ตอนที่แล้วบทที่ 31: ภาพที่ใจแคบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33: เต๋าเป่าเอ๋อ

บทที่ 32: นับกำไร


บทที่ 32: นับกำไร

" หยุดรถ!"

หลินซัวหานตะโกนทันทีหลังจากที่รถขับออกไปนอกถนน

หวังเต็งไม่ได้ปฏิบัติตาม เขาหันมาถามว่า “เธออาศัยอยู่ที่ไหน?”

“ฉันอยากลงจากรถ ฉันไม่ต้องการให้นายส่งฉันกลับ ฉันกลับบ้านเองได้” หลินซัวหานตอบ

“นั่นไม่ดีเลย เธอกำลังเขี่ยฉันทิ้งหลังจากที่ฉันช่วยเธอเอาไว้อย่างงั้นหรอ?!” หวังเต็งยิ้ม

“นายหมายความว่ายังไงที่ว่าฉันเขี่ยนายทิ้งหลังจากนายช่วยฉัน?” หลินซัวหานรู้สึกผิดเล็กน้อย

“ฉันช่วยเธอกำจัดเจ้าปัญหาทั้งสองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตอนนี้เธอก็กำลังจะเขี่ยฉันทิ้ง ที่ฉันพูดนี่ถูกไหม?” หวังเต็งถามกลับ

“ฉันอยากลงจากรถ” หลินซัวหานพูดไม่ออก เธอรู้ว่าคำพูดไม่สามารถเอาชนะหวังเต็งได้ ดังนั้นเธอจึงปลดเข็มขัดนิรภัยและพูดอย่างหนักแน่น

“ถ้าเธอไม่บอกฉันว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน ฉันก็จะขับรถไปที่บ้านของฉันนะ” หวังเต็งยิ้มอย่างสงบ

หลินซัวหาน: …

สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้

เธอยอมแพ้ให้กับความไร้ยางอายของหวังเต็ง

หวังเต็งส่งเธอกลับบ้าน

หลินซัวหานอาศัยอยู่ในพื้นที่ระดับล่าง มันเป็นการยากที่จะจินตนาการว่าสถานที่ดังกล่าวมีอยู่ในเมืองตงไห่

ข้างหน้าพวกเขาเป็นซอยที่มืดสนิท และเมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ หลินซัวหานก็ปฏิเสธที่จะให้หวังเต็งไปส่งเธอต่อไป

นอกจากนี้ รถก็ยังไม่สามารถขับเข้าไปได้ ดังนั้นหวังเต็งจึงต้องยอมแพ้

เขาหยิบสกู๊ตเตอร์ของหลินซัวหานลงแล้วแขวนชานมไว้ที่ด้ามจับ

“เอาล่ะ เธอกลับไปเองได้ใช่ไหม?” หวังเต็งกล่าว

“ชานมของนาย?” หลินซัวหานขมวดคิ้ว

“ฉันจะนอนไม่หลับถ้าฉันดื่มชาตอนกลางคืน” หวังเต็งตอบ

“งั้นนายก็อยากให้ฉันมีปัญหาในการนอนหลับแทนรึไง?” หลินซัวหานพูดไม่ออก

“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอจะได้คิดถึงฉันเมื่อนอนไม่หลับไง” หวังเต็งหัวเราะ

“ออกไป~”

หลินซัวหานวิ่งออกไปอย่างวุ่นวายขณะที่เธอขี่สกู๊ตเตอร์ตัวเล็กเข้าไปในตรอกมืด

ซอยนี้ยาวและมืด แม้ว่าไฟสกู๊ตเตอร์ของเธอจะเปิดอยู่ แต่เธอก็มองเห็นได้เพียงระยะทางเพียงเล็กน้อยจากด้านหน้าของเธอ

หลินซัวหานขี่อย่างระมัดระวัง ทันใดนั้น แสงสีขาวก็สว่างขึ้นด้านหลังเธอ

เธอหันกลับมาและสังเกตเห็นว่าหวังเต็งหันรถของเขาไปรอบๆ เขาเปิดไฟหน้ารถและจุดไฟให้กับเธอทั้งซอย

“ผู้ชายคนนี้!”

หลินซัวหานรู้สึกประทับใจ อย่างไรก็ตาม เธอก็รีบส่ายหัวเพื่อกำจัดความรู้สึกนี้ออกไปและขี่สกู๊ตเตอร์ตัวน้อยของเธอไปข้างหน้า

หวังเต็งจากไปเมื่อเขาไม่เห็นร่างของหลินซัวหานอีกต่อไป

เมื่อเขากลับถึงบ้านก็เป็นเวลา 23.00 น.แล้ว

หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น เขาต้องการจะรีบกลับบ้านแต่เขาก็ยังล่าช้าจนถึงตอนนี้

ผู้หญิง!

เป็นเพราผู้หญิงกำลังลำบาก!

บ้านเงียบ หวังเต็งปิดประตูและปีนขึ้นบันได

ดูเหมือนว่าหลี่ซิ่วเหม่ยจะเข้านอนแล้ว

หวังเต็งไม่ได้ส่งเสียงใดๆ เขานำของที่ขโมยมาได้กลับไปที่ห้องและเอามันทั้งหมดเข้าไปในห้องน้ำ

หลังจากอาบน้ำเขาก็เป่าผมให้แห้ง

จากนั้นเขาก็ล็อคประตูและถูมืออย่างมีนัยยะ เขานั่งไขว่ห้างบนพื้นและหยิบทุกอย่างออกมาเพื่อจัดเรียง

แท่งเหล็กหนึ่งแท่ง ไฟแช็คซิปโป้หนึ่งชิ้น บุหรี่ครึ่งซอง และโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของธรรมดา

หากมีโอกาส เขาก็หวังว่าเขาจะสามารถถอดรหัสผ่านของโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องได้

มันจะต้องมีข้อมูลบางอย่างที่เขาต้องการในโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่อง รวมทั้งข้อมูลตัวตนของนักสู้ที่ตายไปแล้วทั้งสองอยู่อย่างแน่นอน

นอกจากนี้มันก็ยังมีนวมชกมวยและดาบ

ทั้งหมดนี้คืออาวุธรูน!

อักษรรูนที่สลักบนนวมชกมวยและดาบนั้นดูลึกลับและไม่ธรรมดา

หวังเต็งค้นหาทางออนไลน์ตามลักษณะที่ปรากฏ

นวมชกมวยสีม่วงดำนั้นเป็นอาวุธธาตุน้ำแข็งชั้นสูงระดับหนึ่งดาวจากซีรีส์ 'เงาทมิฬ' ซึ่งราคาตลาดของมันก็อยู่ที่ประมาณ 2 ล้าน

ส่วนดาบที่มีอักษรรูนสีแดงเพลิงนั้นเป็นอาวุธธาตุไฟชั้นยอดระดับหนึ่งดาวจากซีรีส์ 'เปลวเพลิงที่ลุกโชดช่วง' ซึ่งมีราคาตลาดอยู่ที่ 3.5 ล้าน

ราคานี้!

หวังเต็งทำได้เพียงแค่ถอนหายใจและอุทาน นักสู้เหล่านี้ร่ำรวยมากจริงๆ!

โชคดีที่เขาเป็นลูกเศรษฐีที่ร่ำรวย ดังนั้นเขาจึงเคยเห็นราคาแบบนี้มาก่อน

และสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาในการซื้อและขายอาวุธ อาวุธทั้งสองนี้เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

ท้ายที่สุดก็ไข่!

หวังเต็งหยิบไข่ออกมาจากกระเป๋าและสังเกตมันอย่างระมัดระวังภายใต้แสงไฟ เมื่อดูจากผิวของมัน เขาก็ไม่สามารถบอกได้จริงๆว่านี่คือไข่ของสัตว์ชนิดใด

“ไข่ใบนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักสู้สองคนนั้นต่อสู้กันอย่างไร้ความปราณี”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ไข่ใบนี้ก็จะต้องเป็นอะไรที่พิเศษแน่ๆ”

เขาดูไข่ประเภทต่างๆทางออนไลน์และเปรียบเทียบมันกับไข่ที่อยู่ในมือ เขาใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการวิเคราะห์

ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปที่น่าอัศจรรย์

“นี่คือไข่ของนก!”

“ใช่แล้ว มันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างแน่นอน”

หวังเต็งพยักหน้ากับตัวเองและยัดไข่กลับเข้าไปในกระเป๋า เขาคลุมด้วยหญ้าแห้งและรูดซิปกระเป๋า จากนั้นเขาก็ซ่อนมันไว้ที่มุมใต้เตียงของเขา

“ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ฉันก็จะขอเก็บมันเอาไว้ก่อน”

“ฉันจะคิดหาวิธีฟักไข่หลังจากยืนยันตัวตนมันได้แล้ว”

จากนั้นหวังเต็งก็หันหน้าไปมองหน้าต่างค่าคุณสมบัติของเขา

ความรู้แจ้ง: 83

พลังวิญญาณ:12.1

พรสวรรค์: พรสวรรค์ไฟขั้นเริ่มต้น (10/300), พรสวรรค์น้ำแข็งขั้นเริ่มต้น (12/300)

พลังฟอร์ส: ไฟ 6/100  (นักสู้ระดับทหารหนึ่งดาว)

น้ำแข็ง 4/100 (นักสู้ระดับทหารหนึ่งดาว)

คัมภีร์: คัมภีร์เพลิงแดง (รากฐาน 1/100), คัมภีร์เหมันต์เร้นลับ (รากฐาน 1/100)

เทคนิคการต่อสู้: เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน (ทักษะหมัดขั้นผู้เชี่ยวชาญ ทักษะดาบขั้นผู้เชี่ยวชาญ ทักษะมีดขั้นผู้เชี่ยวชาญ ฟุตเวิร์คขั้นผู้เชี่ยวชาญ) ทักษะปืน (ผู้สัมฤทธิ์) ทักษะดาบเพลิงคิริน (พื้นฐาน 10/100) ทักษะหมัดปีศาจเหมันต์ (พื้นฐาน 8/100)

ความรู้: วิชาพื้นฐาน (คะแนนเต็ม)

พลังการต่อสู้โดยรวม: 135

เมื่อมองไปที่แถวค่าคุณสมบัติของเขา หวังเต็งก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมาในทันที

นักสู้!

ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักสู้!

เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้ว เวลาที่เขาใช้ในการฝึกศิลปะการต่อสู้จนถึงช่วงเวลาที่เขากลายเป็นนักสู้นั้นก็สั้นมาก อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่เขาได้รับมาในช่วงเวลานั้น มันก็ไม่ใช่น้อยๆเลย

เขาเคยผ่านสถานการณ์ความเป็นความตายไปเมื่อเร็วๆนี้!

เสี่ยงโชคเสี่ยงดวง!

และทุกอย่างก็คุ้มค่า!

หลังจากนั้น หวังเต็งก็เปรียบเทียบความแตกต่างก่อนและหลังของหน้าต่างค่าคุณสมบัติของเขา

เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่ภูเขาเป่าอัน เขาก็ยังไม่มีเวลาได้ไตร่ตรองเรื่องนี้ ตอนนี้ หลังจากสังเกตหน้าต่างค่าคุณสมบัติของเขาแล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าความแตกต่างนั้นใหญ่มาก

ประการแรก พลังวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่

มันเข้าใจไม่ยากว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร

วิญญาณนั้นเป็นตัวแทนของจิตสำนึกของบุคคล และมันก็เป็นคำพูดที่ลึกซึ้ง

เขาได้รับค่าคุณสมบัติพลังวิญญาณมาจากนักสู้ธาตุไฟที่ตายแล้ว ดังนั้นคุณสมบัตินี้จึงถูกเปิดใช้งาน

เขายังคงมองลงไป คุณสมบัติร่างกายหายไป และถูกแทนที่ด้วยพรสวรรค์

หวังเต็งรู้ว่าพรสวรรค์คืออะไร หลังจากที่ร่างกายของนักสู้ไปถึงมาตรฐานระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะได้รับการทดสอบโดยใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขามีพรสวรรค์ สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถเลือกคัมภีร์ทักษะพลังฟอร์สและเทคนิคการต่อสู้ที่พวกเขาสามารถฝึกฝนได้ได้ดียิ่งขึ้น

นี่คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างศิษย์นักสู้และนักสู้

หวังเต็งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบและรู้สึกท้อแท้

“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ งั้นที่ฉันมีพรสวรรค์ทั้งธาตุไฟและน้ำแข็งก็เป็นผลมาจากการเก็บฟองสบู่ค่าคุณสมบัติของทั้งสองธาตุ อย่างไรก็ตาม งั้นนี่มันก็หมายความว่าฉันไม่มีพรสวรรค์ในตนเองอย่างงั้นหรอ?”

เขาเคยค้นหาในอินเทอร์เน็ตมาก่อนและรู้ว่าคนส่วนใหญ่นั้นมักจะมีพรสวรรค์ และเมื่อร่างกายของพวกเขาพัฒนามาจนถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะสามารถฝึกฝนคัมภีร์ทักษะพลังฟอร์สได้

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีคนจำนวนเล็กน้อยที่ไม่มีพรสวรรค์

การมีพรสวรรค์และไม่มีพรสวรรค์นั้นเป็นสิงสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งสองล้วนเป็นของหายาก

และหวังเต็งก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งในนั้น!

“ฉันโชคดีที่มีระบบ!”

หวังเต็งรู้สึกโชคดี เขาไม่กลัว่าเขาจะด้อยพรสวรรค์ แต่เขากลัวว่าเขาจะไม่มีพรสวรรค์เลย ซึ่งนั่นก็จะตัดความเป็นไปได้ทั้งหมดในชีวิตของเขา

ลองนึกภาพสิ่งนี้ดูสิ คุณฝึกฝนอย่างหนักมาหลายปี และอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นคุณก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นเอง คุณก็ถูกบอกว่าคุณนั้นไม่มีพรสวรค์ ซึ่งสิ่งนี้มันก็เท่ากับการดับฝันตลอดหลายปีที่ผ่านมาของคุณ

คนจิตใจไม่ดีอาจตรอมใจตายได้หลังจากที่ได้ยินแบบนี้!

หวังเต็งส่ายหัว

ถัดไปคือค่าคุณสมบัติพลังฟอร์ส มันแสดงถึงระดับของนักสู้

หวังเต็งเป็นนักสู้ระดับทหารหนึ่งดาวในขณะนี้  อย่างไรก็ตาม  เขาก็มีพลังฟอร์สถึงสองธาตุไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา

และจากเท่าที่เขาหาข้อมูลมา เขาก็พบว่าปกติแล้วนักสู้จะมีเพียงแค่หนึ่งธาตุเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม นักสู้ที่มีพรสวรรค์หลายธาตุนั้นก็เป็นสิ่งที่หายากจนถึงยากที่สุด

บางครั้งคุณอาจเห็นนักสู้ที่มีพลังฟอร์สสองหรือสามธาตุได้ อย่างไรก็ตาม นักสู้ที่มีพลังฟอร์สสามธาตุนั้นก็เป็นสิ่งที่หายากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร ส่วนนักสู้ที่มีพลังฟอร์สสี่,ห้าหรือหกธาตุนั้นก็เป็นสิ่งที่ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน

และท้ายที่สุดก็พลังการต่อสู้

พลังการต่อสู้นั้นน่าจะเป็นการคำนวณภาพรวมทั้งหมดของค่าคุณสมบัติทั้งหมด ทั้งร่างกาย ความแข็งแกร่ง ความเร็ว พลังฟอร์ส เทคนิคการต่อสู้ และส่วนที่เหลือ

นี่เป็นค่าคุณสมบัติที่ดี มันแสดงความสามารถโดยรวมทั้งหมดของเขาในรูปเดียว

หลังจากมองดูทุกอย่างแล้ว หวังเต็งก็หาวออกมา ความเหนื่อยล้าคืบคลานเข้ามายังร่างกายของเขาและเขาก็หลับตาลง และค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่โลกแห่งความฝัน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด