198 - ธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล
198 - ธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล
“ลี่เฉียง ลุงเฉียนใช้ชีวิตอย่างหรูหราและใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย ในฐานะปรมาจารย์ช่างตีเหล็กของที่นี่ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายของข้าจึงมากมายมหาศาลอย่างยิ่ง!”
เฉียนซูยิ้มให้เอี้ยนลี่เฉียงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า
“ดังนั้นในเมื่อเจ้ารู้หลักธุรกิจที่น่าประทับใจเหตุไฉนเจ้าไม่เสนอธุรกิจที่จะทำเงินอย่างมากมายมหาศาลออกมาให้พวกเราสักหน่อย”
"สำนักงานผู้ว่าการทหารอนุญาตให้ย่านโรงตีเหล็กทำเงินด้วยตัวเองหรือไม่" เอี้ยนลี่เฉียงถามคำถามเฉียนซู
“ตราบใดที่ไม่กระทบการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์หรือละเมิดกฎหมายและวินัยในแง่ของการกระทำผิดทางอาญา ย่านโรงตีเหล็กของเราสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง!”
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มอย่างสดใส
“ข้ามีวิธีหาเงินได้อย่างมากมายในเวลาอันสั้น เพียงแต่ว่าย่านโรงตีเหล็กของเรามีคนจำนวนน้อยเกินไป อีกทั้งสินค้าชนิดนี้ผลิตได้ง่ายดังนั้นพวกเราจึงต้องใช้คนมากมายเพื่อครอบครองตลาด ข้าขอแนะนำว่าพวกเราควรร่วมมือกับตระกูลลู่!”
"มันเป็นวิธีอะไรกันแน่" เฉียนซูถามด้วยความไม่เชื่อ
“ถ้าข้าขายดินในราคาเดียวกับถ่านหิน หรือบางทีอาจจะมากกว่าถ่านหินนิดหน่อย ลุงเฉียนคิดว่าพวกเราจะรวยหรือไม่?”
เฉียนซูตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ลี่เฉียงเจ้าพูดจาเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว หากเราสามารถเปลี่ยนดินให้เป็นเงินจริงๆมันก็ไม่เหมือนกับการที่เราสามารถเปลี่ยนดินให้เป็นทองคำอย่างในตำนานเทพเซียนพูดถึงหรือ…?”
เอี้ยนลี่เฉียงไม่พูดอะไร แต่เขายิ้มในขณะที่เขามองไปที่เฉียนซู
"อะแฮ่ม... อะแฮ่ม... บางทีลุงเฉียนอาจลืมไปว่าข้าได้วิธีการรมควันที่สะดือเพื่อช่วยคนที่จมน้ำในอดีตได้อย่างไร บังเอิญว่าไม่กี่วันมานี้ข้าได้พบกับเซียนคนนั้นอีกครั้ง เขาบอกวิธีขายดินในราคาเท่าถ่านหิน...”
เฉียนซูยิ้มเยาะทันทีเซียนกับตูดข้านี่.
วิธีการที่เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวถึงว่าพวกเขาจะสามารถขายดินให้มีราคาแพงพอๆกับถ่านหินนั้นก็คือเอาเศษถ่านหินมาอัดก้อนและใช้อุปกรณ์เสริมเล็กน้อยอย่างรังผึ้ง(ลิ้นเตา)
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงมาที่ย่านโรงตีเหล็กและเห็นเฉียนซูพูดถึงถ่านหินในโรงเก็บถ่านหิน เขาก็นึกถึงก้อนรังผึ้งขึ้นมาทันที
ในยุคนี้ใครก็ตามที่เผาถ่านจริงๆจะรู้ว่าคนที่ซื้อถ่านล้วนแล้วแต่ชอบซื้อก้อนใหญ่ เนื่องจากเศษถ่านหินไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเผาในเตาแบบดั้งเดิมและติดไฟได้ยาก เศษถ่านหินเหล่านั้นเป็นเหมือนทราย หากใส่ไว้ในเตามากขึ้น ก็มีโอกาสที่เตาจะดับได้ง่ายๆ
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เศษถ่านหินขายได้ยาก เศษถ่านหินเล็กๆ เหล่านั้นจะขายไปพร้อมกับถ่านก้อนใหญ่เมื่อใดก็ตามที่มีคนมาซื้อ
เนื่องจากปริมาณถ่านหินในแคว้นผิงซีมีปริมาณน้อย คุณภาพของถ่านหินที่นำเข้าโดยย่านโรงตีเหล็กจึงแย่ ถ่านหินก้อนเล็กๆ เหล่านั้นที่เผาไหม้ยากของที่นี่จึงมีปริมาณมากมายมหาศาลหลายล้านจิน
เศษถ่านหินที่เผาไหม้ยากนั้นถือเป็นปัญหาของผู้อื่น อย่างไรก็ตามสำหรับเอี้ยนลี่เฉียง เศษถ่านหินเหล่านี้เป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่จำเป็นสำหรับการผลิตก้อนถ่านอัดแท่ง
สูตรดั้งเดิมที่สุดในการทำถ่านอัดแท่งประกอบด้วยส่วนผสมของผงถ่านหิน 80% และดินสีเหลือง(เป็นดินเหนียวที่ผสมกับดินทราย) 20% นอกเหนือจากนี้ยังต้องเติมน้ำและทำแม่พิมพ์ไว้ล่วงหน้า
เมื่อทิ้งถ่านหินไว้พวกมันจึงกลายเป็นของไร้ค่าสามารถหาได้ง่ายใครๆก็สามารถขุดได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้นน้ำก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน
สำหรับแม่พิมพ์โลหะที่ทำเป็นแม่พิมพ์นั้นก็หาได้ไม่ยากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านของเอี้ยนลี่เฉียงหรือค่ายอาวุธ การตีขึ้นรูปโลหะสองชิ้นก็เป็นเรื่องง่าย
เศษถ่านหินและผงถ่านหินมีราคาถูกกว่าถ่านก้อน หลังจากที่ผสมกับดินสีเหลืองเพื่อทำเป็นแท่งแล้ว จะทำให้มันสามารถเผาไหม้ได้ดีกว่าถ่านก้อนจริงๆเสียอีก
ในความเป็นจริง เมื่อพวกมันถูกผลิตขึ้น อย่างน้อยถ่านอัดแท่งแบบรังผึ้งจะขายได้ในราคาที่สูงกว่าถ่านหินเล็กน้อย
แล้วกำไรที่ตามมาก็จะน่าเหลือเชื่อจนพวกเขานับเงินไม่หวาดไม่ไหวเพราะในยุคนี้ยังคงมีความต้องการใช้ถ่านเป็นจำนวนมาก
เอี้ยนลี่เฉียงขอถ่านถ่านหินและกระดานไม้จากเฉียนซูจากนั้นเขาก็วาดพิมพ์เขียวที่ชัดเจนของถ่านก้อน และแม่พิมพ์เหล็กที่ใช้ทำในขณะที่อธิบายเพื่อให้ทั้งคู่ได้ภาพที่ชัดเจน
เฉียนซูและเอี้ยนเต๋อชางไม่เคยเห็นลิ้นเตามาก่อน และพวกเขาจ้องมองที่แผนภาพเอี้ยนลี่เฉียงที่วาดบนกระดานวาดภาพด้วยสีหน้าตกตะลึง
ทั้งสองคนเป็นช่างตีเหล็ก ดังนั้นเตาหลอมจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา ทันทีที่ทั้งคู่เห็นว่าลิ้นเตามีหน้าตาเป็นอย่างไร พวกเขาก็รู้ทันทีว่าความงามนั้นอยู่ที่ไหน
เฉียนซูตบที่ต้นขาของเขาอย่างตื่นเต้น "มหัศจรรย์! มหัศจรรย์จริงๆ! รูในรังผึ้งเหล่านี้จะทำให้อากาศไหลเวียนได้ตามธรรมชาติดังนั้นเปลวไฟจะลุกขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ดับจนกว่าจะหมดเชื้อเพลิง…
ในส่วนก้อนถ่านที่เจ้าวาดก็ดูเหมาะสมต่อให้ไม่ใช้ลิ้นเตาพวกนี้แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาก็สามารถใช้มันได้อย่างง่ายดาย!"
“ใช่แล้ว! เวลาเผาถ่านหรือถ่านในเตาหลอม ถ้าไฟในเตาเผาไม่สว่างพอ ก็ต้องมีคนใช้เหล็กเขี่ยถ่านเพื่อเปิดรูระบายอากาศไว้บ้าง แต่หากว่าเรามีลิ้นเตาแบบนี้ปัญหานี้ก็จะหมดไปทันที!” เอี้ยนเต๋อชางพยักหน้าขณะพูด
ในอดีตเอี้ยนเต๋อชางไม่เคยเชื่อคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงอย่างจริงจังที่บอกว่ามีเทพมาเข้าฝันของเขา แต่ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อจริงๆแล้วว่านั่นอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
เอี้ยนเต๋อชาถามเอี้ยนลี่เฉียงอย่างจริงจังว่า
“ลี่เฉียง เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร?”
“มันเรียกว่า…” เอี้ยนลี่เฉียงพูดเพียงเจ้านี้ก็ถูกหยุดไว้โดยเฉียนซู
“เดี๋ยวก่อน ข้าขอเดา…”
เขาศึกษาแผนภาพที่เอี้ยนลี่เฉียงวาดไว้ด้วยสีหน้าจริงจังที่ด้านข้าง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนที่จะคลายออกอีกครั้ง
“มันถูกเรียกว่ารากบัวหรือไม่ ดูช่องระบายอากาศพวกนี้สิมันไม่แตกต่างจากรากบัวแม้แต่น้อย?”
รากบัว? เอี้ยนลี่เฉียงกระพริบตา จากนั้นมองดูก้อนรังผึ้งที่เขาวาดอีกครั้งดูแล้วมันก็เหมือนกับรากบัวจริงๆ
“ข้าพูดถูกหรือเปล่า?”
“แท้จริงแล้ว มันถูกเรียกว่าก้อนรากบัว! ทักษะการสังเกตที่ยอดเยี่ยมของลุงเฉียนทำให้ลี่เฉียงประทับใจมาก!” เอี้ยนลี่เฉียงอุทานอย่างจริงจังและยกนิ้วให้เฉียนซู
“แน่นอน สิ่งที่ลี่เฉียงเรียนรู้จากเทพในฝันของเจ้าต้องเป็นสิ่งที่วิเศษ…!” เฉียนซูลูบเคราของเขาและดูเหมือนจะค่อนข้างภูมิใจในตัวเอง
“ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ลุงเฉียน”
“ถ้าผงถ่านพวกนั้นสามารถเผาไหม้ได้จริงๆ ธุรกิจนี้จะทำเงินให้พวกเราอย่างมากมายมหาศาลไม่รู้จบ!” การแสดงออกบนใบหน้าของเฉียนซูค่อยๆจริงจังขึ้นเรื่อยๆและกล่าวว่า
“ธุรกิจนี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่โรงตีเหล็กของเราจะสามารถทำได้เพียงลำพัง นอกจากนี้ความคิดของเจ้าจะสูญเปล่าหากว่าเราครอบครองธุรกิจนี้เพียงผู้เดียว
มีคนที่นี่มากมายเกินไปและกำลังคนของเราก็ไม่เพียงพอ ท้ายที่สุดแล้วของสิ่งนี้จะถูกลอกเลียนแบบอย่างรวดเร็วและจะทำให้เราไม่สามารถทำเงินได้อีก
เรื่องความลับธุรกิจนี้เราไม่สามารถปิดบังไว้ได้เพียงแต่ว่าเราต้องทำให้ยิ่งใหญ่มากกว่าคนอื่นนั่นจะทำให้เรากลายเป็นเจ้าในธุรกิจนี้แต่เพียงผู้เดียว…”
เมื่อพูดถึงจุดนี้เขาก็พยักหน้าอย่างยิ้มแย้มแล้วบอกว่า
"เจ้าหนูเจ้านี้เป็นคนหัวไวจริงๆ ตกลงพรุ่งนี้เราจะไปดำเนินการที่ตระกูลลู่ด้วยกัน...”
เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะ “ขอบคุณลุงเฉียน แต่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการยืมชื่อและชื่อเสียงของท่านเท่านั้น ไม่ว่าการติดต่อธุรกิจของพวกเราหลังจากที่แบ่งปันกับตระกูลลู่เสร็จและพวกเราจะได้ครอบครองหุ้นกี่ส่วน
หุ้นของพวกเราที่จะได้รับมามันจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ท่านครึ่งหนึ่ง ข้าและท่านพ่อจะรับส่วนที่เหลือไป หลังจากนั้นธุรกิจนี้จะทำให้เรามีเงินใช้ไปอีกชั่วนิรันดร์”
“ชั่วนิรันดร์อะไรอีกไม่กี่ปีข้าก็ลงไปอยู่ในหลุมแล้ว” เฉียนซูหัวเราะ
“พวกเจ้าพูดเรื่องอะไรกันข้าฟังไม่เข้าใจ…” เอี้ยนเต๋อชางมองเฉียนซูจากด้านข้าง จากนั้นมองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยสีหน้าสับสน ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่ในสมอง
“ลี่เฉียงลูกชายท่านกำลังจะกลายเป็นเขยของตระกูลลู่แล้ว ฮ่าๆๆ…” เฉียนซูอธิบาย