ตอนที่แล้วตอนที่ 139 ฝน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่141 เมิ่งชวนมือใหม่

ตอนที่140 การต่อสู้ครั้งแรกหลังจากมาถึง (ฟรี)


ตอนที่140 การต่อสู้ครั้งแรกหลังจากมาถึง

ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 7:45 น.

มีทหารกว่าสองร้อยนายคอยประจำการอยู่ในกำแพงเมืองด่านชั้นในหนึ่งชั่วยามก่อนจะเปลี่ยนกะ นั่นจะทำให้เหล่าทหารมีความตื่นตัวเต็มที่ตลอดเวลาในขณะประจำการ มีทหารธรรมดากว่า 20000 นายในด่านเป่ยเหอ ดังนั้นหน้าที่ประจำการจึงเป็นเรื่องง่าย แน่นอนว่าเมื่ออสูรบุกครั้งใหญ่เข้ามา ทหารจำนวนมากก็จะต้องเข้าร่วมการต่อสู้นองเลือดอันโหดร้ายนั้น โอกาสตายของมนุษย์นั้นสูงมากๆ หลายคนที่รอดก็พิการ นั่นคือหลักฐานของความโหดร้ายของสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร

เหล่าทหารจ้องมองไปที่ประตูพิภพด้วยความไม่ประมาท ข้างๆพวกเขามีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์อยู่ด้วย! ถ้าหย่อนยานล่ะก็จะโดนลงโทษขนานหนักแน่

อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com

‘หือ?’

จู่ๆก็มีร่างอันน่าสะพรึงสามสิบห้าร่างปรากฏขึ้นมาจากประตูพิภพ ประตูพิภพนี้สามารถรองรับราชาอสูรระดับสามให้ข้ามมาได้พร้อมกัน 35 ตัว!

“ราชาอสูรบุกแล้ว!” เหล่าทหารตอบสนองต่อสถานการณ์ตรงหน้าและตะโกนอย่างรวดเร็ว

ตึงๆๆๆๆ! ทหารคนหนึ่งตีกลองเต็มแรง เสียงกลองนั้นดังไปทั่วทั้งด่านเป่ยเหออย่างรวดเร็ว

ภายในที่พักของเมิ่งชวน เขากำลังฝึกวิชาดวงใจกระบี่อยู่ หลิวชีเยว่ไปที่ลานฝึกยิง สำหรับนักเกาฑัณฑ์ระดับมหาสุรยันแล้วนั้นในที่พักไม่มีที่กว้างพอสำหรับฝึก

ตึงๆๆๆๆ!

เสียงกลองดึงความสนใจของเมิ่งชวนไป เสียงกลองดังเป็นสัญญาณของการต่อสู้ เขารอมาเนิ่นนานแล้ว เขาเฝ้ารอที่จะได้ต่อสู้ตั้งแต่อยู่บนเขาหยวนชูแล้ว

‘ในที่สุดมันก็มา!’ ดวงตาของเมิ่งชวนเป็นประกายและเปลี่ยนเป็นสายฟ้า เพียงแวบเดียวเขาก็ไปถึงกำแพงชั้นนอกใกล้ๆคฤหาสน์ เขาพุ่งเข้าไปในเมืองด่านชั้นในในทันที

‘พวกมันมากันอีกแล้วรึ?’ จางหวินอู่ที่กำลังฝึกวิชาทวนก็หยุดมือลง เพียงแค่สะบัดมือ เขาก็พุ่งไปพร้อมกับทวนสั้นจำนวนหนึ่ง

“พี่เขย!” หยางจิงอู่เองก็แบกทวนสั้นจำนวนมากไปยังกำแพงเมืองในทันที

ซือซิ่วที่กำลังนอนอยู่ที่หอนางโลมก็เบิกตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงกลอง เขารีบวิ่งออกจากที่นั่นไป เสื้อและรองเท้าบนเตียงหายไป หญิงสาวชุดนอนสีแดงที่อยู่บนเตียงยังดูงุนงงอยู่ แม้ว่าเธอจะยังงๆ แต่เมื่อได้ยินเสียงกลองดังลั่นก็ตื่นขึ้นเต็มตา อันที่จริงแล้วเธอเป็นนางโลมชื่อดังของหอนางโลมเลย

เหล่าอสูรบุกด่านเป่ยเหอรึ? เธอลุกจากเตียงก่อนจะเดินไปใส่ชุดของเธอและไปที่ระเบียงแล้วมองไปทางกำแพงชั้นใน

เหล่าทหารเคลื่อนพลกันอย่างรวดเร็ว เหล่าเทพอสูรเองก็รีบมุ่งหน้าไปที่นั่น

‘เราจะชนะ เราจะต้องชนะ’ หญิงสามคนนั้นกุมมือภาวนาอย่างเงียบๆ

มันเริ่มแล้ว คนจำนวนมากบนถนนมองไปที่กำแพงชั้นใน ภายในกำแพงชั้นในนั้นจะกลายเป็นสนามรบนองเลือด เทพอสูรและทหารคือกำแพงอันแข็งแกร่งเพื่อป้องกันเหล่าอสูร

เราจะต้องชนะ ผู้คนต่างภาวนา แม้ว่าพวกเขาจะพบเจอการบุกรุกของอสูรสองถึงสามครั้งต่อปี แต่เหล่าประชาชนของด่านเป่ยเทวน็ต่างรู้สึกเป็นกังวลทุกครั้ง พวกเขารู้ว่าหากด่านเป่ยเหอพังลงจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้นเป็นแน่

สายฟ้าเส้นหนึ่งพุ่งลงบนกำแพงเมือง นั่นคือเมิ่งชวน

เมิ่งชวนเป็นคนแรกที่ไปถึงกำแพงเมืองชั้นใน เขาใส่ชุดสีน้ำเงินเข้ม เขาห้อยกระบี่อสูรสังหารไว้ตรงเอวและจ้องมองไปที่ประตูพิภพ ราชาอสูรสามสิบห้าตัวพยายามจะเดินออกมาจากประตูพิภพนั่น

ฟุบๆๆๆ!

เทพอสูรคนอื่นๆค่อยๆมาถึงทีละคน

จางหวินอู่ หลิวชีเยว่ มู่ฉิง หยูจี่หยาน จางหวินอู่ ฉีฉิว และฟานเฉิงมายืนข้างๆเมิ่งชวน

“ประตูพิภพนั้นยาวกว่าสิบจั้ง ในขณะที่มันกำลังเข้ามามันจะถูกช่องว่างคอยขัดขวาง” จางหวินอู่ “ประตูพิภพอันนี้ใหญ่มาก มันทำให้ราชาอสูรระดับสามสามารถผ่านเข้ามาได้ในไม่กี่วินาที แต่ว่าหากราชาอสูรระดับสาม 35 ตัว พยายามจะผ่านเข้ามาพร้อมๆกัน มันจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการผ่านเข้ามามาก มันจะต้องใช้เวลาเกือบนาทีกว่าจะผ่านเข้ามาได้”

เมิ่งชวนและหลิวชีเยว่พยักหน้า พวกเขาเป็นเพียงมือใหม่แต่ก็รู้เรื่องนี้ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งผ่านประตูพิภพเข้ามาได้ยากมากเท่านั้น

“หากมันบุกเข้ามาแค่ตัวสองตัวพวกเราสามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดาย แต่หากมีราชาอสูรระดับสาม 35 ตัวบุกเข้ามาพร้อมๆกันมันก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว”

"ไปกันเถอะ"

"ไปสังหารราชาอสูรพวกนั้นกัน"

พวกเขากระโดดลงจากกำแพงในทันที เมิ่งชวนมองไปที่หลิวชีเยว่และพยักหน้าก่อนจะกระโดดลงไปพร้อมกับจางหวินอู่ ฉีฉิว และคนอื่นๆ

มีเพียงหลิวชีเยว่กับฟานเฉิงเท่านั้นที่ยังอยู่บนกำแพง เทพอสูรเกาฑัณฑ์สองคนรีบวิ่งเข้าไปหาพวกเขา

“ศิษย์พี่หลิว ศิษย์พี่ฟาน” เทพอสูรสองคนนั้นถ่อมตน พวกเขาเป็นศิษย์ของเขาหยวนชูและเป็นเทพอสูรระดับแดนอมตะ! แต่ว่าลูกศรของพวกเขานั้นสามารถทำอันตรายต่อราชาอสูรระดับสามได้

“ข้าจะปกป้องพวกเจ้าอย่างดีเลย” ฟานเฉิงถือโล่ขนาดใหญ่ด้วยมือข้างหนึ่งและค้อนในอีกข้าง

ตึง!

โล่ขนาดใหญ่กระแทกลงบนพื้นของกำแพงพร้อมกับพลังปราณของฟานเฉิงที่ถูกปล่อยออกไปทั่วทิศทาง เขาสร้างเขตแดนสี่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ขนาดกว้างกว่าร้อยจั้งรอบตัวเขา

ฟานเฉิงเรียนรู้ร่างเทพอสูรระดับสูงมา ร่างเทพจตุรลักษณ์ เขาเกิดมาพร้อมกับพละกำลังที่กล้าแข็งและรากฐานเทพอสูรที่แข็งแกร่ง และเขาเองก็ยังเก่งกาจในวิชาโล่และค้อน เขาสามารถสู้กับราชาอสูรระดับสามได้ถึงสิบตัวพร้อมๆกัน และด้วยเขตแดนจตุรลักษณ์ของเขานั้น มันทำให้เขาเก่งกาจในการปกป้องผู้อื่น เขารับหน้าที่ปกป้องเทพอสูรนักเกาฑัณฑ์ และแน่นอนว่าหลิวชีเยว่เองก็ทรงพลังมากเช่นกัน

‘อาชวน ระวังตัวด้วยนะ’ หลิวชีเยว่กระชับเกาฑัณฑ์ในมือและมองลงไปจากกำแพงเมือง เฝ้ารอโอกาสเปิดฉากยิง

เทพอสูรมหาสุริยันทั้งหกลงมาจากกำแพงที่สูงกว่า 80 จั้ง พื้นนั้นเต็มไปด้วยน้ำ มองแวบแรกมันอาจจะดูเหมือนทะเลสาบ แต่ว่าน้ำในนี้นั้นสูงเพียงสิบห้าฉื่อเท่านั้น

‘ดีเลย’ เมิ่งชวนยืนอยู่บนผิวน้ำและพยักหน้าเบาๆ น้ำขนาดนี้เพียงพอแล้ว

“ทำตามแผนไว้” จางหวินอู่กล่าว

“รับทราบ” อีกห้าคนตอบรับในทันที ในการต่อสู้ พวกเขาต้องทำตามคำสั่งและต้องไม่บุ่มบ่าม

เมิ่งชวน มู่ฉิง และฉีฉิวจะนำการโจมตี หยางจิงอู่ หยูจี่หยาน และจางหวินอู่จะคอยป้องกัน

ฟิ้วๆๆๆๆ

ด้ายสีฟ้านับไม่ถ้วนทะลวงผ่านอากาศและรวมพลังฟ้าดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ด้ายสีฟ้าเหล่านั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้นและเปลี่ยนกลายเป็นเขตแดนที่กว้างกว่าหนึ่งลี้อย่างรวดเร็ว จางหวินอู่ทุ่มเทชีวิตและการฝึกฝนไปกับเขตแดนนี้ เธอเชี่ยวชาญในการใช้เขตแดนนี้มาก เทพอสูรคนอื่นๆในด่านเป่ยเหอต่างด้อยกว่าเธอในด้านของเขตแดน

เขตแดนของจางหวินอู่ หลิวชีเยว่และฟานเฉิงนั้นมาพร้อมกับร่างเทพอสูรของพวกเขา แต่ว่าเขตแดนของพวกเขานั้นค่อนข้างจะเล็ก และหน้าที่ของพวกมันนั้นต่างออกไป เขตแดนเพลิงของหลิวชีเยว่นั้นมีไว้เพื่อสังหารศัตรู มันช่วยเหลือเพื่อนได้ไม่ดีมากเท่าไหร่นัก เขตแดนพลังวินาศของเมิ่งชวนเองก็เหมือนกัน ส่วนเขตแดนจตุรลักษณ์ของฟานเฉิงนั้นเหมาะแก่การป้องกันมากกว่า!

อีกอย่าง หลิวชีเยว่เก่งกาจในด้านของเกาฑัณฑ์ เมิ่งชวนเก่งในวิชากระบี่ และจางหวินอู่ก็เก่งในด้านทวนสั้น หยางจิงอู่นั้นเน้นในด้านเขตแดนเพียงอย่างเดียว เขตแดนของเธอนั้นมีประโยชน์มาก เธอสามารถหยุดยั้ง ขัดจังหวะ โจมตี และป้องกันศัตรูให้ออกไปได้ เธอเป็นคนที่สำคัญต่อเทพอสูรคนอื่นๆมากๆ

“ระวังตัวให้ดี พวกมันกำลังมาแล้ว” จางหวินอู่พูดเสียงต่ำ

เมิ่งชวนหรี่ตามองประตูพิภพ

ไม่ว่าจะเป็นเทพอสูรที่อยู่ด้านล่างหรือเทพอสูรที่อยู่ด้านบนกำแพงกับทหารต่างทำสีหน้าเคร่งเครียด

“ราชาอสูรสามสิบห้าตัว มีเจ็ดตัวที่ไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้” จางหวินอู่กล่าว “ทุกคนระวังตัวให้ดี”

เมิ่งชวนอ่านเอกสารมาหมดแล้ว มนุษย์ต่างรู้ความสามารถของราชาอสูรที่เคยต่อสู้ด้วยมาก่อน การจะวางแผนต่อสู้กับศัตรูที่ไม่เคยเจอมาก่อนนั้นเป็นเรื่องยาก

“มันกำลังมา”

เมิ่งชวนรู้สึกได้ว่าเลือดกำลังเดือดพล่าน แต่สติของเขายังคงชัดเจนแจ่มแจ้ง

ในตอนที่ราชาอสูรทั้ง 35 ตัวเดินออกมาจากประตูพิภพนั่นเอง

โจมตี เพียงหยางจิงอู่คิด ก็มีด้ายสีฟ้าคมกริบจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งแทงเข้าใส่ราชาอสูรอย่างคล่องแคล่ว

ลูกศรเพลิงสามลูกพุ่งมาจากกำแพงเมืองและไปถึงประตูพิภพในทันที ราชาอสูรระดับสามพากันใช้วิชาของพวกมัน ราชาอสูรสองตัวมีเถาวัลย์จำนวนมากเติบโตออกมาจากร่างของมัน อสูรสมิงส่งเสียงคำราม ปล่อยให้ลมอสูรสีดำกระแทกออกมา! ราชาอสูรบางตัวสะบัดมือปล่อยหมอกพิษออกมา ราชาอสูรบางตัวก็สร้างหนามสีดำและหนวดรยางค์ฝังลงไปบนพื้น….

ราชาอสูรระดับสามสิบกว่าตนจู่โจมเข้ามาพร้อมๆกัน พวกที่เก่งในด้านการโจมตีระยะประชิดอย่างเดียวได้แต่ยั้งมือ

ลูกศรสามลูกของหลิวชีเยว่นั้นทำให้ราชาอสูรที่พึ่งออกมาจากประตูพิภพต้องบาดเจ็บสาหัสในทันที พวกมันร่วมมือกันไม่ได้สมบูรณ์แบบ

ราชาอสูรแรดเอามือขนาดยักษ์ของมันออกมารับลูกศรหนึ่งลูกอย่างไม่ใส่ใจ! ลูกศรแทงทะลุมือของมันไปและเปลวเพลิงก็ลุกขึ้นเผาไหม้กลืนกินมันเข้าไป มันไม่สามารถดับไฟนั้นได้ มือของมันกำลังจะหายไปแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น เปลวเพลิงนั่นก็เริ่มลามไปทั่วร่างของมันอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่กำลังตื่นตระหนก จางหวินอู่ก็ซัดทวนสั้นเข้าไปเต็มแรง มันเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองและเร็วมากจนอากาศบิดเบี้ยว หลังจากที่ราชาอสูรแรดถูกลูกศรทะลวงไปแล้วมันก็ต้องเจอกับทวนที่โผล่ขึ้นมาตรงหน้ามันอีก มันพยายามยกมือซ้ายขึ้นมากัน แต่มันก็รับเอาไว้ไม่ได้และทวนเล่มนั้นก็แทงทะลุหวัของมันไป

ราชาอสูรแรดระดับสามที่เนื้อหนังนั้นแข็งแกร่งก็ตายคาที่ตรงนั้น

จางหวินอู่นั้นแข็งแกร่งเทียบได้กับเฟิงโหวเทพอสูร เขาสามารถสังหารราชาอสูรระดับสามได้อย่างง่ายดายตรายใดที่มีโอกาส

"ระวัง"

“นั่นคือนักเกาฑัณฑ์หลิวชีเยว่ อย่าปล่อยให้เพลิงของมันสัมผัสตัวเจ้าได้” เหล่าราชาอสูรเองก็มีข้อมูล แม้พวกมันจะไม่รู้ว่าเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่มาที่ด่านเป่ยเหอ แต่พวกมันก็รู้ข้อมูลเบื้องต้นของเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่

ซุบบบ!

เถาวัลย์จำนวนมากกระจายออกไปและล้อมพื้นที่โดยรอบในขณะที่ลมสีดำกำลังโหมกระหน่ำ

ผ้าใยที่แข็งแกร่งวนรอบราชาอสูรกว่าสามสิบตัว มันเริ่มสร้างเขตแดนขึ้นมา การลอบโจมตีของหลิวชีเยว่นั้นได้ผลมากเพราะศัตรูไม่รู้ว่ามีเธออยู่และทำให้พวกมันขาดเขตแดนสำหรับป้องกัน

ลูกศรสามดอกพร้อมกับทวนหนึ่งเล่มทำให้ราชาอสูรต้องตาย

“ดีมาก” จางหวินอู่และมู่ฉิงดูโล่งใจ การที่สามารถสังหารราชาอสูรระดับสามได้ตั้งแต่ที่พวกมันบุกเข้ามานั้นเป็นเรื่องยาก เพราะไม่ว่ายังไงราชาอสูรพวกนั้นก็ร่วมมือกันในการต่อสู้อยู่ดี การจะสังหารไปซักตัวนั้นไม่ง่ายเลย

"ฆ่ามัน!" จางหวินอู่สั่ง

“น้องเมิ่งไม่ต้องห่วง พวกเราจะช่วยเจ้าเอง” มู่ฉิงและฉีฉิวส่งกระแสเสียงไปหาเมิ่งชวนเพื่อที่เขาจะได้ผ่อนคลายลง ทั้งคู่นั้นรับหน้าที่ในการปกป้องคนที่เหลือไปพร้อมกับเมิ่งชวน

แต่ละคนต่างมีทำหน้าที่ในแต่ละด้าน มู่ฉิงและฉีฉิวต่างเตรียมการช่วยเสริมเมิ่งชวนเอาไว้แล้ว เขาจะไม่เป็นไรหากเริ่มชินกับมันแล้ว

“รับทราบ” เมิ่งชวนระมัดระวังตัวมาก เขาตรวจดูรอบข้างด้วยขอบเขตสัมผัสของเขาและพุ่งไปพร้อมกับมู่ฉิงและฉีฉิว

เหล่าเทพอสูรและราชาอสูรในตอนนี้อยู่ไม่ไกลจากกันมาก เพียงพริบตาทั้งสองฝ่ายก็เข้าปะทะกัน เมิ่งชวนได้ยินเสียงหายใจดังลั่นของราชาอสูรได้เลยด้วยซ้ำ

‘มาแล้วล่ะ!’ เลือดในตัวของเขาเดือนพล่านพร้อมกับจิตใจที่มุ่งมั่น เขากระชับกระบี่อสูรสังหารในมือและมองดูราชาอสูรที่พุ่งเข้ามา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด