Ep.1086 - มิติบลูสตาร์จะไม่มีวันดับสูญ
Ep.1086 - มิติบลูสตาร์จะไม่มีวันดับสูญ
ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เผ่าพันธุ์นับล้านจะชักฝีเท้าถอยก้าวหนึ่ง
ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้าอีกสามก้าว เผ่าพันธุ์นับล้านจะชักฝีเท้าถอยสิบก้าว
ในใจฉินเฟิง ผุดความคิดขึ้นมามากมาย สุดท้ายตัดสินใจถ่ายทอดพลังสมาธิ ส่งไปทั่วมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
“ฉันคือเผ่ามนุษย์”
“จงจดจำเผ่าพันธุ์นี้ไว้ให้ดี!”
จากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ร่างกายเริ่มหดเล็กลง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของจ้าวเหนือหัวอันผิง
เจ็ดจ้าวเหนือหัวเผ่ามนุษย์ เฝ้ามองฉินเฟิงใกล้เข้ามาทีละก้าว ในหัวใจของทั้งหมดบังเกิดความพลุ่งพล่าน
“ขอแสดงความยินดีกับจ้าวเหนือหัวซวนเฟิง!” เฉียนหมู่กล่าว
“ขอแสดงความยินดีกับจ้าวเหนือหัวฉินเฟิง”
“ยินดีด้วย”
ณ ขณะนี้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของพวกเขากับฉินเฟิงจะเป็นอย่างไร ทั้งหมดต่างก้าวออกมาแสดงความยินดี จากนั้นมองไปทางไป๋หลี ขบคิดกันสักพัก ก่อนทยอยกันก้าวเข้ามาแสดงความยินดีกับเธอเช่นกัน
เพราะอย่างไรเสีย ไป๋หลีก็อยู่กับฉินเฟิง
“ยังมีมนุษย์อีกรึเปล่า?”
ฉินเฟิงถาม แน่นอนว่าเขาหมายถึงมนุษย์ที่เข้าไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
“เหลืออยู่สามคน!” จ้าวเหนือหัวอันผิงรีบกล่าว
ตอนขามา มีผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 ติดตามมาด้วยนับร้อยคน แต่ตอนนี้ เหลือแค่สามคนเท่านั้น
แต่ที่รอดมาได้มากขนาดนี้ ยังคงเป็นเพราะฝีมือการสังหารหมู่ของฉินเฟิง ซึ่งเขาพยายามหลีกเลี่ยงมนุษย์เหล่านั้น ศัตรูของพวกเขา ทั้งหมดถูกฉินเฟิงสังหาร พวกเขาเลยพอได้มีโอกาสพักหายใจบ้าง
แต่น่าเสียดาย ที่สามคนนี้ ไม่มีใครสามารถตัดผ่านสู่จ้าวเหนือหัวได้เลย
หนึ่งในนั้น หลังจากดูดซับแก่นแท้พลังงานแล้ว กลับเกิดกระบวนการล่มสลายของยีน ส่วนที่เหลืออีกสองคน พอรู้ตัวว่าตนคงดีไม่พอ ดังนั้นตัดสินใจไม่ดูดซับแก่นแท้พลังงาน แต่ใช้เครื่องมือช่วยกักเก็บแก่นแท้พลังงานแทน ตั้งใจที่จะนำพวกมันไปแลกของรางวัลกับจ้าวเหนือหัวหลังจากกลับไป
อย่างไรก็ตาม ไม่นานพวกเขาก็พบว่า การถูกไล่ล่าอย่างโหดร้ายทารุณนี้คล้ายจะหยุดลง ช่วงหลังๆพอสัตว์ร้ายต่างเผ่าพันธุ์เห็นพวกตน พวกมันกลับหันหลังและจากไป ทั้งๆที่เห็นอยู่ชัดๆว่าความแข็งแกร่งและกลิ่นอายของพวกมัน แกร่งกว่าพวกเขามาก
แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ บรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมดทั้งมวล ล้วนได้รับคำเตือนจากจ้าวเหนือหัวของพวกตน
“อยู่ให้ห่างจากสิ่งมีชีวิตนั่น พวกมันคือมนุษย์ อย่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“จงหลีกเลี่ยงเขา จ้าวเหนือหัวของเผ่าพันธุ์นี้ทรงพลังเกินไป มันสามารถล้างบางเผ่าพันธุ์พวกเราได้ อย่าคิดสร้างปัญหา”
“โชคยังดีที่เผ่ามนุษย์มีไม่มากนัก เจ้าจงไปล่าเผ่าพันธุ์อื่นเสีย”
ประโยคดังกล่าว ถูกถ่ายทอดเข้ามา บอกให้ลูกหลานของตน ก้าวออกไปให้พ้นทาง
มนุษย์ทั้งสองคนที่อยู่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ภายนอกบ่อ พวกเขาเห็นว่าอันผิงกับคนอื่นๆกำลังมองพวกเขาอยู่
“หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของท่านจ้าวเหนือหัว? เพราะพวกท่านทรงพลัง ดังนั้นเผ่าพันธุ์นับล้านเลยยอมก้มหัวและหลีกเลี่ยงพวกเรา”
ขณะเดียวกัน จ้าวเหนือหัวอันผิงและคนอื่นๆ ไม่เคยคิดเลยว่าพวกตนจะมีวันนี้
การข่มขวัญเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในช่วงเวลานานปีที่ผ่านมา มีเพียงเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังเท่านั้นจึงจะทำได้
แต่ตอนนี้ พวกเขากลับได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นเพราะคนๆเดียว
ฉินเฟิง!
…
หนึ่งเดือนต่อมา
ภายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้คายแก่นแท้พลังงานออกมาอีกต่อไป ระหว่างนี้เผ่าพันธุ์อีกนับร้อยล้านเผ่า ทยอยกันมาและจากไป
แต่ในบรรดาเผ่าพันธุ์เหล่านี้ ทั้งหมดต่างสังเกตเห็นการดำรงอยู่อันเป็นเอกเทศไม่เหมือนใคร กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว น่าหวาดกลัวมาก มันมโหฬารพอๆกับดวงดาว เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมัน นั่นไม่ต่างจากอุกกาบาตที่พร้อมเข้าปะทะได้ทุกเมื่อ ข่มขวัญว่าแท้จริงแล้วพวกมันเล็กจ้อยและอ่อนแอเพียงใด
แล้วอีกอย่าง เมื่อมันเตะตาขนาดนั้น เลยทำให้ตัวอื่นๆได้รู้จักกับเผ่าพันธุ์
ดังนั้น สมาชิกใหม่จากเผ่าพันธุ์นับล้าน จึงเตือนลูกหลานของตน ว่าจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่ายุ่งกับสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับเผ่าพันธุ์นี้
ผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 ทั้งสองคน สุดท้ายเลยออกจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างปลอดภัย แถมยังสามารถเก็บกู้แก่นแท้พลังงานได้จำนวนมหาศาล เป็นปริมาณสูงที่สุดในรอบพันปี
“จ้าวเหนือหัวซวนเฟิง เห็นแก่นแท้พลังงานพวกนี้ไหม? คุณจะแจกจ่ายมันอย่างไร?” เฉียนมู่ถามฉินเฟิง
ถึงแม้ว่ามนุษย์สองคนนี้ จะไม่ใช่ผู้ติดตามของฉินเฟิง แต่ที่อีกฝ่ายสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งหมดต้องยกเครดิตให้ฉินเฟิง
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า ด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน ทำให้คนเหล่านี้ไม่กล้าแย่งชิงแก่นแท้พลังงานจากเขา
ฉินเฟิงหันไปมองจ้าวเหนือหัวแต่ละคน ก่อนเอ่ยปากว่า “มนุษย์ทั้งสองคนนี้น่าจะเป็นผู้ติดตามของจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่และจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณใช่หรือไม่?”
ทั้งสองคนพยักหน้า
“ในอดีตที่ผ่านมา พวกคุณแบ่งแก่นแท้พลังงานกันยังไง?” ฉินเฟิงถาม
“การที่สามารถมาถึงที่นี่ได้ เป็นผลมาจากความสามัคคีของทุกคน” จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณเอ่ยขึ้น “ดังนั้นไม่ว่าผู้ติดตามของใครได้มา ครึ่งหนึ่งจะถูกแบ่งปันให้หัวหน้าเขาส่วนอีกครึ่งแบ่งปันให้กับคนอื่นๆอย่างเท่าเทียม”
“ที่แท้ปกติคนที่ได้มากที่สุดจะได้แค่ครึ่งเดียว ยังไงก็ตาม ผมไม่ใช่คนใจกว้าง แก่นแท้พลังงานในครั้งนี้ ผมจะขอรับมันไปแปดส่วนหรือ 80% จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่กับจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณรับไปคนละ 5% ส่วนที่เหลืออีกห้าคน ขอให้แบ่งเท่าๆกัน!”
จ้าวเหนือหัวคนอื่นๆย่อมไม่คิดโต้แย้ง แม้ในใจพวกเขารู้สึกจนปัญญา แต่สถานการณ์ของเผ่ามนุษย์ในครั้งนี้ดีกว่าเดิมมาก และด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฟิง หากไม่พอใจขึ้นมา สามารถสังหารพวกเขาได้ไม่ต่างจากบี้มด ซึ่งที่กล่าวมานี้ได้รับการยืนยันจากการต่อสู้เมื่อครู่แล้ว
แต่ไม่นาน จ้าวเหนือหัวเหล่านี้ก็ค้นพบได้อย่างรวดเร็ว ว่าฉินเฟิงไม่ใช่คนใจกว้างซะที่ไหน อันที่จริงเขาใจกว้างมาเกินไปด้วยซ้ำ!
เพราะตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา แก่นแท้พลังงานที่สามารถรวบรวมมาได้ มันมีปริมาณมหาศาลจริงๆ ต่อให้พวกเขาได้ส่วนแบ่งแค่ 2% ทว่าจำนวนที่ได้รับ มันมากกว่าในช่วงที่ผ่านมาร้อยปีรวมกันเสียอีก
ด้วยจำนวนแก่นแท้พลังงานเหล่านี้ มันมากพอที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พวกเขาก้าวไปอีกขั้น
“ขอบคุณที่พาผมมาในครั้งนี้ แต่ก็อย่างว่า มิติมวลหมู่ดาวรูนยังคงเต็มไปด้วยอันตราย ฉะนั้นขากลับ ขอให้ผมเป็นคนไปส่งเถอะ”
ไม่รอให้คนที่เหลือตอบตกลง ไป๋หลีกวาดมือออกไป แสงสีเงินปกคลุมอีกเก้าคนที่เหลือ ไม่จำเป็นต้องใช้เรือสมบัติใดๆ เธอเทเลพอร์ตข้ามจักรวาล มาปรากฏขึ้นอีกตำแหน่งที่ไม่รู้ว่าห่างจากที่เดิมกี่ปีแสง
หลังจากร่างของทั้งหมดกระพริบถี่ๆรัวๆอยู่หลายครั้ง พวกเขาก็สามารถกลับมายังรอยแยกแห่งหนึ่งของมิติมวลหมู่ดาวรูนที่ใช้สำหรับออกจากมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ในมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่มีพิกัดมิติ ดังนั้นไม่สามารถเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติได้ แต่ตราบใดที่ออกไปจากที่นี่ ไป๋หลีในฐานะจ้าวเหนือหัว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห่งหนใด เธอย่อมสามารถพาพวกเขาไปส่งถึงที่ได้
หลังจากทั้งหมดก้าวออกจากมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วินาทีต่อมา ประตูมิติทั้งสามก็เปิดออก
ไป๋หลีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ประตูนี่ของพันธมิตรมนุษย์ ส่วนประตูนี่ของพันธมิตรองค์กรมืด เชิญไปได้”
เห็นได้ชัดว่าไป๋หลีกำลังอำนวยความสะดวกให้พวกเขา แต่เมื่อทั้งหมดนึกถึงสัตว์ยักษ์มิติตัวนี้ ที่สามารถสร้างประตูมิติไปถึงฐานของพวกเขาเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ เหล่าจ้าวเหนือหัวก็บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวในใจ
“จ้าวเหนือหัวซวนเฟิง จ้าวเหนือหัวไป๋หลี ลาก่อน”
“หวังว่าพวกเราจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันในอนาคต”
“ขอตัว!”
ฝูงชนต่างกล่าวอำลา ก้าวเข้าไปในช่องว่างมิติ
เมื่อคนเหล่านี้จากไป ประตูมิติก็ปิดตาม เหลืออยู่แค่ประตูเดียว
มันคือประตูที่ใช้เดินทางกลับสู่มิติบลูสตาร์
“โฮกกกกก!”
อสูรโบราณเทาเที่ย ส่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราด จากนั้นหดตัวลง กลับไปอยู่ในทะเลแห่งจิตวิญญาณ จากนั้นร่างพลังงานของไป๋หลีและฉินเฟิงเริ่มบีบอัด กลายเป็นรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับตัวตนในฐานะจ้าวเหนือหัว
ด้วยรูปลักษณ์นี้ เกรงว่าคงมีแค่พวกเขาเท่านั้นที่รู้ ว่าตัวเองในตอนนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ช่วงเวลาต่อมา ทั้งสองก้าวเข้าไปในช่องว่างมิติพร้อมกัน ออกจากมิติมวลหมู่ดาวรูน
เมื่อวิสัยทัศน์กลับมาอีกครั้ง ก็พบดาวเคราะห์สีฟ้า ยามมองมัน ช่วยให้เขาและเธอรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
แม้ไม่ได้กลับมาเป็นเดือน แต่ดาวดวงนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
แต่นับจากวันนี้ มันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว!
ฉินเฟิงเหยียดมือออก แก่นแท้พลังงานที่เขาเพิ่งได้รับมา ถูกโปรยลงไป แทรกซึมเข้าสู่ดาวดวงนี้
“ภายในร่างของจ้าวเหนือหัว ต่อให้ตายไปแล้ว ก็จะกลายเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในขณะที่แก่นแท้พลังงาน คือรากฐานที่สามารถช่วยขับหนุนให้ผู้ใช้พลังก้าวขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้”
“ดังนั้น หากแก่นแท้พลังงานถูกฉีดเข้าไปในดาวเคราะห์ดวงใด มันย่อมสามารถช่วยให้ดาวดวงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง ถือกำเนิดขึ้นใหม่ได้”
“หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ ตราบใดที่ยังมีฉันอยู่ มิติบลูสตาร์--
--จะไม่มีวันดับสูญ!”