือไม่ เราต้องจับเขาให้ได้คราวนี้... เสี่ยวฉู่มันนิสัยหัวขโมยมาก หากมันได้กลิ่นผิดปกติ มันจะวิ่งหนีทันที ไม่อย่างงั้นเราก็จับมันได้ที่ซงเจียงแล้วสิ”
“ฉันยังรู้สึก...”
“เริ่มลงมือกันเถอะ ฉันจะให้ที่อยู่ที่นี่กับนาย แล้วนายรีบมาที่นี่ทันทีเลยนะ” หมาเหล่าเอ้อก้มลงมองนาฬิกา “ฉันจะรอดูสถานการณ์ที่นี่แล้วตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวหรือไม่”
“โอเค ฉันจะติดต่อลุงหม่า”
“แค่นั้นแหละ”
ทันทีที่พวกเขาพูดจบทั้งสองก็วางสาย ฉินหยู่ขอให้แมวแก่จ่ายค่าอาหารเดินออกจากร้านขนมทันที แล้วกดโทรศัพท์ถึงผู้เฒ่าหม่า
“สวัสดี?”
“คุณลุง ได้อะไรหรือเปล่า?”
“อืม เรียบร้อยแล้ว”
“อ้อ ครับ ตอนนี้หมาเหล่าเอ้อได้จับเหวินเทาไว้แล้ว และเขาบอกว่า สามารถไปถึงเสี่ยวฉู่ได้ทันที แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทำให้หย่งตงและชายชื่อฉิงนั่นรู้แล้วว่าเรามาที่เฟิ่งเป่ย ดังนั้นเราต้องระวังให้มากตอนจับเสี่ยวฉู่ เพราะคอนเน็กชันของเราเทียบไม่ได้กับคนอื่นในท้องถิ่น เข้าใจใช่ไหม? ฉินหยู่ขมวดคิ้วอธิบายต่อ”ลองคิดดูสิ คุณลุงตกเป็นเป้าหมายทันทีที่คุณเข้าสู่เฟิ่งเป่ย มันจะยากแค่ไหนกันสำหรับพวกเขา ที่จะหาพนักงานธรรมดาที่ทำงานในสถานที่อย่างเอ็มจี?”
“จริงของนาย” ผู้เฒ่าหม่าพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันจะให้ที่อยู่กับลุงทีหลัง และลุงรีบตรงไปที่นั่นได้เลย ไม่ต้องมารับแมวแก่กับฉัน” ฉินหยู่พยายามจะจัดการสถานการณ์ให้รัดกุมที่สุด เพราะไม่ต้องการให้พวกของเขาคนใดพลาดพลั้งไป ถ้าเป็นไปได้ “เราจะไปที่นั่นกันเอง ขอย้ำอีกที คุณลุงต้องระวังให้มาก ตราบใดที่คุณยังรู้ความเคลื่อนไหวของเสี่ยวฉู่ ยังไม่จำเป็นต้องแตะต้องเขาทันที ชายคนนี้อยู่ในที่โล่งแจ้ง ใครก็ตามที่โจมตีก่อนระหว่างเรากับอีกฝ่าย จะต้องออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งด้วยเหมือนกัน”
“ฉันเข้าใจแล้ว”
“เท่านี้ก่อนครับคุณลุง ติดต่อฉันได้ตลอดเวลานะ”
“ตกลง”
หลังจากจบการสนทนา ทั้งสองก็วางสาย
……
ประมาณสิบห้านาทีต่อมา
ภายในรถ
หมาเหล่าเอ้อดึงผมของเหวินเทาแล้วถามว่า “บ้านของนายอยู่ที่ไหน?”
“ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยข้างหน้า” เหวินเทาตอบตามความจริง
“เสี่ยวลิ่ว จอดรถ” หมาเหล่าเอ้อคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่ง “จอดรถหลังบ้านแล้วปิดไฟ”
“ครับ” เสี่ยวลิ่วเชื่อฟัง
หมาเหล่าเอ้อหันกลับมามองเหวินเทา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนาย ตราบใดที่นายอยู่บนถนน ฉันไม่สนใจที่จะลงโทษอะไรนาย ตรงกันข้าม ฉันสามารถหาเงินให้นายได้ด้วยนะ”
“ฉัน...ฉันเข้าใจแล้ว” เหวินเทาพยักหน้า
“นายแต่งเรื่องของนายขึ้นและโทรหาเสี่ยวฉู่” หมาเหล่าเอ้อตัดสินใจฟังคำแนะนำของฉินหยู่ ในขณะนี้เขาไม่ได้ไปที่บ้านของเหวินเทาโดยทันที แต่พูดเบาๆ “บอกเขาไปว่านายเจอคนรู้จักบนถนนและพูดคุยกันอีกสามสี่คำ โทรศัพท์ถูกปิดเสียงทำให้นายไม่ได้ยินเสียงโทรของเขา และนายกำลังเดินกลับบ้าน”
“ทางที่ดีไม่ควรโทรกลับหาเขา” เหวินเทาส่ายหัว
“นายหมายความว่าไง?” หมาเหล่าเอ้อขมวดคิ้ว
