ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 101 บดขยี้เหวินเทา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 103 เกมจิตวิทยา

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 102 พ่นน้ำลายใน 60 วินาที


ตอนที่ 102 พ่นน้ำลายใน 60 วินาที

ในรถยนต์ขณะเดินทางด้วยความเร็วสูง

หมาเหล่าเอ้อคว้าผมของเหวินเทาแล้วถามอย่างดุดัน “เสี่ยวฉู่อยู่ไหน?”

“พี่ชายอย่าทำร้ายฉันนะ คุยกันดีๆ เถอะ ฉันยอมแล้ว” เหวินเทาพยายามยืดตัวขึ้นยันแรงกด บนหัวเขา

“ฉันถามแกว่าเสี่ยวฉู่อยู่ที่ไหน?!” หมาเหล่าเอ้อตะโกนพร้อมกับเบิกตากว้าง

“เสี่ยวฉู่ใคร แฮ่ก!… ฉันไม่รู้จัก…แฮ่ก…”

เหวินเทาถูกกดหัวจนตัวงอและหายใจไม่สะดวก ทำให้หายใจแรงมากเมื่อพูดออกมา

“แกไม่รู้จักฉันเหรอ!” หมาเหล่าเอ้อกัดฟัน มีดสั้นตวัดลงแทงลงที่ต้นขาซ้ายเหวินเทา

“เก่งนักใช่มั้ย!”

เลือดพุ่งออกมาอย่างกับน้ำพุ เสื้อของลุงหลิวจื่อทางด้านขวาเปื้อนเลือดเต็มไปหมด

“ไอ้สัตว์เอ๊ย แทงข้าให้ตายไปเลยสิวะ!” เหวินเทาตะโกนตาเบิกโพลงเพราะความโกรธและเจ็บปวดเกินทน

จู่ๆ หมาเหล่าเอ้อก็เคลื่อนมีดไปทางซ้าย เสียงแทงดังขึ้น และเป้ากางเกงของเหวินเทาก็ฉีกขาดออกด้วยคมมีดในทันที

“พี่ พี่จะทำอะไรฉัน?!” เหวินเทาตื่นตระหนกอย่างหนัก

“แกชอบมีดเย็นๆ ไหม?” หมาเหล่าเอ้อถามด้วยดวงตาดุดัน “ฉันจะขยับมันอีกครั้ง แล้วความเป็นชายของแกจะไม่เหลือรับใช้แกอีกต่อไป”

“...!” เหวินเทากลืนน้ำลายดังเอือกพร้อมกับเหงื่อเย็นเต็มหน้าผาก

“แกต้องรู้ว่าทำไมฉันถึงตามหาแก” หมาเหล่าเอ้อพูดต่อด้วยสายตาที่ดุดัน “ฉันถ่อมาที่นี่จากซงเจียง แกคิดว่าเป็นเพราะแค่ความแค้นเล็กน้อยใช่ไหม? แกคิดว่าถ้าแกไม่บอกแล้วฉันจะหามันไม่เจอใช่ไหม? หา?!”

“พี่ชาย...ช่วยเอามีดออกไปเถอะ…”

“ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้าย เสี่ยวฉู่อยู่ที่ไหน” ทันใดนั้นหมาเหล่าเอ้อก็ตะโกนลั่น “ครั้งสุดท้าย!”

“ฉัน...เขา...พี่ชาย ช่วยขยับมีดออกไปก่อนได้ไหม?”

“ฉันจะสับไอ้จู๋แกให้เป็นพุทราเชื่อม!” หมาเหล่าเอ้อเงื้อมีดขึ้นอย่างรวดเร็วกำลังจะแทงเหวินเทาที่เป้า

“อย่าทิ่ม! อย่าแทง ฉันบอกแล้ว ฉันบอกแล้ว…หวา…” เหวินเทาทรุดตัวลงและตะโกน “เขาอยู่ในบ้านฉัน เขาอยู่ในบ้านฉัน อย่าแทงนะ อย่าแทง”

“บ้านของแกมีคนกี่คนรวมมันไปด้วย”

“แค่... แค่ฉัน” เหวินเทาอาจไม่กลัวหมาเหล่าเอ้อแทงเขาสักสองสามครั้ง เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาพิการ แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำให้เขามีลูกหลานต่อไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงยอมทำตามทุกอย่างอย่างว่าง่าย

“บอกทางไปบ้านนายเร็วๆ หน่อย” ลุงหลิวจื่อเร่งเร้า

“ไป...ละ เลี้ยวซ้าย ข้างหน้า” เหวินเทาพูดตะกุกตะกักตอบ

……

ในเขตเมืองด้านหลังซ่องโสเภณี

ผู้เฒ่าหม่าก้มลงตรวจสอบปืน จากนั้นหันกลับมาพูดว่า “เสี่ยวฉี เอาเงินให้เขาไป”

เมื่อได้ยินดังนั้น กวนฉีก็หยิบเงินสดออกมาจ่ายให้ชายแปลกหน้าวัยกลางคนคนหนึ่ง อีกฝ่ายรับเงินไปนับอย่างถี่ถ้วนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณจะทำธุรกิจใหญ่โตขนาดไหนที่เฟิ่งเป่ย คุณใช้สองกระบอกในสามวันเชียวนะ”

“นายต้องการดูทะเบียนบ้านของฉันด้วยไหม?” ผู้เฒ่าหม่าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฮ่าฮ่า แค่ถามเฉยๆ น่ะ” ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดเบาๆ “เอาล่ะ แค่นี้แหละ ของยังมีอยู่ในมือนะครับ ต้องการเพิ่มเมื่อไหร่ก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลานะ”

ผู้เฒ่าหม่าเหลือบมองเขา หันกลับมาพูดในกลุ่ม “ไปกันเถอะ”

หลังจากคนของหม่าได้ฟัง ก็ติดตามผู้เฒ่าหม่าเดินจากไป

……

ภายในบ้านของเหวินเทา

เสี่ยวฉู่ค่อยๆ หมดความอดทนในการรอคอย และเพราะว่าหลังจากที่เขาไม่สามารถติดต่อเหวินเทาทางโทรศัพท์ได้ เขาก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย สังหรณ์ใจว่า อาจมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

หลังจากนั่งบนเตียงและคิดอยู่นาน เสี่ยวฉู่หาหมายเลขการจองโต๊ะแผนกต้อนรับเอ็มจีคาร์นิวัลในโทรศัพท์ แล้วกดโทรออก

หลังจากผ่านไปหลายสิบวินาที ก็มีการเชื่อมต่อสาย “สวัสดีค่ะ เอ็มจีคาร์นิวัลค่ะ”

“ฮัลโหล เอ่อ…ฉันอยากถามว่าเหวินเทาอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

“นี่คือหมายเลขโทรศัพท์สำหรับจองโต๊ะของแผนกต้อนรับ หากคุณต้องการค้นหาเหวินเทา แค่โทรเข้ามือถือของเขาได้นี่คะ?”

“ฉันขอโทษ ฉันติดต่อเขาทางมือถือไม่ได้ ฉันเป็นเพื่อนของเขา ฉันต้องโทรหาเขาเพราะมีเรื่องด่วน คุณช่วยโทรหาเขาให้ฉันได้ไหมครับ” เสี่ยวฉู่ถามอย่างสุภาพ

“วันนี้ฉันไม่เห็นเขาเลยค่ะ”

“นั่นฉันรู้ เพราะฉันเพิ่งคุยกับเขาเมื่อตอนเช้า เขาบอกฉันว่าเขาต้องกลับไปที่นั่น” เสี่ยวฉู่พูดอย่างอดทน “โปรดช่วยด้วยครับ พี่สาวคนสวย ฉันกำลังรีบจริงๆ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รอสักครู่ค่ะ”

“ครับ”

หลังจากที่ทั้งสองคุยกันสักพัก เสี่ยวฉู่อาจจะรอน้อยกว่าสามนาที ก่อนที่อีกฝ่ายจะรับโทรศัพท์อีกครั้งและถามว่า “คุณยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

“ฉันอยู่นี่”

“เหวินเทาออกไปแล้วค่ะ”

“เขาออกไปนานหรือยัง?”

“สักพักหนึ่งค่ะ”

“...!” เสี่ยวฉู่ขมวดคิ้ว และหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ตอบว่า “เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอโทษที่รบกวนนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” พนักงานต้อนรับวางสายไป

ภายในบ้าน เสี่ยวฉู่มองดูเวลาอีกครั้งด้วยความรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวอย่างเรียบร้อยมากๆ

……

ในรถ

หมาเหล่าเอ้อกดโทรศัพท์ถึงฉินหยู่ “นายอยู่ที่ไหน?”

“กำลังกินอยู่” ฉินหยู่ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “ลุงของนายไปเอาปืน เรากำลังรอเขาอยู่”

“ฉันจับเหวินเทาได้แล้ว” หมาเหล่าเอ้อเข้าประเด็น “มันพ่นออกมาในเวลาไม่ถึง 60 วินาทีเลย”

ฉินหยู่ตกตะลึง วางตะเกียบลงแล้วถามว่า “ทำไมนายไม่บอกฉันว่านายจะทำอย่างงั้น?”

“ฉันโทรหานายเมื่อกี้ แต่สายนายไม่ว่าง” หมาเหล่าเอ้อขมวดคิ้วพลางตอบว่า “อีกอย่าง มันเป็นเรื่องของการจับกุม มันจะมีอะไรให้นายต้องศึกษาอีกล่ะ?”

“เขาคายออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่” หมาเหล่าเอ้อพยักหน้า

ฉินหยู่ลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเช่นนั้นและตอบอย่างรวดเร็ว “งั้นบอกที่อยู่มา ฉันจะรีบไปที่นั่นทันที”

“มันสายเกินไปแล้วที่นายจะมาที่นี่ตอนนี้”

หมาเหล่าเอ้อส่ายหัวแล้วตอบว่า “ฉันใกล้ถึงบ้านเหวินเทาแล้ว ทำไมนายไม่ติดต่อผู้กำกับหลี่ ขอให้เขาหาพวกคอนเน็กชันวงในช่วยเรื่องจุดตรวจข้ามชายแดนล่ะ? เดี๋ยวฉันจะจับเสี่ยวฉู่ แล้วเราจะเดินทางกลับเลย ใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมงในการข้ามชายแดนเข้าสู่ซงเจียง”

“นายหมายความว่าไง นายจะพาเสี่ยวฉู่กลับด้วยเลยหรือ?”

“ใช่” หมาเหล่าเอ้อพยักหน้าและกล่าวว่า “ฉันถามเหวินเทาแล้วเขาบอกว่าเสี่ยวฉู่อยู่บ้านคนเดียว”

“ไม่ ไม่ ไม่!” ฉินหยู่ส่ายหัว “นายควรรอจนกว่าพวกเราทั้งหมดจะไปจากที่นี่ก่อนจึงจะดำเนินการ แบบนี้แน่นอนกว่า เพราะนายก็รู้ด้วยว่าเราได้พบกับหย่งตงและพวกจากบริษัทยาเมื่อวานนี้ อีกฝ่ายรู้อยู่แล้วว่าเราอยู่ในเฟิ่งเป่ย เข้าใจไหม?”

……

ที่ทางเข้าบริเวณเลานจ์ ของเอ็มจีคาร์นิวัล

ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีดำ ถามพร้อมกับยืนงอตัวหายใจเหนื่อยหอบ “แฮ่กก…เมื่อกี้เหวินเทากลับมาแล้วเหรอ?”

“ก็เขากลับมาลาออก เข้าไปเก็บของมั้ง” ภารโรงที่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในเลานจ์ตอบอย่างเป็นกันเอง

“เหี้ยเอ๊ย ฉันเพิ่งเห็นเขาที่ข้างตึก” ชายหนุ่มปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วพูดว่า “มีผู้ชายสามสี่คนจับเขาขึ้นรถพาไปแล้ว!”

“เป็นไปได้ไง เราเพิ่งไปส่งเขาไปที่ประตูนะ”

“เขาถูกจับในลานจอดรถ”

“แล้วทำไมนายไม่ช่วยเขาล่ะ พวกนั้นใช้อะไรจับเขา?” ชายหนุ่มพนักงานบริการลุกขึ้นยืน

“...จะช่วยยังไงล่ะ คนพวกนั้นมีทั้งมีดทั้งปืน โชคดีที่ฉันวิ่งเร็ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจัดการฉันด้วย” ชายหนุ่มยังคงตกใจกลัวอยู่

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ผู้จัดการที่เพิ่งจ่ายเงินเดือนเหวินเทาเดินเข้ามา เขาถามเบาๆ “พวกนายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ใครถูกจับออกไป?”

“เหวินเทา” ชายหนุ่มหันกลับมาตอบ “เขาอาจขโมยเงินลูกค้าอีกก็ได้ ในนี้ก็รู้ๆ กันอยู่”

“ฉันจะโทรหาเหวินเทาทีหลัง นายกลับไปทำงานและอย่ามายืนคุยบริเวณนี้อีก!” ผู้จัดการดุเขาแล้วเดินไปด้านข้าง

ไม่ถึงสองนาทีต่อมา ผู้จัดการยืนอยู่ในปล่องบันไดวนคนเดียว พยักหน้าคุยโทรศัพท์กับบางคนอยู่ “ใช่ ใช่... ฉันได้ยินมาว่าเขาถูกจับไป แต่ฉันไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด