[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 85 การกวาดล้างที่ไม่คาดฝัน
ตอนที่ 85 การกวาดล้างที่ไม่คาดฝัน
เวลาห้าทุ่มครึ่ง
คนส่งยาสวมแจ็กเกตบุผ้าฝ้ายหนาเข้ามาในโกดังและตะโกนด้วยรอยยิ้ม “พี่หมาเหล่าเอ้อ ลงมาหน่อย ฉันมารับโควตาครับ”
ทันทีที่เขาพูดจบ เสี่ยวฉู่ซึ่งอยู่ชั้นบนก็เปิดประตู โผล่หัวอันล้านเลี่ยนของเขาชะโงกมองลงไปชั้นล่างพร้อมถามว่า “นายมารับโควตา?”
“เอ่อ ฉันเพิ่งไปธุระกลับมา เลยมาช้าไปหน่อย เดี๋ยวฉันจะรีบออกถนนเดี๋ยวนี้แหละ”
“รอเดี๋ยว” เสี่ยวฉู่ตอบแล้วกลับเข้าไปในห้องเพื่อหยิบกุญแจ ล็อกประตูอีกครั้ง แล้วลงไปชั้นล่าง
เมื่อคนส่งยาเห็นกุญแจในมือของเสี่ยวฉู่ เขาก็สับสนขึ้นมาเล็กน้อย “นายจัดโควตาไว้แล้วหรือยัง? โอ๊ะ นายได้รับการเลื่อนตำแหน่งแล้วนี่!”
“ฮ่าฮ่า ไม่หรอก” เสี่ยวฉู่ยิ้มและพูดว่า “หมาเหล่าเอ้อมีงานต้องทำ และฉันก็จะเลิกงานแล้ว ลุงหลิวจื่อก็ไม่อยู่ด้วยคืนนี้ ฉันเลยดูงานแทนพวกเขาพักหนึ่ง”
“นั่นก็สำคัญทีเดียวนะ”
“ไร้สาระน่า หมาเหล่าเอ้อไม่ค่อยใส่ใจงานต่างหาก”
เสี่ยวฉู่ตอบง่ายๆ ไม่จริงจัง “อีกอย่าง ฉันยังไม่อาวุโสพอที่จะทำงานนี้หรอก”
พวกเขาทั้งสองเดินคุยกันไปที่ประตูห้องด้านหลังชั้นหนึ่ง เสี่ยวฉู่ไขกุญแจเปิดประตู “รอที่ประตู”
“ได้”
“นายต้องการยาอะไร” เสี่ยวฉู่ถาม
“ยาฉีดมาลันฟาห้ากล่องใหญ่” คนส่งยาตอบเบาๆ
เสี่ยวฉู่พยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จึงเดินไปที่โกดัง และหยิบกล่องสินค้าห้ากล่องไปให้อีกฝ่ายตามฉลากบนกล่อง
……
อีกด้านหนึ่งของเมือง
ในคลับเมืองแห่งความบันเทิง หมาเหล่าเอ้อกอดกัปตันทีมรักษาความปลอดภัยแล้วพูดว่า “อย่ากังวลนะพี่ชาย ถ้าพี่ดูแลฉัน ฉันจะตอบแทนคุณแน่นอน อีกสักพักฉันจะพาพวกเราลงไปเลือกสาวๆ ที่ชั้นล่างกันไป ถ้าพวกพี่พอใจน้องคนไหนก็พาออกไปได้เลย…”
“แล้วถ้าฉันไม่ถูกใจสักคนล่ะ?”
“ให้ตายสิ พี่นี่หัวสูงเป็นบ้า?” หมาเหล่าเอ้อลูบผมด้วยความอวดดี “ถ้าคุณไม่ชอบ ฉันคงต้องเอาไปเองนะสิ ให้ฉันบอกอะไรคุณอย่างนะพี่ชาย...ผู้คนเรียกฉันว่านักเล่นทรัมเป็ตในโลกของศิลปะการต่อสู้* แต่ไม่ค่อยได้เรื่องในสนามเท่าไหร่
“ฮ่าๆๆ!”
ทุกคนระเบิดหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
กัปตันทีมรักษาความปลอดภัยมองย้อนกลับไปที่แมวแก่ ยกนิ้วให้แล้วพูดว่า “นายมีฝีมือพิเศษบางอย่างนะน้องชาย”
“ใช่ พวกเราเข้ากันได้ดี แต่ถ้าในอนาคตมีปัญหาระหว่างทาง คุณก็ต้องจัดการมัน” แมวแก่พูดพร้อมหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา
“เรื่องเล็กน้อย” กัปตันหลูโบกมือ เขาแอบจับแขนแมวแก่เป็นเชิงว่าไว้ใจเขาได้ พร้อมพูดว่า “กองกำกับการฯ เป็นของครอบครัวคุณ แล้วฉันจะไม่เชื่อฟังคุณได้หรือ?”
“อย่า...อย่าพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ คุณจะให้ฉันถูกฆ่าเหรอ?”
ดังนั้นทั้งสองจึงเปลี่ยนมาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจและสรรเสริญเยินยอกัน พร้อมกับดื่มไวน์อย่างมีความสุข
……
บนถนนเส้นหนึ่งในย่านที่มืดมิด
คนส่งยาที่เพิ่งรับสินค้าจากเสี่ยวฉู่ ยืนอยู่ในตรอกที่ค่อนข้างสลัว มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าแล้วหันกลับไปมองไปรอบๆ
หลังจากรอสักพัก ชายชราร่างผอมก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลางเช็ดน้ำค้างแข็งและหิมะออกจากเคราของเขา
“มาแล้วครับ”
“ยาอยู่ไหน?” ชายชราถามอย่างตรงไปตรงมา
คนส่งยามองไปรอบๆ อีกครั้ง จากนั้นหยิบกล่องยาออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้อีกฝ่าย “มีทั้งหมดสองกล่อง หนึ่งร้อยสองกล่อง”
ชายชราตกตะลึง “เอามาให้ฉันอีกสองกล่อง”
“ไม่ ไม่” คนส่งยาส่ายหัว “คนหนึ่งซื้อได้แค่สองกล่องเท่านั้น รีบจ่ายมาซะ”
“ฉันขอแค่อีกสองกล่อง ตอนนี้สถานการณ์มันไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าวันไหนยาจะหยุดขาย ลูกฉันจะตาย...” ชายชรายกมืออธิษฐานกับท้องฟ้าแล้วพูดว่า “ขอแค่อีกสองกล่องให้ฉันหน่อย แล้วฉันจะให้เงินคุณเพิ่มอีกห้าเหรียญ โอเคไหม?”
“มันไม่เกี่ยวกับเงิน” คนส่งยาพูดด้วยความลำบากใจ “เป็นเพราะเจ้านายไม่ปล่อยให้ฉันขายมากเกินไป”
“ถ้าคุณให้ฉันอีกสองกล่อง มันก็ไม่มีใครรู้หรอก เร็วเข้าเถอะ” ชายชราพูดอย่างไม่อดทน “ขอร้องล่ะ ฉันจะหาลูกค้าเพิ่มให้คุณอีกสองคนทีหลัง... ถนนแถวบ้านเรามีคนตั้งเยอะที่ทำงานในพื้นที่รังสีนิวเคลียร์...พวกเขาป่วยกันหมด...”
คนส่งยามองแล้วรู้สึกว่าชายชราน่าสงสารมาก จึงพูดว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่ามีรังสีนิวเคลียร์ที่นั่น แล้วก็ยังคงไปทำงานที่นั่นอยู่อีก?”
“ถ้าไม่ทำงานก็อดตาย ถ้าทำงานจะป่วย คุณคิดว่าไง?” ชายชราก็ถอนหายใจเช่นกัน
คนส่งยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแอบหยิบยาอีกกล่องออกมาจากกระเป๋าของเขา ยัดใส่มือของอีกฝ่ายแล้วพูดว่า “ฉันให้คุณได้มากสุดสามกล่อง ไม่งั้นถ้าพวกเจ้านายรู้เขา ฉันจะซวยแน่ๆ”
“เอาล่ะ ฉันจะจ่ายคุณหนึ่งร้อยแปดสิบห้า”
“ไม่ ฉันจะไม่ต้องการเงินห้าเหรียญของลุง ลุงเอากลับไปซื้ออาหารให้เด็กๆ เถอะ” คนส่งยาตอบเบาๆ
“ขอบคุณพ่อหนุ่ม” ชายชราหยิบยาและจ่ายเงิน แล้วรีบออกจากตรอกไป
คนส่งยารออยู่ในตรอกสักพัก แล้วก็หายตัวไปในความมืดอันเงียบสงัด เตรียมไปส่งจุดที่สองต่อไป
……
ในคลับเมืองแห่งความบันเทิง
ขณะที่แมวแก่กำลังดื่ม จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาจึงเดินออกไปข้างนอกและพูดคุยโทรศัพท์กันไม่ถึงห้านาที ก่อนจะกลับมาที่ห้องจัดเลี้ยง
“ให้ตายสิ ฉันคิดว่านายทำให้ตัวเองหงุดหงิดอีกแล้ว” หมาเหล่าเอ้อพูดด้วยอาการเมาเล็กน้อย หน้าของเขาเป็นสีแดงเถือก และยังโบกไม้โบกมือพูดต่อ “มาเลย มาเล่นเกมกันหน่อย”
“อย่าเพิ่งเล่นเลย” หลังจากที่แมวแก่นั่งลงแล้ว เขาก็ดึงหมาเหล่าเอ้อเข้ามากระซิบ “คืนนี้คุณส่งสินค้าแล้วหรือยัง?”
“ส่งออกไปทุกวัน”
“ถ้าอย่างนั้นคุณโทรหาคนส่งทุกคนอย่างเร็วเลย และหยุดส่งยาทั้งหมดสำหรับคืนนี้” แมวแก่ขมวดคิ้วและพูดต่อ “กองรักษาความปลอดภัยสาธารณะของกรมตำรวจจะกวาดล้างถนนคืนนี้ พวกเขาไม่ได้แจ้งให้ฉันรู้ก่อน สงสัยว่าครั้งนี้เข้มงวดมาก คุณช่วยเตรียมการอย่างรวดเร็วด้วย อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเด็ดขาด”
หมาเหล่าเอ้อตกตะลึง “ทำไมพวกนายถึงกวาดล้างถนนโดยไม่มีเหตุผล?”
“ฉันเดาว่าเฟิ่งเป่ยอาจจะกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง แต่ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ เอาเป็นว่า หยุดก่อนเถอะ”
“ได้”
เมื่อได้รู้เช่นนั้นหมาเหล่าเอ้อก็ลุกเดินออกไปโทรหาเสี่ยวฉู่ แต่มีสัญญาณแจ้งว่าไม่มีผู้รับสาย ในที่สุดเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเขาตะโกนบอกผู้ติดตามของเขา “หลิวเอ๋อ รีบกลับไปที่โกดังแล้วบอกเสี่ยวฉู่ว่าอย่าจ่ายสินค้าออกไป ล็อกประตู และเลิกงานได้แล้ว”
“ครับลูกพี่” ผู้ติดตามพยักหน้า
หลังจากนั้นหมาเหล่าเอ้อโทรหาผู้ค้ายาระดับล่างหลายรายทันที และแจ้งเป็นพิเศษว่าให้หยุดการจัดส่งในคืนนี้ก่อน ทุกคนจึงกลับบ้านไปรอดูสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อ ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มคนส่งยาที่เพิ่งขายยาให้กับชายชรา ได้ขายยาทั้งห้ากล่องที่เขามีไปแล้ว
……
ผ่านเวลาเที่ยงคืนเล็กน้อย
ผู้ติดตามกลับไปที่โกดังและตะโกนบอกเสี่ยวฉู่ “หมาเหล่าเอ้อโทรหานาย ทำไมนายไม่รับสาย?”
“ซวยละสิ โทรศัพท์ของฉันกำลังจะพังแล้วด้วย มันติดๆ ดับๆ มาพักหนึ่งแล้ว แล้วตอนนี้เสียงกริ่งถ้าจะไม่ดังแล้ว ฉันถึงไม่ได้ยิน” เสี่ยวฉู่ลงไปชั้นล่างเพื่ออธิบาย
“หมาเหล่าเอ้อให้ฉันบอกนายว่า คืนนี้กรมตำรวจจะกวาดล้างถนนและงานของเราทั้งหมดต้องหยุดลงก่อน” ผู้ติดตามพูดเสียงดัง “ไปเก็บของกันเร็วๆ ถึงเวลาเลิกงานแล้ว”
เสี่ยวฉู่ตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ทำไมจู่ๆ กรมตำรวจจึงกวาดล้างถนนอีกแล้ว?”
“ฉันไม่รู้” ผู้ติดตามส่ายหัว “ไปเร็วเข้า หยิบสมุดบัญชี ล็อกประตู แล้วออกไปกันได้แล้ว”
“ตกลง” เสี่ยวฉู่พยักหน้าด้วยสีหน้างุนงงแปลกๆ
……
ในสลัมชานเมือง
หลังจากที่ชายชราที่ซื้อยากลับมาบ้าน เขาก็ใช้เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้งฉีดป้อนยาในแบบถุงน้ำเกลือให้ลูกชายที่นอนป่วยอยู่บนเตียง
“พ่อ...คราวหน้าไม่ต้องซื้อยาให้ฉันแล้วนะ...มันเปลืองเงินเปล่าๆ” ลูกชายพูดอย่างอ่อนแรง
“ฉันไม่ได้อยากจะซื้อให้แก แต่ซื้อเพราะแกเป็นลูกของฉัน” ชายชราถอนหายใจแล้วพูดว่า “แกควรกินอาหารสักอย่าง”
ในห้องที่ไม่มีแสงไฟ ชายชราเลี้ยงลูกชายในความมืด จากนั้นเขาก็ล้มตัวนอนบนเก้าอี้แล้วหลับไปด้วยความอ่อนล้า พักผ่อนเพื่อรวบรวมพลัง เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาเอาเข็มถุงยาออกจากลูกชายในภายหลัง
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ลูกชายของชายชราที่นอนเงียบๆ อยู่บนเตียง จู่ๆ ก็หายใจไม่ออก ดวงตาเบิกกว้าง เอื้อมมือออกไปตบหน้าชายชรา “พ่อ...พ่อ...ฉันรู้สึกอึดอัด...ฉันแน่นหน้าอก…”
……………………………………………………………
*นักเล่นทรัมเป็ตในโลกของศิลปะการต่อสู้ = ขี้คุย