ตอนที่ 201 สังหารนับ 100,000 ในทันที
เย่เฉินเหลือบมองกองทหารหลุนฮุยที่เดินเรียงแถวเหมือนหอกยาวในขณะที่เดินไปยังประตูเมือง
จูล่ง, เตียวเมิ่ง และ กุยแก ติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด
หลังจากนั้นก็มีกองทัพหลุยฮุยหนึ่งหมื่นคนถือจับอาวุธและก้าวเดินต่อไป
"เอี๊ยด"
ประตูทิศตะวันตกของเมืองหลุนฮุยก็เปิดออก
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายด้านนอกเมืองหยุดลงกะทันหัน
เย่เฉินเหลือบมองดูสัตว์ร้ายจำนวนมากที่อยู่ทั่วภูเขา จากนั้นก็หรี่ตาลง และปล่อยเจตนาสังหารที่รุนแรงออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ท่านใดนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังลั่น
กอริลลาทีร่างกายปกคลุมไปด้วยขนสีดำก็เดินออกมาจากกลุ่มสัตว์ร้ายและตะโกนใส่เย่เฉิน:
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดก็โผล่หัวออกมาแล้ว เจ้าเด็กน้อยเผ่ามนุษย์ชั้นต่ำ ข้าขอถามหน่อยเถอะ เมืองนี้เป็นเมืองในเกมหรือเปล่า?”
“พูดมา หากเจ้าไม่พูดข้าจะกินเจ้าซะ!” เม่นตัวใหญ่คำรามอย่างดุเดือด
“เด็กน้อยคนนี้มีตัวเล็กเกินไป ต้องไม่อร่อยแน่” หนูตัวยักษ์จ้องไปที่เย่เฉินด้วยดวงตาสีแดงทั้งสองของมัน อยู่ชั่วครู่แล้วพูดด้วยมุมปากที่โค้งงอ
“ไม่อร่อยก็ไม่เป็นไร ในเมื่อมันเป็นมนุษย์ ข้าก็อยากจะกินมัน” สุนัขพันธุ์ทิเบตันจ้องมองไปที่เย่เฉิน และกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
"เจ้าสมควรที่จะกินอึเท่านั้น!" หมาป่าสีเขียวกล่าวออกมาอย่างดูถูก
“เจ้าอยากตายไหม” สุนัขทิเบตันโกรธทันทีและตะโกนใส่หมาป่าสีเขียวอย่างบ้าคลั่ง
“สู้! เข้ามาเลย! เจ้าโง่ คิดว่าข้ากลัวเจ้ารึไง!”
“เฮ้ เจ้าหมางี่เง่าสองตัวนี้เอาอีกแล้ว”
เหล่าสัตว์ร้าย ตะโกนออกมาอย่างมีชีวิตชีวา
"หุบปาก!" เสียงตะโกนดังขึ้นทันที เหล่าสัตว์อสูรทั้งหมดก็เงียบลง
หลังจากเราสัตว์ร้ายเงียบลง สิงโตตัวหนึ่งเดินออกมาในขณะนี้ มันเหลือบมองที่กลุ่มสัตว์ร้ายอย่างเย็นชา จากนั้นมองไปยังเย่เฉิน และถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ:
“มนุษย์ บอกข้า เจ้าคือเย่เฉินที่ทำให้ประกาศโลกกังขึ้นมากมายในเกมใช่หรือไม่”
เย่เฉินหรี่ตาลงทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า: “จะใช่ไม่ใช่แล้วจะทำไม!”
“มนุษย์ เจ้ามันบ้าไปแล้ว!” ดวงตาสีทองของสิงโตเบิกกว้าง แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา
“เดี๋ยวก็รู้ ข้าบ้าว่าข้าบ้าหรือไม่!” เย่เฉินยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า
“เจ้าพวกมนุษย์ อย่าคิดว่าเขตปลอดภัยจะปกป้องพวกเจ้าไปได้ตลอดชีวิต ข้าจะบอกเจ้า ว่าเขตปลอดภัยนี้สามารถปกป้องเจ้าได้ไม่เกินสามเดือน!” สิงโตขนทองคำขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
"แล้วไง" เย่เฉินเลิกคิ้วแล้วกล่าวอย่างเย็นชา
“ถ้าหากเจ้าบอกตัวตนของเจ้าตอนนี้ ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า สามเดือนต่อมา ข้าจะกินเจ้าทั้งตัว แต่ถ้าเจ้าไม่พูด เจ้าจะต้องตายอย่างไรที่ฝัง!” สิงโตขนทองอ้าปากและคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
“ในดินแดนของข้า เจ้ายังกล้าที่จะอาละวาด!” เย่เฉินลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนไหวมือขวาเล็กน้อย หอกสังหารก็ปรากฏขึ้นทันที
เมื่อเห็นดังนั้น จูล่ง และ เตียวเมิ่ง ก็ดึงอาวุธออกมา
“โฮกกก!” หยานหู่มองออกไปและคำรามอย่างดุดัน
"ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!"
กองทัพหลุนฮุยยกอาวุธในมือขึ้น แล้วตะโกนเสียงดังออกมาพร้อมกัน
เจตนาแห่งการสังหารอันรุนแรงได้พุ่งเข้าใส่กองทัพปีศาจทั่วทั้งหมดในทันที
เมื่อเย่เฉินนำอาวุธออกมา เช่นเดียวกับกองทัพหลุนฮุย ทำให้กลุ่มสัตว์อสูรผงะไปทันที จากนั้นพวกมันต่างก็หัวเราะออกมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า..."
"โฮ้โฮ้โฮ้..."
"กักกักกัก..."
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากำลังเห็นอะไร เจ้ามนุษย์พวกนี้ต้องการจะฆ่าเราจริงๆ"
“เฮ้ เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่ เข้ามาเถอะ รีบมาฆ่าพวกเราเร็วเข้า”
"ข้ารอไม่ไหวแล้ว!
“เร็วเข้า! ออกมาเร็ว ไอ้ลูกหมา!”
“มารดาเจ้าเถอะ ลูกหมาอะไร ไอ้สารเลว หากเจ้าพูดถึงเรื่องหมาอีก ข้าจะกัดเจ้าซะ!”
ท่านใดนั้นก็มีเสียงอุทานดังออกมา
“ไม่ อาวุธของชายผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เจ้าฮัสกีพูด”
“หือ? ใช่แล้วหอกสีดำสนิท…เจ้าเด็กมนุษย์คนนี้คือเย่เฉิน!”
“บัดซบ! ไอ้เด็กอวดดีนี้กลับกลายเป็นเย่เฉิน ถึงข้าจะไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“นี่ พวกเจ้าเห็นหรือไม่แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังไม่กล้าโผล่หัวออกมา มันกลับซ่อนตัวอยู่ในเขตปลอดภัย”
“ขยะ เจ้าเย่เฉิน ส่งทักษะบ่มเพาะของเจ้ามาให้พวกเราฝึกฝน แล้วข้าจะสัญญาว่าจะไม่รังแกเจ้า”
“เตรียมพร้อมต่อสู้!” เย่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นยกหอกสังหารในมือขวาขึ้น และชี้ไปยังกองทัพปีศาจ
"พรึบ"
กองทัพหลุนฮุยยกอาวุธชี้ไปด้านหน้าเช่นกัน
"สมรภูมิพยัคฆ์ขาว!" เย่เฉินลืมตาขึ้นอย่างเฉียบคม แล้วตะโกนเสียงดัง
"ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!" เสียงตะโกนที่แฝงไปด้วกลิ่นอายแห่งการสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้นทันที
ในวินาทีถัดมา เจตนาแห่งการสังหารที่แข็งแกร่งและรุนแรงก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือกองทัพหลุนฮุยในทันที และจากนั้นมันก็เริ่มควบแน่น
“โอ้ย ท่านปู่หมูคนนี้กลัวแทบตายแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า หากพวกแกแข็งแกร่งจริงก็ออกมา ทำไมถึงยังมุดหัวอยู่ในเขตปลอดภัย?” ปีศาจหมูป่าตัวหนึ่งกล่าวเยาะเย้ยและหัวเราะออกมา
“พวกเราไม่ได้พูดเพื่อบังคับเจ้า พวกเจ้าไม่ต้องเสแสร้งเป็นแข็งแกร่ง ออกมาเถอะพวกเราจะดูแลเจ้าอย่างดี” ปีศาจคางคกหัวเราะพร้อมกล่าว
“เฮ้ เย่เฉิน เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่มันก็เท่านั้นไม่ต้องแสร้งทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าท่านปู่วัวคนนี้ ออกมาได้แล้ว!” ปีศาจวัวหัวเราะพร้อมกล่าวเยาะเย้ย
ในตอนนี้ เย่เฉิน, จูล่ง, เตียวเมิ่ง, กุยแก และกองทัพหลุนฮุยต่างปลดปล่อยเจตนาแห่งการสังหารออกมาอย่างรุนแรง และเริ่มควบแน่นกลายเป็นรูปร่างในทันที
ในวินาทีต่อมา เสียงคำรามที่สั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพีก็ดังขึ้น
“โฮก!”
พยัคฆ์ขาวตัวใหญ่ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าก็ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงอำนาจ กดขี่ข่มเหง ไร้ความปราณี ที่พร้อมจะสังหารทุกอย่างเบื้องหน้าออกมา จากนั้นทั่วทั้งบริเวรก็เริ่มปั่นป่วน
ดวงตาของพยัคฆ์ขาวที่เยือกเย็นก็เหลือบมองไปยังกองทัพปีศาจ ต่างก็ตกตะลึง และเริ่มก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้ เหล่าปีศาจทั่วทั้งบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายหรือมอนสเตอร์ ต่างก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเย่เฉินถึงสามารถเรียกพยัคฆ์ขาวได้?”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร เจ้าบัดซบพยัคฆ์ขาวตัวนั้นควรจะเป็นพลังของเผ่าพันธุ์ปีศาจของเราไม่ใช่หรือ ทำไมมนุษย์ถึงใช้พลังของมันได้?”
“ไอ้โง่ สิ่งที่เย่เฉินเรียกออกมาไม่ใช่พยัคฆ์ขาวของเผ่าอสูรปีศาจ แต่เป็นพยัคฆ์ขาวหนึ่งในสี่สัตว์เทพที่มีหนึ่งเดียวในโลก”
“ทำไม ทำไมจู่ๆ ข้าถึงรู้สึกว่าขาของข้าสั่น…”
“โฮกกกก!”
เสียงคำรามสั่นสะท้านท้องฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง
วินาทีถัดมา พยัคฆ์ขาวก็กระโดดไปข้างหน้า ไม่กี่ก้าวต่อมา มันก็พุ่งออกจากเขตปลอดภัย แล้วกลายเป็นลำแสงที่แวบผ่านไป
“ตูม ตูม ตูม”
เสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง
พื้นทที่ที่ลำแสงพาดผ่าน ก็ปรากฏเส้นทางยาวห้ากิโลเมตรและกว้างห้าร้อยเมตรถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิตอันไร้สิ้นสุด
พยัคฆ์ขาวฆ่าอสุรปีศาจ 100,000 ตนในทันทีด้วยการโจมตีครั้งเดียว!
"ฟู่…"
"ฟู่…"
เสียงหอบหายใจดังมาจากปากของอสูรปีศาจทั่วทั้งภูเขา
“ฮึก ฮึก...”
ความหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นในใจของอสูรปีศาจที่เพิ่งมองเห็นการโจมตีของพยัคฆ์ขาวตรงหน้า