ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 96 จุดหมายของทุกคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 98 แค่มีโชคหรือโชคร้ายกันแน่

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 97 ความขัดแย้งเริ่มขึ้น


ตอนที่ 97 ความขัดแย้งเริ่มขึ้น

ภายในบาร์เล็กๆ ในคลับหน่วนตง

หลังจากที่ฉินหยู่แนะนำผู้เฒ่าหม่าและคนอื่นๆ ให้รู้จักกับหลินเนี่ยนเหล่ย ทั้งคู่ก็นั่งลง

“นายมีอะไรคืบหน้าบ้างไหม?” ผู้เฒ่าหม่าถามฉินหยู่เบาๆ

“ไม่รู้สิ ฉันรอพี่ชายคนโตของเธอลงมาและจะขอให้เขาช่วยหาคนสืบให้” ฉินหยู่หันกลับมาตอบ

“ขอบคุณเพื่อนนายให้ฉันด้วย” ผู้เฒ่าหม่าต้องผ่านความทรมานมามากในช่วงสองวันที่ผ่านมา ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวลงไปมาก

หลินเนี่ยนเหล่ยมองไปที่ผู้เฒ่าหม่าและคนอื่นๆ ที่นั่งถัดไป เธอกะพริบตาโตของเธอแล้วพูดกับฉินหยู่ “อีกสักพักพี่ชายฉันจะลงมา คุณไม่จำเป็นต้องพูดมาก แค่บอกว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉัน เราตามหาเขาเพราะเรื่องข่าวเหวินเทาคนนั้น”

ฉินหยู่อึ้งไปเล็กน้อย “ทำไมเธอต้องพูดอย่างนั้น? มีอะไรไม่สะดวกเหรอ?”

หลินเนี่ยนเหล่ยเกาหัวอย่างไร้เดียงสาและตอบด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายของฉันไม่ต้องการให้ฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสังคมวงในมากเกินไป”

“อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว” ฉินหยู่พยักหน้าทันที

แมวแก่หันจ้องมองไปที่ลุงหม่าแล้วนิ่งเงียบไปนาน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตราบใดที่สติปัญญาของพี่ชายของคุณยังปกติ เขาจะไม่มีวันเชื่อเลยว่าลุงหม่าและคนของเขาจะเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณ”

ลุงหม่าเข้าใจเป็นอย่างดีจึงเอ่ยปาก “งั้นพวกนายคุยกันเถอะ เราจะแยกไปรอใกล้ๆ นี่ก็ได้”

“เร็วๆ สั่งน้ำมะนาวให้ลุงม้าสักสองสามแก้ว มันน่าจะเป็นยาขับปัสสาวะอย่างดีเชียวนะ” แมวแก่หันขวับไปตะโกนใส่กวนฉี

“ไอ้หอก!” กวนฉีสบถพลางกลอกตาเซ็งแล้วเดินตามลุงหม่าและคนอื่นๆ ไปที่เคาน์เตอร์ที่อยู่ข้างๆ ทันทีที่ทุกคนรู้บทบาทของตนแล้ว โทรศัพท์มือถือของหลินเนี่ยนเหล่ยก็ดังขึ้น “ฮัลโหล? *เนี่ยนเนี่ยน พี่เสร็จแล้วเหรอ? ตกลง ลงมาที่นี่สิ ฉันอยู่ที่บาร์เล็กๆ ใช่แล้ว”

สิบนาทีต่อมา ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาสวมเสื้อคลุมขนสัตว์เดินนำผู้ติดตามคนหนึ่งเข้าไปในบาร์เล็ก

“ทางนี้ พี่ชาย!” หลินเนี่ยนเหล่ยโบกมือพร้อมตะโกนเรียก

“ฮ่าฮ่า เธอมากับเพื่อนเหรอ?” ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ผู้ติดตามของเขาไปนั่งที่โซฟาตรงประตู กวาดสายตามองไปรอบๆ เป็นครั้งคราว

หลินเนี่ยนเหล่ยลุกจากเก้าอี้เข้าไปกอดแขนชายหนุ่มแล้วพูดว่า “นี่คือพี่ชายของฉัน หลินเซียว พี่ชาย นี่เพื่อนสองคนเป็นทีมงานของฉัน ฉินหยู่และแมวแก่”

“สวัสดี” หลินเซียวเหยียดฝ่ามือออกมาและทักทาย

“สวัสดี” ฉินหยู่ยืนขึ้นและจับมือกับอีกฝ่ายตามมารยาท

แมวแก่ยืนอยู่ใกล้ๆ และพูดชมเธอออกมาดื้อๆ “ตระกูลคุณมียีนที่ดีจริงๆ พวกคุณดูเหมือนคนดังในทีวีเลยนะ”

“หนุ่มน้อยรู้วิธีพูดนี่” หลินเนี่ยนเหล่ยยิ้ม ดึงพี่ชายของเธอมานั่งข้างเธอแล้วพูดว่า “ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนพี่หน่อย”

“อะไรเหรอ?”

“เรากำลังติดตามคดีข่าว และจำเป็นต้องค้นหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่เราไม่พบบุคคลนั้น” หลินเนี่ยนเหล่ยโกหกและพูดอย่างหน้าตาย “ฉันพอมีข้อมูลอยู่บ้างว่า คนคนนี้ทำงานเป็นคนสวนที่เอ็มจี พี่ช่วยถามให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

หลินเซียวหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งนี้และถามอย่างใจเย็น “เธอกำลังสืบทำข่าวประเภทไหน? ทำไมเธอถึงยังไปเกี่ยวข้องกับโจรขโมยพวกนี้อีก?”

“พี่ไม่ได้จบสาขาสื่อสารมวลชน แม้ว่าฉันจะบอกพี่ แต่พี่ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก”

หลินเนี่ยนเหล่ยตอบเชิงเหน็บแนม “เฮ้ มีคนนอกอยู่ด้วย ช่วยไว้หน้าฉันหน่อย ช่วยฉันถามสิ!”

“ก็เธอบอกฉันเป็นพันๆ ครั้งแล้ว แล้วเธอก็ไปอยู่ซงเจียง นั่นมัน…”

“โอ๊ย ทำไมถึงมีปัญหามากมายจัง ในการขอให้พี่ช่วยอะไรซักอย่าง?” หลินเนี่ยนเหล่ยพูดด้วยหน้าบูดบึ้งและขัดจังหวะ “พี่จะช่วยฉันได้ไหม? ถ้าพี่ไม่ช่วย เราก็จะออกไปแล้ว และไม่ต้องมาติดต่อฉันอีก”

“เอาล่ะ ช่วยก็ได้” หลินเซียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้ออย่างไม่เต็มใจ โทรศัพท์ของเขาเป็นสีเขียวทหาร ที่มีหน้าจอสัมผัสครึ่งหนึ่งและปุ่มครึ่งหนึ่ง เข้าก้มลงพร้อมถามขึ้นมา “เอาล่ะ บอกมาว่าเธอกำลังมองหาชื่ออะไร?”

“เหวินเทา” หลินเนี่ยนเหล่ยตอบอย่างร่าเริง

หลินเซียวค้นหารายชื่อในโทรศัพท์ ลุกขึ้นเดินไปด้านข้างเพื่อโทรศัพท์ แต่ทันใดนั้นก็เห็นคนหลายสิบคนเดินเข้ามาที่ประตูบาร์เล็ก

ภายใต้แสงสลัว ฉิงจื่อหาวเอียงคอมองไปรอบๆ แล้วเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าพลางถามว่า “ใครที่ต้องการเผชิญหน้ากับฉัน โผล่หน้าออกมาเลย”

ที่เคาน์เตอร์ทางขวา ลูกน้องของผู้เฒ่าหม่าจ้องมองไปที่หย่งตง พวกเขาตกใจและลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว พร้อมพูดด้วยสีหน้าซีดลง “ทำไมหย่งตงถึงมาที่นี่”

หย่งตงก้าวไปข้างหน้ายืนข้างฉิงจื่อหาวแล้วบอกว่า “เจ้าหนุ่มสองคนทางซ้ายและโต๊ะทางขวานั่น พวกมันทั้งหมดนั่นแหละ”

ฉิงจื่อหาวสูดหายใจเข้าแรงครั้งหนึ่งด้วยความผยองเป็นนิสัย แล้วเดินมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มมาหยุดตรงหน้าฉินหยู่ “คุณกล้าดียังไงมาสร้างปัญหาให้กับเฟิ่งเป่ย!”

ฉินหยู่ได้ยินเช่นนั้นก็ลุกขึ้นยืน “คุณเป็นใคร?”

“ถ้าเป็นที่อื่น ฉันจะบอกคุณว่าฉันเป็นใคร”

ฉิงจื่อหาวโบกมือ “จับพวกเขาทั้งหมด!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่าลูกน้องก็รีบกรูเข้าไปล็อกตัวฉินหยู่และคนอื่นๆ

“พรึบ!”

แมวแก่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีคู่ต่อสู้ขึ้นที่นี่ หลังจากสับสนอยู่ชั่ววูบ เขาก็ชกกลับใส่ฝ่ายตรงข้ามทันทีและตะโกน “พวกแกจะทำอะไร ฉันเป็นตำรวจมือปราบจากซงเจียง!”

“มือปราบกระจอกอย่างพวกแก มาเห่าอะไรใส่เฟิ่งเป่ย?” ฉิงจื่อหาวขมวดคิ้วพร้อมตะโกนว่า “พวกแกมันไม่เคยอยู่เมืองใหญ่มาก่อนละสิ รีบจับพวกมันทั้งหมดออกไปเดี๋ยวนี้!”

ก่อนที่ผู้เฒ่าหม่าและคนอื่นๆ จะมาถึง พวกเขาต้องผ่านด่านชายแดนซงเจียงและเฟิ่งเป่ย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางพกปืนและอาวุธอื่นได้ และเห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามเตรียมพร้อมมาอย่างดี ดังนั้นทุกคนจึงต้องนิ่งเฉยทันที

คนสามสี่คนล้อมรอบฉินหยู่และแมวแก่ และพวกเขาเปิดโชว์ปืนที่เอวให้เห็นในเสี้ยววินาที

“อย่าขยับ ถ้าคุณขยับ ตาย!”

“ก้มหัวลง ฉันบอกให้นายก้มหัว!”

“……!”

เสียงตะโกนและก่นด่าดังขรมไปทั่วทั้งบาร์เล็ก ผู้เฒ่าหม่าค่อยๆ ถอยห่างออกไปทีละก้าว พี่น้องติดตามผู้เฒ่าหม่าสองคนวางขวดไวน์ลงบนโต๊ะพยายามพาเฒ่าหม่ารีบเดินเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำออกไปให้ถึงประตูหน้า

ฉิงจื่อหาวยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์ เขาก้มหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วตะโกนเรียก “พวกแกคิดจะหนีไปง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ? ไม่จำเป็นต้องขัดขืน เพราะถ้าแกทำ ฉันจะกระทืบพวกแกให้ตายทั้งหมด และถือว่านี่คือการกำจัดภัยให้กับคนเมืองนี้”

ที่ใกล้ประตู

ดวงตาของหลินเซียวค่อยๆ เปลี่ยนจากความตกใจและความสับสนเป็นความโกรธ เขาเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋า หันเดินกลับมาหาหลินเนี่ยนเหล่ย “เธอเล่นสนุกมากเกินไปแล้ว!”

“พวกนายจะทำอะไรนะ? ทำเกินไปแล้วนะ!” หลินเนี่ยนเหล่ยพยายามผลักสมุนคนหนึ่งที่เข้าล็อกตัวฉินหยู่ออกไป “ปล่อยเพื่อนของฉันนะ”

หลินเซียวเข้ามาคว้าแขนของหลินเนี่ยนเหล่ยจากด้านหลังพร้อมตะโกนสั่ง “กลับบ้านกับฉัน”

“พวกเขาจะจับเพื่อนของฉัน” หลินเนี่ยนเหล่ยจับฉินหยู่ด้วยมืออีกข้างหนึ่งแล้วหันกลับมาและตะโกน “เขาช่วยชีวิตฉันในซงเจียง!”

“ฉันขอให้เธอกลับบ้านกับฉัน!” หลินเซียวพูดซ้ำอีกครั้ง

“ปล่อยมือ!” สมุนหนุ่มชักปืนออกมาจ่อใส่ฉินหยู่ ตะโกนใส่หลินเนี่ยนเหล่ยด้วยสายตาที่ดุร้าย

ฉิงจื่อหาวหันกลับมาสังเกตเห็นหลินเนี่ยนเหล่ย จึงถามทันทีว่า “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”

“เธอเป็นนักข่าวจากซงเจียง” หย่งตงเปิดปากเตือน “เธอคือคนที่เฒ่าหยวนต้องการ…”

ก่อนที่หย่งตงจะพูดจบ ฉิงจื่อหาวซึ่งไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นชายหรือหญิง ทันใดนั้นก็เหวี่ยงเท้าเตะเข้าไปที่ร่างหลินเนี่ยนเหล่ยอย่างจัง หลินเนี่ยนเหล่ยไม่ทันระวัง ถูกเตะล้มลงกลิ้งลงไปกับพื้น

“โครม!”

“ไอ้ระยำเอ๊ย! คุณให้สื่อเกาะติดพวกเราเหรอ มันจะก่อปัญหาให้เราคุณรู้ไหม? พวกคุณไร้สมองหรือไงหา?!” ฉิงจื่อหาวด่าใส่หย่งตง

หลินเซียวตกตะลึงรีบเข้าไปพยุงหลินเนี่ยนเหล่ยให้ลุกขึ้นพร้อมตะโกนออกอย่างโกรธเกรี้ยว “เฮ่ย! นี่มันอะไรกันวะ! พวกแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย? ใครกล้าทำร้ายน้องข้า!”

ทันทีที่หลินเซียวพูดจบ ผู้ติดตามของเขาที่นั่งอยู่ใกล้ประตูก็รีบรุดวิ่งไปหาฝูงชนที่วุ่นวายอยู่กลางบาร์เล็ก

……………………………………………………………

*เนี่ยนเนี่ยน = เฉื่อยชา (ฉายา)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด