ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 99 ความโกรธของสุภาพบุรุษตระกูลหลิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 101 บดขยี้เหวินเทา

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 100 เป้าหมายปรากฏตัว


ตอนที่ 100 เป้าหมายปรากฏตัว

ภายในอาคารสำนักงานค่ายแห่งหนึ่ง

เมื่อทุกคนเตรียมออกเดินทางอย่างรวดเร็ว ผู้เฒ่าหม่าก็ตะโกนว่า “เราออกไปแบบนี้ไม่ได้!”

ฉินหยู่หันกลับมาเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น

“หมดเรื่องเจ้าเด็กหนุ่มฉิงไปแล้ว เขาคงไม่กล้าไปยุ่งกับค่ายเพื่อสร้างปัญหา แต่เขาจะต้องถูกจับตามองแน่ๆ”

ผู้เฒ่าหม่าอธิบายเบาๆ “พวกเราต้องซ่อนตัว”

“ถูกของลุง” แมวแก่พยักหน้าเห็นด้วยทันที

……

บนรถ

ฉิงจื่อหาวกดโทรศัพท์ของปีเตอร์ด้วยท่าทางเศร้าหมองและพูดอย่างสุภาพเป็นพิเศษ “คุณโปรดอย่าบอกพ่อของฉันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้นะครับ”

“ห่าว ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าบริษัทหลงซิ่งเป็นของทุกคน ไม่ใช่พ่อของคุณคนเดียว” ปีเตอร์พูดห้วนๆ ตรงประเด็น “ขอพระเจ้าอวยพรคุณ ในอนาคต ความสัมพันธ์และความพยายามของเราทั้งหมดนั้น ทำเพื่อบริษัทดีกว่า แทนที่จะเอาไปใช้กับการจัดการกับเด็กเหลือขอขี้เมาคนหนึ่ง”

ฉิงจื่อหาวกัดฟันตอบ “มันจะไม่มีครั้งต่อไปอีกครับ”

“คุณดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ปากทำให้คำพูดของคุณไม่ค่อยชัด ไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันขอให้คุณฟื้นตัวโดยเร็ว”

ปีเตอร์พูดสองสามคำแล้ววางสายโทรศัพท์ไป

ฉิงจื่อหาวกระแทกโทรศัพท์บนโต๊ะพร้อมก่นด่าสาปแช่ง “ไอ้ฝรั่งระยำ แกเป็นคนแนะนำตาเฒ่าว่าพี่ชายคนโตของฉันควรรับผิดชอบเรื่องเปลี่ยนอุปกรณ์ในโรงงาน… ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะทำให้แกเคลียร์ทุกอย่างและถีบแกออกไปจากบริษัทให้ได้ เหี้ยเอ๊ย!”

หย่งตงขมวดคิ้วมองไปที่ฉิงจื่อหาว หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็นึกถึงบางอย่างได้จึงพูดขึ้น “นายน้อย ถ้างั้นตอนนี้เราควรมุ่งเน้นไปที่เหวินเทาและค้นหาเสี่ยวฉู่ต่อ ไม่เห็นหมาเหล่าเอ้อโผล่ออกมาในเหตุการณ์นี้ ฉันคิดว่าเขาอาจจะ...ตอนนี้”

“เพียะ!”

ฉิงจื่อหาวกำลังเดือดพล่านจะระเบิด เลยพาลตบหน้าหย่งตงพร้อมแหกปากตะโกน “ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะถูกทหารกระทืบหรือเปล่าวะ?! พวกแกมันแค่กองขยะเน่าๆ มีประโยชน์อะไรที่บริษัทให้ความสะดวกสบายกับพวกแก แค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็ยังจัดการไม่ได้!”

หย่งตงตกตะลึงจากการถูกตบ เขาโกรธจนหน้าแดงและเส้นเลือดที่หน้าผากปูดโปน ในขณะที่ดวงตาเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวของเขา จับจ้องไปที่ฉิงจื่อหาวและกำหมัดของเขาแน่น

“มองอะไร? แกไม่พอใจวะ? ฉันผิดอะไรหรือไง?” ฉิงจื่อหาวถามด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

หย่งตงบังคับควบคุมอารมณ์ของเขาให้สงบลงและตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณฉิง ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าความร่วมมือนั้นมีความเท่าเทียมกัน หากคุณมีทางเลือกที่ดีกว่าในซงเจียง คุณคงจะไม่ให้ความสะดวกสบายมากมายแก่เราหรอก”

ฉิงจื่อหาวตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น

หย่งตงมองดูใบหน้าของอีกฝ่ายและเกิดแรงกระตุ้นมากมายในใจที่อยากจะด่ากลับไป แต่ความเป็นคนมีเหตุผลบอกเขาว่า เขาทำได้เพียงอดทนเท่านั้นในตอนนี้

เหตุการณ์เลวร้ายครั้งล่าสุดของหย่งตงต้องเผชิญ คือหมาเหล่าเอ้อเอาปืนจ่อหัวเขาและถูกบังคับให้คุกเข่าคำนับ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้หย่งตงรู้สึกว่า การต้องอดทนต่อคนอย่างฉิงจื่อหาวนั้นไม่เท่าไหร่ และเขายังมีทางเลือกได้อีกมาก หลังจากเงียบไปสักพัก เขาก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันที “คุณฉิง คุณควรพิจารณาสิ่งที่ฉันพูดไปให้ดี”

“ระยำจริง!” ฉิงจื่อหาวสาปแช่ง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดทั้งที่อารมณ์โมโหยังกรุ่นๆ อยู่

“เฮ้ คุณฉิง”

“ฉันขอให้นายทำอะไรสักอย่าง ไม่มีข่าวมาหลายชั่วโมงแล้ว นายคิดว่าคำพูดของฉันไร้สาระใช่ไหม?” ฉิงจื่อหาวถามด้วยน้ำเสียงห้วนมาก

“ฉันไปดูมาแล้ว แต่ฉันติดต่อคุณไม่ได้เมื่อคืนนี้” อีกฝ่ายตอบอย่างเสียใจ

“บอกฉันสิ นายเจอคนที่ชื่อเหวินเทาแล้วหรือยัง?” ฉิงจื่อหาวถาม

“ลองดูแล้ว” หลังจากที่อีกฝ่ายเรียบเรียงความคิดที่จะพูดเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตอบเบาๆ ทันที “เหวินเทาไม่มีญาติในเฟิ่งเป่ย และเขาอาศัยอยู่ไกลจากเอ็มจีคาร์นิวัล…”

……

ในเขตเมือง ในอาคารทรุดโทรมที่สร้างโดยหน่วยงานบรรเทาทุกข์ เหวินเทาสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ เขาขมวดคิ้วมองไปที่เสี่ยวฉู่ แล้วถามว่า “เอาล่ะ แกพูดว่ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรนะ ไหนแกว่าทำงานกับบ้านหม่ามันดีไม่ใช่เหรอ?”

เสี่ยวฉู่กินอาหารและจิบไวน์แล้วตอบว่า “มีอะไรดี? แกรู้ไหมว่าตอนนี้การควบคุมยาของซงเจียงเข้มงวดแค่ไหน? ฉันขายยาได้แค่วันละห้ากล่อง แม้ในเวลาสงบๆ ฉันก็ได้เงินไม่เกินร้อยหยวน แต่ถ้ามีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น ฉันอาจต้องติดอยู่ที่นั่นสามสี่ปี วันเดียวฉันก็ว่าแย่อยู่แล้ว อีกอย่างถ้าทั้งสองฝ่ายเริ่มทะเลาะกันอีก วันหนึ่งฉันอาจถูกตระกูลหยวนเก็บได้ง่ายๆ”

เหวินเทาถอนหายใจและไม่พูดอะไร

“พี่ชาย แม้ว่าเราจะยอมเสี่ยงชีวิต แต่เราก็ต้องมีรายได้ที่คุ้มค่าด้วย” เสี่ยวฉู่ขมวดคิ้วและพูดอีกครั้ง “ฉันคิดว่าอยู่กับตระกูลหม่าไม่มีอนาคตหรอก ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะถูกหยวนหัวฆ่าหมด ฉันเลยคิดว่าจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ ทำเพื่อเลี้ยงตัวเองจะดีกว่า”

“อืม ใช่ สมัยนี้ชีวิตเราก็ลำบากอยู่แล้ว ทำไมฉันยังต้องคุยกับเจ้านายเรื่องศีลธรรมด้วยวะ” เหวินเทาพยักหน้า

“เสี่ยวเทา แม้ว่าเราจะไม่มีนามสกุลเดียวกัน แต่เราเคยผ่านเรื่องร้ายแรงมาด้วยกัน” เสี่ยวฉู่ใช้ประโยชน์จากไวน์ที่ซื้อมาฝากและพูดต่อ “ฉันจะไม่ซ่อนมันไว้จากแก คราวนี้ฉันมีเงินก้อนติดตัวมาด้วย ฟังฉัน แกลาออกจากงานที่เอ็มจีแล้วมาทำงานกับฉันเถอะ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน”

“ลาออก… แกเห็นว่าตอนนี้ฉันอยู่โอเคแล้วเหรอวะ?” เหวินเทาอึ้งนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนบ่นออกมา “หากแกตั้งใจทำงานไป แล้วแกจะทำยังไงให้รายได้มีต่อเนื่องจนผ่านช่วงภัยแล้งและน้ำท่วมวะ? นี่จะไม่รวมเรื่องอาหารและไวน์อีกนะ”

เสี่ยวฉู่เงียบไปนาน “ฉันต้องการจะเลิกจับปืน แต่ฉันไว้ใจคนอื่นไม่ได้ หากแกมีความคิดดีกว่าก็มาทำงานกับฉันสิ ฉันมีช่องทางแล้ว และฉันเจอเขาที่ซงเจียง”

เหวินเทาตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ

“คิดอะไรอีกวะ! การเป็นคนงาน มักจะทำเงินให้กับเจ้านายเท่านั้นแหละ หากแกต้องการมีชีวิตที่ดี แกต้องทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง”

เสี่ยวฉู่เกลี้ยกล่อมอีกครั้ง “ฟังฉันนะ แกไปลาออกจากงาน แล้วเราสองคนพี่น้องจะร่ำรวยไปด้วยกันแน่ๆ”

เหวินเทาวางตะเกียบลง “แกมีอยู่เท่าไหร่? พอสำหรับงานนี้หรือเปล่า?”

“ฉันจะไม่เริ่มด้วยการคิดทำการใหญ่หรอก แต่เราเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ ก่อนก็ได้แล้ว”

“โอเค มาร่วมมือทำงานกันดู” เหวินเทาจ้องมองตาของเขาและตบต้นขาดังป้าบ “ถ้ามันไม่ได้ผลจริงๆ อย่างแย่สุดเลย ก็กลับไปทำงานเป็นคนงานด้วยกัน ผู้จัดการของเอ็มจีดีกับฉันอยู่ เมื่อไหร่ที่ฉันอยากกลับไป ก็แค่ไปคุยกับเขาเท่านั้น”

“ไอ้ฉิบหาย เรายังไม่ได้เริ่มทำเลย ทำไมแกถึงคิดว่าเราทำไม่ได้ล่ะวะ?” เสี่ยวฉู่พูดหลังจากผงะอึ้งไปนิดหน่อย “แกต้องเชื่อว่าเราทำได้สิ!”

“เออ เออ เออ มันต้องได้ผล แค่ลงมือทำเลย” เหวินเทาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา “ฉันจะกลับไปที่เอ็มจีสักเดี๋ยวเพื่อทักทายผู้ใหญ่สักหน่อย และเก็บของบางอย่างกลับด้วย”

เสี่ยวฉู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “แกจะทำอะไรอีก? โทรไปสิวะ?”

“รายได้เดือนนี้ของฉันยังอยู่ที่เอ็มจีฉันต้องกลับไปเอา”

“...แกอย่ากลับไปนะ” เสี่ยวฉู่กังวลเล็กน้อย “หลายคนในซงเจียงรู้ว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทกับแก ฉันกลัวว่าคนที่นั่นกำลังค้นหาตัวฉันอยู่”

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะกลับไปเอาเงินแล้วทักทายนิดหน่อย ไม่น่าจะเกินชั่วโมง” เหวินเทาพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “อีกอย่าง ฉันมีคนช่วยขับรถรับส่ง ดังนั้นพวกเขาจับตาดูฉันไม่ได้หรอก”

“แกต้องระวัง ตอนนี้ตระกูลหม่ากำลังค้นหาฉันอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ”

“แกขี้ขลาดเหรอวะ ที่นี่เฟิ่งเป่ย อย่าบอกนะว่าพวกเขายังไม่โผล่มา ถึงพวกเขาจะมาที่นี่จริงๆ ก็เถอะ พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรฉันที่เอ็มจีหรอก” เหวินเทายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแล้วพูดเชียร์ “เอาล่ะ เสร็จเรื่อง แป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว”

……

ตอนเย็นเหวินเทาขอให้เพื่อนร่วมงานที่เอ็มจีมารับเขาขึ้นรถไป โดยเขาสวมหมวกแก๊ปกลับไปที่ทำงานอย่างเงียบๆ

ในที่พักตรงข้ามเอ็มจีคาร์นิวัล ขณะที่หมาเหล่าเอ้อกำลังจะติดต่อกับฉินหยู่ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล?”

“ฉันกำลังเล่นไพ่อยู่ข้างใน” ลุงหลิวจื่อพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เหวินเทากลับมาแล้ว”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด