[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 73 ฉันไม่อยากเติบโต
ตอนที่ 73 ฉันไม่อยากเติบโต
พี่สามจ้องมองไปที่ฉินหยู่และพูดเยาะเย้ย “เมื่อนายมาที่นี่ครั้งแรกนายไม่มีอะไรสักอย่าง ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าทีมแล้ว ยังจะมาทำตัวเหมือนพวกนอกกฎหมายกับฉัน นายคิดว่าฉันจะกลัวไหม ตอนนี้ทางกรมตำรวจได้ให้การรับรองพิเศษกับนาย ว่าฆ่าใครสักคนไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นนายเลยไม่ต้องใช้ความกล้าในการทำอะไรเหมือนเมื่อก่อนแล้วสิ?”
“พี่สาม นายรู้ไหมว่าทำไมนายถึงเป็นได้แค่หมาตัวหนึ่งของกัปตันหยวน?” ฉินหยู่เอื้อมฝ่ามือออกไปแตะหน้าอกของพี่สาม
“เพราะว่าโครงสร้างองค์กรในหัวของนาย มันใหญ่เกินความสามารถ เมื่อนายคุ้นเคยกับการเป็นหมารับใช้แล้ว นายจะไม่มีระบบความคิดที่จะเป็นเจ้านายได้เลย ด้วยตำแหน่งของนาย ฉันต้องสู้กับนายมั้ย? เพื่อนของฉันที่ฆ่าหยวนเหว่ยยังไม่ตาย เชื่อไหมล่ะ สักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมากะทันหันและแวะไปกินข้าวเย็นที่บ้านนายก็เป็นได้”
เมื่อพี่สามได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะรู้ว่าฉินหยู่กำลังพูดถึงฉีหลิน
“กัปตันหยวนไม่ได้สั่งอะไร นายจะแกล้งทำไปทำไม? ฉันจะระดมพลสี่ทีม นั่นคือคำสั่งของผู้กำกับหลี่ นายกำลังขวางฉันเพราะนายคิดว่านั่นคือสร้างปัญหาให้ฉัน แต่จริงๆ แล้วนั่นช่วยทำให้ผู้กำกับหลี่ตาสว่างขึ้นต่างหาก?” ฉินหยู่ต่อว่าอย่างดูถูก “พี่สาม นายคิดว่าเมื่อไหร่นายจะโตขึ้น?”
“ถ้าพี่สามโตแล้ว เขาจะแสดงความกล้าออกมาเมื่อเราเจอมัตสึชิตะที่ร้านอาหารครั้งก่อนไหม?” กวนฉีพูดยั่วเบาๆ ข้างๆ เขา “เขาเป็นคนใจร้อนเกินไป”
เมื่อพี่สามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ระเบิดทันที “ข้าแม่งเป็นคนบ้าแล้วแกมาเสือกอะไรด้วยวะ?”
หลังจากพูดจบทันใดนั้นพี่สามก็ชกกวนฉีเข้าที่หัวทันที
“อย่าทะเลาะกัน อย่าทำอย่างนั้นพี่สาม” ฉินหยู่กำลังรอให้เขาสูญเสียการควบคุมและโจมตีก่อน ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้า กอดแขนของพี่สามด้วยแขนซ้าย กำมือขวาของเขาแล้วตะโกน “พี่สามฟังฉันนะ ถ้าเราจะพูดไร้สาระใส่กัน มันไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้านายจะลงไม้ลงมือ มันจะเป็นปัญหาใหญ่แน่…”
เมื่อก่อนพี่สามไม่กล้าแตะกวนฉีเลยเพราะไม่อยากขัดแย้งกับทีมของฉินหยู่ แต่ตอนนี้เขาโมโหจนสติแตก เข้าไปชกกวนฉีถึงสองครั้ง
“โครม!”
กวนฉีหลบเลี่ยงได้ทัน แต่ทำท่าเป็นถูกชกหน้า แกล้งล้มลงกับพื้นและตะโกนทันที “นายมาต่อยฉันทำไม ทำไมนายถึงชอบทำร้ายลูกทีมวะ! ฉันจะเขียนรายงานร้องเรียนถูกทำร้ายไปที่กองกำกับการ และฉันต้องการส่งเอกสารหลักฐานอาวุธจากนายด้วย แล้วฉันจะฟ้องร้องนายจนถึงที่สุด”
“มาสิ ลุกขึ้นมาสิวะ ข้าจะกระทืบแกให้แบนติดดิน” พี่สามโกรธมาก เหวี่ยงเท้าเตะกวนฉีหลายครั้ง
ฉินหยู่เข้าเอามือซ้ายคล้องคอของพี่สาม แล้วชกที่หลังของเขาสามสี่ครั้ง พยายามให้เขาหยุดทำร้ายกวนฉี
พี่สามไม่ต้องการต่อสู้กับฉินหยู่ในตอนแรก แต่หลังจากถูกโจมตีสองครั้ง เขาก็หยุดไม่อยู่แล้วหันหลังกลับมาต่อสู้กับฉินหยู่แทน และตะโกนบอกลูกทีมด้วยความโกรธ “กระทืบมัน!”
เมื่อสมาชิกในทีมคนอื่นได้ยินคำสั่งของพี่สาม พวกเขาก็รวมตัวกันเข้ารุมฉินหยู่ทันที
ในเวลานี้ อีกด้านหนึ่งมีคนเจ็ดแปดคน และฉินหยู่มีแค่กวนฉีเท่านั้น แต่สองคนนี้ไม่คิดจะเล่นสนุก พวกเขามีแผนร้ายกาจมาก คือพวกเขาตั้งใจไม่ตอบโต้ กวนฉียังนอนอยู่บนพื้นและยังตะโกน “พี่สาม ถ้าแกไม่ทุบตีฉันให้ตายวันนี้ ฉันจะแบล็กเมล์แกไปจนตาย”
“ข้าจะให้แกแบล็กเมล์ข้า” พี่สามกัดฟันเหลืองแล้วคว้าม้านั่งขึ้นมาเงื้อจะทุบลงมา
ในขณะนั้น หยวนเค่อเดินเข้าประตูมาพอดี จ้องมองตาของเขาแล้วตะโกน “นายกำลังทำอะไร เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”
ด้วยเสียงคำรามของหยวนเค่อ ทั้งห้องก็สงบลงทันที
พี่สามหอบและมองดูหยวนเค่อ “กัปตันหยวนอย่าห่วง ฉันยอมถอดเครื่องแบบทิ้งฉันต้องกระทืบมัน!”
หยวนเค่อได้ยินเช่นนั้นก็ปวดหัว และเขาก็ด่าด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “หุบปากแล้ววางเก้าอี้ลง!”
พี่สามสงบลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำสั่ง และหลังจากถือเก้าอี้ค้างไว้เป็นเวลานาน เขาก็โยนมันไปข้างๆ
หยวนเค่อขมวดคิ้วพลางกวาดตามองผู้คนในห้อง จากนั้นเดินไปหาฉินหยู่และถามว่า “เฮ้ นายเป็นคนสำคัญ? ตอนนี้นายทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องกลัวอะไรแล้วใช่ไหม?”
ฉินหยู่ยิ้ม “กัปตันหยวน ฉันซึ่งเป็นเด็กยากจนจะกำแหงขนาดนั้นได้อย่างไร วันนี้ผู้กำกับหลี่ออกคำสั่งให้ย้ายเราไปที่ทีมที่สี่ ฉันขอให้กวนฉีเข้ามาช่วยจัดการเรื่องการส่งมอบหลักฐาน แต่พี่สามยืนยันว่า คดีในร้านขายเนื้อครั้งที่แล้ว รายงานอาวุธที่ฉันใช้ไม่ตรงกับเหตุที่เกิดขึ้นจริง ฉันมานี่แล้วเถียงกับเขาไม่กี่คำเขาก็เกิดโมโหใหญ่ เรามีทีวีวงจรปิดในห้องนี้ ไม่เชื่อก็ลองเปิดดูสิ”
เมื่อหยวนเค่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็กลับหม่นหมองลงอีกครั้ง
“เสี่ยวฉี ไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยและขอให้เสมียนเรียกวิดีโอขึ้นมา” ฉินหยู่กล่าวเสริมทันที
“ช่างมัน” หยวนเค่อโบกมือทันทีและพูดกับพี่สามอย่างนิ่งเฉย “รีบไปจัดการให้พวกเขาเร็วๆ”
“ในกรณีนั้นเขาใช้ระเบิด นี่มันไม่สมเหตุผลเลยจริงๆ” พี่สามยังคงเถียงต่อไป
“นายทำทุกอย่างที่ฉันขอให้นายทำ ถ้านายไม่ชอบ นายก็รู้ได้ด้วยตัวเอง!” หยวนเค่อตะโกนด้วยตาเบิกโพลง
พี่สามรับฟังโดยไม่พูดอะไร
หยวนเค่อหันไปมองฉินหยู่และพูดด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าฉิน นายมีคำสั่งอื่นอีกไหม ฉันจะให้คนจัดการให้นาย”
“ไม่มีแล้ว” ฉินหยู่โบกมือทันที
“อา ถ้านายมีคำสั่งใดๆ ต่อจากนี้ ก็แค่แวะมาบอกได้เลย” หยวนเค่อพูดพร้อมเอามือไพล่หลัง “นายเป็นหน้าเป็นตาให้ผู้กำกับหลี่ ตอนนี้คนทั้งกองกำกับการต่างก็ห้อมล้อมนายกันใหญ่”
“กัปตันหยวน คุณต้องล้อฉันเล่นแน่” ฉินหยู่ยื่นมือออกไปดึงกวนฉีให้ลุกขึ้น และหันกลับมาตอบว่า “เอาล่ะ กัปตันหยวน คุณไปทำงานของคุณเถอะ พวกเราจะไปกันแล้ว”
หยวนเค่อมองไปที่ฉินหยู่ โดยยังคงยิ้มและพูดว่า “หัวหน้าฉิน ฉันขอให้นายทำงานได้อย่างราบรื่นต่อไปในกองกำกับการตำรวจนะ”
“ขอบคุณ กัปตันหยวน” แล้วฉินหยู่ก็เดินนำกวนฉีออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
ในห้อง หยวนเค่อหันกลับมามองพี่สามด้วยใบหน้าบูดบึ้งแล้วถามว่า “นายทำหน้าที่รองกัปตันได้ไหม?”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ แต่กวนฉีมันกล้ามาดูถูกฉันต่างหาก” พี่สามเถียง
“เขากับนายมีเรื่องอะไรกัน”
“เขา เขาว่าฉันยังไม่โต” พี่สามบอกพร้อมอ้าปากค้างพลางจ้องมองหยวนเค่อ
หยวนเค่อเงียบไปสามสี่วินาทีก่อนจะนั่งลงและตอบว่า “ช่างเป็นการสรุปที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
เมื่อพี่สามได้ยินเช่นนี้ ด้วยความไร้ยางอาย ใบหน้าเขาแดงก่ำขึ้น เหลือบมองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ข้างๆ เขาด้วยความรู้สึกโกรธมากและอยากจะเถียงโต้ตอบ
หยวนเค่อเงยหน้าขึ้นมองพี่สามและพูดด้วยเสียงคำรามทันที “ผู้กำกับหลี่ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการสนับสนุนฉินหยู่ ทำไมนายถึงคิดว่าการขวางเขาด้วยสาเหตุเล็กน้อยเช่นนี้ จะสามารถหยุดทีมฉินหยู่ได้ล่ะ? หรือนายทำให้ผู้กำกับหลี่โกรธมากได้ไหม? สวมตำแหน่งรองกัปตัน นายสามารถทำสิ่งที่ใจร้ายได้ นี่คือสำนักงานที่เน้นการฆ่าผู้คนด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่ถนนดินด่างที่นายตะโกนใส่ทุกสิ่งที่นายเจอแล้วฆ่าทิ้งได้”
พี่สามถูกดุด่ามากมายและไม่สามารถปฏิเสธได้
“ถ้านายไม่มีโอกาสฆ่าเขา อย่าทำอะไรเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ มันมีแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่านายโง่” หยวนเค่อขมวดคิ้วและมองดูพี่สาม “ผู้กำกับหลี่ลงมาเล่นด้วยแล้วแต่เขาไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา ดังนั้นจะทำอะไรเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ แค่ทำอะไรก็ได้ที่กองกำกับการต้องการ ไม่อย่างนั้นถ้านายโดนจับได้ก็อาจเดือดร้อนกันใหญ่”
พี่สามซึ่งอายุมากกว่าหยวนเค่อ ถูกดุด่าอบรมอย่างยาวนานโดยไม่ตอบอะไรนอกจาก “เข้าใจแล้วครับ”
หยวนเค่อรู้ดีว่า คนอย่างพี่สาม แม้ว่าความสามารถของพวกเขาจะถูกจำกัดและอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับตระกูลหยวนและตัวเขาเอง ดังนั้นหลังจากสงบอารมณ์ลงแล้ว เขาก็บอกแผนงานคร่าวๆ ให้ฟัง “นายและฉันจะกลับไปที่บ้านของพี่ใหญ่คืนนี้ ในช่วงไม่กี่วันมานี้ บางคนบอกว่าคนของเฒ่าหม่ากลับมาขายสินค้าอีกครั้ง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่ฉินหยู่หายตัวไป”
“ครับผม” พี่สามพยักหน้า
……
กลางคืน
หลังจากที่ฉินหยู่จ่ายค่าอาหารกับทุกคนในกลุ่ม เขาก็กลับบ้านเร็วเพื่อเตรียมตัวพักผ่อน ทันทีที่เขาเดินผ่านเข้าประตูบ้านเช่า เขาก็เห็นหลินเนี่ยนเหล่ยนั่งบนเก้าอี้ เท้าคางของเธอและพูดคุยกับเด็กที่เขาช่วยเหลือมา
……………………………………………………………..