Ep.1078 - กลายเป็นคนพิการ
Ep.1078 - กลายเป็นคนพิการ
ด้วยคำพูดนี้ของจ้าวเหนือหัวอันผิง ชะตากรรมของเส้าตงเฟิงได้ถูกตัดสินแล้ว
ในความคิดของอันผิง ขอแค่ฉินเฟิงไม่สังหารเส้าตงเฟิง จะทรมานถลกเนื้อหนัง หรือสร้างบาดแผลบางอย่างที่ไม่สามารถลบออกได้ก็แล้วแต่เลย ตราบใดที่เส้าตงเฟิงยังมีชีวิตอยู่ บุญคุณที่อีกฝ่ายเคยช่วยชีวิตเขา เป็นอันหักลบกลบหนี้ต่อกัน
แต่เกรงว่าการเลือกหนทางนี้ เส้าตงเฟิงจะไม่รู้สึกขอบคุณอันผิง ตรงกันข้ามยังรู้สึกแค้นเคือง แต่อันผิงไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว
ก็เหมือนกับที่เขาไม่สนไม่แคร์สายตาของคนอื่น เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สู้กับฉินเฟิงอีกใครจะทำไม ความแค้นของเส้าตงเฟิงนับเป็นสิ่งใด? ทั้งหมดก็แค่สายตาจากคนนอก
ซึ่งสำหรับคนที่ปีนป่ายมาถึงขอบเขตจ้าวเหนือหัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสายตาของคนนอกอีกต่อไป
มุมปากฉินเฟิงยกยิ้มเย็นชา ช่วงเวลาถัดมา เขาเหยียดมือออกไป เส้าตงเฟิงถูกกระชากเข้ามาโดยแรงดึงดูดมหาศาล
เส้าตงเฟิงพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต แต่เขาจะสามารถต่อต้านฉินเฟิงในตอนนี้ได้อย่างไร?
พริบตาเดียว เส้าตงเฟิงก็ถูกลากมาใกล้ฉินเฟิง
“ทักษะลับกลืนดารา!”
เส้าตงเฟิงถูกเทคนิคปลดปล่อยแรงดูดของกลืนดาราจากระยะใกล้ ดารากำลังภายในในตันเถียนของเขา เกิดกระแสไหลย้อนกลับทันที กำลังภายในไหลออกผ่านช่องท้อง ราวกับว่ามีรูขนาดใหญ่ถูกเจาะจากภายนอกตันเถียน
ยังไม่พอ กระบวนการกำลังภายในไหลย้อนกลับนี้ ยังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อเส้นลมปราณของเขา
“อ๊ากกกกก!”
เส้าตงเฟิงอ้าปากด้วยความเจ็บปวด กรีดร้องลั่น
คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าฉินเฟิงใช้เทคนิคใด แต่เพียงแค่มอง ขนของพวกเขาลุกชูชัน รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
จากนั้นไม่นาน เหล่าผู้ใช้พลังหรือกระทั่งจ้าวเหนือหัว ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเส้าตงเฟิง
ความผิดปกตินี้ มิใช่ว่าร่างกายของเส้าตงเฟิงจะได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ตรงกันข้าม มันเกิดขึ้นจากภายใน เลเวลของเส้าตงเฟิงกำลังลดหลั่นลงอย่างต่อเนื่อง
จากเลเวล SSS ลงมาเป็น SS จากนั้นเหลือแค่ S …
กลิ่นอายความแข็งแกร่งลดทอนลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาหยุดที่ B
แต่กำลังภายในของเส้าตงเฟิง บัดนี้ได้หายไปแล้ว มันว่างเปล่าแม้แต่ตันเถียนที่ถูกทำลายโดยกระบวนการไหลย้อนกลับ ยังแหลกสลายอย่างสิ้นเชิง
เหตุที่เขายังสามารถรักษาเลเวลอยู่ที่ B เอาไว้ได้ เป็นเพราะเส้าตงเฟิงยังคงมีความแข็งแกร่งทางกายภาพในเลเวล SSS แม้เส้นลมปราณจะถูกทำลาย แต่ร่างกายยังคงอยู่ เมื่อหักลบกันจึงมาหยุดที่เลเวล B
ทว่าความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ ยังไม่มากพอที่จะหายใจในอวกาศได้ หากปล่อยให้อยู่ภายใต้ผลกระทบของพลังงานอวกาศที่กำลังอาละวาดอย่างรุนแรง เขาต้องตายอย่างแน่นอน
“เก็บชีวิตสุนัขของแกเอาไว้เถอะ!”
