Ep.1076 - ลงมือด้วยตัวเอง
Ep.1076 - ลงมือด้วยตัวเอง
การปรากฏตัวของจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ ผู้คนที่กำลังขึ้นเขียงรู้สึกราวกับพระมาโปรด พากันน้อมคำนับเขา ไม่มีใครสนใจฉินเฟิงอีก
ในสายตาของคนเหล่านี้ ฉินเฟิงหมดโอกาสลงมือแล้วอย่างแน่นอน เพราะจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณจะไม่ปล่อยฉินเฟิงทำ ในพันธมิตรมนุษย์ การฆ่าฟันกันเองถือเป็นการละเมิดกฏ
ยังไงก็ตาม .. ทุกคนคิดผิด! ฉินเฟิงทำราวกับยักษ์วิญญาณเป็นอากาศธาตุ ปฏิบัติตามที่ลั่นวาจาได้
ฉินเฟิงสับคมมีดลงไปอีกครั้ง และหลังจากการเชือดเฉือนนี้ หากพวกมันยังไม่ตาย ฉินเฟิงจะยอมปล่อยไป
ดังนั้น เพื่อที่จะไม่ให้มีใครรอดไปได้แน่ๆ ฉินเฟิงจึงถ่ายเทกำลังภายในจากดาราลงไปอย่างน้อยครึ่งดวง วิญญาณนับล้านปะทุออกมา ร้องคำรามโถมเข้าใส่เหล่าผู้ใช้พลัง
จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ต้องขมวดคิ้วทันที
เนื่องจากใบหน้าของเขาใหญ่มาก ฉะนั้นแค่ขมวดคิ้วยังอลังการ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าขุนเขาสองลูกย่นเข้าหากัน จากนั้นไม่รอช้า ยื่นมือออกไปหมายหยุดการโจมตีจากฉินเฟิง
จากมุมมองของจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ หากปล่อยให้บรรดาผู้ที่กำลังโค้งคำนับตนถูกบุคคลอื่นโจมตี นั่นเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้
เหล่าผู้ใช้พลังรู้สึกว่านิ้วของจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญยาณยื่นออกมา ปกคลุมเหนือหัวของพวกเขา แม้ความมโหฬารของมันจะน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามจากยักษ์วิญญาณเลย
เช่นนั้นการกระทำนี้ก็เกิดขึ้นได้จากเหตุผลเดียว
พวกเขาเหลียวไปอีกทาง หันหัวไปยังตำแหน่งของฉินเฟิง และพบว่าภูติผีวิญญาณที่เคยทำร้ายพวกตน ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้ มีหลังมือของยักษ์วิญญาณแทรกเข้ามาขวางมัน
“โอ้สวรรค์ จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณลงมือแล้ว!”
“ฉันไม่เคยเห็นพลังของจ้าวเหนือหัวมาก่อนเลย มันจะทรงพลังขนาดไหนกันนะ”
“การโจมตีของฉินเฟิงทรงพลังมากก็จริง แต่เมื่อท่านจ้าวเหนือหัวลงมือแล้วล่ะก็ ขอแค่นิ้วเดี- เอ๊ะ ..?”
ชายคนนั้นคล้ายอยากจะเอ่ยอะไรต่อ แต่กลับพบว่าเมื่อนิ้วของยักษ์วิญญาณปะทะเข้ากับรังสีคมมีดของฉินเฟิง มันกลับเกิดระเบิดราวกับดอกไม้ไฟ พลังงานชีวิตกวาดกระจายไปทั่ว ก่อนที่นิ้วของจ้าวเหนือหัวจะถูกตัดขาดทันที
แม้เหตุการณ์นี้ยักษ์วิญญาณสูญเสียพลังชีวิตไปแค่เล็กน้อย ถูกสะบั้นไปแค่นิ้วเดียว ทว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว มันได้แสดงให้เห็นแล้ว ถึงความแข็งแกร่งของฉินเฟิง
ว่าเขาสามารถทำร้ายจ้าวเหนือหัวได้จริงๆ!
ณ จุดนี้ จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณรีบถอนมือกลับ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“เหล็กตัดดารา!”
สีหน้าของเขายามนี้แสดงออกไม่ต่างจากในตอนของจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิต ยักษ์วิญญาณตกใจมากกับความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ที่ถึงขั้นสามารถทำร้ายเขาได้ เหล็กตัดดาราสำแดงความมหัศจรรย์ของมันออกมาได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาที่ต้องจ่ายออกไปคือหนึ่งนิ้ว แต่ยักษ์วิญญาณก็ยังประสบความสำเร็จในการช่วยชีวิตผู้คน ผู้ใช้พลังหลายคนเพียงได้รับผลพวงจากแรงปะทะ แต่โชคดีที่ไม่มีใครตาย
จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณมองไปทางฉินเฟิง ทว่ากลับไร้ซึ่งความโกรธบนใบหน้า มันเพียงแสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ
“เจ้าหนู ความแข็งแกร่งของนายยอดเยี่ยมจริงๆ แต่คนเรายิ่งแข็งแกร่ง ก็ยิ่งต้องรู้จักควบคุมตัวเอง การสังหารผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า สุดท้ายจะถูกขับไล่ออกจากพันธมิตรมนุษย์” ยักษ์วิญญาณเตือน
ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็นชา “ขับไล่ออกจากพันธมิตรมนุษย์? ไม่ใช่ว่าฉันถูกไล่ออกมานานแล้วหรือ? ครั้งนั้นจ้าวเหนือหัวอันผิงถึงขั้นสั่งการลงมาด้วยตัวเอง ฉันพูดถูกไหม … นายพลจ้าวเก๋อ!!”
พลังสมาธิของฉินเฟิง ล็อคลงบนร่างหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้พลังที่เพิ่งรอดจากวิกฤตมาได้
จ้าวเก๋อกำลังถอนหายใจโล่งอก แต่ไม่ทันไร ความกดดันที่เพิ่งคลายลง ก็ดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเช่นกัน
แต่ในเวลานั้นเอง รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่รอยแยกนี้มีขนาดเพียง 1 ส่วน 10 ของยักษ์วิญญาณเท่านั้น แต่ประเด็นก็คือ กลิ่นอายของผู้มาเยือนที่ยังอยู่ข้างใน ฉินเฟิงและไป๋หลีสามารถระบุได้ทันทีว่าคือใคร
“จ้าวเหนือหัวอันผิง!”
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเฉยเลย!
สายตาของเหล่าผู้ใช้พลังจับจ้องไปยังรอยแยกมิติ
ไม่นานเกินรอ ร่างของจ้าวเหนือหัวอันผิงปรากฏตัวขึ้น
“ท่านผู้ใหญ่อันผิง!”
“ท่านผู้ใหญ่!!”
จ้าวเก๋อรีบใช้พลังสมาธิสื่อสารกับอันผิงอย่างรวดเร็ว แม้แต่เส้าตงเฟิงยังดูใจชื้นขึ้นถนัดตา แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้าง ว่าอันผิงอาจไม่ไว้หน้าเขา แต่ตอนนี้อีกฝ่ายยอมปรากฏตัว แสดงว่าเลือกยืนฝั่งตน
ณ จุดนี้ ในที่สุดเส้าตงเฟิงก็เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างผู้แข็งแกร่ง
เข้าใจและรู้ซึ้งว่าเมื่อชีวิตถูกคุกคามจนเกือบตาย มันมีรสชาติเป็นเช่นไร
อันผิงลอยตัวอยู่กลางอวกาศ สายตาตรึงลงบนร่างของฉินเฟิงทันที
ท้ายที่สุดแล้ว เพื่อตอบแทนน้ำใจของเส้าตงเฟิง เขาถึงขั้นเอ่ยปากบอกให้กำจัดฉินเฟิงด้วยตัวเอง แต่ไม่คาดฝันเลย ว่าฉินเฟิงจะยังมีชีวิตอยู่
“อันผิง นายมาได้เวลาพอดี เจ้าผู้ใช้พลังคนนี้ ดูเหมือนกำลังบอกว่านายเป็นคนไล่เขาออกจากพันธมิตรมนุษย์ นั่นเรื่องจริงรึเปล่า”
จ้าวเหนือหัวอันผิงมองฉินเฟิงอย่างสงบ เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนถ่ายทอดพลังสมาธิออกมาให้ทุกคนได้ยิน
“ไม่ใช่”
อันผิงปฏิเสธคำพูดของฉินเฟิง
และเนื่องจากเป็นคำที่ออกจากปากอันผิงซึ่งเป็นจ้าวเหนือหัว ทุกคนเลยเชื่อเขา เพราะรู้สึกว่าจ้าวเหนือหัวไม่จำเป็นต้องโกหก
“ว่ายังไงไอ้คนลวงโลก ท่านจ้าวเหนือหัวบอกแล้วว่าไม่ได้ทำ ทีนี้แกจะแก้ตัวว่ายังไง?”
“กล้าดียังไงถึงคิดฆ่าคนอื่น แล้วยึดครองจิ้งจอกสิบหางไว้เพียงลำพัง”
“ถูกต้อง แกมันฆาตกร คุณว่าแค่เป็นแชมป์งานประลองเพื่อสันติภาพแล้วจะทำอะไรก็ได้หรอ!”
ผู้ใช้พลังหลายคนผุดลุกขึ้น รวมกำลังเห่าหอนใส่ฉินเฟิง
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย จ้าวเหนือหัวอันผิงได้เอ่ยขึ้น
“ที่แท้เจ้าก็คือฉินเฟิง”
ฉินเฟิงมองจ้าวเหนือหัวอันผิง ช่วงเวลานี้ เขาเห็นว่าลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นมารางๆ
อย่างไรก็ตาม เจตนาฆ่าดังกล่าวมันไม่ชัดเจน คาดว่าคงเพราะจริงๆแล้วทั้งสองไม่ได้มีความเกลียดชังฝังลึกต่อกันและกัน
แต่ความจริงที่ว่าเจตนาฆ่าปรากฏขึ้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะจ้าวเหนือหัวอันผิงต้องการสังหารฉินเฟิงจริงๆ
“ฉันติดหนี้เส้าตงเฟิง เขาขอร้องให้ฉันลงมือกำจัดนายซะ จากนั้นหนี้เป็นอันเลิกแล้วต่อกัน แต่ฉันไม่นึกเลยว่าภารกิจที่ส่งไป ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่เสร็จสิ้น”
ผู้ใช้พลังคนอื่นๆ ทุกคนอ้าปากตาค้าง แหงนมองอันผิงอย่างไม่เชื่อสายตา พวกเขาไม่คาดคิดเลย ว่าตัวตนระดับจ้าวเหนือหัว จะเอ่ยคำน่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาจริงๆ
ฉินเฟิงคิดหาเหตุผลอยู่นาน เขาคิดว่าด้วยอำนาจระดับจ้าวเหนือหัว อันผิงจะเป็นหนี้เส้าตงเฟิงได้อย่างไร นั่นควรเป็นเรื่องราวก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว
แต่ในใจของฉินเฟิง บังเกิดความรู้สึกได้รางๆ ว่าคำพูดนี้ของอันผิง ไม่ได้กำลังอธิบายแก่เขา
ตรงกันข้าม ฉินเฟิงรู้สึกว่า จ้าวเหนือหัวอันผิงกำลังปลอบประโลม ‘วิญญาณ’ ของฉินเฟิงให้เข้าใจ ว่านี่คือเหตุผลที่เขากำลังจะทำอะไรต่อไป
ทันทีที่จ้าวเหนือหัวอันผิงยอมรับเรื่องนี้ เขาก็เอ่ยออกมาอีกครั้งว่า “สัญญาที่เคยรับปากไว้ ยังไม่ลุล่วง แต่ในเมื่อเป้าหมายปรากฏตัวขึ้นแล้ว ฉะนั้นครั้งนี้ … ฉันจะเป็นคนลงมือเอง!!”
สิ้นเสียง ฝ่ามือของอันผิงกวาดออกมาทันที
ฉินเฟิงไป๋หลีมองฝ่ามือเบื้องหน้า ในสมองพาลย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ท่ามกลางซากปรักหักพังหลังเกิดการระเบิดของนางพญาดาราเกราะเหล็ก มันคือฝ่ามือใหญ่ที่บดบังได้กระทั่งแสงอาทิตย์ในจักรวาล นี่คือความแตกต่างระหว่างร่างเนื้อกับร่างพลังงาน
ช่วงเวลานั้นเขากับอันผิงราวกับอยู่คนละโลก
เพียงแต่ว่าตอนนี้ อันผิงไม่ใช่ฟ้าเบื้องสูงที่มิอาจแตะต้องอีกต่อไป แต่อยู่ในฐานะศัตรูที่ฉินเฟิงสามารถต่อกรได้
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาอยู่ในเลเวล SSS9 แล้ว ช่องว่างระหว่างร่างพลังงาน ห่างกันเพียงครึ่งก้าว ช่วงเวลานั้นเอง ร่างกายของฉินเฟิงไม่สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอีกต่อไป สองมือประกบลงบนด้ามมีดกษัตริย์คราม--
--และฟาดฟันออกไป!
“มหากาพย์วิญญาณสะบั้น!!!”