ตอนที่ 18 ช่างโลหะคือผู้สร้าง สิ่งที่สร้างคือร่างกาย แต่ร่างกายต้องเหมาะสมกับวิญญาณ
ตอนที่ 18 ช่างโลหะคือผู้สร้าง สิ่งที่สร้างคือร่างกาย แต่ร่างกายต้องเหมาะสมกับวิญญาณ
ส่วนกายตอนนี้วิ่งกลับสถาบันศาสตร์นักรบด้วยความเร็วที่มากกว่าขามามากนัก เขากลัวว่าถ้าช้าแอชเชอร์เจ้าของร้านจะตามมาทันได้ ส่วนเรื่องที่ว่าแอชเชอร์จะตามมาด้วยสถาบันศาสตร์นักรบหรือไม่นั้น กายไม่ได้คิดถึงมันเลยแม้แต่น้อย
กลับมาถึงสถาบันศาสตร์นักรบกายก็ตรงไปยังสนามประลองกลางซึ่งมีส่วนที่ใช้สำหรับฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อยู่ ซึ่งมีคนที่มาฝึกฝนก่อนอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์ชั้นปีหนึ่งและชั้นปีสองรองลงมา แต่เขากลับไม่เห็นศิษย์ชั้นปีสามเลยแม้แต่น้อย
“หนักพอสมควร” กายดึงดาบขึ้นดาบยาวประมาณ 1.3 เมตร หนัก 2.3 กรัม ทำจากเหล็กทั่วไปออกจากฟักดาบมาลองฟันดู
“ใช้เท้าขวานำหน้า เท้าซ้ายค้ำยัน ยกดาบขึ้นสูงแขนตั้งฉาก ปรับจังหวะลมหายใจ ตั้งท่าฟัน แล้วก็ฟันลงไป” เขาทบทวนเรื่องที่อาจารย์ผู้สอนศิลปะการต่อสู้ ฟัน อธิบายให้ฟัง
“การฟันก็คือการตัด ย้า!” กายฟันลงไปในอากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าซ้ำ ๆ
ฟันติดต่อกัน 20 ครั้งเขาก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มันก็ไม่เท่ากับตอนที่ตีเหล็กอยู่ในโรงตีเหล็กไร้เวลา กายยกมือปาดเหงื่อบนหน้าและก็ยิ้มออกมาเพราะเขาคิดถูก
“ฟังการสอนครบ 6 ชั่วโมง เพื่อเริ่มเรียนรู้ [ศิลปะการต่อสู้ ฟัน 0 /2 (0.01%) ]”
ดูเหมือนว่าถึงจะยังฟังไม่ครบชั่วโมง แต่สามารถฝึกไปก่อนได้ ถ้าครบเงื่อนไข เขาก็สามารถเรียนรู้การ ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตรา ฟัน ขั้น 1 ได้เลย
ชายหนุ่มฟันดาบซ้ำ ๆ แบบเดิมไปนับร้อย ๆ ครั้งก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว แต่เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นเป็น 1 % แล้ว
“วันนี้คงได้แค่นี้”
กายจึงหยุดมือกลับไปพักผ่อน เพราะเช้าวันต่อมาเข้าชั้นเรียนแรกของสถาบันศาสตร์นักรบ
เช้าวันต่อมากายเดินเข้าไปในห้องเรียน ซึ่งมีคนที่มาอยู่ก่อนไม่กี่คนหนึ่งในนั้นคือ มีอา ที่มารออยู่ในห้องอยู่ก่อนแล้ว นอกจากเธอแล้วในห้องยังมีคนอีกยี่สิบกว่าคนดูเหมือนว่าภายใน 1 ห้องเรียนจะมีคนจำกัดคือ ห้าสิบคน แต่ตามที่เขารู้มาคนกว่าครึ่งจะไม่ผ่านการทดสอบในเดือนแรกอย่างแน่นอนและดูเหมือนการทดสอบจะเป็นแบบห้องต่อห้องด้วย
นั้นหมายความว่าทุกคนในห้องนี้ต้องสู้กันเองทุก ๆ คนคือศัตรู ดังนั้นกายจึงไม่อยากที่จะสนิทกับ NPC คนอื่น ๆ มากนัก เพราะมันจะทำให้การลงมือตอนทดสอบอาจจะต้องลำบากใจได้
ซึ่งคนอื่น ๆ ก็คิดแบบเดียวกับกาย แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำตัวเฉยชากันหมด บางคนเริ่มหาพันธมิตรกัน และในตอนนั้นเองโจทก์เก่าของกายก็เดินเข้ามา
“หือ เจ้าก็อยู่ห้องนี้ด้วย ดูเหมือนฟ้าจะเข้าข้างข้า เจ้าเตรียมตัวตายได้เลยในวันทดสอบประจำเดือน” วิลเลียมแสยะยิ้มมองกาย
ลูคัสก็เดินเข้ามาด้วยและด้านหลังยังมีกลุ่มของวิลเลียมอีกสองสามคน คนในห้องมองเหตุการณ์เมื่อสักครู่ก็พอจะเดาได้ว่าวิลเลียมดูจะไม่ชอบขี้หน้ากายเป็นอย่างมาก จึงพากันถอยห่างจากกายอีกหน่อย เพราะกลัวจะโดนวิลเลียมเข้าใจผิดได้ว่าเป็นเพื่อนกับกาย
หลายวันที่ผ่านมาในสถาบันศาสตร์นักรบวิลเลียมได้แสดงพรสวรรค์ในการต่อสู้ที่สูงมาก จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 10 ศิษย์รุ่นนี้ที่มีความพรสวรรค์มากที่สุด
หลังจากรอสักพักเมื่อถึงเวลาเรียนอาจารย์ชายวัยกลางคน แต่งตัวด้วยชุดที่ดูจะเป็นทางการสุด ๆ เข้ามาในห้อง
อาจารย์คาร์เตอร์ เซนลิน เป็นนักรบแท้จริง ขั้น 2 ซึ่งสอนในเรื่องทฤษฎีอาวุธสงคราม ซึ่งในคราบเรียนนี้พูดถึงในเรื่องดาบ
“ดาบ เป็นชื่อเรียกของอาวุธที่มีขนาดยาวและมีคม มีการใช้ทั่วโลกโดยมีชื่อเรียกและลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ส่วนประกอบหลักของดาบจะประกอบด้วยสามส่วนหลักคือ คมดาบ ไว้สำหรับฟันและตัด, ปลายดาบไว้สำหรับแทง, และ ด้ามดาบไว้สำหรับจับถือ...”
เขานั่งฟังการสอนของอาจารย์คาร์เตอร์อย่างตั้งใจ เช่นเดียวกับศิษย์คนอื่น ๆ ความรู้ที่อาจารย์คาร์เตอร์นั้นมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย มันช่วยเติมเต็มเรื่องพื้นฐานได้เป็นอย่างดี
‘แม้จะเป็นในเกมแต่ความรู้พวกนี้ก็ไม่ต่างจากโลกจริงมากนัก’ กายพูดในใจ
และเพียงในนานเวลาเรียนของคาบนี้ก็หมดลง
“เอาละเรื่องดาบเอาไว้แค่นี้ พรุ่งนี้เราจะมาต่อกันและถ้าจบแล้วอาจจะเริ่มเรื่องใหม่การขี่ม้าและการรักษาสมดุลขณะใช้อาวุธ” อาจารย์คาร์เตอร์พูดทิ้งท้ายด้วยหัวข้อที่จะมาเรียนกันในวันต่อไป
ศิษย์แต่ละคนบอกลาอาจารย์คาร์เตอร์และรีบออกไปกันทันที และกายก็เช่นเดียวกันเพราะเขายังมีงานที่ต้องทำในโรงตีเหล็กไร้เวลาอีก ซึ่งขณะนี้ก็เย็นมากแล้ว ถ้าไม่รีบมีหวังวันนี้เขาทำงานไม่ทันอย่างแน่นอน
......
วันต่อมากายก็ใช้ชีวิตในเกมแบบเดิม ๆ คือไปเรียนกับอาจารย์คาเตอร์ซึ่งดูตามตารางแล้วเด็กชั้นปี 1 แบบพวกเขาจะเรียนเรื่องพื้นฐานพวกนี้กับอาจารย์คนเดียวจนกว่าจะขึ้นชั้นปีสองและสามที่จะมีอิสระการเรียนที่มากขึ้น
หละหมดวันก็เหมือนเช่นเดิมที่ต้องไปที่โรงเหล็กไร้เวลากว่าจะหมดจะทำงานครบก็แทบจะพระจันทร์ขึ้นกลางหัวแล้วดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเวลาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ฟัน มากนัก
และคืนนี้ก็ครบกำหนดเวลาในเกมแล้ว กายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากออกจากเกม
“ล๊อกเอ้า”
กายลุกออกจากแคปซูลเกมและมองไปรอบ ๆ เจ้ซาเรียก็ยังคงตรวจสอบบัญชีอยู่จนเกือบเช้าทุกวันเหมือนเช่นเคย
.........
วันที่ 17 เมษายน ปีที่ 70 เวลา 00:00 น.
“ล๊อกอิน”
กายเข้ามาในเกมตามปกติ วันนี้ก็เป็นเช้าอีกวันที่ต้องไปเรียนกับอาจารย์คาร์เตอร์ เซนลินอีกวันวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ในเกมตามตารางเรียน
ตกเย็นกายก็ไปทำงานตีแท่งเหล็กเหมือนเดิมและทุกครั้งที่ทุบแท่งเหล็กระดับของ ศิลปะการต่อสู้ ทุบ เพิ่มขึ้นเป็น
“ศิลปะการต่อสู้ : ทุบ 1/1 (8%)”
หลังจากจัดการเสร็จท้องฟ้าก็มืดแล้ว กายถือตะเกียงน้ำมันเดินกลับห้องพักของตัวเอง และจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยน้ำไปตักมาจากบ่อหน้าหอพัก เขาชอบการอาบน้ำในโลกราชันมาก เนื่องจากในโลกจริงน้ำสะอาดหายากและมีราคาแพง เขาจึงทำได้แต่เช็ดตัวเอา แต่ที่นี่มันไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำแม้แต่น้อย
กายยังคงไม่นอน เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องและคิดอยู่ว่าจะทำยังไงตัวเองถึงจะแข็งแกร่งขึ้นได้ไว ๆ เพราะอีก 2 วันในโลกจริงก็จะเป็นวันที่แดนสงครามเปิดให้เล่น (6 วันในโลกราชัน)
และหางตาของเขาก็หันไปเห็นหนังหนังสือ “บันทึกช่างโลหะ” ที่วางไว้ตั้งแต่ย้ายเข้ามาที่สถาบันศาสตร์นักรบแล้วก็ไม่ได้จับมาอ่านอีกเลย
จึงหยิบมันขึ้นมาอ่าน เพราะคิดว่ามันอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง เขาเริ่มเปิดอ่านต่อจากครั้งก่อน เมื่ออ่านไปกายก็รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ ในหนังสือนี้มีบันทึก “ศิลปะการต่อสู้ ทุบ” ไว้จนถึงขั้น 9
ชายหนุ่มรู้สึกตกใจมาก หมายความว่ายังไงนะหรือขั้น 9
ระดับชั้นของนักรบแบ่งออกเป็นระดับ นักรบฝึกหัดและระดับนักรบแท้จริง นักรบฝึกหัดมี 3 ระดับ และนักรบแท้จริงมี 9 ระดับ เมื่อรวมกันแล้วก็เท่ากับ 13 ขั้นซึ่งศิลปะการต่อสู้ก็แบ่งเป็น 13 ขั้นตามด้วยเช่นกัน
ถ้าตามที่บันทึก “ช่างโลหะเป็นจริงว่ามี ศิลปะการต่อสู้ ทุบ 9 ขั้นจริง ๆ มันก็พอที่เขาจะฝึกได้จนถึงนักรบแท้จริงขั้น 6 เลยทีเดียว
“ดูเหมือนข้าจะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด”
กายเริ่มอ่านศิลปะการต่อสู้ ทุบ ทั้ง 9 ขั้นด้วยความโลภ แต่ดูเหมือนเขาจะโลกสวยเกินไป เพราะเมื่อลงมืออ่านปรากฏว่าเขาไม่เข้าใจตัวอักษรในหนังสือที่บันทึกศิลปะการต่อสู้ทุบไว้เลย ตัวอักษรมันลอยไปมายกเว้นขั้น 2 ที่เขาสามารถอ่านได้
หลังจากอ่านจบข้อความจากระบบเกมก็เด้งขึ้นมาในทันที
“เรียนรู้ขีดจำกัดศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 2 สำเร็จ”
“ศิลปะการต่อสู้ : ทุบ 1/2 (8%)”
กายรู้สึกดีใจ เพราะตอนนี้เขาสามารถเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้นสองแล้ว หลังจากนั้นกายก็เปิดข้ามหน้าที่อ่านไม่ได้ไปเพื่อดูว่ามีอะไรอีกหรือไม่
และเขาก็เจอเข้ากับ “การเรียนรู้ที่จะสร้างอาวุธของช่างโลหะ”
“ช่างโลหะคือผู้สร้าง สิ่งที่สร้างคือร่างกาย แต่ร่างกายต้องเหมาะสมกับวิญญาณ” กายอ่านประโยคนี้ก็ถึงกับงุนงง เพราะทั้งหน้ามีแต่ประโยคนี้ซ้ำ ๆ ไปมาราวกับคนเขียนเป็นบ้าไปแล้ว
เขายังคงอ่านหน้าต่อมามีคำอธิบายข้อความในหน้าก่อนหน้าไว้ว่า อาวุธที่ช่างโลหะสร้างเองจะมีความผูกพันทำให้ฝึกฝนได้เร็วกว่าอาวุธที่ช่างโลหะไม่ได้สร้าง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็พอจะเข้าใจในประโยคแรกในหน้าก่อน “ช่างโลหะ คือผู้สร้าง สิ่งที่สร้าง คือ ร่างกาย”
“ถ้าเขาอยากเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ต้องมีอาวุธที่มีค่าความสัมพันธ์กับตัวเขาสูงมากเท่านั้น ซึ่งสำหรับช่างโลหะแล้วอาวุธที่สร้างมันก็ไม่ต่างจากร่างกายตัวเอง ดังนั้นค่าความสัมพันธ์ที่ได้จึงสูงกว่าอาวุธที่ไม่ใช่ตนเองสร้างขึ้นมา”
เหมือนประตูสู่โลกใหม่เปิดขึ้นกายนิ่งและคิดตามไปเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปหลายชั่วโมงในเกมแล้ว
.........
“แล้วประโยคหลังล่ะ” กายเปิดหนังสืออ่านต่อ
มันเขียนไว้ว่า “การฝึกศิลปะการต่อสู้ก็คือการฝึกจิตวิญญาณ ดังนั้นอาวุธที่สร้างต้องสัมพันธ์กับศิลปะการต่อสู้ที่จะเรียนรู้...”
กายอ่านไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเข้าใจในเรื่องผู้เขียนต้องการจะบอกคนอ่าน ไม่สิคนเขียนคงต้องการจะเน้นย้ำตัวเองมากกว่า
“อาวุธที่มีความสัมพันธ์กับศิลปะการต่อสู้ ถ้าข้าต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ ฟัน ก็ต้องใช้อาวุธที่มีจุดเด่นในการฟัน นั้นคือดาบ ขวาน และอย่างอื่น ๆ อีกไม่กี่อย่าง และข้าก็เลือก ดาบอย่างแน่นอน”
เขาสันนิษฐานว่าผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คงไปเจอประโยคนี้มาจากที่ไหนสักแห่งและได้เก็บมันมาวิเคราะห์สุดท้ายจึงเขียนความรู้ทั้งหมดลงไป
“เป็น NPC ระดับไหนกันที่สามารถบันทึกศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธขั้น 9 ไว้ได้” 1 สงสัย
แต่แล้วก็รู้สึกง่วงนอนดูเหมือนว่าการอ่านศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 2 และข้อความในหน้าหนังสือพวกนี้จะกินพลังสมาธิสูงมาก กายจึงลากตัวเองไปนอน
กว่าจะตื่นก็เป็นเที่ยงอีกวันในเกมแล้ว