259 - ผู้อาวุโสใหญ่
259 - ผู้อาวุโสใหญ่
ในความเป็นจริงสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดคนนั้นได้มองเห็นสือฮ่าว เริ่มหลบหนีตั้งแต่แรก แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขวางเพราะกังวลว่าจะมีอันตรายปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
เขาค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง โดยใช้สัมผัสพิเศษคอยติดตามการเคลื่อนไหวของสือฮ่าวอยู่ตลอด
เป็นเพราะเขาค่อนข้างกังวล ดินแดนโบราณแห่งนี้อาจจะเหมาะสำหรับผู้ฝึกฝนอาณาจักรปลดปล่อยตนเองแต่สำหรับสิ่งมีชีวิตในระดับของเขามันมีข้อจำกัดมากมาย
ไม่เช่นนั้นเขาคงจับสือฮ่าวได้ในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว!
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องคอยจับตาดูสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอดเวลาและคอยค้นหาสถานที่ต้องห้ามในป่าอสูรสวรรค์แห่งนี้
ต้องเข้าใจว่าในในอดีตแม้แต่ผู้อมตะและผู้ไม่ดับสูญก็เคยเสียชีวิตอยู่ที่นี่
ในที่สุดเขาก็มาถึงสันเขาที่เงียบสงบ
มีต้นไม้โบราณที่มีสีดำสนิทเหมือนหมึกและไม่มีใบ ยอดของมันสูงตระหง่านอยู่ในกลุ่มเมฆจนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ที่ใต้ต้นไม้นั้นฮวงนั่งอยู่ที่นั่น ดวงตาของเขาสอดส่ายไปมาอย่างระมัดระวัง
บุคคลระดับผู้สูงสุดนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกเขาสามารถทำลายดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ได้ด้วยการกระดิกนิ้วเพียงครั้งเดียว
แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่กล้าลงมือโดยประมาทเพียงใช้สายตาจับจ้องไปที่ต้นไม้โบราณต้นนั้น
“ตอนที่ข้ามาครั้งสุดท้ายที่นี่ไม่มีต้นไม้โบราณต้นนี้ หรือมันเติบโตขึ้นมาในภายหลัง” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ
เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาเคยมาสถานที่แห่งนี้มาก่อน ในอดีตที่นี่เป็นเพียงหนองน้ำแห่งหนึ่งเท่านั้น
ต้นโพธิ์โลหิตต้นนี้ฝังรากลึกในหนองน้ำโลหิต หลังจากที่มันดูดซับโลหิตแก่นแท้เป็นเวลาหลายแสนปีไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าความแข็งแกร่งของมันจะน่ากลัวมากแค่ไหน
ในเวลานี้ความรู้สึกขนลุกที่สือฮ่าวพบเจออยู่ดีๆก็หายไป เขารู้สึกแปลกมากเป็นไปได้ไหมว่าผู้สูงสุดคนนั้นได้หายตัวไปแล้ว?
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในระยะไกลเขาก็สั่นสะเทือนรู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถขยับตัวไปไหน
เป็นเพราะที่ทางเข้าของสันเขามีร่างชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่นสายตาของเขาจับจ้องมาทางนี้โดยไม่กระพริบตา
คนผู้นี้อยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว? สือฮ่าวไม่สังเกตเห็นเขาเลย!
ยิ่งกว่านั้นทำไมตอนนี้ความรู้สึกไม่สบายใจของเขาจึงหายไป? เขาไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายอีกต่อไป!
สือฮ่าวหวั่นไหว นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน สิ่งมีชีวิตนั้นอยู่ใกล้ขนาดนี้แล้วเหตุใดความรู้สึกพะอืดพะอมของเขาถึงได้หายไป
สิ่งนี้สามารถกล่าวได้ว่าการดำรงอยู่ของบุคคลระดับนี้น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เขาอยู่ที่นั่นแท้ๆแต่เหมือนกับว่าเขาแทรกแซงกาลเวลาไม่อยู่ทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต
“ผู้สูงสุด!” สือฮ่าวกล่าวออกมาเบาๆ
ในสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลแพร่กระจายไปในอากาศ มันหนาแน่นมากจนเป็นไปไม่ได้ที่สือฮ่าวจะมองเห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตตนนั้น
เขาเพียงสามารถมองเห็นดวงตาสีทองคู่ที่ทะลุออกมาจากหมอกแห่งความโกลาหลเท่านั้น
ทันใดนั้นเองเขาก็ปรากฏตัวออกมาอย่างช้าๆ พลังแห่งความโกลาหลที่อยู่โดยรอบถูกดูดซับเข้าไปในร่างกายของเขา
สือฮ่าวเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าสถานที่แห่งนี้อาจไม่เพียงพอที่จะหยุดชายชราคนนั้นได้
หลังจากนั้นไม่นานชายชราคนนั้นก็หายตัวไป
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางจากไปอย่างแท้จริง คนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อสังหารเขาโดยเฉพาะ ไม่มีทางที่เขาจะล้มเลิกกลางคัน!
ทันใดนั้นสือฮ่าวก็สัมผัสได้ถึงเสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างหูของเขา
“กลับไปที่เมืองจักรพรรดิ์กันเถอะ”
สือฮ่าวตกใจแทบจะร้องไห้ออกมา เป็นเพราะนี่คือเสียงของผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งนั่นเอง
“ผู้อาวุโสท่านมาจริงหรือ? ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดอยู่ด้วยท่านต้องระวังตัวให้มาก!”สือฮ่าวรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรถ้าเขาลงมือข้าก็จะฆ่าเขา!” คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ เมิ่งเทียนเจิ้งนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมามาก
สือฮ่าวรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญต่างมิติจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหนเขาก็ยังสามารถกลับไปอย่างแน่นอน
“เจ้ารออีกสักครู่ หลังจากนั้นค่อยๆเดินออกไปช้าๆเพื่อรอให้ผู้สูงสุดคนนั้นลงมือ ข้าจะถือโอกาสนี้สังหารเขาไปด้วย!” เสียงของผู้อาวุโสใหญ่ดังขึ้น
น้ำเสียงของเขาแน่วแน่มั่นใจและมีพลังที่น่ากลัว สือฮ่าวรู้สึกสบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้อันตรายของเขาหมดสิ้นไปแล้ว
การซุ่มโจมตีของผู้สูงสุดนั้นต้องสั่นสะเทือนโลกอย่างแน่นอน แม้การเคลื่อนไหวของพวกเขาเพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถทำให้ดวงดาวตกลงจากฟากฟ้า!
เมื่อคนผู้หนึ่งได้รับการฝึกฝนจนมีระดับความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้การลงมือของพวกเขาย่อมก้าวล้ำไปสู่โลกของเทพเจ้าแล้ว!
นั่นคือเหตุผลที่สือฮ่าวเห็นดีเห็นงามไปกับการซุ่มสังหารครั้งนี้
สือฮ่าวนั่งอยู่ที่นี่เป็นเวลานานจนกระทั่งโลกภายนอกสงบสุขมากขึ้น จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นแสร้งทำเป็นว่าต้องการออกไปจากที่นี่
“คราวนี้ผู้สูงสุดจะถูกสังหารจริงๆเหรอ” เขารู้สึกตื่นเต้นและยากที่จะสงบสติอารมณ์ คนเหล่านี้เป็นที่ทราบกันดีว่าก้าวไปถึงระดับเทพเจ้าครึ่งตัวแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาเกิดมาก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีผู้สูงสุดคนใดเสียชีวิต
สือฮ่าวเดินออกจากใต้ต้นไม้อย่างช้าๆเต็มไปด้วยความระมัดระวัง สำหรับสิงโตทองนั้นมันถูกเก็บไว้ในวัตถุมิติมานานแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะมัน
สือฮ่าวเดินต่อไปเรื่อยๆในที่สุดก็ออกจากที่นี่ ถึงอย่างนั้นต้นไม้โบราณก็ยังสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล
อย่างไรก็ตามเมื่อสือฮ่าวออกพ้นจากรัศมีของต้นไม้หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
เขาสับสนนิดหน่อย ผู้อาวุโสใหญ่มาแล้วเป็นไปได้ไหมที่เขายังไม่สามารถหยุดยั้งศัตรูได้วันนี้จะเป็นวันตายของเขา? สือฮ่าวเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเสมอ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาบ่มเพาะแต่มันเกี่ยวข้องกับเต๋าชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตามการรับรู้ทางจิตวิญญาณประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนจะได้รับ
อาจกล่าวได้ว่าการรับรู้ทางจิตวิญญาณของบางคนนั้นเฉียบแหลมเป็นพิเศษในขณะที่สือฮ่าวเป็นหนึ่งในบุคคลที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มากที่สุด
เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างเหมือนมีอันตรายกำลังใกล้เข้ามา!
