บทที่ 2 การปรากฏขึ้นของช่องว่างระหว่างมิติ
ทันทีที่ฉินอีเอื้อมมือไปสัมผัสดอกไม้ประหลาดตรงหน้า ร่างทั้งร่างของเธอก็หายวับไป เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่าตนมาอยู่ในพื้นที่โล่ง ๆ แห่งหนึ่ง
ทันใดนั้น ข้อมูลจำนวนมหาศาลต่างก็หลั่งไหลเข้ามาภายในจิตใจของฉินอีอย่างไม่ทันตั้งตัว หลังจากที่ย่อยข้อมูลได้หมดแล้ว ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าตนมาโผล่ที่ไหนกันแน่
พื้นที่แห่งนี้เรียกว่ามิติแรกกำเนิดซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยชายชราผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่คนละโลก เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงมาอยู่บนโลกนี้ได้ แต่มันก็ถูกผูกเข้ากับดวงวิญญาณของฉินอีไปเสียแล้ว มิติแรกกำเนิดนี้อบอวลไปด้วยปราณชีวิตอันล้นปรี่ มีที่ดินมากมายสำหรับเพาะปลูก และมีบ้านไม้ไผ่ที่สร้างไว้ได้อย่างวิจิตรตระการตา หลังบ้านมีพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ มีต้นไม้ขึ้นอยู่ประปรายออกดอกออกผลน่ารับประทาน หน้าบ้านมีลำธารเล็ก ๆ มีสระน้ำอยู่ด้านซ้ายของลำธาร ส่วนด้วยขวามือเป็นที่ตั้งของน้ำพุจิตวิญญาณที่สามารถใช้ชำระล้างไขกระดูกรวมถึงรักษาบาดแผลได้
การไหลของเวลาภายในมิติแรงกำเนิดนี้มีอัตราส่วนเป็น 1:10 เมื่อเทียบกับโลกภายนอก และด้วยปราณชีวิตที่หนาแน่นอยู่ในอากาศ พืชพันธุ์มักจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เข้าใจทุกอย่างแล้วดวงตาอันเย็นชาของฉินอีก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปในที่สุด มิติแรกกำเนิดแห่งนี้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับวันโลกาวินาศเลยทีเดียว
สิ่งที่ขาดแคลนที่สุดในช่วงโลกาวินาศก็คืออาหารสำรอง ฉินอีที่อาศัยอยู่ในโลกหลังวันโลกาวินาศมานานกว่าสิบปีย่อมรู้ถึงความสำคัญของอาหารสำรองเป็นธรรมดา ในช่วงห้าปีแรก มนุษย์มีชีวิตรอดได้ด้วยอาหารที่เก็บสำรองเอาไว้ แต่นับวันอาหารก็ยิ่งเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ และอีกห้าปีต่อมา มนุษย์ก็ต้องพยายามเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารขึ้นมาเอง ฐานทัพหลายแห่งพยายามจะใช้พลังพิเศษธาตุไม้ในการปลูกพืชแต่ก็ไม่ได้ผล ดินนั้นถูกปนเปื้อน ทำให้ไม่สามารถปลูกอะไรได้ ผู้คนที่เหลือรอดต่างก็กินได้เแค่สัตว์และพืชกลายพันธุ์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องกลายเป็นซอมบี้ไป
ความหิวโหยทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องอดตาย และในที่สุด ก็ทำให้ผู้คนถึงขนาดกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง จนกระทั่งฉินอีถูกจับตัวไป เรื่องอาหารก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่
แต่คราวนี้มันต่างออกไป ดวงตาของฉินอีเร่าร้อนขึ้น ด้วยมิติแรกกำเนิดนี้ เธอนั้นสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเครื่องมือดังกล่าวนั้นเย้ายวนจิตใจผู้คนมากเกินไป เธอคุ้นเคยกับการแก่งแย่งปล้นชิงหลังวันโลกาวินาศดี เธอรู้ดีว่าไม่สามารถบอกเรื่องมิติแรกกำเนิดนี้กับใครได้
ในภพชาติใหม่นี้ เธอจะเชื่อใจแต่เพียงตัวของเธอเองเท่านั้น และจะไม่กลับไปเป็นฉินอีผู้โง่เขลาอีก
หลังจากที่ฉินอีคิดทบทวนบางอย่างในใจ เธอก็ถอดเสื้อผ้าออกและเดินไปทางน้ำพุจิตวิญญาณที่มีผลในการชำระล้างไขกระดูกซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการ แม้ว่าพลังพิเศษนั้นจะทรงพลัง แต่ก็กินพลังงานไปมากโขเช่นกัน เมื่อพลังของเธอหมดลง ก็ทำได้เพียงแค่รอคอยความตายเท่านั้น
ฉินอีต้องทุกข์ทรมานอย่างมากในภพชาติก่อนหน้า โชคยังดีที่เธอปลุกพลังสายฟ้าได้ในช่วงเวลาวิกฤต ไม่เช่นนั้นเธอคงจะกลายเป็นอาหารซอมบี้ไปแล้ว หลังจากวันนั้นเธอก็พยายามฝึกฝนร่างกายให้หนักขึ้น แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ในภพชาตินี้ เธอต้องมีสุขภาพดีแข็งแรง และมีความสามารถมากพอที่จะซ่อนพลังพิเศษของเธอ ในภพชาติก่อน มนุษย์ที่ปลุกพลังพิเศษได้เป็นกลุ่มแรก ๆ ส่วนใหญ่จะถูกจับตัวไปทดลอง เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ปลุกพลังได้และพร้อมจะอุทิศชีวิตให้น้องสาวของตัวเองไม่ใช่หรือ เมื่อนึกย้อนไปถึงภพชาติก่อนหน้าที่เธอปลุกความสามารถพิเศษขึ้นมาได้ เธอก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เล่าให้ครอบครัวตระกูลฉินฟัง เธอนี่มันช่างโง่เหงาเสียเหลือเกิน
ฉินอีสูดลมหายใจเข้าไปให้ลึกที่สุด ละทิ้งความคิดเหล่านั้นออกไป ไม่ต้องรีบร้อน ในภพชาตินี้เธอต้องให้ทุกคนชดใช้หนี้ชีวิตให้กับเธอ
ทันทีที่ฉินอีเข้าไปในน้ำพุจิตวิญญาณ เธอก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่พวยพุ่งเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เธอรู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก แต่ภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที เธอก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย กล้ามเนื้อทุกสัดส่วน กระดูกทุกข้อเหมือนจะแตกหักและผสานกันใหม่อยู่ตลอดเวลา เธอเม้มริมฝีปากพลางกลั้นใจเอาไว้ หากเธอหมดสติลง จะทำให้ผลของการชำระล้างไขกระดูกลดลงเป็นอย่างมาก
แตกหัก สมาน แตกหัก สมาน ฉินอีวนเวียนอยู่ในวัฏจักรเช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่เธอก็ัยังไม่ปริปากร้องออกมาแม้แต่คำเดียว จิตใจเริ่มทะเยอทะยานมากขึ้น ความเกลียดชังอันมหาศาลคอยผลักดันเธออยู่ตลอด
ในที่สุดมันก็จบลง หลังจากชำระล้างไขกระดูกแล้ว ฉินอีรู้สึกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอเฉียบคมขึ้น ความแข็งแกร่งก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ผิวสีน้ำผึ้งของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีขาวละเอียด ผมที่เคยแห้งกรังก็กลายเป็นสีดำเงางาม
เธอสังเกตว่าจุดตันเถียน[1]ของเธอจู่ ๆ ร้อนวูบขึ้นมา จึงตรวจดูอย่างไม่ตั้งใจ ก็พบว่ามีลูกบอลสองลูกขนาดเท่าเล็บมืออยู่บริเวณช่องท้องของเธอ ลูกหนึ่งสีน้ำเงิน ส่วนอีกลูกสีเทา นี่มัน....
-------------------------------------------------------
[1] ตันเถียน คือจุดศูนย์กลางของพลังงานภายในร่างกาย ในที่นี้กล่าวถึงตันเถียงส่วนล่างซึ่งอยู่บริเวณท้องน้อย