ตอนที่แล้วEp.1076 - ลงมือด้วยตัวเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1078 - กลายเป็นคนพิการ

Ep.1077 - เส้าตงเฟิงถูกทิ้ง


Ep.1077 - เส้าตงเฟิงถูกทิ้ง

อำนาจทรงพลานุภาพของทั้งสองระเบิดออกมา ผู้ใช้พลังที่ลอยอยู่เบื้องล่างฉินเฟิงหวาดผวาตกใจ หากคิดถอยมันก็สายเกินไปแล้ว!

แต่โชคยังดี ที่เบื้องหลังพวกเขาคือจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ

ยักษ์วิญญาณไม่รอช้า ออกหน้าปกป้องพวกเขาเป็นครั้งที่สอง โอบฝ่ามือปกคลุมผู้ใช้พลังเหล่านั้นเอาไว้

และเนื่องจากฝ่ามือนี้โปร่งแสง ทุกคนจึงสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน

ร่างเล็กจ้อยของฉินเฟิง เมื่อเทียบกับจ้าวเหนือหัวอันผิงที่สูงถึง 100,000 เมตรแล้ว ไม่ต่างจากเม็ดฝุ่น

ทว่าเม็ดฝุ่นนี้ ปัจจุบันกำลังลุกโชติช่วง!

วินาทีต่อมา พลังงานอันทรงพลานุภาพแผ่ขยายไปทั่วทั้งจักรวาล

พลังงานกวาดกระจาย กระเพื่อมไกลออกไปเป็นระลอกคลื่น

ตูมมมม!

วิญญาณของจ้าวเหนือหัวผุดพรายขึ้นเหนือมีดกษัตริย์คราม ปะทะอย่างรุนแรงเข้ากับฝ่ามือของอันผิง สุดท้ายมีชัยเหนือกว่า สามารถรุกคืบไปถึงร่างพลังงานของอันผิง

“ระวัง!”  เห็นถึงสถานการณ์นี้ จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณร้องเตือนทันที

เพราะสิ่งที่อยู่ในมือของฉินเฟิงคือเหล็กตัดดารา ขณะที่อีกสามเดือนต่อจากนี้ อันผิงจะต้องเดินทางไปยังมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากไม่ได้รับบาดเจ็บจะเป็นการดีกว่า

เพียงแต่การที่พลังสมาธิของยักษ์วิญญาณร้องตะโกนออกมาเช่นนั้น เท่ากับว่าเขาได้ยอมรับในตัวฉินเฟิงแล้ว ว่ามีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสั่นคลอนจ้าวเหนือหัว!

เปรี๊ยะ!

ผลึกคริสตัลผุดออกมาจากร่างของอันผิง ผลึกนี้มิใช่อะไร แต่เป็นโล่ปราณกำลังภายใน

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น มหากาพย์วิญญาณสะบั้นฟันลงตามมาติดๆ ร่างมหึมาของอันผิง กระเด็นถอยหลังทันที ปลิวละลิ่วหลายหมื่นเมตรไกลออกไปในอวกาศใช้เวลาสักพักเลยกว่าพลังทำลายล้างนี้จะหายไป

ช่วงเวลานี้ ความเงียบงันปกคลุมไปทั้งจักรวาล ผู้คนที่กำลังรับชมรู้สึกลมหายใจติดขัด

… จ้าวเหนือหัวอันผิงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถูกโจมตีจนปลิวหายไป?

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ยาก

ที่ฉินเฟิงทำเช่นนี้ได้ มันคงเริ่มมาจากเมื่อครั้งอสูรโลหิตได้รับบาดเจ็บ ความแข็งแกร่งลดทอนลงจากในอดีต ช่วงเวลานั้นฉินเฟิงสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เรียกว่ามีความสามารถในการคุกคามจ้าวเหนือหัว

หลังจากจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตตาย  แกนกลางของอีกฝ่ายช่วยส่งเสริมให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงก้าวกระโดด! นั่นเท่ากับความแข็งแกร่งโดยรวมของฉินเฟิงทะยานไปอีกขั้น ส่งผลให้ปัจจุบัน เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนสู้กับอสูรโลหิตมากมายนัก ดังนั้นการตอบโต้อันผิงด้วยการโจมตีเดียว ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจไม่ได้

แน่นอน หากฉินเฟิงคิดถึงขั้นสังหารจ้าวเหนือหัวอันผิง มันยังเป็นไปไม่ได้

ทว่าหากรับมือจากการโจมตี นั่นไม่มีปัญหา!

ช่วงเวลานี้ สีหน้าของจ้าวเหนือหัวอันผิง หม่นทะมึนดูน่าหวาดกลัว

สิ่งมีชีวิตในฐานะจ้าวเหนือหัวเช่นเขา วันนี้กลับถูกกดดันให้ล่าถอย?

เปิดฉากมายังเป็นแบบนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ต่อมา พลังสมาธิของจ้าวเหนือหัวอันผิง ดังก้องไปทั่วจักรวาล แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เขาไม่ได้พูดกับฉินเฟิง แต่พูดกับเส้าตงเฟิงแทน

“หนี้ในปีนั้น แลกกับการออกหน้าลงมือถึงสองครั้งสองครา เป็นอันเลิกแล้วต่อกัน!”

ดวงตาของเส้าตงเฟิงเบิกกว้างขึ้นทันใด

“ไม่ได้! นายจะทำแบบนั้นไม่ได้ นายกำลังทำให้ตัวเองเสื่อมเสียเกียรติ ฉันหมายถึงนายต้องฆ่าเขา ต้องฆ่าเขาถึงจะทวงศักดิ์ศรีคืนมาได้!” เส้าตงเฟิงคำราม

ถึงจุดนี้ จ้าวเหนือหัวอันผิงกลับหุบปากลง

คนอื่นๆรู้สึกว่าเส้าตงเฟิงพูดถูก มิฉะนั้น ผู้คนคงเล่าลือกันไป ว่าจ้าวเหนือหัวถูกผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 อัดจนปลิว

สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างจ้าวเหนือหัว เวลานี้กลับถูกท้าทายโดยสิ่งมีชีวิตระดับต่ำกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันล้มล้างสามัญสำนึกของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง

เกรงว่าคงมีเพียงจ้าวเหนือหัวอันผิงเท่านั้นที่รู้ ว่ากระบวนท่าเมื่อครู่ เขาไม่ได้ออมมือเลย แต่พลังที่ฉินเฟิงปลดปล่อยออกมา เมื่อผสานเข้ากับอาวุธที่หลอมโดยเหล็กตัดดารา หากอันผิงต้องสู้จริงๆ เกรงว่าราคาที่ต้องจ่าย อาจมากกว่าที่คิด

ซึ่งแค่เพื่อเส้าตงเฟิงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องลงทุนถึงขนาดนั้น

จ้าวเหนือหัวอันผิงคิดในใจ ว่าเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองจนบรรลุแล้ว

“เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะโต้แย้งกับจ้าวเหนือหัว!” จู่ๆจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณเอ่ยแทรกขึ้น จากนั้นกางนิ้วชี้ เขี่ยเส้าตงเฟิงแยกจากฝูงชน ไม่ให้อยู่ใต้การปกป้องจากเขา

เวลานี้ดวงตาของเส้าตงเฟิงแดงก่ำ หากจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณไม่ปกป้องเขา และอันผิงไม่มีแผนที่จะสู้อีกต่อไป ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง เส้าตงเฟิงกระจ่างแก่ใจว่าตนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้น เส้าตงเฟิงจงไม่สนใจคำเตือนของยักษ์วิญญาณ ตะโกนต่อว่า “อันผิงติดค้างหนี้ชีวิตฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เขาจะได้ขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้อย่างไร?”

“ต่อให้ท่านผู้ใหญ่ติดหนี้ชีวิตแก แต่ตลอดหลายปีมานี้ เขาได้ชดใช้คืนจนหมดสิ้นแล้ว!” จ้าวเก๋อกระโดดออกมาจากฝูงชน เขาเป็นลูกน้องที่ภักดีที่สุดของอันผิง ดังนั้นทราบหลายเรื่องราวของอันผิงเป็นอย่างดี รวมไปถึงเรื่องของเส้าตงเฟิง

“ทำไมถึงไม่พูดมันออกไปบ้างล่ะ ว่าถ้าไม่ใช่เพราะท่านจ้าวเหนือหัวอันผิง ด้วยความสามารถของแก มีหรือจะขึ้นเป็นเลเวล SSS ได้ ผลประโยชน์ในช่วงหลายปีมานี้ หากรวมๆกันแล้ว เป็นแกต่างหากที่ติดหนี้ท่านจ้าวเหนือหัว!”

ช่วงเวลานี้ สายตาของคนอื่นๆที่มองเส้าตงเฟิง เริ่มแปลกประหลาดไป ในแววตาของหลายคนสะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยดูหมิ่นเหยียดหยาม

ผู้ใช้พลังในที่นี้ ทุกคนต่างรู้ข้อมูลของกันและกัน อย่างเส้าตงเฟิง ทั้งหมดทราบดีว่าอีกฝ่ายชอบยกอ้างชื่อของจ้าวเหนือหัวอันผิง กระทำหลายสิ่งหลายอย่างที่เห็นแก่ตัวและเบียดเบียนคนอื่นไปมากมาย

คราวนี้ จ้าวเหนือหัวอันผิงได้ตัดขาดกับเส้าตงเฟิง หลายคนอดใจไม่ไหวต้องยกสองแขนขึ้นปรบมือ

เพียงแค่ว่าในเวลานี้ จ้าวเหนือหัวอันผิงกล่าวอีกครั้ง “ฉันเป็นหนี้ชีวิตนายจริงๆ ดังนั้น คราวนี้ฉันจะช่วยชีวิตนายเป็นการตอบแทน!”

สิ้นเสียง อันผิงหันมามองฉินเฟิง

ฉินเฟิงกับอันผิงเดิมไม่มีความขัดแย้งใดๆต่อกัน ไม่ถึงขั้นต้องสู้กันจนตัวตาย ทุกอย่างเส้าตงเฟิงเป็นคนก่อ หากไม่มีเส้าตงเฟิง ฉินเฟิงย่อมไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกับจ้าวเหนือหัวอันผิง

อย่างไรก็ตาม หากจ้าวเหนือหัวอันผิงต้องปกป้องเส้าตงเฟิง แบบนี้ย่อมไม่ง่ายที่จะตกลงกับฉินเฟิง

พลังสมาธิของฉินเฟิง ประกาศออกไปอย่างห้าวหาญว่า “โทษประหารสามารถยอมละเว้น แต่บาปที่เขาก่อยากจะให้อภัย --นับแต่แรกเริ่ม เป็นเส้าตงเฟิงที่ใช้กำลังกดขี่ผู้อื่นในระหว่างการฝึกฝนเพื่องานประลองเพื่อสันติภาพ ต่อมาได้ขู่ยึดมิติรางวัลจากฉัน แต่เรื่องพวกนั้นมันเกิดขึ้นนานมากแล้ว ฉันยินดีที่จะลืมมันไป!”

ทุกคนในที่นี้รับฟังคำพูดของฉินเฟิง ตอนนี้พวกเขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ทว่าขณะเดียวกันก็อดประหลาดใจไม่ได้เช่นกัน เพราะระยะเวลานับแต่งานประลองครั้งล่าสุด  มันเพิ่งผ่านไปแค่ 10 เดือนเท่านั้น ช่วงเวลาดังกล่าวฉินเฟิงยังเป็นผู้ใช้พลังเลเวล S อยู่เลย

ทว่าตอนนี้กลับสามารถพลิกสถานการณ์กลับเป็นฝ่ายชนะได้อย่างน่าอัศจรรย์

จ้าวเหนือหัวอันผิงก็รู้ดี ว่าเรื่องราวทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความละโมบโง่เง่านี้ ดังนั้นเขาไม่ต้องการลงมืออีกต่อไป

ฉินเฟิงกล่าวต่อ “แต่คราวนี้ เส้าตงเฟิงได้ใส่ร้ายนักธุรกิจลูกน้องของฉัน เจตนาจะแบล็คเมย์ เพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาล ปิดบังข้อมูลว่าฉันมีพันธสัญญาเท่าเทียมกับจิ้งจอกสิบหาง เรียกคนมารุมเธอ ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันยอมไม่ได้!”

เมื่อฉินเฟิงเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทุกคนที่รุมโจมตีไป๋หลี ทั้งหมดต่างหลั่งเหงื่อเย็น

ณ ขณะนี้ พวกเขาย้อนนึกไปถึงสิ่งที่ฉินเฟิงเพิ่งพูด ตอนแรกพวกเขาไม่ได้เอะใจเลย แต่พอฉินเฟิงสำแดงความแข็งแกร่งออกมา คนเหล่านี้ถึงค่อยสนใจฟัง

ช่วงเวลานี้ พวกเขาสัมผัสได้ถึงกระแสเย็นเยียบทิ่มแทงลึกเข้ามาในกระดูกสันหลัง ราวกับมีกิโยตินห้อยอยู่เหนือหัว พร้อมที่จะร่วงลงมาตลอดเวลา

“ท่านผู้ใหญ่ฉิน ฉันไม่รู้ว่าก่อนจริงๆว่าจิ้งจอกสิบหางตัวนี้เป็นสัตว์พันธสัญญาของคุณ”

“ใช่ ฉันแค่ได้ยินข่าวจากลูกน้องของเส้าตงเฟิง เลยออกมาก็เท่านั้นเอง”

“ทั้งหมดเป็นเพราะข้อมูลลวงจากลูกน้องของเส้าตงเฟิง ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องโทษหัวหน้าของพวกมัน!”

คนเหล่านี้เริ่มปัดความรับผิดชอบ กล่าวโทษคนๆเดียว

เส้าตงเฟิงรู้สึกราวกับว่าคนนับพันกำลังชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวเดียวดาย

ช่วงเวลานี้ พลังสมาธิของจ้าวเหนือหัวอันผิง ถ่ายทอดออกมาอีกครั้ง

“เชิญเลยเต็มที่! อยากจะลงโทษเส้าตงเฟิงอย่างไร--

--ล้วนแล้วแต่คุณ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด