บทที่ 8 โจวยวี่
ภายในร้านมีซอมบี้อยู่แค่สองสามตัว ฉินอีคาดคะเนว่าพวกมันน่าจะเคยเป็นพนักงานของที่นี่ เธอเข้าไปประชิดซอมบี้แต่พวกมันไม่ได้โจมตีเธอ เธอจึงใช้โอกาสนี้ตัดหัวพวกมันออกในทันที
พลังจิตนั้นค่อนข้างจะใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะยามเมื่อเจอกับฝูงซอมบี้ ฉินอีคิดอยู่กับตนเอง
ที่แห่งนี้มีรถอยู่หลายคัน ฉินอีเลือกรถบางคันที่สภาพดีและดูทนทานออกไปกับเธอด้วย แล้วก็ดูเหมือนว่าต้องไปปั๊มน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นของที่ใช้แล้วหมดไป เธอจึงจำเป็นต้องหามาเพิ่มให้มากขึ้นอีก
เมื่อออกจากร้าน ฉินอีก็ค้นหาร้านค้าอื่น ๆ ต่อทันที เธอกวาดเอาของใช้ต่าง ๆ เสื้อผ้า เอาไปด้วย รองเท้า เอาไปด้วย อาหาร ต้องเอาไปด้วยอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้โลภมากจนเกินไป แต่ละร้านที่เธอเข้าไป เธอจะเอาของมาแค่หนึ่งในสามเสมอ เพื่อให้มันเหลือเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่น ๆ ด้วย
เพียงไม่นาน ฉินอีก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมือง S ทันทีที่เธอเข้ามา เธอก็ได้ยินเสียงร้องแหลมสูง “สัตว์ประหลาด!”
โจวยวี่รู้สึกว่าตนโชคร้ายมาก เมื่อคืนเธอมาชอปปิงกับจ้าวชิง เพื่อนของเธอ ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ บางคนในห้างก็กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด แล้วสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็กัดกินคนในทันที เธอเห็นพวกมันแทะแขนมนุษย์ทั้งเป็น เคี้ยวเนื้อสด ๆ อยู่ภายในปาก และคนที่ถูกพวกมันกัดก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดในเวลาต่อมาไม่นาน
เธอและคนอื่น ๆ ทำได้เพียงถอยกลับไปที่ประตูชั้นหนึ่งเพื่อซ่อนตัวและรอคอยความช่วยเหลือ เมื่อเธอเห็นใครบางคนเดินเข้ามา ใจเธอก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลั้นเสียงร้องไว้ไม่อยู่
ฉินอีขมวดคิ้วและตะคอกใส่หญิงสาวที่กำลังกรีดร้อง “หุบปาก ไม่รู้หรือไงว่าทำเสียงดังแล้วมันจะดึงดูดซอมบี้มาน่ะ”
หญิงสาวผมสั้นที่อยู่ด้านข้าง รีบเข้ามาปิดปากผู้หญิงที่กำลังกรีดร้องอยู่ทันทีที่ได้ยินฉินอีพูด โชคดีที่พวกซอมบี้อยู่ไกลออกไป จึงไม่แห่ตามเสียงมา
ฉินอีกวาดตามองคนกลุ่มนี้และพบว่ามีกันประมาณสามสิบคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ยังเป็นวัยรุ่นแข็งแรงดีกันทั้งนั้น
ฉินอีเดินอ้อมพวกเขาไปจนถึงทางเข้า และเมื่อเห็นโซ่เหล็กที่คล้องประตูเอาไว้ เธอก็ขมวดคิ้วก่อนที่จะหยิบมีดเล่มใหญ่และเหวี่ยงมันลงไป โซ่ถูกตัดขาดออกในทันที
เธอเลิกคิ้ว ค่อนข้างพอใจเพราะมีดเล่มนี้คุณภาพดีมาก แถมเธอยังจ่ายเงินไปไม่เยอะนักด้วย
ข้อมือขอฉินอีคล่องแคล่วมาก ตอนที่โซ่ถูกตัดขาดมันแทบจะไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นเลย
ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน แม้ว่าบรรยากาศข้างนอกดูแสนจะมืดมน แต่เหล่าซอมบี้ก็ยังได้รับผลกระทบจากช่วงเวลานี้ ดังนั้นเสียงดังระดับนี้จึงไม่สามารถดึงดูดซอมบี้ได้
ฉินอีรู้เรื่องพวกนั้นดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจได้ โจวยวี่ตะโกนเสียงดัง “แกจะทำอะไรน่ะ จะดึงดูดสัตว์ประหลาดพวกนั้นมาหรือไงเล่า”
เนื่องจากโจวยวี่ถูกขังอยู่ที่นี่ เธอจึงตกอยู่ในสภาพสับสนวุ่นวาย แต่เสียงตะคอกของฉินอีทำให้เธอฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้ง
แต่เธอไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ต่อฉินอีเลย โจวยวี่ เธอนั้นเป็นเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ของครอบครัว ตั้งแต่เด็กไม่เคยมีใครตะคอกใส่เธอมาก่อน
เมื่อโจวยวี่เป็นฝ่ายเปิด คนอื่น ๆ ต่างก็พุ่งเป้าไปที่ฉินอี
“ใช่ ถ้าพวกสัตว์ประหลาดมันมา พวกเราได้ตายกันหมดแน่”
“ไม่คิดเลยว่าแกจะใจร้ายใจดำตั้งแต่ยังเด็กขนาดนี้”
ฉินอีเย้ยหยันกลับไป “ทำไมตอนนี้ไม่กลัวว่ามันจะดึงดูดซอมบี้แล้วล่ะ เสียงของพวกคุณก็ไม่ได้เบาเลยนะ”
บรรดาผู้ที่กำลังด่าทอ พอได้ยินที่ฉินอีพูดก็เงียบปากไปในทันที
ฉินอีเดินออกมาจากเงามืด แม้ว่าท้องฟ้าจะดูขมุกขมัว แต่ก็ยังพอจะทำให้เห็นใบหน้าของผู้คนได้ ทันทีที่เธอปรากฏตัว ดวงตาของโจวยวี่ก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจและหลงใหล
ใบหน้าของฉินอีนั้นประณีตและงดงาม แต่ดวงตาคู่เฉี่ยวที่เปล่งประกายนั้นแผ่กระจายกลิ่นอายที่แสนจะดุร้าย ทำให้ไม่พบความอ่อนหวานของผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย
ตอนที่ฉินอีเข้ามาครั้งแรก โจวยวี่กำลังสับสนอยู่ภายในโลกของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงไม่สังเกตเห็นใบหน้าของฉินอี ตอนนี้เธอเห็นแล้ว รู้สึกว่าหัวใจของเธอมันเต้นตึกตัก