นี่คือสิ่งที่ฉินเฟิงสัญญาไว้กับจ้าวเหนือหัวอันผิง
ฝ่ามือของเขาปลดปล่อยโล่ปราณกำลังภายในออกมา ห่อหุ้มเส้าตงเฟิงไว้ จากนั้นเหวี่ยงอย่างแรง โยนเส้าตงเฟิงไปหามือใหญ่ของอันผิง
อันผิงมองฉินเฟิงอย่างลึกล้ำ ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมายของอันผิงไปมาก เกรงว่านับจากนี้ เส้าตงเฟิงจะไม่สามารถกลับไปยังเลเวล SSS ได้อีกเลยตลอดชีวิต
ชนิดที่ว่านับแต่นี้ไป เขาจะกลายเป็นคนพิการ กลายเป็นผู้ใช้พลังระดับล่างที่อยู่ใต้เลเวล SSS นับหมื่นคนในห้วงจักรวาล และต่อให้ยังมีเลเวลอยู่ที่ B แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเส้าตงเฟิง เกรงว่าเขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เพราะความแข็งแกร่งยิ่งน้อย ความทะเยอทะยานก็จะยิ่งลดลง
อันผิงกวาดพลังสมาธิออกไปอีกครั้ง “ระหว่างเจ้ากับฉัน หนี้แค้นเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน!”
แม้อันผิงจะวางกับดักเพียงครั้งเดียว แต่กับดักนั้นสร้างผลกระทบต่อฉินเฟิงอย่างใหญ่หลวง เป็นเพราะแผนการของอันผิง ทำให้ฉินเฟิงต้องออกจากพันธมิตรมนุษย์
แต่ฉินเฟิงรู้ดี ว่าคนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์พูด
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า ฉินเฟิงได้แก้แค้น เปลี่ยนเส้าตงเฟิงให้กลายเป็นพิการไปแล้ว แถมก่อนหน้านี้ยังซัดอันผิงจนปลิวไปไกล น่ากลัวว่านับจากนี้ชื่อเสียงในฐานะจ้าวเหนือหัวอันผิง จะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ปัจจุบันไม่ว่าฝ่ายไหนต่างก็ได้รับความสูญเสีย ดังนั้นเรื่องควรจะจบลงเพียงเท่านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหานี้คลี่คลายลงแล้ว นั่นหมายความว่า นับแต่วันนี้ไป ฉินเฟิงจะสามารถเดินทางไปยังพันธมิตรมนุษย์ได้อย่างอิสระ ดำเนินการใหญ่โตตามแผนที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องจ้าวเหนือหัวอีกต่อไป
ช่วงเวลานี้ ตัวตนระดับจ้าวเหนือหัวไม่นับเป็นภัยคุกคามเขาอีกต่อไป
“หนี้แค้นเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน!” ฉินเฟิงตอบอันผิงผ่านพลังสมาธิ ทั้งยังจงใจแบ่งพลังสมาธิส่วนหนึ่ง โถมกดลงบนร่างของจ้าวเก๋อ
จ้าวเก๋อแทบทนไม่ไหว สองขาสั่นระริกจนเกือบจะคุกเข่า แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาคือเปรียบเสมือนตัวแทนที่เป็นหน้าเป็นตาของจ้าวเหนือหัวอันผิง
ช่วงเวลานี้ จ้าวเก๋อกำลังได้รับแรงกดดันมหาศาล
จ้าวเหนือหัวอันผิงคล้ายตระหนักได้ถึงสถานการณ์นี้ เอ่ยปากทันที
“พวกเราแยกย้าย!”
อันผิงรับร่างของเส้าตงเฟิง กรีดมือครั้งเดียว รอยแยกมิติปรากฏขึ้น เปิดทางให้ผู้ใช้พลังทั้งหมดในที่นี้จากไป
ฉินเฟิงไม่ได้หยุดเขา จ้าวเก๋อเป็นเพียงนักสู้ที่ต้องทำตามคำสั่ง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสังหารอีกฝ่าย
แต่ภัยคุกคามเช่นนี้ อย่างน้อยต้องข่มขู่ให้รู้จักหลาบจำเสียบ้าง
--ไม่อย่างนั้นความโกรธที่โดนกระทำในตอนแรกคงค้างคาไม่เลือนหายไป
ณ เวลานี้ จ้าวเก๋อและผู้ใช้พลังคนอื่นๆที่พยายามจับไป๋หลี เมื่อได้ยินคำสั่งของอันผิง พวกเขารู้สึกดั่งได้รับคำอภัยโทษ ล่าถอยจากไป
อันผิงก็ไม่คิดรั้งอยู่ต่อ หลังจากฉีกมิติแล้วก็เดินหายเข้าไปทันที
ท่ามกลางอวกาศ เหลือเพียงจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณเท่านั้นที่ยังคงอยู่ เขากล่าวผ่านพลังสมาธิว่า “ฉินเฟิง เจ้าสนใจมอบสัตว์ในพันธสัญญาให้ฉันหรือไม่? ถ้าเจ้าตกลง ฉันยินดีโอนมิติระดับสูง 10 แห่งเป็นการแลกเปลี่ยน!”
สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไปทันที ตอบไปตามตรง “เธอเป็นคนรักของผม!”
ยักษ์วิญญาณนิ่งงันไปเล็กน้อย แต่เรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะไป๋หลีในร่างมนุษย์ เธองดงามมากจริงๆ และถึงแม้ว่าพวกครึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่จะเข้าร่วมกับองค์กรมืด แต่ก็มีหลายตนที่ชอบความสงบสุข เข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์ และประเภทหลังที่กล่าวมา คือทายาทที่เกิดจากมนุษย์กับสัตว์ร้าย
ดังนั้นคำตอบนี้ของฉินเฟิง ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ท่ามกลางมิตินับไม่ถ้วน
“อย่างนั้นหรือ .. ช่างน่าเสียดาย!”
แต่ฉินเฟิงไม่คิดว่ามันน่าเสียดายเลย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณจะสนใจไป๋หลีเป็นอย่างมาก สมองของเขาหมุนเร็วจี๋ ก่อนฉุกคิดอะไรบางอย่างได้แล้วกล่าวว่า “แม้ตอนนี้เจ้าจะแข็งแกร่ง แกร่งพอที่จะสั่นคลอนจ้าวเหนือหัวได้ แต่อย่างไรจำเป็นต้องได้รับการยกระดับ ซึ่งการก้าวสู่จ้าวเหนือหัวจำเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษ แต่เจ้าทำให้อันผิงขุ่นเคือง เกรงว่าจะไม่ได้รับโอกาสนั้น หากปล่อยให้ความแข็งแกร่งของเจ้าหยุดลงเท่านี้ มันคงไม่ดี ฉะนั้นถ้าเจ้ายอมมอบสัตว์พันธสัญญาตัวนี้ ฉันจะช่วย--”
“คุณไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้แทนผม!” พลังสมาธิของฉินเฟิงตอบกลับด้วยความเย็นชาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้เขาจะไม่รู้ว่าตอนนี้มิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มันอยู่ที่ไหน แต่เฉียนมู่ให้สัญญาแล้วว่าจะพาเขาไป ดังนั้นไม่จำเป็นต้องหวังพึ่งยักษ์วิญญาณหรือคนจากพันธมิตรมนุษย์ก็ได้
เอาจริงๆการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ของยักษ์วิญญาณ สำหรับคนอื่นๆแล้ว มันน่าสนใจมาก แต่สำหรับฉินเฟิง มันไม่มีค่าใด
แล้วอีกอย่าง ฉินเฟิงไม่ชอบที่ยักษ์วิญญาณคิดว่าไป๋หลีเป็นสินค้าสามารถแลกเปลี่ยนได้
“ไปกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว
ไป๋หลีกรีดนิ้วเล็กน้อย ช่องว่างมิติโผล่ขึ้นมา ฉินเฟิงโอบเอวเธอ กระโจนเข้าสู่ช่องว่างมิติ หายวับไป
จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณเมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของเขาไม่น่าดูเล็กน้อย ดวงตาหรี่แคบลง คล้ายกำลังพิจารณาข้อดีข้อเสีย แต่สุดท้ายก็ต้องส่ายหัว
ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ไม่ธรรมดาจริงๆ หากเป็นคนอื่นได้รับสัตว์พันธสัญญาเช่นนี้มาครอบครอง แล้วตอบปฏิเสธเขา ยักษ์วิญญาณคงไม่ลังเลเลยที่จะใช้พลังกดดันอีกฝ่ายให้ยกเลิกพันธสัญญา
แต่ก็นั่นล่ะนะ ในยุคสมัยแบบนี้ ผู้ใดแข็งแกร่ง ผู้นั้นย่อมสามารถปฏิเสธผู้อื่น คิดสิ่งใดก็สามารถกระทำการตามอำเภอใจได้!