“เสี่ยวฉู่ค่อนข้างระวังตัวแจ ถ้าฉันโทรหาเขาโดยเฉพาะเพื่ออธิบาย เขาจะเกิดความสงสัย” เหวินเทากลืนน้ำลายและตอบด้วยความกังวลใจ “คนที่ฉันพบข้างที่จอดรถเมื่อกี้ไม่รู้จักเสี่ยวฉู่... ดังนั้นฉันคิดว่า คุณแค่กระโจนเข้าไปหาเขา... เขาคงไม่หนีไปง่ายๆ เพราะเขาไม่มีคนรู้จักในเฟิ่งเป่ยและไม่มีที่จะไปด้วย”
หมาเหล่าเอ้ออึ้งไปและพยายามใช้ความคิดให้ลึกลงไปยิ่งขึ้น
“ถ้าคุณยืนกรานให้โทรออก ฉันก็จะทำ แต่ถ้าเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ววิ่งหนีไป... ฉันก็ช่วยอะไรอีกไม่ได้แล้ว” เหวินเทากล่าวเสริมอีกครั้ง
เมื่อได้ยินเช่นนี้หมาเหล่าเอ้อก็ลูบหัวอย่างไม่สบอารมณ์ และหันไปมองเสี่ยวลิ่ว “นายมีข้อเสนอแนะอะไรไหม เราควรเข้าไปเลยหรือควรรอ”
“คุณกำลังรออะไรอยู่ล่ะ?” เสี่ยวลิ่วตอบอย่างไม่ลังเล “เสี่ยวฉู่ไม่ใช่คนโง่ เหวินเทาไม่ได้กลับไปนานมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่รับสาย... เสี่ยวฉู่อาจโทรไปถามที่เอ็มจีคาร์นิวัลแล้วก็ได้ เราแค่ไม่รู้ว่าเขาโทรเมื่อไหร่เท่านั้นเอง”
เมื่อลุงหลิวได้ยินดังนั้น เขาก็โต้กลับทันที “ฉันคิดว่ารอให้พี่หม่าเข้ามาด้วยกันจะดีกว่า”
หมาเหล่าเอ้อหันกลับมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลุงหลิวจื่อมองไปด้านข้างเหวินเทาแล้วพูดให้ทุกคนคิด “ใครจะรู้ว่าเขาเป็นคนหรือผี ใครจะรู้ว่าคำพูดของเขาจริงหรือเท็จแค่ไหน”
“พี่ชาย ฉันเกือบจะถูกตัดไข่อยู่แล้ว ฉันกล้าโกหกเหรอ?” เหวินเทาโต้เถียงทันที
“เหี้ยเอ๊ย!”
หมาเหล่าเอ้อสาปแช่ง มองดูนาฬิกา แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันที เตรียมโทรหาลุงของเขา
“กริ๊ง!”
โทรศัพท์ของเหวินเทาดังขึ้น
“ใคร?” หมาเหล่าเอ้อถามทันที
“จากเสี่ยวฉู่” เหวินเทาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วตอบเบาๆ
“นายตอบตามสิ่งที่เขาพูด เปิดสปีกเกอร์โฟนด้วย”
“ครับ” หลังจากที่เหวินเทาพยักหน้า เขาก็ขยับหน้าไปใกล้โทรศัพท์ และลุงหลิวจื่อก็ช่วยกดปุ่มรับสาย
“ฮัลโหล?”
“...!” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย
“เฮ้ เสี่ยวฉู่” เหวินเทาร้องเรียกอีกครั้ง
หลังจากที่เสี่ยวฉู่เงียบไปสักพัก เขาก็ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “แกเจอใครที่มาจากซงเจียงหรือเปล่า?”
“แกกำลังพูดถึงอะไร คนจากซงเจียง?” เหวินเทาแสร้งทำเป็นสับสนและตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนคนหนึ่งกลางทาง และเขาเล่าว่าเขาไม่อยากทำงานที่เอ็มจีอีกแล้ว เราสองคนเลยคุยกันเรื่อยเปื่อยเล็กๆ น้อยๆ”
“เอ่อ แกจะกลับมาเมื่อไหร่” เสี่ยวฉู่ถาม
“เราอยู่ในรถ อีกประมาณสิบนาทีถึง”
“โอเค งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันเมื่อกลับถึงบ้านละกัน” ดวงตาของเสี่ยวฉู่แสดงสีหน้าผิดหวังและเขาก็วางสายโทรศัพท์
หมาเหล่าเอ้อกำลังนั่งคิดบางอย่างอยู่ในรถ หลังจากครู่หนึ่งผ่านไป จู่ๆ เขาก็พูดว่า “ฉันคิดว่าเขากำลังตกใจกลัว”
ทันทีที่พูดจบก็มีร่างคนคนหนึ่งอยู่ลึกเข้าไปในซอย กำลังรีบเดินออกมาและมุ่งหน้าตรงไปยังถนนสายหลัก
เป็นนิสัยของลุงหลิวจื่อ ที่จะหันมองตรวจตราไปรอบๆ เสมอ และคราวนี้บังเอิญเห็นเงาร่างคนคนหนึ่ง จึงโพล่งออกมา “เสี่ยวฉู่! เสี่ยวฉู่นั่นเอง เขาออกมาแล้ว”
…………………………………………………………….