ตอนที่ 7
การแสดงของกลุ่ม "Look At Me Now" ถูกกำหนดให้เป็นโชว์สุดท้าย ซึ่งหมายความว่ากลุ่มของจีเจ๋อหยูจะเป็นทีมสุดท้ายที่จะได้แสดงให้ผู้ชมดู
ส่วนกลุ่มของลู่หนานหยุนนั้นถูกจัดให้เป็นกลุ่มแรกของการแสดง
เมื่อสมาชิกกลุ่มนี้ปรากฏตัวบนหน้าจอของการถ่ายทอดสด แม้แต่จีเจ๋อหยูเองก็อดที่จะตื่นตะลึงไม่ได้เช่นกัน เขาเคยเห็นไอดอลมากความสามารถมามากมาย แต่มีเพียงไม่กี่คนในวงการบันเทิงที่หล่อเท่าลู่หนานหยุนได้
ทันทีที่ลู่หนานหยุนอยู่ในตำแหน่งเซนเตอร์ เสียงกรีดร้องดังก้องจากฝั่งผู้ชมก็ดังขึ้น
วันนี้เขาสวมชุดโทนสีดำ ผมของเขาถูกหวีเสยขึ้นเปิดรับหน้าผากสวยและคิ้วคมเข้ม แค่เขาเผยอริมฝีปากบางของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของสาวๆเต้นระรัว
“โอ้ย โคตรหล่อเลย!”
“เกินไป เกินไปแล้ว ฉันจะตาย…”
“พี่หนาน! พี่หนาน! มองฉันสิ! อ้า! อ่า!”
เพลงที่กลุ่มของลู่หนานหยุนเลือกนั้นเป็นเพลงเต้นที่มีจังหวะหนักหน่วง สมาชิกแต่ละคนก็ล้วนแต่มีทักษะสูง ร่างกายของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแสดงถึงความแข็งแรง และการออกแบบท่าเต้นก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่พุ่งพ่าน
กู้เว่ยเฉิงซึ่งอยู่หอเดียวกันกับลู่หนานหยุนก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน ตัวเขาเองเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงและน่าดึงดูด และเต็มไปด้วยพลังเมื่อเขาเต้น
แต่ถึงอย่างนั้น ตราบใดที่ลู่หนานหยุนอยู่บนเวที ก็ไม่อาจมีใครละสายตาจากเขาได้ เขาเป็นราชาแห่งเวทีตัวจริงเลยล่ะ
หลังจากการแสดงจบ เสียงเชียร์และเสียงปรบมือยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน และการประเมินของคณะกรรมการนั้นสูงมาก...ลู่หนานหยุนที่เป็นตำแหน่งเซนเตอร์สมควรได้รับ ผู้ชมแทบรอไม่ไหวที่จะลงคะแนนให้กับเขา
ไม่นานหลังจากนั้นอีกวงก็ขึ้นมาแสดงด้วยเพลงเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยความสามารถของกลุ่มลู่หนานหยุน การเต้นของพวกเขากลับดูด้อยกว่ามาก
การแสดงทั้งสองกลุ่มสิ้นสุดลงแล้ว ผู้ชมมีโอกาสลงคะแนนเสียงได้ทั้งสองแบบ หนึ่งคือเลือกกลุ่มที่โปรดปราน และอีกหนึ่งคือเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ชื่นชอบ กฎแบบนี้ยุติธรรม ตราบใดที่คุณทำได้ดี แม้กลุ่มจะแพ้ บางคนอาจได้ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์แห่งราชา
และลู่หนานหยุนก็ชนะอย่างไม่ต้องสงสัยในกลุ่มนี้ และสามอันดับแรกก็อยู่ในกลุ่มของพวกเขาเช่นกัน
ตัวลู่หนานหยุนเอได้รับคะแนนไป 1,426 โหวต ซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก...เพราะในฮอล์แห่งนี้มีผู้เข้าชมแค่ 2,000 คนเท่านั้น!
ทันทีที่คะแนนโหวตปรากฎออกมา ผู้เข้าแข่งขันที่หลังเวทีก็อุทานออกมาทันที
“ให้ตายสิ นี่เจ๋งเกินไปแล้ว เขาได้คะแนนโหวตเป็นพันตั้งแต่การแสดงแรก!”
" อย่าเอาคนข้างหลังมาเปรียบเทียบเลย นอนดีกว่า..."
จีเจ๋อหยูมองไปที่หน้าจอถ่ายทอดสด ซึ่งลู่หนานหยุนกำลังเดินไปที่บัลลังก์ที่สูง เขาโค้งคำนับไปที่ผู้ชมแล้วนั่งลงอย่างสงบ
หัวใจของจีเจ๋อหยูถูกตัดขาดในทันที
จำนวนโหวตนี้... น่ากลัวจริงๆ แทบจะบดขยี้คะแนนโหวตของผู้เล่นอื่นไปหมดแล้ว
“คุณประหม่าเหรอ?” ฉีอ่าวตงมานั่งข้างเขาเองเป็นวันแรก เมื่อเห็นคิ้วของเขาขมวด เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
จีเจ๋อหยูเม้มริมฝีปากของเขาแน่นและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอก”
ในฐานะกัปตันทีมและตำแหน่งเซนเตอร์ เขาต้องทำให้จิตใจของทุกคนคงที่ที่สุด
ต้องบอกว่าผู้เข้าแข่งขันในรายการ "Star Way Shines" นี้แข็งแกร่งมาก และการแสดงของกลุ่มต่อไปก็น่าทึ่งเช่นกัน ตำแหน่งที่สองและสามเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงลู่หนานหยุนเท่านั้น นั่งนิ่งๆไม่ขยับไปไหน
แต่เมื่อเหว่ยอี้เฉินปรากฏตัวบนเวทีกับเพื่อนร่วมทีม บรรยากาศที่น่าตื่นเต้นก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง และผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเบิกตากว้าง รอดูว่าคะแนนโหวตของเขาจะแซงหน้าลู่หนานหยุนได้หรือไม่
ในฐานะที่เป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับความนิยมในปัจจุบัน อันที่จริงช่องว่างระหว่างเหว่ยอี้เฉินและลู่หนานหยุนนั้นไม่ใหญ่นัก ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้ว ทั้งสองก็สูสีกันอย่างมาก ทั้งคู่แข่งกันเพื่อนให้ได้ตำแหน่งเซนเตอร์
ผู้ชมบางคนบอกว่าไฮไลท์ของรายการนี้คือสองคนนี้ และจุดแข็งของคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถสั่นคลอนสถานะพวกเขาได้เลย
การแสดงของกลุ่มเหว่ยอี้เฉินเป็นเพลงป๊อปที่ผ่อนคลายและสนุกสนาน เสื้อผ้าและการออกแบบท่าเต้นมีความสดใสและหล่อน่ารักมาก
เหว่ยอี้เฉินเป็นคนเงียบๆเมื่อเขาอยู่เฉยๆ แต่เมื่อเขาเริ่มแสดง จีเจ๋อหยูก็ต้องบอกว่าเขาดูน่าดึงดูดมาก หรือจะเรียกว่าเหว่ยอี้เฉินนั้นอ่อนโยนและเข้าถึงได้มากกว่าความแข็งแกร่งของลู่หนานหยุน แต่เสน่ห์บนเวทีที่ไม่น้อยไปกว่านั้นคือไฝที่หางตาของเขาอันเปล่งประกาย
เหว่ยอี้เฉินชนะอย่างที่คิด ด้วยคะแนนโหวต 1,407 โหวต แต่เขาก็ยังไม่อาจทำคะแนนนำลู่หนานเฉิน จึงได้นั่งที่บัลลังก์สีเงินเท่านั้น
“โว้ว ไม่ใช่ว่าอี้เฉินทำได้ดีกว่าลู่หนานหยุนหรอกเหรอ?”
" เทพเจ้าสู้กันได้อย่างสูสี แต่คะแนนโหวตนี้แย่มาก..."
ในตอนนั้นเองก็มีคนโพร่งขึ้นไปว่า “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เหว่ยอี้เฉินชนะลู่หนานหยุนไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครชนะเขาได้ไม่ใช่หรือไง?”
ห้องหลังเวทีเงียบไปครู่หนึ่ง และใบหน้าของทุกคนก็แสดงความยอมรับ
" ฉันเองก็คิดอย่างนั้น "
“ใครมันจะเก่งได้ขนาดนั้น?”
“แม่ครับ มันโหดร้ายมาก ผมอยากกลับบ้าน!”
จู่ๆไป่เซิงเจี๋ยก็เข้ามากระซิบที่หูของจีเจ๋อหยู “กัปตัน ฉันคิดว่านายแข็งแกร่งกว่านะ นายเทียบพวกเขาได้แน่ พยายามเข้าล่ะ”
คนอื่นๆในทีมต่างก็เล็งเห็นถึงศักยภาพของจีเจ๋อหยูในช่วงสามวันอันสั้นที่ซ้อมด้วยกันได้ ไม่มีใครรู้ระดับปัจจุบันของจีเจ๋อหยูดีกว่าพวกเขาแล้ว ในความเห็นของพวกเขา จีเจ๋อหยูมีจุดแข็งนี้อย่างดี
ทีมของถังเจินที่นั่งถัดจากจีเจ๋อหยูและคนอื่นๆ บางคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งที่ไป่เซิงเจี๋ยพูด แต่เพราะอยู่หน้ากล้องพวกเขาเลยไม่พูดอะไรออกมา
พวกเขากระซิบในวิ่งที่ไป่เซิงเจี๋ยพูดให้กับถังเจินฟัง และถังเจินเองก็ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ไป่เซิงเจี๋ยไม่ใช่ว่าเยาะเย้ยจีเจ๋อหยูหรอกเหรอ?” ถังเจินกล่าวอย่างมั่นใจ “ฟังดูน่าตลกจริง”
หลายคนที่อยู่รอบๆก็เริ่มหัวเราะออกมา และสายตาของพวกเขาดูถูกเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด
การแสดงทั้งหมดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จีซือเฉิงรออยู่ในกลุ่มผู้ชมเผลอผล็อยหลับไป ยังไม่ถึงเวลาแสดงของน้องชายเขา เขาถอนหายใจและพูดกับจีหมิงหยุนที่อยู่ข้างๆเขาว่า " เป็นแฟนคลับนี่ไม่เหนื่อยเกินไปหน่อยเหรอ?" เขาเป็นคนขี้เกียจ และต้องมารออย่างนี้ เขาก็เหมือนจะไหลตาย
" อดทนซะ " จีหมิงหยุนค่อนข้างสงบเรียบร้อย เธอนั้นเคยเป็นแฟนคลับมาก่อนตอนเด็กกว่านี้ ตอนนี้ก็ถือว่าสบายมาก
ทันใดนั้น จีหมิงหยุนก็ถามอย่างครุ่นคิด " นายคิดว่าเก้าอี้ขอบทองนั่นมันราคาเท่าไหร่?"
" มันดูถูกมาก " จีซืงเฉิงเหลือบมองและตอบทันที "เก้าอี้เลขาฉันยังดูแพงกว่านี้อีก"
“ถ้าอย่างนั้น…” จีหมิงหยุนขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นเรามาซื้อให้หยูเป่ากันเถอะ แล้วก็ส่งมันไปให้เขา เขต้องมีความสุขแน่”
จีซือเฉิงแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย เขากล่าวว่า " ทำไมเธอต้องอยากซื้อให้ด้วย เราให้เสี่ยวหยูนั่งด้วยความแข็งแกร่งของเราเองไม่ได้หรือไง?"
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วจะนั่งบนนั้นได้ยังไงนะ?” เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดออก
" มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 101 คน มีเพียง 3 อันดับแรกที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะนั่งได้มัน" จีหมิงหยุนตอบอย่างใจเย็น
“อือ งั้นซื้อเลย” จีซือเฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา " ฉันจะบอกผู้ช่วยและให้เขาซื้อเพชรมาประดับด้วย"
แฟนคลับสาวเจียงลี่ที่ยืนอยู่ในพื้นที่แฟนคลับจีเจ๋อหยู ซิ่งนั่งข้างหลังพวกเขามองด้วยความมึนงง-
นี่มันการคุยกันแบบปกติใช่ไหม?
ก่อนที่จีซือเฉิงจะเขียนข้อความส่งถึงผู้ช่วยของเขาจบ ระรอกที่สามของไคลแม็กซ์กับแนวโน้มของการแสดงกำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ผู้ชมก็กรีดร้องด้วยความคาดหวังอีกครั้ง
ตอนนี้เหลือเพียงสองกลุ่มสุดท้ายที่จะได้ทำการแสดง
ในบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งสองกลุ่มนี้ จีเจ๋อหยูเป็นคนที่ได้เสียงตอบรับมากที่สุด หลังจากตอนแรกเขาถูกด่าจนติดอันดับในสามอันดับแรกของการค้นหาที่ร้อนแรง และกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงแปดเปื้อนในชั่วข้ามคืน
" หยูเป่ากำลังขึ้นเวทีแล้ว " จีหมิงหยุนนั่งตัวตรงและสวมที่คาดผมตรงศีรษะของเธอ และคำว่า "เจ๋อ" และ "หยู" ก็เปล่งประกาย
จีซือเฉิงวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดว่า “ฉันเริ่มประหม่านิดหน่อยแล้วเนี่ย”
“ไม่ต้องประหม่า หยุนเจี่ยเพิ่งบอกฉันว่าหยูเป่าจะรักษาคำพูด” จีหมิงหยุนบอกอย่างสงบ " นี่นับเป็นปาฏิหาริย์สำหรับเขาแล้ว"
เมื่อเจียงลี่ได้ยินคำพูดนั้น มุมปากของเธอก็กระตุก
เธออยากจะถามสองคนข้างหน้าจริงๆว่า พวกคุณเป็นแฟคลับจริงๆหรือเปล่า? !
กลุ่มของถังเจินเป็นกลุ่มแรกที่จะได้ทำการแสดง ความแข็งแกร่งของทีมอยู่ในระดับปานกลางไปมาก ในฐานะที่ถังเจินอยู่ในตำแหน่งเซนเตอร์ เขาคู่ควรแล้วที่ได้อยู่ในClass A และการแสดงของเขานั้นน่าประทับใจมาก
ผู้ชมที่รู้สึกเหนื่อยในตอนแรก แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็กลับมามีพลัง และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
หลังจากการแสดงของกลุ่มนี้จบลง ผู้คนมากมายที่มาเข้าชมต่างก็โดนถังเจินตกเข้าอย่างจัง
ผู้เล่นที่อยู่หลังเวทีทุกคนต่างเชื่อว่าผลลัพธ์นั้นถูกกำหนดไว้แล้ว ถังเจินนั้นทำได้ดีมาก จีเจ๋อหยูและทีมของเขาจะชนะได้อย่างไร?
เมื่อผู้ชมได้ยินว่าจีเจ๋อหยูอยู่ในกลุ่มสุดท้าย พวกเขาทั้งหมดก็แสดงสีหน้าไม่น่าดู ผู้เข้าแข่งขันที่มีเรตติ้งเริ่มต้นแย่ๆบนเวทีใหญ่ๆแบบนี้ อาจจะแสดงได้น่าเกลียดยิ่งกว่านั้นอีกใช่ไหม?
ท่ามกลางสายตาหลากหลายอารมณ์ ได้มีเด็กหนุ่ม6คนปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าเวที จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ตรงกลางเวทีด้วยก้าวเดินอย่างมั่นใจ
" สวัสดีครับทุกคน พวกเรา "Look At Me Now" กลุ่มBครับ"
พวกเขาพูดพร้อมกันและโค้งคำนับผู้ชมทั้งหมด
“ผมเป็นกัปตันทีมและตำแหน่งเซนเตอร์ จีเจ๋อหยูครับ” ชายหนุ่มที่ยืนตรงกลางขมวดคิ้วเล็กน้อยและแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม " ผมหวังว่าวันนี้ผมจะทำให้พวกคุณสนใจได้นะครับ"
เหมือนกล้องรู้งานเป็นอย่างดี เมื่อซูมเข้าไปที่ใบหน้าของจีเจ๋อหยูในเวลาที่เหมาะสม
ด้วยการแต่งหน้าของจีเจ๋อหยูบนเวทีในวันนี้ มันให้ความรู้สึกถูกต้อง ผิวมีความเป็นธรรมชาติ นัยน์ตาสีอำพันเข้มดูมีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆ คนทั้งหมดที่ดูอยู่ในที่นี้ ไม่ว่าจtชอบเขาหรือไม่ ก็ไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดูเขาสิ!
เมื่อใบหน้าดังกล่าวปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลังของเวที แรงกระเพื่อมก็เพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วนในทันที
ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับ แอนตี้แฟน หรือแฟนคลับคนอื่นที่ผ่านไปมา พวกเขาทั้งหมดต่างก็หายใจเข้าในจังหวะเดียวกัน และกรีดร้องโดยไม่ตั้งใจก็ดังกระหึ่ม
“ให้ตายสิ สวยเกินไปแล้ว ฉันไปอยู่ไหนมาเนี่ย!!”
“หยูเป่า! อ้า! มองแม่สิลูก! อ้ากก!”
“หล่อเกินไป หล่อเกินไป ฉันหายใจไม่ออก! นี่คือความสุขของติ่งอย่างฉันหรือเปล่า?”
เด็กหนุ่มทั้งหกคนอยู่เข้าบล็อคเต้นแล้ว แสงไฟสลัวไปครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็สว่างขึ้น
ด้วยเสียงเพลงทำให้ผู้ชมเงียบลง
จีเจ๋อหยูลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความมั่นใจ จากนั้นเขาก็ขยับท่วงท่าไปตามจังหวะดนตรี แสดงให้เห็นทุกการเคลื่อนไหวบนเวทีอย่างสบายๆ
แม่นยำและสมบูรณ์แบบ
เหนือความคาดหมายของทุกคน
เมื่อได้ยินเสียงของจีเจ๋อหยูร้องผ่านไมโครโฟน เสียงที่ใสสะอาดก็ทำให้ทุกคนสดชื่นขึ้นทันตา
" ฉันจะเข้าประตูมาแล้วนะ ♫”
" รีบไปให้พ้นทางฉันดีกว่า ♫ ”
เสียงของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความจริงจัง และดูเหมือนว่าจะโดดเด่นเหนือกว่าเด็กทั้งหกคน ในขณะเดียวกัน ภายใต้ท่าเต้นที่ยากลำบาก น้ำเสียงของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
ถ้าพูดว่าลู่หนานหยุนเกิดมาเพื่อเป็นราชาของเวทีแล้ว
จากนั้นเมื่อจีเจ๋อหยูปรากฏตัวที่กลางเวที ผู้ชมก็รู้สึกว่าเวทีนั้นดูเหมือนจะมีอยู่เพราะเขา
เมื่อจีเจ๋อหยูยืนอยู่ที่นั่น นั่นถึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นเวทีที่แท้จริง
" ฉันหวังว่าพวกเธอจะลืมตา ♫”
“ดูฉันตอนนี้ได้แล้วนะ ♫”
เช่นเดียวกับเนื้อเพลงที่ร้อง ทุกคนก็เบิกตากว้าง เพ่งความสนใจไปที่จีเจ๋อหยู และไม่มีทางที่จะขยับหนีแม้แต่ครู่เดียว
ลู่หนานหยุนนั่งบนเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงขอบทองที่สูงที่สุด กำนิ้วของเขาแน่นโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เขาถูกดึงดูดโดยเด็กหนุ่มบนเวทีโดยไม่รู้ตัว และสายตาของเขาติดตามทุกการเคลื่อนไหว ทุกการกระทำ ทุกการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนที่เปลี่ยนไป... และส่วนอื่นๆ ทั้งหมดกลายเป็นสิ่งบดบังความว่างเปล่า
ทั้งหมดนี้กำลังบอกลู่หนานหยุนว่าเด็กหนุ่มที่เขาเห็นในคืนนั้นคือจีเจ๋อหยูจริงๆ
มันไม่ใช่ภาพลวงตาหรือความฝัน
ที่หน้าอกของลู่หนานหยุนอึดอัด หัวใจของเขาเต้นเหมือนกระต่ายที่วิ่งอยู่บนทุ่งหญ้าและเร่งความเร็ว
การแสดงของจีเจ๋อหยูบนเวทีนั้นดีกว่าในห้อมซ้อมมาก เขาจัดระเบียบกล้ามเนื้อร่างกายของเขาได้ดีขึ้น และการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งก็เขากับทุกจังหวะกลองอย่างแม่นยำ ส่วนเด็กรุ่นอีกห้าก็เต้นได้อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมีจีเจ๋อหยูเป็นศูนย์กลาง
หลังจาการแสดงจบลง เหล่าเด็กหนุ่มก็ได้โพสท่าจบอย่างสวยงาม ตากล้องเอนดิ้งทิ้งท้ายถ่ายใบหน้าระยะใกล้ของจีเจ๋อหยู 5 วินาที จากนั้นผู้ชมก็เงียบไปโดยปริยาย แม่แต่พิธีกรอย่างเฉินเหอเองก็ลืมที่จะแก้สถานการณ์
ผู้ชมมองไปที่จีเจ๋อหยูที่ยึดครองกลางเวทีด้วยความงุนงง สงสัยว่าพวกเขากำลังฝันไป...
นี่คือจีเจ๋อหยูที่พวกเขารู้จักจริงๆใช่ไหม? !