247 - สังหารอย่างเมามัน
247 - สังหารอย่างเมามัน
อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าผู้ที่สามารถฝึกฝนจนเข้าสู่ขอบเขตปลดปล่อยตนเองได้นั้นล้วนมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่ายังมีคนบางคนที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของน้ำและยังมีชีวิตอยู่
แต่การรักษาชีวิตนั้นก็ต้องจ่ายออกไปอย่างมากมายมหาศาล หลายคนที่ร่างกายถูกกัดกร่อนจนสูญสลายไปเหลือเพียงวิญญาณดั้งเดิม บางคนก็มีเพียงศีรษะเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่
ผู้บ่มเพาะที่น่าสังเวชเหล่านี้เนื้อหนังของพวกเขาสลายไปหมดแล้วมีเพียงจิตวิญญาณดั้งเดิมที่ดิ้นรนต่อสู้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็แทบจะไม่สามารถทนต่อไปได้และกำลังจะถูกกัดก่อนจนสูญสลายไป
มีเพียงไม่กี่คนที่ยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างใช้ได้และดิ้นรนอย่างขมขื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“พวกเจ้าทุกคนอ่อนแอเกินไป อ่อนแออย่างน่าขัน!” สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นมองดูพวกเขาด้วยความรังเกียจและเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน
“ไม่นานมานี้ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าไล่ตามสังหารข้าไปทุกที่หรอกหรือ? ทำไมพวกเจ้าถึงอยู่ในสภาพนี้? พวกเจ้าทุกคนอ่อนแอเหมือนขยะจริงๆ!”
ผู้ฝึกคนเหล่านั้นไม่สามารถยับยั้งความโกรธได้ ไอ้หนูคนนี้รู้วิธีใช้ประโยชน์จากสถานการณ์และเย้ยหยันพวกเขาจนแทบจะคลั่งใจตาย
แต่พวกเขามีกำลังที่จะตอบโต้หรือ? นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
แม้จะประคับประคองวิญญาณให้สามารถอยู่ต่อไปได้ก็นับว่าเต็มกลืนมากแล้ว นับประสาอะไรกับการต่อสู้
“การที่พวกเจ้าต้องทนทรมานอยู่อย่างนี้นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรจริงๆ อย่างไรซะข้าก็เป็นคนที่มีจิตใจเมตตาจะช่วยสงเคราะห์พวกเจ้าให้” สือฮ่าวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รอช้าแต่ลงมือจัดการกับคนเหล่านั้นทันที
ปู!
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาก็สูญสลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบทันที
สือฮ่าวยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอยู่เหมือนเดิม
“ที่แท้เจ้าเป็นไก่ตัวนึง? ส่วนเจ้าเป็นงูหรอกหรือ มีแม้กระทั่งแพะด้วย ทุกอย่างเป็นของโปรดของข้า! เมื่อบ่มเพาะจนถึงระดับนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงควรค่าที่จะเก็บไว้กินนานๆ ในชีวิตของข้ายังไม่เคยกินเนื้อสัตว์ในอาณาจักรปล่อยตนเองเลย!”สือฮ่าวชี้ไปที่พวกเขาทีละคน
จากนั้นเขาก็กล่าวให้กำลังใจทุกคนว่า “พวกเจ้าทุกคนต้องยึดมั่นไว้ มีเพียงความอดทนเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งเกียรติยศ! หากพวกเจ้าสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้! ในอนาคตข้าจะตั้งโต๊ะเลี้ยงดูพวกเจ้าให้อิ่มหนำสักมื้อหนึ่ง!”
“@ # $% ...” ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างมิติที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างก็โกรธแค้นจนตับของพวกเขาเจ็บปวดมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาทางทวารทั้งเจ็ด อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำอะไรสือฮ่าวได้เลย
“แต่เดี๋ยวก่อนนะ!” ทันใดนั้นใบหน้าของสือฮ่าวก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส เขาจ้องมองสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะตายสองสามคนก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “พวกคนทรยศก็มาด้วยหรือ พอดีเลยจะได้สะสางหนี้กันครั้งเดียว!”
เขาจำได้แล้วว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจากเมืองจักรพรรดิ์เมื่อไม่นานมานี้ยังแสร้งทำเป็นว่าจะช่วยเขา แต่จริงๆแล้วพวกมันก็มีความมุ่งร้ายอย่างมาก
“สหายเก่าเจ้าไม่ต้องตกใจไปข้าจะเหลือเจ้าไว้เป็นคนสุดท้ายก็แล้วกัน!” ดวงตาของสือฮ่าวเต็มไปด้วยไอสังหาร เขาคว้าร่างของชายชราคนนั้นจากการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
ต้องบอกว่าผู้เชี่ยวชาญคนนี้น่าสังเวชเกินไป ร่างกายของเขาสูญสลายไปหมดแล้วเหลือเพียงกะโหลกศีรษะเท่านั้น
ฉากนี้ช่างน่าสมเพชจริงๆ
เมื่อไม่นานมานี้สือฮ่าวได้ถูกพาขึ้นรถศึกโดยคนกลุ่มนี้และจากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสฆ่าผู้บ่มเพาะในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองคนหนึ่ง
เมื่อแผนการถูกเปิดโปงคนกลุ่มนี้ก็เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและหมายมั่นปั้นมือสังหารเขาให้ได้
พวกมันร่วมมือกับศัตรูต่างมิติและไล่ตามเขามาจนถึงที่นี่
“รถศึกคันนี้ช่างน่าเสียดายจริง!” หลังจากที่สือฮ่าวสังเกตอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็สังเกตเห็นรถศึกที่มีสภาพยับเยินจอดอยู่ที่นั่น มันปกป้องวิญญาณดั้งเดิมของชายชราคนนี้ไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว
ด้วยเหตุนี้รถศึกคันนี้จึงถูกน้ำในทะเลสาบกัดกร่อนจนเสียหายไปหมด ความศักดิ์สิทธิ์ของมันแทบไม่หลงเหลืออยู่
ในความคิดของสือฮ่าวผู้คนที่มาจากตระกูลอมตะพวกนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็เทียบไม่ได้กับผู้ฝึกฝนต่างมิติเหล่านั้น
“บอกข้ามาว่าเจ้ามาจากตระกูลอะไรแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป” สือฮ่าวถาม นี่คือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด หลังจากถูกหักหลังเขาก็เริ่มให้ความสนใจคนตระกูลนี้เป็นพิเศษ
แม้เขาจะพอรู้อยู่บ้างว่าคนพวกนี้มาจากที่ไหนแต่เขาก็ต้องการตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานให้แน่ชัด
“เจ้า…” ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสคนนี้ยอดเยี่ยมมาก แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอเหลือทนพร้อมที่จะตายได้ทุกเมื่อ
"ไม่ต้องกังวลถ้าเจ้ายอมเชื่อฟังข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายอยู่ที่นี่" สือฮ่าวยิ้ม
แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างกายและจิตวิญญาณกำลังจะสูญสลาย แต่ผู้อาวุโสคนนี้ก็ยังคงเย้ยหยันสือฮ่าวออกมาไม่หยุด
นี่เป็นเพียงเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง เด็กรุ่นหลังที่ถูกพวกเขาไล่ล่าสังหารจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนราวสุนัขเถื่อน
“เจ้าหนูอย่าล้ำเส้น!” เขาคำรามออกมา
“แสดงว่าเจ้าอยากถูกทรมาน” สือฮ่าวไม่ได้ให้โอกาสเขาอีกแต่คว้าศีรษะของเขาขึ้นมา จากนั้นใช้ร่างกายของสิงโตทองคำต่างแส้ฝากหวดลงไปบนศีรษะของผู้อาวุโสคนนั้น
ปู!
ชายชรากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้ศีรษะของเขาเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นหลังจากถูกฟาดหวดลงไปแค่ครั้งเดียว
การโจมตีครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมาสองครั้ง โดยครั้งหนึ่งมาจากชายชราของเมืองจักรพรรดิคนนั้น เขากำลังจะตายย่อมไม่มีจุดจบที่ดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน
ส่วนอีกเสียงมาจากสิงโตทอง มันไม่ได้รับความเจ็บปวดมากเท่าไหร่แต่เต็มไปด้วยความอับอายจนอยากจะตายไปให้สิ้นเรื่อง
เป็นเพราะตอนนี้สือฮ่าวใช้ร่างกายของมันต่างอาวุธ นี่ยังมีสถานะตกต่ำยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงเสียอีกจะให้มันทนได้อย่างไร?
เขาทำทุกอย่างที่ต้องการทำจริงๆ ราชสีห์ผู้กล้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นแต่มันไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“บอกข้ามาว่าเจ้ามาจากตระกูลไหน? เจ้าควรรู้ดีว่าข้าไม่มีความอดทนมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกพวกเจ้าไล่ล่ามานานอารมณ์ของข้าก็ไม่ดีแน่ๆ ถ้าเจ้าไม่ยอมพูดจุดจบของเจ้าจะเลวร้ายมากกว่านี้อีก” สือฮ่าวกล่าว
“เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกหรือ ตระกูลของข้าจะแก้แค้นให้ข้าอย่างแน่นอน” ศีรษะชราตะโกนออกมาอย่างเกลียดชัง
เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ดวงตาของสือฮ่าวก็เต็มไปด้วยไอสังหาร ตอนนี้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย!
ในตอนแรกเขามั่นใจว่าคนพวกนี้มาจากตระกูลหวังหรือไม่ก็มาจากตระกูลจิน? เพราะว่าสองตระกูลนี้เป็นศัตรูกับเขามาอย่างช้านาน
อย่างไรก็ตามด้วยคำพูดของชายชราคนนี้ทำให้เขาเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมา?
หรือจะบอกว่านี่คือการทำให้เขาเข้าใจผิด? หากมีตระกูลอมตะอื่นๆที่เข้าร่วมกับศัตรูสถานการณ์ก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
สือฮ่าวไม่ได้พูดอะไรต่อ เข้าดำเนินการด้วยความเร็วปานสายฟ้าโดยคว้าศีรษะนั้นไว้ก่อนจะทำการค้นวิญญาณอย่างโหดเหี้ยม!
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน นี่คือผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองพลังจากวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาเหมือนกับดวงอาทิตย์อันร้อนแรงมันจะแผดเผาผู้ฝึกฝนอาณาจักรที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ตามตอนนี้ขั้นพลังของสือฮ่าวพัฒนาขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สือฮ่าวทำสิ่งที่ต้องการได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
“ไม่!” ชายชราดิ้นรนอย่างสุดชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็ถอยกลับมาสีหน้าของเขามืดครึ้มเหมือนเงา ตอนนี้เขารีบลงไปที่ก้นทะเลสาบทันทีและลงมือจัดการคนทรยศที่เหลือ
เปง!
แม่ว่าศีรษะของชายชราจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ด้วยความโกรธแค้นครั้งนี้ก็ยังมีอีกสามคนที่ต้องสังเวยชีวิตไปพร้อมกับเขา
“มีรอยประทับที่น่ากลัวอยู่ในหัวของพวกเขาซึ่งจะระเบิดเมื่อมีการค้นวิญญาณ นี่เป็นผลงานของตระกูลอมตะแน่นอน!” ใบหน้าของสือฮ่าวเต็มไปด้วยความเย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหารออกมา
แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองก็ยังมีตราประทับประเภทนี้สลักไว้ นอกเหนือจากตะกูลอมตะจะมีผู้ใดใส่ใจกระทำเรื่องแบบนี้?
กลุ่มผู้ยิ่งใหญ่ที่รอดชีวิตต่างตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เป็นเพราะแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรปลดปล่อยตนเอง ก็ยังถูกจัดการอย่างง่ายดายสิ่งนี้ทำให้พวกเขาโกรธแค้นและอับอายเป็นอย่างถึงที่สุด