ตอนที่แล้วบทที่ 19: เสียงปืน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21: เก็บห้า~

บทที่ 20: ดังนั้นแล้ว ฉันก็จะต้องฆ่าพวกมัน!  


บทที่ 20: ดังนั้นแล้ว ฉันก็จะต้องฆ่าพวกมัน!

อันตราย!

อันตรายสุดขีด!

แม้ว่านี่จะเป็นช่วงชีวิตที่สองของหวังเต็ง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีคนเล็งปืนมาที่หัวของเขาโดยตรง

เมื่อเผชิญกับความเป็นความตาย ความกลัวก็เป็นสิ่งี่ปรากฎออกมาเป็นอย่างแรก

เขาเพิ่งจะได้มาเกิดใหม่ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับความตายมาก่อน ย้อนกลับไปตอนนั้น เขารู้สึกว่าเขาเพิ่งตื่นจากการนอนหลับสนิทเองด้วยซ้ำ

มันเทียบไม่ได้เลยกับสถานการณ์ในตอนนี้

ปากกระบอกปืนสีดำให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ร้ายขนาดมหึมาที่กำลังอ้าปากอยู่ ข้างในมันเป็นนรก และมันก็ทำให้รู้สึกน่าขนลุก มันดูเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังรอที่จะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว

น่าสะพรึงกลัว!

สยอง!

ทันใดนั้นร่างกายของหวังเต็งก็แข็งทื่อไปและจิตวิญญาณของเขาก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

แม้ว่าเขาจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ แต่เขาก็ยังคงเป็นคนปกติ เขาไม่เคยพบกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

นอกจากนี้ ในระยะใกล้เช่นนี้ เขาก็สามารถมองเห็นลวดลายสีเงินบนตัวปืนพกได้อย่างชัดเจน

พวกมันคืออักษรรูนฟอร์ส!

นี่คือปืนรูนฟอร์ส มันเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อศิษย์นักสู้ขั้นสูง และแม้แต่นักสู้เองก็ไม่มีข้อยกเว้น

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะมีความเร็วถึง 50 เมตรต่อวินาทีและฟุตเวิร์คของเขาก็อยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวเมื่อมันมีปืนจ่ออยู่ที่หัวของเขา

“ไอ้บ้าเอ้ย!”

หวังเต็งสาปแช่งมันในใจ จากนั้นเขาก็ยอมจำนนโดยทันที

เขายอมแพ้ภายในเสี้ยววินาที!

เขายอมแพ้โดยไม่ลังเล!

“อย่ายิงๆ ฉันยอมแล้ว”

หวังเต็งกล่าวอย่างเร่งรีบ เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะฆ่าเขาด้วยความรน

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเป็นคนขี้ขลาด

มันน่ากลัวเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาด้วยความกลัว

“ดีมาก อย่างเล่นตุกติดเชียว ไม่งั้นแกก็จะได้ชิมรสลูกตะกั่วแน่”

ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าผลักหวังเต็งและขู่

ด้วยเหตุนั้นเอง หวังเต็งจึงถูกบังคับให้เข้าร่วมกับแก๊งหลบหนี

หวังเต็งสังเกตพวกมันอย่างลับๆ วกมันมีทั้งหมดห้าคน และพวกมันทั้งหมดก็มีปืนรูนฟอร์สอยู่ในมือ และเมื่อดูจากออร่าของพวกมัน อย่างน้อยพวกมันก็น่าจะเป็นศิษย์นักสู้ขั้นกลาง

เมื่อการจ้องมองของหวังเต็งกวาดผ่านทุกคน เขาก็หยุดตามสัญชาตญาณ

แต่ละคนถือกระเป๋าใบใหญ่ที่ยัดอไรสักอย่างไว้จนเต็ม

เป็นไปได้ไหมที่พวกมันจะ… ปล้นธนาคาร?

ทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่าข้างหน้านัเมีธนาคารอยู่ไม่ไกล...

หวังเต็งก็รู้สึกว่าสถานการณ์ของเขาไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก มันดูเหมือนว่าเขาจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้ว

นี่หมายความว่าพวกมันกำลังใช้เขาเป็นตัวประกันอย่างงั้นใช่ไหม?

หวังเต็งพูดไม่ออกเล็กน้อย เขารู้สึกไร้เดียงสาและโชคไม่ดีที่เขาต้องมาพบกับพวกโจรระหว่างทางกลับบ้าน!

การจับตัวผระกันนั้นเป็นเรื่องที่เขาสามารถทำความเข้าใจได้ แต่ทำไมมันต้องเป็นเขากัน?

เขาดูอ่อนแออย่างงั้นหรอ?

เขาไม่รู้ว่าชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้านั้นเลือกเขาเพราะเขาขับรถสปอร์ต และเขาก็ดูเหมือนจะเป็นลูกของเศรษฐีที่ร่ำรวย ดังนั้นมันจึงจับหวังเต็งเป็นตัวประกัน

หวังเต็งถูกบังคับให้เข้าไปในตรอกเล็กๆขณะที่พวกโจรก็จับเขาไว้ด้วยแขนของมัน จากนั้นพวกมันก็วิ่งต่อไปและเลี้ยวเข้าไปในตรอก เขาไม่รู้ว่าเขาวิ่งมานานเท่าไหร่แล้ว

เขาแสร้งทำเป็นว่าเขาอ่อนแอมากและเริ่มหอบอย่างหนักหลังจากวิ่งไปชั่วครู่

“บัดซบ ไอ้ลูกเจ้าสัวนี่มันไปนอนกับผู้หญิงยี่สิบคนมารึยังไงกัน ทำไมมันถึงได้ดุอ่อนแอซีดเซียวขนาดนี้กัน?”

โจรคนหนึ่งสาปแช่งหวังเต็ง มันอาจจะอิจฉา,หึงหรือไม่ก็แค่ไม่ชอบหวังเต็ง

“เราจะฆ่ามันเลยไหม? การพามันไปด้วยก็มีแต่จะถ่วงเราเปล่าๆ” โจรอีกคนที่สวมหมวกพูดอย่างโหดเหี้ยม

เชี่ยอะไรวะ!

หัวใจของหวังเต็งเต้นผิดจังหวะเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้

ไอ้เวรนี่เลือดเย็นฉิบหาย แค่เขาวิ่งช้านิดหน่อยมันถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยหรอ?

“อย่าฆ่าฉัน ฉันวิ่งได้ ฉันจะติดตามพวกนายไปติดๆอย่างแน่นอน” หวังเต็งกล่าว

“ลืมมันไปเถอะ เรามาไกลถึงขั้นนี้แล้ว เอามันไปด้วยนั่นแหละ” หัวหน้าโจรตอบ

พวกมันสองสามคนวิ่งต่อไปอีกสิบนาที หวังเต็งดูเหมือนจะหมดแรง แต่เขาก็ยังสามารถติดตามพวกมันได้

รถตู้สีขาวจอดอยู่ข้างถนนสายเก่า โจรคนหนึ่งเปิดประตูรถและยัดหวังเต็งเข้าไปข้างใน จากนั้นเครื่องยนต์ของรถตู้ก็เริ่มทำงาน

รถตู้ขับเข้าไปในเมืองด้วยความเร็วสูง

ทันใดนั้น เสียงไซเรนของตำรวจก็ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา

“ไอ้เหี้ย ตำรวจเจอพวกเราแล้ว” โจรที่กำลังขับรถอยู่ตบพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งอย่างหนัก จากนั้นรถตู้ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ฟังให้ดี รถตู้ข้างหน้า จงหยุดอยู่ที่ข้างทางซะ หยุดที่ข้างทางในทันที...”

“พูดเป็นเล่น!”

คนขับยื่นมือออกจากรถและชูนิ่วหลางให้

“ไปทางขวา ขึ้นทางด่วน” หัวหน้าโจรพูดอย่างใจเย็น

คนขับหมุนพวกมาลัยอย่างรวดเร็ว จากนั้นพงกมันก็เริ่มเอนไปทางขวา

รถตำรวจคันหน้าพุ่งออกไปไกลมากก่อนที่จะหยุด มันหันหลังและเริ่มไล่ตามรถตู้ไป

ด้วยเหตุนี้เอง เหตุการณ์แมวไล่หนูจึงได้เกิดขึ้นบนทางหลวง

ในระหว่างการไล่ล่า รถหลายคันชนกันและทำให้การจราจรคับคั่ง ผู้ขับขี่ที่มีอาการโกรธเคืองบนท้องถนนต่างก็ทำกาสาปแช่ง

“รถตู้ข้างหน้า ถ้าแกไม่หยุดรถตอนนี้ เราจะเปิดฉากยิงแล้วนะ!”

โจรหันกลับไปชูนิ้วหลางให้พวกตำรวจอีกครั้ง

ปัง

ทันใดนั้นพวกมันก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นทันทีหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มันถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า เนื่องจากมีคนมากเกินไปบนถนน ดังนั้นตำรวจจึงไม่กล้ายิงแบบสุ่ม

กระสุนปืนนี้มีไว้เพื่อทำให้พวกโจรกลัวเท่านั้น!

อย่างไรก็ตาม พวกโจรก็ไม่ได้สั่นกลัวแต่อย่างใด  กลับกัน ยิ่งคุณพยายามทำให้พวกมันกลัวมากขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นเท่านั้น

ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าหันปากกระบอกปืนไปที่หวังเต็งและเอาหัวของเขาออกจากรถ มันตะโกนอย่างดุเดือด “ถ้าแกกล้ายิง ฉันก็จะฆ่าไอ้ลูกเจ้าสัวนี่ทิ้งซะ!”

หวังเต็งรู้สึกเหมือนเป็นหุ่นเชิด

เขารู้สึกอ่อนแอและทำอะไรไม่ถูก!

ขณะที่รถตู้แล่นไปตามทางหลวง ลมก็พัดปะทะผมของเขา และทำให้จิตใจของเขายุ่งเหยิง

พระเจ้า นี่ฉันทำอะไรผิดกัน?

หวังเต็งถามสวรรค์อย่างช่วยไม่ได้

อย่างที่คาดไว้ ตำรวจที่อยู่เบื้องหลังตัดสินใจที่จะเก็บปืนไป พวกเขาไม่กล้ายิงอีกแล้ว หลังจากเห็นการกระทำของพวกตำรวจ ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ดึงหวังเต็งกลับเข้าไปในรถ

มันพูดกับโจรคนอื่นๆอย่างภาคภูมิใจว่า “ดูนี่สิ นี่แหละประโยชน์ของการมีตัวประกัน”

“แกทำได้ดีมาก!”

หัวหน้าโจรอดไม่ได้ที่จะชมหวังเต็ง

หวังเต็งกลอกตาในขณะที่เยาะเย้ยพวกมันในใจอย่างเงียบๆ!

น่าเสียดายที่มันเร็วเกินไปสำหรับพวกมันที่จะรู้สึกมีความสุข!

รถตำรวจมากกว่าสิบคันกำลังวิ่งไล่ ,กีดขวาง และสกัดกั้นรถตู้ของพวกโจร พวกโจรได้ประเมินความมุ่งมั่นของตำรวจต่ำไป แม้ว่าพวกมันจะมีเล่ห์เหลี่ยม แต่พวกมันก็ไม่สามารถสู้หมาหมู่ได้

“ไอ้บ้าเอ้ย เราแค่จะเอาเงินไปใช้จ่าย ทำไมพวกมันถึงต้องไล่ล่าเราขนาดนั้นกันด้วยนะ?”

“หุบปาก!” หัวหน้าโจรตะโกนด้วยสีหน้าเย็นชา

พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงจากรถตู้ จากนั้นพวกมันก็ถอยเข้าไปในอาคารสำนักงานในขณะที่ลากหวังเต็งเข้าไปด้วย

“พวกแกถูกล้อมจากทุกทิศทุกทางแล้ว ย้ำ พวกแกถูกล้อมจากทุกทิศทางแล้ว รีบชูมือขึ้นและมอบตัวซะ...” ประโยคนี้ยังคงดังออกมาจากลำโพงของตำรวจ

พวกโจรไม่สนใจพวกเขาและรีบเข้าไปในอาคารสำนักงาน

มันเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงาน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงออกจากสำนักงานไปแล้ว และมันก็ไม่มีใครในล็อบบี้

พวกโจรขึ้นไปบนชั้นสาม

ชั้นสามของอาคารเป็นบริษัทออกแบบแฟชั่น นอกจากนี้มันก็ยังมีพนักงานที่ทำงานล่วงเวลาอยู่สองสามคน และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง

พวกโจรเตะประตูพังและพุ่งเข้าไปข้างใน

ปัง!

หนึ่งในนั้นยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเข้าควบคุมที่เกิดเหตุ

สิ่งนี้ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องที่หวาดกลัวของพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์

หัวหน้าโจรเล็งปากกระบอกปืนไปที่หญิงวัยกลางคนแล้วเหนี่ยวไก ต้นขาของอีกฝ่ายโดนยิง จากนั้นเธอก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

หญิงวัยกลางคนดูเหมือนจะเป็นคนที่มีสถานะสูงส่งในบริษัท

ก่อนที่โจรจะบุกเข้ามา เธอก็กำลังด่าทอลูกน้องของเธอ แต่ในชั่วพริบตา ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม!

สาวออฟฟิศคนอื่นๆกรีดร้องเมื่อเห็นเลือด พวกเธอบ่งส่วนถึงกับ...แตก!

“หุบปาก! ฉันจะฆ่าทุกคนที่ส่งเสียง!” หัวหน้าโจรเตือนอย่างเย็นชา

พวกสาวออฟฟิศรีบหุบปากอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว พวกเธอกลัวว่าถ้าพวกเธอทำเสียงดังและโดดเด่นเกินไป พวกโจรก็จะฆ่าพวกเธอ

หญิงวัยกลางคนที่ถูกยิงขัดขืน และเธอก็ยังคงส่งเสียงร้องออกมาเนื่องจากความเจ็บปวดที่เธอได้รับ

เหงื่อเย็นสามารถเห็นได้ทั่วหน้าผากของเธอ

หวังเต็งขมวดคิ้ว โจรกลุ่มนี้อุกอาจและโหดเหี้ยม พวกมันไม่สนใจชีวิตของมนุษย์เลย นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!

“ไปที่หัวมุมแล้วหมอบลง จากนั้นก็เอามือของพวกแกวางไว้เหนือหัว  หากใครกล้าสร้างปัญหา ปืนของฉันก็อาจจะลั่นเข้าใส่พวกแกโดยไม่ได้ตั้งใจ”

โจรโบกปืนและส่งสัญญาณให้ทุกคนหมอบอยู่ที่มุมๆหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้นเมื่อเขาถูกผลักไปที่หน้าต่าง

เขามองลงมาและเห็นรถตำรวจประมาณ 20 คันรอบๆอาคารสำนักงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนได้ยกปืนขึ้นไปที่หน้าต่างของอาคาร

“หัวหน้า เราควรทำอย่างไรดี?” ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าถามอย่างโกรธจัด

หัวหน้าไม่สนใจที่จะตอบด้วยคำพูด เขายิงปืนใส่ตำรวจแทน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบซ่อนหลังโล่หรือรถของพวกเขา

“ฟังนะ เตรียมเฮลิคอปเตอร์ให้เราภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้าเราไม่เห็นเฮลิคอปเตอร์หลังจากหนึ่งนาทีของเวลาที่กำหนด เราก็จะฆ่าตัวประกันหนึ่งคน หากผ่านไปสองนาที เราก็จะฆ่าตัวประกันสองคน… เราจะฆ่าจนกว่าทุกคนที่นี่จะตาย!”

ตำรวจไม่ใช่คนเดียวที่ได้ยินคำพูดของเขา หวังเต็งและตัวประกันคนอื่นๆในอาคารก็ได้ยินเขาเช่นกัน

พนักงานของบริษัทออกแบบแฟชั่นหน้าซีดด้วยความกลัว ในฐานะตัวประกัน หัวใจของหวังเต็งก็แทบจะพุ่งออกมาจากปากของเขา และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำ

อย่างไรก็ตาม…

โจรทั้งห้านี้ก็มีปืนรูนฟอร์สอยู่ติดตัว ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถจัดการกับพวกมันทั้งหมดได้

เขาทำได้เพียงให้ความหวังกับตำรวจเท่านั้น หวังเต็งสวดมนต์อ้อนวอนให้พวกเขาเตรียมเฮลิคอปเตอร์ได้ทันเวลา

เวลายังคงผ่านไปอย่างช้าๆ และหนึ่งชั่วโมงก็เกือบผ่านไป

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่มีเฮลิคอปเตอร์

ตัวประกันมีสีหน้าสิ้นหวัง

“เวลากำลังจะหมดแล้ว และถ้าเฮลิคอปเตอร์ยังไม่มาในเร็วๆนี้ พวกแกก็จะเป็นฝ่ายบีบบังคับให้ฉันต้องฆ่าตัวประกันเองนะ” หัวหน้าโจรตะโกนใส่รถตำรวจด้านล่าง

“อย่าทำตัวเป็นเผด็จการไปหน่อยเลย เฮลิคอปเตอร์กำลังจะเดินทางมาแล้ว มันจะมาถึงในไม่ช้า” ผู้รับผิดชอบด้านล่างมีเหงื่อออกมากเพราะวิตกกังวลขณะใช้ลำโพงเพื่อตอบโต้พวกโจร

หัวหน้าโจรไม่พูดอะไร จากปฏิกิริยาของมัน มันก็ดูเหมือนว่าหวัหน้าโจรจะไม่สนใจเหตุผล ตราบใดที่เวลาเกินกำหนด มันก็จะฆ่าใครซักคน

หนึ่งนาทีผ่านไปในพริบตา

“เจ้าหนู มานี่!” หัวหน้าโจรชี้ไปที่หวังเต็ง

“มันแย่หน่อยนะ แต่แกจะต้องเป็นเหยื่อรายแรกว่ะ!”

ชายผู้มีแผลเป็นบนใบหน้ายิ้มอย่างน่ากลัว มันผลักหวังเต็งไปหาหัวหน้าของมัน

หวังเต็งถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ดูปฏิทินก่อนออกจากบ้านเมื่อเช้านี้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาโชคร้ายในวันนี้

ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าเขาทำตัวเป็นตัวประกันที่เชื่อฟัง พวกโจรก็จะปล่อยเขาไปหลังจากบรรลุเป้าหมาย แต่ดูจากตอนนี้แล้ว... เขาไร้เดียงสาเกินไป!

ฉันไม่สามารถรอความตายได้!

ตอนนี้ไม่มีทางหนีพ้นแล้ว พวกมันต้องการที่จะฆ่าฉัน แต่ฉันก็ยังไม่อยากตาย ฉันยังเด็กและมีโอกาสอีกมากมาย ฉันจะมาตายที่นี่ได้อย่างไร

ฉันจะปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้!

มันจะไม่มีใครสามารถฆ่าฉันได้ ชีวิตใหม่ของฉันเพิ่งเริ่มต้น ฉันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องการจะทำ… ในชีวิตนี้ฉันจะต้องได้ตอบแทนคุณของพ่อแม่ของฉัน ฉันจะต้องได้กลายเป็นนักสู้และทำให้พวกเขาภูมิใจ ฉันยังต้องการจะดูว่าทวีปซินหวู่นั้นมีลักษณะอย่างไร ...

ฉันยังไม่อยากตาย…

ฉันยังไม่ต้องการที่จะตาย ดังนั้นแล้ว... ฉันก็จะต้องฆ่าพวกมัน !!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด