บทที่ 33: เต๋าเป่าเอ๋อ
บทที่ 33: เต๋าเป่าเอ๋อ
วันจันทร์
วันแรกหลังจากที่เขากลายเป็นนักสู้!
เมื่อหวังเต็งตื่นขึ้น เขาก็ยังคงอยู่ในความงุนงง หลังจากนั้นไม่นาน เหตุการณ์ในคืนวานก็แวบเข้ามาในหัวของเขา
“ตอนนี้ฉันเป็นนักสู้แล้ว!”
หวังเต็งกำหมัดของเขา เมื่อสังเกตเห็นความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขา ในที่สุดเขาก็รู้สึกถึงความเป็นจริง”
นักสู้นั้นสามารถดูดซับพลังฟอร์สเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาและใช้มันเพื่อฝึกฝนได้ สิ่งนี้ทำให้กระดูก ,กล้ามเนื้อ และส่วนอื่นๆของร่างกายของพวกเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง และมันก็ไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับร่างกายของศิษย์นักสู้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในยุคแห่งศิลปะการต่อสู้นี้ การเป็นนักสู้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!
หวังเต็งลุกจากเตียงและลงไปรับประทานอาหารเช้า
“แม่ พ่อยังไม่กลับมาอีกหรอ?”
หวังเต็งยัดไข่เข้าปาก ขณะที่เขาถามหลี่ซิ่วเหม่ยด้วยความสงสัย
“เขาบอกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติในโครงการ ดังนั้นเขาจึงน่าจะกลับล่าช้าไปสองสามวัน” หลี่ซิ่วเหม่ยตอบขณะที่เธอกินข้าวต้มรังนกของเธอ
หวังเต็งพยักหน้า เนื่องจากเป็นเรื่องของบริษัท ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หวังเต็งก็ขับรถไปที่โรงเรียน
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาทุกที บรรยากาศในโรงเรียนเองก็เริ่มประหม่ามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นักเรียนกำลังเรียนอย่างหนักเพื่ออนาคตที่สดใส
ทุกคนบอกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต
หลายคนเย้ยหยันคำพูดนี้ จะเป็นอย่างไรถ้าคุณได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีหลังจากเรียนอย่างหนัก? เลิกงานแล้วจะได้พักเลยหรอ? คุณจะได้เงินเดือนหลักหมื่นหลักแสนเลยหรอ?
ในความเป็นจริง คุณจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างประหยัดเป็นเวลาสิบปี เมื่อคุณต้องการที่จะซื้อบ้านและรถยนต์ เผลอๆดีไม่ดีคุณก็อาจจะต้องกู้เงินจากธนาคาร!
คนที่มีรายได้มากกว่าแสนหรือล้านต่อปีนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นดาวดังจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งนั้น!
อย่างงั้นแล้วคุณจะไปเปรียบเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร?
บอกฉันทีว่าคุณจะไปเปรียบเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร
ท้ายที่สุดแล้ว ความรู้จะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้กลายเป็นเรื่องไร้สาระอย่างงั้นหรอ?
ไม่เลย!
ถ้าคุณคิดว่านี่มันแย่แล้ว การไม่มีความรู้นั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกราวกับตกนรกทั้งเป็น และมันก็จะทำให้ชีวิตของคุณจะแย่ลงไปอีกขั้น...
หลินซัวหานมาโรงเรียนเร็วกว่าหวังเต็ง
ในอดีตหวังเต็งมีความรู้สึกว่าเธอมักจะเรียนหนัก แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอนั้นต้องทำงานนอกเวลาจนถึงดึกดื่นด้วย กระนั้นเธอก็ยังตื่นนอนเร็วกว่าคนส่วนใหญ่เพื่อไปเรียนหนังสือ
เธอคู่ควรที่จะได้เป็นดาว!
ในชีวิตที่แล้ว หวังเต็งยังคงเป็นนายน้อยที่หยิ่งยโสและขี้เล่น และเมื่อเขาห็นหลินซัวหาน เขาก็มักจะมองเธอด้วยอคติ
การเรียนหนักไปมีประโยชน์อะไร?
หลังจากที่เธอเรียนจบ เงินที่เธอหามาได้ตลอดชีวิตนั้นมันก็อาจจะยังไม่พอที่จะซื้อรถสปอร์ตของเขาได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบกับการล่มสลายของตระกูลหวัง ในที่สุดหวังเต็งก็ตระหนักได้ว่าเขาไร้ประโยชน์เพียงใด หากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลหวัง เขาก็ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
เขาไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง!
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นหลินซัวหานเรียนหนักมาก เขาก็จึงทำได้แต่ถอนหายใจในใจ
หวังเต็งไม่ได้รบกวนเธอ เขานั่งลงบนที่นั่งและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเข้าสู่ระบบเต๋าเป่าเอ๋อ...
เขาต้องการดูว่ามันมีอะไรบ้างที่จะสามารถใช้เพื่อเก็บอาวุธของเขาได้โดยเฉพาะ
จากประสิทธิภาพของระบบของเขา หวังเต็งก็รู้สึกว่าเขาจะสามารถก้าวหน้าไปได้อีกไกลในอนาคต ดังนั้นจำนวนเทคนิคการต่อสู้ที่เขาจะได้เรียนรู้เองจึงจะต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน
เขามีดาบและนวมชกมวยแล้ว และในอนาคตเขาก็จะต้องมีพวกมันเพิ่มขึ้นอีก
หวังเต็งเลื่อนผ่านเต๋าเป่าเอ๋อไปเรื่อย
ทุกสิ่งสามารถพบได้ในเต๋าเป่าเอ๋อ ทุกสิ่งที่คุณต้องการคุณล้วนสามารถหาได้ที่นั่น
เขาพิมพ์คีย์เวิร์ดลงไป จากนั้นผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันทั้งหมดก็ปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ก็เป็นฝักดาบ,และฝักมีด ซึ่งมันก็ไม่ใช่สิ่งที่หวังเต็งต้องการ
หลังจากเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น คาบเรียนแรกของวันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างไรก็ตมม หวังเต็งก็ยังคงตามหาสิ่งที่เขาต้องการต่อไปโดยไม่สนใจเรียน
หลินซัวหานไม่สามารถทนต่อทัศนคติที่ไม่ใส่ใจของเขาได้ เธอขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอทำก็คือถอนหายใจในใจ และเธอก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่กี่นาทีต่อมา ทันใดนั้นดวงตาของหวังเต็งก็เบิกกว้างขึ้นอย่างเป็นประกาย
โลงศพบรรจุอาวุธ?
เขามองไปที่การออกแบบ นี่คือโลงศพสี่เหลี่ยมที่มีสไตล์วินเทจ
หวังเต็งอ่านคำอธิบายสินค้า โลงศพบรรจุอาวุธนี้กล่าวกันว่าสามารถบรรจุอาวุธได้ 14 ชนิด มันมีปุ่มกลไกอยู่ด้านบน และเมื่อคุณกดเข้าไป อาวุธที่คุณต้องการก็จะเด้งขึ้นมา
มันน่าทึ่งจริงๆ... หรอ?
เขายังคงเลื่อนดูรายละเอียดสินค้าต่อไป จากนั้นหวังเต็งก็ตระหนักได้ว่าอาวุธ 14 ชนิดที่ว่านั้นส่วนใหญ่หมายถึงดาบและมีด
ฉันควรจะซื้อมันดีไหม?
หวังเต็งลังเล
“เอาล่ะ งั้นฉันจะลองถามเจ้าของร้านและดูว่าฉันจะสามารถปรับแต่งมันได้หรือไม่ก่อน”
เจ้าของร้านนี้ถูกเรียกว่า 'มาสเตอร์ลู' และบทวิจารณ์ทั้งหมดนั้นก็ดูดีมาก
ด้วยเหตุนั้นเอง หวังเต็งจึงตัดสินใจเปิดกล่องแชทถามเจ้าของร้าน
หวังเต็ง: สวัสดี
เจ้าของร้าน : ครับผม มาแล้วครับ ( 3 ส.ค. ) づ╭❤~
หวังเต็ง: คุณสามารถปรับแต่งโลงศพบรรจุอาวุธของคุณได้หม?
เจ้าของร้าน: โลงศพบรรจุอาวุธ?
หวังเต็ง: …คุณไม่รู้หรอ?
เจ้าของร้าน: กรุณารอสักครู่ ฉันขอตรวจสอบดูก่อน
…
หวังเต็งพูดไม่ออกเล็กน้อย คนๆนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาขายอะไรบ้างในร้านของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน คำตอบของอีกฝ่ายก็มาถึงในที่สุด
เจ้าของร้าน: ที่รัก คุณยังอยู่ไหม?
เจ้าของร้าน: ฉันตรวจสอบให้คุณเรียบร้อยแล้ว นี่คือโลงศพบรรจุอาวุธที่คุณหมายถึงใช่ไหม?
เจ้าของร้านดังกล่าวแนบรูปภาพมาพร้อมข้อความ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นภาพของโลงศพที่มีฝุ่นเกาะและถูกเก็บอยู่ในส่วนลึกของมุมโกดัง
ในที่สุดหวังเต็งก็ตระหนักได้ว่าเหตุใดคนๆนี้จึงจำรายการนี้ไม่ได้
เขาถามด้วยความสงสัย: คุณเอามาออกมาขายนานรึยังเนี่ย?
เจ้าของร้านตอบอย่างงุ่มง่าม: ฮ่าๆๆ ไม่ต้องสนใจรายละเอียดหรอก โลงศพบรรจุอาวุธนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคุณปู่ของฉันในช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจของท่าน อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีใครอยากซื้อมัน ดังนั้นฉันจึงเก็บมันไว้ในโกดัง และฉันก็ไม่คาดคิดมาก่อนด้วยว่ามันจะมีคนที่คิดจะซื้อเจ้าโลงศพนี่
หวังเต็ง: ฉันขอทราบอายุของสินค้ารายการนี้ได้ไหม?
เจ้าของร้าน : ไม่มาก แค่สิบปี!
อุ๊ย! หวังเต็งรู้สึกใจหายไปชั่วขณะ เขาพูดต่อ: เอาล่ะ คุณช่วยถามคุณปู่ของคุณให้หน่อยได้ไหมว่าเขาสามารถปรับแต่งให้ฉันตามความต้องการของฉันได้หรือไม่?
เจ้าของร้าน: ...ฉันเกรงว่าจะไม่
??
หวังเต็งถามต่อ: ทำไมล่ะ?
เจ้าของร้าน : ฉันยังไม่อยากไปอยู่ในโลกเดียวกันกับปู่ของฉัน (⁄⁄•⁄ω⁄•⁄⁄)⁄
หวังเต็งรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อยในขณะที่เขาตอบว่า: ฉันขอโทษ
หวังเต็ง : ลืมมันไปซะ
ขณะที่เขากำลังจะออฟไลน์ อีกฝ่ายก็ส่งข้อความหาเขาอย่างเร่งรีบ
เจ้าของร้าน: เดี๋ยวก่อน!
เขากล่าวต่อ: ถ้าคุณพอใจกับมัน คุณสามารถบอกความคิดของคุณมาได้ ฉันจะดูว่าฉันจะสามารถปรับแต่งโลงศพบรรจุอาวุธได้หรือไม่ ถ้าฉันสามารถขายสิ่งนี้ออกไปได้ ฉันก็แน่ใจว่าปู่ของฉันจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน
หวังเต็งรู้สึกกระปรี้กระเปร่า “โอ้!”
มาลองดูกัน!
เขาอธิบายความคิดของเขาให้อีกผ่ายฟัง
อีกฝ่ายเงียบไปนานก่อนจะตอบว่า: คุณอยากจะได้เจ้านี่มากใช่ไหม?
หวังเต็งตอบว่า: ก็ถ้าคุณทำได้
เจ้าของร้าน : ได้ครับ จะพยายามครับ ฉันจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว
หวังเต็ง : แล้วราคาล่ะ?
หวังเต็งสังเกตว่าอีกฝ่ายกำลังรีบออฟไลน์เพื่อเริ่มต้นการวิจัยเกี่ยวกับวิธีการดัดแปลงโลงศพบรรจุอาวุธโดยไม่พูดถึงราคาด้วยซ้ำ เขาเริ่มมีความคิดเล็กน้อยเกี่ยวกับบุคลิกของคนๆนี้...
นี่จะต้องเป็นคนงี่เง่า!
เจ้าของร้าน : อ๋อ ครับ ลืมไปเลย o(╯□╰)o
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ
เจ้าของร้าน: เนื่องจากไม่มีใครต้องการสิ่งนี้ ดังนั้นฉันก็จะคิดแค่ค่าแรง ซึ่งฉันก็ตั้งไว้อยู่ที่ 80 ถึง 100,000 คุณสามารถลเอกได้เลยวาจะให้ฉันเท่าไหร่
หวังเต็ง: เอาล่ะ ตราบใดที่ฉันพอใจกับผลิตภัณฑ์ ฉันก็จะซื้อมันด้วยเงินแสน
หวังเต็งไม่ลังเลและตกลงทันที
อาวุธรูนเหล่านั้นมีราคาหลายแสนถึงหลายล้าน ซึ่งโลงศพบรรจุอาวุธชิ้นนี้ก็มีราคาแค่แสนต้นๆเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ได้แพงเกินไป
นอกจากนี้ เขาก็ยังมีข้อกำหนดมากมาย ด้วยเหตุนี้เจ้าของร้านจึงต้องลงมือปรับปรุงมันเอง ซึ่งนั่นก็เป็นที่เข้าใจกันว่าทำไมค่าธรรมเนียมมันจึงสูงขึ้นเล็กน้อย