“ผู้อาวุโสใหญ่ท่านต้องระวัง ข้าเกรงว่าผู้สูงสุดคนนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!” สือฮ่าวส่งเสียงออกไปอย่างแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรข้าเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาเข้ามาข้าจะอยู่ในตำแหน่งโจมตีที่เหมาะสมที่สุดในการสังหารเขา!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว
สือฮ่าวพยักหน้า ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนที่มั่นคงเป็นอย่างมาก เขามีชีวิตอยู่มาเป็นเวลาเกือบล้านปีหากเขาไม่มั่นใจเขาจะไม่กล่าวออกมาอย่างแน่นอน
เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกไม่สบายใจนี้เหมือนกับว่าหากเขาก้าวไปอีกเพียงไม่กี่ก้าวเขาจะได้รับอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอน!
สือฮ่าวสั่นสะท้านพบว่าความรู้สึกนี้ยากมากที่จะสลัดออก นี่เป็นการรับรู้สัญชาตญาณขั้นพื้นฐานที่สุดของผู้ฝึกฝน!
ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้? เขาต้องการที่จะเข้าใจ
ในเวลาเดียวกันเขารู้สึกว่ามีพระราชวังห้าแห่งปรากฏขึ้นภายในอวัยวะทั้งห้าของเขาพร้อมกับปลดปล่อยเสียงสวดจากคัมภีร์อย่างคลุมเครือ
นอกจากนี้ยังมีร่างเล็กๆปรากฏออกมาก่อนจะนั่งสมาธิอยู่ที่หน้าพระราชวังทั้งห้าแห่งนั้น
มันคือสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆซึ่งนั่งอยู่ในดอกไม้เต๋าแห่งอดีตของเขา
คราวนี้สิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวนี้ไม่ได้นั่งอยู่ในดอกไม้เต๋าเหนือศีรษะของเขา แต่กลับนั่งอยู่ระหว่างอวัยวะภายในทั้งห้าของเขา พร้อมกับปลดปล่อยพลังเซียนออกมาอย่างเข้มข้น
"นี่คือสัญญาณเตือนหรือเปล่า?” สือฮ่าวถามตัวเอง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ
ใบหน้าของสือฮ่าวเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เขาส่งเสียงพูดว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ข้าคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้พอดี มันจะทำให้เราสามารถสังหารผู้สูงสุดคนนั้นได้อย่างแน่นอน”
“โอ้? มันเป็นวิธีอะไร?”
“เราต้องได้รับความช่วยเหลือจากของวิเศษที่อยู่ใต้ต้นไม้แห่งนั้น” สือฮ่าวถอยกลับอย่างสงบเขาเดินช้าๆอย่างไม่ตื่นเต้นลนลาน จากนั้นค่อยหย่อนกายนั่งลงที่ใต้ต้นไม้โดยไม่ขยับไปไหน
“บอกข้าได้หรือยัง?” เสียงของผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งดังขึ้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้สือฮ่าวไม่ได้พูดอะไรออกมา ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสใหญ่ก็ถามย้ำหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่สนใจ