Ep.1071 - สังหารจ้าวเหนือหัว
Ep.1071 - สังหารจ้าวเหนือหัว
“สิ่งที่ฉันต้องการ ไม่ทราบว่าตอนนี้จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตดูไม่ออกจริงน่ะหรือ?”
ฉินเฟิงไม่คิดเก็บงำใดๆอีกแล้ว เมื่อมีความแข็งแกร่งถึงจุดนี้ หากต้องการพัฒนาไปอีกขั้น ต่อให้ต้องใช้วิธีการโหดร้ายก็ต้องทำ อยู่ในพันธมิตรองค์กรมืด ก็ต้องทำตามกฏของป่า ผู้แข็งแกร่งเท่านั้น จึงจะกลายเป็นผู้ล่า!
ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส “ร่างกายของฉันยังไม่แกร่งมากพอ ฉันต้องการแก่นจ้าวเหนือหัวของแก มาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง นี่ไงที่ฉันต้องการ!”
เกิดความวุ่นวายขึ้นในฝูงชน
คำพูดของฉินเฟิงช่างโอหัง มันยโสเกินขีดความรู้ ความเข้าใจของพวกเขา
ผู้ใช้พลังเลเวล SSS เพียงเพราะความแข็งแกร่งทางกายภาพไม่แกร่งพอ เลยอยากจะเอาชีวิตของจ้าวเหนือหัว ช่วงชิงพลังงานของพวกเขามาเติมเต็ม? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
เลือดในกายจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตเดือดพล่านขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆฉินเฟิงถึงโจมตีเขา แต่ตอนนี้พอได้ยินว่าอีกฝ่ายเห็นตนราวกับเป็นหมูเป็นแกะ ที่เพราะเกิดหิวขึ้นมา เลยตวัดมีดไล่ฆ่าฟัน
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะเหตุผลบัดซบเช่นนี้ แล้วจะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร?
ทว่าแม้ในใจรู้สึกโกรธเกรี้ยว แต่ลึกๆแล้วอสูรโลหิตเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเช่นกัน เขาหันไปมองจ้าวเหนือหัวคนอื่นๆ ส่งพลังสมาธิออกไป
“เฉียนมู่ เจ้ารู้จักชายผู้นี้? จงหยุดมันเสีย! อย่าให้พันธมิตรองค์กรมืดต้องขาดจ้าวเหนือหัวคนหนึ่งไป เจ้ากระจ่างแก่ใจดีว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด”
เฉียนมู่มองไปยังอสูรโลหิต ก่อนสลับมองฉินเฟิง แม้ไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมา แต่ดวงตาสีทองกลับทอประกายระยับ
เพราะเหตุการณ์ตรงหน้าเขา มันชวนให้ตกใจจริงๆ
การคาดเดาครั้งก่อน ได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้ว เดิมเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวสมควรแข็งแกร่งมาก แต่เป็นเพราะฝีมือของฉินเฟิง มันเลยสูญเสียพลังงานไป ทำให้เฉียนมู่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้เขากับฉินเฟิงเป็นมิตรกัน ในขณะที่อสูรโลหิต เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ได้สังหารหมู่เผ่าโดร่าของเฉียนมู่
อย่างไรก็ตาม หากให้เลือกว่าจะต้องช่วยเหลือจ้าวเหนือหัวซึ่งเป็นกำลังรบสำคัญ กับช่วยเหลือผู้ใช้พลังที่เป็นมิตรกัน แถมยังมีอนาคตไร้ที่สิ้นสุด
เรื่องอะไรเช่นนี้ มันเลือกยากซะจริง
แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ก็หัวเราะออกมา ถ่ายทอดพลังสมาธิออกไป
“ฮี่ฮี่ แต่ฉันกลับรู้สึกแบบนี้นะอสูรโลหิต ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา พันธมิตรองค์กรมืดไม่มีนาย พวกเราก็ยังอยู่กันได้ หลายครั้งที่ไปยังมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อคัดเลือกจ้าวเหนือหัวคนใหม่ นายก็ไม่เคยเข้าร่วม ถ้ามองในมุมนี้ จะมีนายหรือไม่มี มันก็ไม่ต่างกัน”
หัวใจของฉินเฟิงสั่นสะท้าน ฟังจากที่เฉียนมู่พูด แสดงว่ามิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สถานที่ใช้ตัดผ่านสู่ระดับจ้าวเหนือหัวใช่หรือไม่?
ข้อมูลนี้คือสิ่งที่ฉินเฟิงค้นหามาตลอด แต่ไม่คาดหวังเลย ว่าจะได้รู้จากปากเฉียนมู่
อสูรโลหิตเมื่อได้ยินคำตอบของเฉียนมู่ ในใจเกิดความเกลียดชังลอบสบถสาปแช่ง ก่อนหันไปมองไซเร็น
“ไซเร็น เจ้าจะไม่สังหารมดปลวกตัวนี้ให้ข้าจริงๆน่ะหรือ? หากเจ้าช่วยข้าสังหารมัน ข้าจะหยุดเพียงเท่านี้จริงๆ และขอสาบานแก่เจ้า ว่านับแต่นี้ไปข้าจะไม่อาละวาดในอาณาเขตของพันธมิตรองค์กรมืดอีก”
สิ่งที่อสูรโลหิตต้องการ ไม่ถึงขั้นให้ไซเร็นสังหารฉินเฟิงในดาบเดียว แต่ตราบใดที่ไซเร็นเอาจริง แล้วโจมตีอย่างต่อเนื่อง ฉินเฟิงต้องตายอย่างแน่นอน
ทางฝั่งฉินเฟิง เขาเริ่มเกิดความกังวล พลังของจ้าวเหนือหัวไซเร็นแข็งแกร่งมาก เรื่องนี้เขากระจ่างแก่ใจ ดังนั้นไม่อยากให้ไซเร็นตัดสินใจโจมตี
“แทนที่จะเชื่อคำมั่นสัญญาของคนกำลังขึ้นเขียงอย่างแก สู้ชิงฆ่าแกไปเลยไม่ดีกว่าหรอ? ขอแค่แกตาย ก็จะไม่มีใครไล่สังหารหมู่พันธมิตรองค์กรมืดอีก” พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดออกมา แม้ฟังเหมือนเขากำลังพูดกับอสูรโลหิต แต่จริงๆแล้วกำลังส่งข้อความนี้ถึงไซเร็น
ไซเร็นหันมามองฉินเฟิง ต้องขอบอกว่า การตอบโต้เมื่อครู่ เขาประทับใจมาก
“คำพูดนั่นฟังดูไม่เลว ฉันเห็นด้วย” ไซเร็นถอยไปด้านหลัง ชั่วพริบตาเดียว ร่างของเขาพลันขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นยักษ์ทมิฬ ก้าวเข้าสู่อวกาศ ออกไปยืนข้างนอกในฐานะผู้ชมเช่นเดียวกับเฉียนมู่และปีศาจเสพวิญญาณ
หลังจากนั้น ถ่ายทอดน้ำเสียงผ่านพลังสมาธิอีกครั้ง
“บางทีพันธมิตรองค์กรมืด อาจถือกำเนิดจ้าวเหนือหัวขึ้นอีกคนหนึ่ง!”
และคนหนึ่งที่ว่าคือใคร ทุกคนในที่นี้ล้วนเข้าใจ
จ้าวเหนือหัวไซเร็น หมายถึงฉินเฟิง!
ผู้ใช้พลังที่กำลังเฝ้าดูอยู่ในอวกาศ ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจ้าวเหนือหัวไซเร็นจะเชื่อมั่นในเลเวล SSS คนหนึ่งถึงขนาดนี้ กระทั่งเอ่ยปากว่าจะได้ขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวคนใหม่
ต้องรู้นะว่า ประโยคอะไรแบบนี้ จ้าวเหนือหัวไม่เคยเอ่ยปากมาก่อน
เนื่องจากเงื่อนไขการขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว ผู้ใช้พลังในที่นี้แทบไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ แต่ที่แน่ๆ ช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา พันธมิตรองค์กรมืดไม่ปรากฏจ้าวเหนือหัวขึ้นอีกเลย
เพราะเงื่อนไขมันยากเกินไป
เพียงแต่ว่า ระหว่างที่ทุกคนกำลังคิดว่าอสูรโลหิตยังไงก็ต้องได้สู้กับผู้ใช้พลังซวนเฟิงอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง ท่ามกลางอวกาศที่ว่างเปล่า จ้าวเหนือหัวปีศาจเสพวิญญาณหัวเราะออกมา
“น่าสนใจ นี่มันน่าสนใจมาก! อสูรโลหิต ทำไมไม่ถามฉันบ้าง? เพราะฉันกำลังคิดว่าเจ้าหนูนี่มีร่างกายที่น่าสนใจไม่เลว จิตวิญญาณก็เข้มแข็ง อยากฝากฝังให้ข้าช่วยดูแลแทนไหม?”
อสูรโลหิตพอได้ฟัง รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ฉินเฟิงขมวดคิ้วทันที เขาไม่นึกเลย ว่าทั้งๆที่เฉียนมู่กับไซเร็นตอบปฏิเสธ ไปยืนรออยู่ข้างสนามรบ แต่ปีศาจเสพวิญญาณกลับเลือกช่วยเหลืออสูรโลหิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงคุณสมบัติของมีดกษัตริย์คราม ดวงตาของฉินเฟิงพลันเปล่งประกายด้วยความดุดันขึ้นมาทันที
“งั้นก็มาดูกันว่าคุณมีความสามารถพอจะทำได้อย่างที่พูดไหม!”
ดารากำลังภายในของฉินเฟิงเริ่มโคจร ครั้งนี้ดารากว่า 2 ดวงถูกเรียกใช้งานพร้อมกัน อัดฉีดพลังงานมหาศาลลงไปในมีดกษัตริย์คราม
“ฆ่า!”
มหากาพย์วิญญาณสะบั้นระเบิดอำนาจทำลายล้างออกมา
ท่าวิญญาณสะบั้นมีคุณสมบัติเป็นปรปักษ์ต่อศัตรูประเภทวิญญาณทั้งหมด การโจมตีของฉินเฟิงรุนแรงในระดับจ้าวเหนือหัว บวกกับมีดกษัตริย์ครามที่มีระดับจ้าวเหนือหัว และที่สำคัญที่สุดก็คือ การฟาดฟันนี้ของฉินเฟิง มันคือการรีดเร้นพลังงานจากดารากำลังภายในทั้งดวง--
--ดาราที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้ใช้พลังคนอื่นๆในเลเวลเดียวกันถึง 10 เท่า!
หรืออีกความหมายนึงก็คือ การโจมตีในแต่ละครั้งของฉินเฟิง มันเทียบเท่ากับการโจมตีของจ้าวเหนือหัวที่ครอบครองดาวเคราะห์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร
นี่คือสาเหตุว่าทำไมฉินเฟิงถึงสามารถทำร้ายจ้าวเหนือหัวได้
กระบวนท่าระเบิดออก ตัดผ่านอวกาศที่ว่างเปล่า วิญญาณเต่ายักษ์ทะยานขึ้นไป
เปลวไฟในดวงตาของปีศาจเสพวิญญาณลุกโชน คล้ายกำลังเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่นึกฝันว่าฉินเฟิงจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ บังอาจเปิดฉากโจมตีจ้าวเหนือหัวเช่นเขา
ทว่าการโจมตีนี้รุนแรงมากจริงๆ ปีศาจเสพวิญญาณไม่รอช้า รีบเรียกกะโหลกขนาดใหญ่ออกมา อัดฉีดพลังชีวิตลงไป ควบคุมกะโหลกเข้ากัดวิญญาณของเต่ายักษ์
แต่วินาทีต่อมา จ้าวเหนือหัวปีศาจเสพวิญญาณพลันรู้สึกว่าพลังงานที่เขาอัดฉีดลงไปลดฮวบๆลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาระดมพลังชีวิตมากขึ้น รังสีคมมีดจากท่าวิญญาณสะบั้น ก็ใกล้เข้ามาแล้ว แถมยังเหลือพลังทำลายล้างอีก 1 ใน 3
ตูมมมม!
ชั่วพริบตานั้น ร่างของปีศาจเสพวิญยาณถูกสะบั้นจนขาดเป็นสองท่อน
คลื่นพลังงานระเบิด กวาดไปทั่วทั้งจักรวาล
ช่วงเวลานี้ กระทั่งผู้ใช้พลังที่รับชมจากระยะไกล ยังสามารถเห็นได้ถนัด ว่าร่างใหญ่ยักษ์ของปีศาจเสพวิญญาณ หลังจากที่โดนรังสีคมมีดนี้เข้าไป มันเริ่มกลายเป็นโปร่งแสงจริงๆ
ใบมีดทะลุผ่านร่างกาย ก่อนไปหยุดลงตรงที่ดาวเคราะห์สีดำที่มีกลิ่นอายพลังแห่งความมืด บังเกิดประกายเล็กน้อย ทิ้งรอยมีดไว้
นั่นคือแกนกลางของจ้าวเหนือหัว
รังสีคมมีดของฉินเฟิง … สามารถโจมตีแก่นจ้าวเหนือหัวได้!
พลังสมาธิของปีศาจเสพวิญญาณ แผดเสียงก้องกังวานไปทั้งจักรวาล
“เหล็กตัดดารา!!!”
จ้าวเหนือหัวมีความรู้มากมาย ดังนั้นพวกเขาจะไม่จดจำสิ่งที่สามารถเป็นอันตรายต่อพวกเขาได้อย่างไร
เหล็กตัดดารา สามารถใช้โค่นจ้าวเหนือหัวได้
ณ ขณะนี้ ดวงตาสีทองของเฉียนมู่สว่างวาบ เปลือกตาเขายกสูงขึ้นด้วยอย่างคาดไม่ถึง
เพราะเหล็กตัดดารานั่น--
--เป็นเขาเองที่มอบมันให้แก่ฉินเฟิง!