Ep.1075 - จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ
Ep.1075 - จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ
เส้าตงเฟิง? เป็นมันอีกแล้ว??
ฉินเฟิงดีดผึงลุกจากเตียงทันที
“บอกพิกัดมิติมา!”
ซูซิงฝูรีบบอกพิกัดมิติออกไปทันที แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่ใช่สัตว์ยักษ์มิติ แต่ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การฉีกมิติเป็นแค่เรื่องง่ายดาย
พลังงานบ้าคลั่งรุนแรงมารวมกันอยู่ในมือของฉินเฟิง ตัดอากาศที่ว่างเปล่า เปิดรอยแยกมิติ ก้าวเข้าไปข้างใน
ไม่ช้า สภาพแวดล้อมรอบกายเขาก็เปลี่ยนไป ปรากฏขึ้นท่ามกลางอวกาศ
เบื้องล่างคือแผ่นดินใหญ่ที่พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ปรากฏรอยแยกนับไม่ถ้วนกลืนกินพื้นผิวมิติ เศษหินเศษดินสลายเป็นฝุ่นผง
เหนือขึ้นไปเบื้องบน ผู้ใช้พลังหลายคนคนมากำลังรวมตัวกัน ปิดล้อมโจมตีหญิงสาวคนเดียว
จะเป็นใครอื่นไปได้อีกนอกเสียจากไป๋หลี
เมื่อซูซิงฝูกลับไป เขาก็รีบติดต่อฉินเฟิงทันที ขณะเดียวกันในอวกาศ เส้าตงเฟิงตระหนักแล้วว่าไป๋หลีแข็งแกร่งเพียงใด
อย่างไรก็ตาม คราบมนุษย์ของสัตว์ยักษ์มิติตัวนี้ช่างน่าหลงใหลอย่างแท้จริง
ฝั่งไป๋หลีส่งซูซิงฝูกลับไป ฝ่ายเส้าตงเฟิงก็ใช้ให้ผู้ใช้พลังเลเวล SS กระจายข่าวในพันธมิตรมนุษย์เช่นกัน
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา เลเวล SSS คนอื่นๆ ในพันธมิตรมนุษย์ก็ฉีกมิติเข้ามาด้วยความตื่นเต้นสนใจ
และทันทีที่คนเหล่านี้เห็นไป๋หลี ตาดำของพวกเขาตั้งตรงด้วยความตกตะลึง บังเกิดความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ
ว่าจักต้องจับสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ตัวนี้ มาเป็นของตนให้จงได้!
และมนุษย์พวกนี้ ไม่รู้ว่าไป๋หลีได้ทำสัญญาแล้ว คนของเส้าตงเฟิงไม่ได้บอกพวกเขา จงใจให้ฝูงชนเกิดความเข้าใจผิด
“ผลลัพธ์จากการใช้เทคนิคเปลี่ยนร่าง จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์ที่ใช้ การที่เธองดงามแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นจิ้งจอกมิติที่มีสิบหางแน่ๆ นี่เป็นเผ่าพันธุ์ที่หาได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่ยังเด็ก”
“ดีล่ะ! เธอจะต้องเป็นของฉัน!”
“ผายลม! เธอเป็นของฉันต่างหาก ไม่ว่าใครก็ห้ามขโมยไปจากบิดา!”
คนพวกนี้ทะเลาะถกเถียงกัน ระหว่างนี้มีอยู่หลายคนพยายามส่งผ่านพลังสมาธิ เพื่อโจมตีจิตใจของไป๋หลี
ที่ทำเช่นนี้ เพราะจะได้สามารถประทับสัญญาลงไปได้
ทว่าทุกคนที่หาญกล้าทำเช่นนั้น ไม่กี่วินาทีต่อมาพลันกรีดร้องลั่น เลือดทะลักออกจากทวารทั้งเจ็ด แม้ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงได้รับแก่นมิติระดับสูงจากเผ่าพันธุ์มังกรมา และเขาได้ยกทั้งหมดให้ไป๋หลีดูดซับ ขณะเดียวกัน ระหว่างฉินเฟิงออกล่าจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิต เขาได้สั่งให้ซูซิงฝูไล่ซื้อมิติหลายแห่ง และมอบมันทั้งหมดแก่ไป๋หลี
ทำให้ความแข็งแกร่งของไป๋หลีเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก หากไม่นับเวลาที่ซูซิงฝูพาเธอมาเก็บกู้แกนมิติแล้ว เวลาที่เหลือเธอล้วนเข้าไปฝึกฝนในมิติเร่งกระแสเวลา
ผลลัพธ์ก็คือ ในวันนี้ความแข็งแกร่งของเธอใกล้เคียงกับตำแหน่งจ้าวเหนือหัวแล้ว เส้นผ่านศูนย์กลางของดาวเคราะห์ยักษ์ขยายขนาดไปถึง 99 เมตร พลังสมาธิทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
และด้วยสายพันธุ์ของเธอ ทำให้ความแข็งแกร่งของไป๋หลี มันมากยิ่งกว่าสัตว์เทวะทั่วไปซะอีก
“ทุกคนโจมตีพร้อมกัน สยบสัตว์ร้ายตัวนี้ให้ได้ก่อนค่อยว่ากันอีกที”
“ถูกต้อง ไม่นึกเลยว่าสัตว์ร้ายตัวนี้จะร้ายกาจมาก”
“ต่อให้เธอร้ายกาจ แต่จะสู้หนึ่งต่อร้อยได้หรือ? พวกเราลงมือพร้อมกัน! ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาขัดแย้งกันเอง!”
และดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ใช่แค่หนึ่งต่อร้อย เพราะเลเวล SSS พอได้ยินข่าวนี้ หลายคนเริ่มทยอยกันมาอย่างต่อเนื่อง
สัตว์ยักษ์มิติระดับเทวะ และยังมีหลายคนเห็นว่าไป๋หลีสามารถรุกล้ำเข้าไปถึงแกนกลางมิติระดับสูงได้ เมื่อมาถึงก็เห็นดาวเคราะห์ที่กำลังพังทลายกับตาตัวเอง
หลักฐานคาตาขนาดนี้ แล้วพวกเขาจะไม่เข้าใจถึงผลประโยชน์ที่ตามมาหลังจากครอบครองเธอได้อย่างไร?
ตราบใดที่จับไป๋หลีได้ และทำสัญญาสำเร็จ อนาคตจากนี้ไป พวกเขาจะได้รับแกนมิตินับไม่ถ้วนมาครอบครอง ถึงเวลานั้น สมบัติสวรรค์ใดๆที่ปรารถนาจักครอบครอง ก็สามารถนำแกนมิติไปแลกได้
สามารถกล่าวได้เลยว่า หากได้ครอบครองไป๋หลี ก็เท่ากับได้ครอบครองแกนมิติทั้งจักรวาล
คนเหล่านี้จินตนาการถึงอนาคตอันสดใส ตื่นเต้นกันถ้วนหน้า ดังนั้นช่วยกันโจมตีอย่างขยันขันแข็ง
ไป๋หลีหัวเราะเย็นชา ไม่ได้ซ่อนเร้นความแข็งแกรงของตน รอยแยกมิติอันน่าสะพรึงผุดพรายไปทั่วอวกาศ
“ในฐานะที่พวกคุณมาจากพันธมิตรมนุษย์ ฉันจะไม่ฆ่า แต่จะขอยึดมือยึดเท้าไปคนละข้างสองข้าง!”
ไป๋หลีแผดเสียงลั่น ระดมพลังโจมตีให้รุนแรงยิ่งขึ้น
เพียงแต่ในเวลานี้ ฉินเฟิงได้มาถึงแล้ว
“ไป๋หลี!!” พลังสมาธิของฉินเฟิงคำรามลั่น
ยิ่งได้เห็นคนพวกนี้รุมล้อมไป๋หลี แม้เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ภาพนี้ไม่ต่างจากการแตะเกล็ดย้อนของมังกร ปะทุความเดือดดาลในใจเขา
พริบตานั้น มีดกษัตริย์ครามถูกชักออกมา ตวัดกวาดออกไป
“ท่าวิญญาณสะบั้น!”
ภูติผีวิญญาณนับไม่ถ้วนร้องคำรามออกมา ปกคลุมทั้งสมรภูมิ ตำแหน่งเดียวที่ไม่ถูกรังสีคมมีดนี้ปกคลุม คือทิศทางที่ไป๋หลียืนอยู่
ไป๋หลีลอยล่องในอวกาศที่ว่างเปล่า กลุ่มมนุษย์รุมล้อม ช่วงเวลานี้ ทั้งหมดถูกรังสีคมมีดอันร้ายแรงกดทับลงมา
“นี่มันอะไรกัน?”
ภูติผีวิญญาณแผดเสียงคำราม ถลาลงมา เลเวล SSS ทำได้เพียงยกมือขึ้นปัดป้องมัน แต่ในไม่ช้าก็ทานทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมา
ในสมรภูมิ ผู้ใช้พลังนับร้อยคน ทั้งหมดมีสภาพไม่ต่างกัน
อำนาจของคมมีดเล่มเดียว กลับน่าขนพองสยองเกล้าถึงเพียงนี้
ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงเหินข้ามอวกาศ ไม่ช้าลอยมาถึงข้างกายไป๋หลี เขาโอบเอวเธอ พลังสมาธิกวาดเข้าตรวจสอบทุกรูขุมขน เมื่อพบว่าเธอปลอดภัย เขาก็โล่งใจ
ฉินเฟิงหายกังวลแล้วก็จริง แต่ยังรู้สึกโกรธแค้นผู้ใช้พลังคนอื่นๆ
ช่วงเวลานี้ เนื่องจากที่รังสีคมมีดของฉินเฟิงกดดัน ผู้ใช้พลังนับร้อยต่างบาดเจ็บ นอนกองอยู่ในอวกาศเบื้องล่างฉินเฟิง แหงนหน้ามองขึ้นไป
พวกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าฉินเฟิงเป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS9
เพียงแต่ว่า ในบรรดาฝูงชน ณ ที่นี้ ก็มีหลายคนที่เป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS เช่นกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฉินเฟิง พวกเขากลับรู้สึกถึงแรงกดดัน
ในสายตาของพวกเขา ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง เลวร้ายมาก
“ฉินเฟิง ..!” เส้าตงเฟิงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“นั่นคือฉินเฟิง? เขายังไม่ตายหรอกหรือ?” อีกคนหนึ่งพึมพำออกมา ชายผู้นี้คือจ้าวเก๋อ เป็นคนดำเนินแผนในมิตินางพญาดาราเกราะเหล็ก และเป็นลูกน้องของอันผิงเช่นกัน
ตอนแรกเขาคิดว่าฉินเฟิงตายแล้ว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่เพียงแค่นั้น แต่ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน เหนือล้ำกว่าเขาไปเรียบร้อยแล้ว
การพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้ ทำให้จ้าวเก๋อไม่อยากเชื่อการรับรู้และสายตาของเขาเลย
แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือฉินเฟิงจริงๆ!
มีดในมือของฉินเฟิง ต่างจากที่จ้าวเก๋อเคยเห็น ตอนนี้มีดที่ว่าถูกยกขึ้น ชี้ปลายแหลมมายังทิศทางเหล่าผู้ใช้พลังที่ศิโรราบใต้เท้าเขา
“ใครก็ตามที่โจมตีเธอ ทุกคนจะต้องตาย!”
ฉินเฟิงประกาศลั่น และเตรียมที่จะสับมีดลงอีกครั้ง
แต่ในเวลานั้นเอง ในจักรวาล รอยแยกมิติขนาดใหญ่จู่ๆก็ปรากฏขึ้น
รอยแยกนี้กว้างใหญ่มาก ยาวเป็นล้านเมตร แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่จ้าวเหนือหัวอันผิงปรากฏกาย
ไม่นานหลังจากรอยแยกมิติเปิดออก ชายคนหนึ่งก็ก้าวออกมา
เขามีรูปร่างเป็นมนุษย์ แต่มีความสูงถึง 900,000 เมตร
ต้องรู้นะว่า เมื่อครั้งจ้าวเหนือหัวอันผิงปรากฏตัว ร่างกายเขาเปลี่ยนเป็นร่างพลังงานแล้ว ก็ยังมีความสูงเพียง 100,000 เมตรเท่านั้น แต่ก็ยังดูเล็กหากเทียบกับนางพญาดาราเกราะเหล็ก แต่มันใหญ่มากสำหรับมนุษย์
ประเด็นก็คือ เบื้องหน้านี้มโหฬารยิ่งกว่าในครั้งนั้นอย่างเทียบไม่ติด!
แน่นอน นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้มาเยือนคนนี้แข็งแกร่งกว่าจ้าวเหนือหัวอันผิง คิดว่าคงเป็นเพราะสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกาย จึงทำให้แปลงโฉมออกมาเป็นในรูปลักษณ์นี้
“จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ!”
“กระทั่งท่านจ้าวเหนือหัวก็ยังมาที่นี่!”
“คารวะท่านจ้าวเหนือหัว!”
ผู้ใช้พลังมากมายต่างโค้งคำนับ
ยักษ์น่าหวาดกลัวมายืนอยู่ตรงหน้า คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้อีก นอกเสียจากจ้าวเหนือหัวผู้ครอบครองพละกำลังเป็นอันดับหนึ่งในพันธมิตรมนุษย์ เผ่ามนุษย์ยักษา--
--จ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ!