ตอนที่ 209 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (5)
ตอนที่ 209 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (5)
แผลที่ขาถูกเปิดออกอีกครั้ง เผยให้เห็นเลือดที่หยดลงอย่างช้า ๆ ตอนนี้ไนเรลขึ้นมาถึงระดับ สีม่วงแล้ว เลือดของเขาจึงเข้มข้นและหนาแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาลกว่าเดินหลายเท่า แต่ละหยดมันหนักราวกับปรอท เมื่อหยดลงที่พื้นหิมะเบื้องล่างก็จมลงไปในทันที
ไนเรลไม่รอช้ากระดกขวดที่เต็มไปด้วยโลหิตแห่งชีวิตเข้าไป หมดหนึ่งขวดไนเรลก็หยิบอีกขวดออกมา...
หลังจากดื่มโลหิตแห่งชีวิตที่เขาเก็บสะสมจนหมดในครั้งเดียว ขาที่ขาดของเขาก็เริ่มแสดงสัญญาณการงอกออกมาใหม่
“อ๊าก...!”
ไนเรลไม่คิดว่ามันจะเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนที่เปิดปากแผลเมื่อสักครู่หรือในครั้งที่ขาของเขาถูกกัดขาดซะอีก ไนเรลกัดฟันแน่นใบหน้าและแผ่นหลังมีเม็ดเหงื่อผุดออกมาอย่างต่อเนื่อง กระดูกถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับที่กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ขาของเขางอกออกมา หลังจากผ่านไปสักพักชายหนุ่มก็ปรับตัวเข้ากับความเจ็บปวดได้
หมอแฮรี่มองดูกระบวนการนี้อย่างด้วยสองตาที่ไม่กล้ากะพริบเพราะกลัวจะพลาดบางอย่างไป
“เหลือเชื่อสิ่งที่ดื่มคือโลหิตแห่งชีวิตใช่ไหม มันคือสุดยอดยาปาฏิหาริย์ ถ้าแบบนี้เราสามารถรักษาทหารที่พิการให้อวัยวะในร่างกายที่เสียไปกลับคืนมาได้ มันจะช่วยชีวิตคนได้อีกมาก” หมอแฮรี่พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
“มันไม่ง่ายแบบนั้น โลหิตแห่งชีวิตคือสิ่งล้ำค่าจริง ๆ แต่คุณคิดว่าจะให้ท่านไนเรลกรีดเลือดตัวเองให้คนอื่นดื่มราวกับน้ำเปล่าอย่างนั้นเหรอ” ชารอนที่อยู่ด้านข้างดับฝันของหมอแฮรี่ทันที
แฮรี่ได้ยินดังนั้นก็เงียบไปเช่นกัน ของล้ำค่ามันถูกเรียกแบบนี้เพราะมันล้ำค่า แล้วจะมีจำนวนมากให้พอกับทุกคนได้ยังไง
1 ชั่วโมงผ่านไป ขาของไนเรลงอกออกมากลับมาสมบูรณ์แล้ว ผิวของขาใหม่ของไนเรลนั้นเรียบเนียนราวกับผิวเด็กทารกแรกเกิน มันแดงเล็กน้อยแต่นอกนั้นก็ปกติทุกอย่าง เขาลองขยับมันไปมาได้อย่างอิสระ
“ขาที่งอกออกมาใหม่มันดีกว่าขาที่สร้างจากเกราะดำจริง ๆ ด้วย” ไนเรลรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาสมบูรณ์แบบแล้ว
ตูม!!!
ในตอนนั้นเองเสียงการต่อสู้ก็มาถึงจุดเดือดแล้วเช่นกัน
......
“ไปรวมกันที่บนกำแพง พยายามอย่าตกอยู่ในวงล้อม...” ไนเรลพูดจบก็บินออกไปทันที
“เราจะเอาไงต่อ”
“ทำตามที่ท่านไนเรลบอก เราไปร่วมกับคนอื่นก่อนก็แล้วกัน”
ไนเรลบินมาที่กำแพงจุดที่องค์ชายใหญ่ผู้แต่งตัวด้วยชุดเกราะเต็มยศยืนอยู่ ด้านหลังมีองค์รักยักษ์เถื่อนรักษาตำแหน่งอยู่ด้านหลัง ยังมียักษ์เถื่อนชราข้ารับใช้ยืนอยู่ด้วยเช่นกัน
“เจ้ามาแล้ว เรานึกว่าเจ้าจะไม่ทำตามข้อตกลง”
“ฉันติดธุรนิดหน่อย ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”
“พวกมันส่งแต่ซอมบี้ระดับต่ำเข้ามา ยังไม่มีซอมบี้สติปัญญาสักตัวโผล่เข้ามา พวกเรากำลังคนหาพวกมันอยู่” องค์ชายใหญ่เงยหน้ามองบนท้องฟ้า
นอกจากซอมบี้ปีกและลูกธนูที่ยิงจากเครื่องยิงธนู บนนั้นยังมีสัตว์กลายพันธุ์อย่างค้างคาวยักษ์และนกหน้าตาแปลกประหลาดซึ่งเป็นพาหนะของยักษ์เถื่อนกำลังบินวนไปรอบ ๆ สนามรบเพื่อหาซอมบี้สติปัญญาและขณะเดียวกันก็ไล่ฆ่าซอมบี้ด้วย
“ทหารของนายมีเท่าไหร่”
“มีไม่พอให้พวกมันฆ่าอย่างแน่นอน อีกอย่างจำนวนที่ว่าห้าร้อยลานตัวนั้นเป็นแค่การประเมินคร่าวๆ ไม่แน่ซอมบี้พวกนี้อาจจะมีมากกว่านี้อีกสองถึงสามเท่า” องค์ชายใหญ่กล่าว
“ส่งออกไปแล้วใช่ไหม” องค์ชายใหญ่หันไปถามกับข้ารับใช้
“ส่วนใหญ่ออกไปรอแล้วพะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“เรามาเริ่มกันเลยไหม”
“เจ้าแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้”
ไนเรลพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
องค์ชายใหญ่สั่งให้คนของตนเองเอาลูกกุญแจสองแฉกออกมาส่งให้กับกลุ่มยักษ์เถื่อนระดับ 5 ทั้ง 5 ตน ยักษ์เถื่อนทั้ง 5 ตนกระโดดลงจากกำแพงฝ่าออกไปจากฐานแห่งนี้ทันทีพร้อมกับกุญแจดอกนั้น
อ๊ากกกก!!!
ซอมบี้ทั้งหมดที่เห็นกลุ่มยักษ์เถื่อนวิ่งไปพร้อมกับกุญแจฝ่าออกไปพวกมันก็ร้องคำรามและพยายามจะตามออกไป แต่ก็ไม่ทัน เพราะความเร็วของทั้ง 5 ตนนั้นมันเร็วกว่าซอมบี้ 2 เท่า แม้แต่ซอมบี้เงาก็ทำได้เพียงรักษาระยะไว้เท่านั้น
“ทหารทั้งหมดของเราจงฆ่าซอมบี้ด้วยทุกสิ่งที่มีอย่าให้พวกมันออกไปจากที่นี่ได้” องค์ชายยักษ์เถื่อนหยิบอาวุธขึ้นมาชี้ไปที่ซอมบี้จากนั้นก็กล่าวด้วยเสียงที่ดังไปทั้งสนามรบ
สิ้นเสียงกล่าวขององค์ชายใหญ่ กองทัพแรดเกราะเหล็กก็วิ่งออกมาจากฐานเข้าบดขยี้ซอมบี้รอบ ๆ ฐาน เครื่องยิงหน้าไม้ก็ยิงอย่างเต็มที่ กองกำลังบนท้องฟ้าของพวกยักษ์เถื่อนก็เข้าเข่นฆ่าศัตรูทั้งหมด พวกยักษ์เถื่อนที่สู้ในระยะประชิดก็ลงมือแล้วเช่นกัน
การฆ่าดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้ที่นี่ไม่ใส่สนามรบที่ตัดสินอีกแล้วเพราะห่างออกไปยังจุดที่ยักษ์เถื่อนเอากุญแจหนีออกไปนั้นกลับถูกซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ถึง 20 ตัวไล่ฆ่า
ไนเรลและองค์ชายใหญ่ต่างหันมามองหน้ากัน ตอนนี้ได้เวลาที่ทั้งสองต้องลงมือแล้ว
พวกเขาตามกลุ่มยักษ์เถื่อนทั้ง 5 ที่นำกุญแจออกไปในตอนแรกด้านหลังของทั้ง 5 ตนนั้นมีซอมบี้จำนวนมากไล่ตามมาอยู่ ไนเรลลงมือทันทีโดยยังไม่ได้ใช้ร่างอมนุษย์แต่เลือกจะใช้ใบมีดวารีในการสังหารพวกมัน
ซอมบี้เงาที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วตัวหนึ่งกำลังไล่ตามหลังทหารยักษ์เถื่อน ดูเหมือนเจ้าตัวนี้จะเป็นระดับ 5 ต่ก่อนที่มันจะโจมตีได้ก็โดนใบมีดวารีของไนเรลผ่าออกเป็นสองส่วนดัง ฉึบ! ร่างแยกออกจากกันด้วยความเร็วของซอมบี้เงาร่างที่ถูกผ่าครึ่งก็กระแทกเข้ากับต้นไม้กลายเป็นแมลงหน้ารถไป
ในตอนนั้นเองเงาที่ไล่ตามอยู่ทางขวามือก็คือกลุ่มของซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ทั้ง 10 ตัวต่างสังเกตเห็นไนเรล
“มนุษย์ชั้นสูงพวกเสองตัวไป” ซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ที่เข้าร่วมด้วยชี้ไปทางไนเรล ซอมบี้สติปัญญาอีก 3 ตัวก็แยกออกมาจากกลุ่มเข้าปะทะกับไนเรล
“เหยื่อของเราใช้ได้ผล แต่จักรพรรดิซอมบี้ยังไม่ออกมา” องค์ชายใหญ่ที่มีปีกเพลิงอยู่ด้านหลังบินตามไนเรลมา
‘ระดับขององค์ชายใหญ่คือระดับ 6 ขั้นต้นสินะพลังงานในเซลล์มากกว่าฉันนิดหน่อย ถ้าเป็นมนุษย์ชั้นสูงคนอื่นคงไม่สามารถทนเปลวไฟที่ร้อนแรงซึ่งปลดปล่อยออกมาจากปีกเพลิงได้อย่างแน่นอน’ ไนเรลคิดในใจตัวเอง
“พวกเจ้าจัดการทั้งสามตัวนั้นและรีบตามเรามา” องค์ชายใหญ่สั่งให้องค์รักของตนเองออกไปจัดการ
ไนเรลเองก็ไม่ได้หยุดสู้กับซอมบี้สติปัญญาทั้งสามตัว
“จักรพรรดิซอมบี้ไม่ยอมทิ้งโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอน แม้มันจะซ่อนตัว แต่ถ้าเราจัดการซอมบี้สติปัญญาตัวอื่น ๆ จนหมดยังไงมันก็ต้องลงมือ”
ที่ไนเรลเลือกแผนนี้เพราะเขาสามารถกำหนดสนามรบเองได้ สนามรบที่ซอมบี้กลายพันธุ์พวกนั้นจะไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะการเคลื่อนที่ช้าของพวกมัน ก็จะเหลือแค่ซอมบี้เงาและซอมบี้ปีกบางส่วนที่ไล่ตามทัน ซึ่งมันก็ไม่เป็นภัยคุกคามกับพวกเขาสักเท่าไหร่
เพราะความน่ากลัวที่แท้จริงของซอมบี้คือฝูงซอมบี้ แต่เมื่อไร้ฝูงพวกมันก็ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป
ส่วนซอมบี้สติปัญญาที่เหลือพวกเขาก็จะฆ่าพวกมันทั้งหมดอยู่แล้ว และตามด้วยฆ่าจักรพรรดิซอมบี้
“ฉันจัดการสองตัวทางขวา” ไนเรลบินตรงเข้าไปจัดการสองตัวทางขวาทันที
“ฝ่าบาทข้ารับใช้ชราผู้นี้จะจัดการตัวนั้นเองพ่ะย่ะค่ะ” ยักษ์เถื่อนชราข้ารับใช้ตนนั้นกล่าวออกมา
“ฝากด้วย” องค์ชายใหญ่พยักหน้าและเข้าจัดการซอมบี้สติปัญญาอีกสองตัว แผดเผาพวกมันทั้งสองตัวไม่มีเหลือ
......
หลังจากการไล่ล่าถึง 2 ชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงเทือกเขาขนาดใหญ่ ซึ่งมีแทนบูชาอยู่เช่นกัน ตอนนี้สถานการณ์กลับเริ่มลำบากมากขึ้นเพราะซอมบี้สติปัญญามีมากเกินไป ซอมบี้สติปัญญาคือระดับสูงของซอมบี้ทั้งหมด มันทั้งรวดเราไม่น้อยไปกว่ายักษ์เถื่อนทั้ง 5 ตนที่เอากุญแจออกมา ซึ่งตอนนี้เหลือกันอยู่แค่ 3 ตนเท่านั้น
ยังดีที่ไนเรลและองค์ชายใหญ่ต่างตามมาทันและช่วยทั้งสามไว้ได้ทัน แต่ในตอนนั้นเองกลุ่มของซอมบี้สติปัญญาก็เข้ามาขวางทุกเส้นทางไว้แล้ว พวกเขาขึ้นไปอยู่บนแท่นบูชา
ด้านหลังยังเป็นซอมบี้เงาและซอมบี้ปีกอีก 10,000 ตัว ทุกตัวนั้นดูต่างออกไปจากฝูงที่โจมตีที่ฐานเป็นอย่างมาก พวกมันต่าง
‘พวกมันทุกตัวคือระดับ 5 ขั้นต้น’ ไนเรลหรี่ตามองพวกมัน
ฝูงซอมบี้แหวกทางออกเผยให้เห็นบัลลังก์ทองคำที่สร้างจากกระดูกและชุบด้วยทองคำโดยมีชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ ในมือของมันถือกล่องที่ดูเก่าแก่โบราณแต่ละด้านใส่มีลูกกุญแจใส่ไว้ในแต่ละช่องอยู่ 4 ด้าน ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์กระดูกไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจักรพรรดิซอมบี้แห่งมิสทาล
ใบหน้าขาวซีด ดวงตาและริมฝีปากสีแดงสด เส้นผมที่ยืดยาวจนน่าขนลุก รูปร่างสูงโปร่ง เล็บทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทยังมีเลือดสีแดงของโลหิตที่หยดลงพื้นให้เห็นอยู่บ้างเล็กน้อย ตามตัวประดับไปด้วยทองคำจำนวนมาก ราวกับทั้งชุดสร้างมาจากทองคำ ที่เท้ามีหัวใจขนาดใหญ่ของสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 ที่คงสดอยู่ เลือดไหลไปทั่วเบื้องล่างบัลลังก์กระดูก
บัลลังก์กระดูกถูกแบกมาหยุดอยู่ตรงทางขึ้นแท่นบูชาบนเทือกเขา ซอมบี้สติปัญญาตัวอื่น ๆ ต่างหมอบกับพื้นดินทันที ไม่มีตัวไหนกล้าเงยหน้าแม้แต่น้อย จักรพรรดิซอมบี้เก้าเดินลงจากบัลลังก์กระดูกหมอกความตายแผ่ขยายออกมาจากให้เท้าของมัน
ต้นไม้และพืชกลายพันธุ์ทั้งหมดต่างเหี่ยวเฉาตายกลายเป็นผุยผงทันที
“เจ้าเผ่าพันธุ์ที่ถูกกักขัง เทพไททัน กล้ามากที่ขโมยกุญแจของข้าไป วันนี้ข้าจะกลืนกินเจ้าและเผ่าของเจ้าซะ” จักรพรรดิซอมบี้กล่าวออกมา น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความเย็นชาและน่าขนลุกในเวลาเดียวกัน พื้นป่าทั้งหมดต่างสะท้อนเสียงของจักรพรรดิซอมบี้ไปมา